วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 08:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2020, 05:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...พยายาม “รักษาศีล 5“ให้เป็นนิจศีล
ในเบื้องต้น ถ้ายังไม่เคยรักษาเลย
ถ้าให้รักษาทีเดียวทั้ง 5 ข้อยังไม่ได้
ก็ให้เริ่มทำทีละข้อไปก่อนก็ได้
.
เหมือนกับการเดินต้องเดินก้าวแรกก่อน
แล้วค่อยไปสู่ก้าวที่ 2 ก้าวที่ 3 ต่อไป
ก็ลองเลือกดูว่าทำข้อไหนได้ก่อน
ก็เลือกทำไปก่อน
“แล้วค่อยเพิ่มไป ตามลำดับต่อไป”
ถ้ามีความตั้งใจที่แน่วแน่
และมีความเชื่อว่า “การรักษาศีล”นี้
จะป้องกันไม่ให้จิตใจตกต่ำไปกว่า
การเป็นมนุษย์ ..กลับมาเกิดกี่ครั้ง
ก็จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์เลย
.
ไม่ต้องไปแวะไปเกิดเป็นเดรัจฉานก่อน
ไปเป็นเปรต เป็นอสูรกาย
หรือไปตกนรกก่อน แต่ถ้าทำบาปแล้วนี่
“มันจะเป็นตัวที่ ..จะดึงไป".
...................................
.
ธรรมะหน้ากุฏิ
26/4/2563
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









"...ถ้าหากอยากได้บุญมาก
เอาเงิน...ให้พ่อให้แม่
เอาให้...โรงพยาบาล
เอาให้...โรงเรียน
นั้นตัวบุญที่ยิ่งใหญ่
บุญ..ที่ตัวเรามองข้าม
บุญ..ที่เส้นผมบังภูเขา.."

โอวาทธรรม
หลวงปูชนะ อุตฺตมลาโภ









คนใจยังไม่สูง ก็มัววุ่นอยู่กับทานอย่างเดียว
คนใจสูงมาอีกหน่อย ก็ทำบุญเรื่องศีล
เมื่อใจถึงระดับแล้ว เขาจะทำบุญด้วยการภาวนา.. เพราะ

ทานกำจัดกิเลสอย่างหยาบ
ศีลกำจัดกิเลสอย่างกลาง
ภาวนากำจัดกิเลสอย่างละเอียด

หลวงปู่หา​ สุภโร
วัดสักกะวัน​ (ภูกุ้มข้าว)​ จ.กาฬสินธุ์












"คนเราทุกวันนี้ ถ้าเป็นคนที่มีธรรม จะคิด จะพูด จะทำอะไรก็เป็นธรรม แต่ถ้าเป็นคนไม่มีธรรม เอาเรื่องโลกมาคิด มาพูด มาทำ ก็มีแต่โลกทั้งนั้น ให้เราทั้งหลายช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เห็นการกระทำอะไรที่ไม่ดีให้ช่วยกันบอกสอนแก้ไขให้ถูกให้ควร อย่าปล่อยให้คนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่อาตมาพูดว่าดี ว่าถูก ว่าควรแล้ว ให้นำไปไตร่ตรองดูเสียก่อน หากพิจารณาว่าดี ว่าถูก ว่าควร แล้วจึงค่อยเชื่อ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ พ่อแม่ครูจารย์ก็เคยเตือนให้พึงระวังเรื่องอายตนะ ๖ กาย ใจ ตา หู จมูก และลิ้น ไม่ให้นำสิ่งไม่ดีเข้ามา ให้คะลำ ภาษาอีสาน คะลำ หมายถึง หลีกเลี่ยง อย่าเอาสิ่งไม่ดีเข้ามาในตัว หากรู้ว่าไม่ดีให้หลีกหนีให้ไกล"

หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
กับ​ วีระศักดิ์​ สีหะวงศ์









" การสวดมนต์ นับเป็น
การดีพร้อมซึ่งประกอบ
ไปด้วย องค์ทั้ง 3 นั่นคือ

"กาย" มีอาการสงบ
เรียบร้อยและสำรวม

"ใจ" มีความเคารพ
นบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย

"วาจา" เป็นการกล่าว
ถ้อยคำสรรเสริญถึง
พระคุณอันประเสริฐ
ในพระคุณทั้ง 3

พร้อมเป็นการขอขมา
ในการผิดพลาดหากมี
และกล่าวสักการะเทิดทูน
สิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่า
เป็น "การสร้างกุศล" ซึ่ง
เป็นมงคลอันสูงสุดทีเดียว "

โอวาทธรรม
สมเด็จพุฒาจารย์
(โต พรหมรังสี)








" หลวงพ่ออธิษฐานไว้ว่า
ข้าพเจ้าจะต้องนั่งสมาธิ
ทุกวัน และข้าพเจ้า
จะต้องสวดมนต์ทุกวัน

ไม่ได้นำสวดกับพระที่
ศาลา แต่ว่าสวดในกุฏิ
หลวงพ่อต้องสวด
แล้วก็ยังไม่เคยขาด
ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่ง
บัดนี้ 80 90 ปีมานี้
ไม่เคยขาด

เพราะว่า เรามาคิดว่า
ตะวันมันตกดินเนี่ย
มันไม่ได้ตกไปเฉยๆ
มันกลืนกินชีวิตของเรา
ไปด้วย "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร









" ทะเลหลง​ คือไฟหลง
มาหลงว่าสิ่งที่ไม่เที่ยง​
เป็นทุกข์​ เป็นอนัตตา

ว่าเป็นของตัว​ ตน​
เรา​ เขา​ สัตว์​ บุคคล

โลกบ้าๆ​ อันนี้​
จึงมาสนองเวรสนองภัย
กันอยู่ไม่แล้วไม่รอด "

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​หล้า​ เ​ขม​ปั​ต​โต









“นึกถึงงานศพของตัวเอง จินตนาการว่าคืนนี้
เป็นคืนสุดท้ายของเรา จากนั้นให้นึกต่อไปว่า
เมื่อหมดลม ร่างกายของเราถูกนำไปดำเนินการ
ตามประเพณี

บัดนี้ร่างของเรา ถูกบรรจุอยู่ในหีบตั้งโดดเด่น
ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางมาร่วมพิธีศพ
เพื่ออำลาเราเป็นครั้งสุดท้าย มีทั้งลูกหลาน
ญาติมิตร เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมรุ่น
คนเหล่านี้ ต่างพูดถึงเราในวงสนทนาบ้าง
พูดต่อหน้าผู้คนที่มาร่วมพิธีศพบ้าง

ทีนี้.. ให้ถามตัวเองว่า อยากให้ผู้คนเหล่านี้
พูดหรือเขียนถึงเราว่าอย่างไร อยากให้เขาจดจำเรา
ในลักษณะใด อยากให้เขาประทับใจ ในเรื่องอะไรบ้าง
ที่เกี่ยวกับตัวเรา

จากนั้นให้ถามต่อไปว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่
เราได้ทำอะไรบ้าง ที่ชวนให้เขารำลึกถึงเราในแง่นั้น
มีความดีอะไรบ้าง ที่เราได้ทำอันควรแก่การชื่นชมสรรเสริญ

การพิจารณาในแง่นี้ จะช่วยเตือนใจให้ใคร่ครวญว่า
ที่ผ่านมา เราได้ทำความดีมากน้อยเพียงใด
มีความดีอะไรบ้าง ที่เรายังทำไม่มากพอและควรทำให้มากกว่านั้น

มีหลายครั้งที่เราปล่อยชีวิตไปตามความพึงพอใจส่วนตัว
โดยไม่สนใจผลกระทบที่มีต่อผู้อื่น เราอยากได้ชื่อว่า
เป็นคนเสียสละ เอื้อเฟื้อ มีเมตตา เป็นพ่อหรือแม่ที่ดี
แต่เรากลับดำเนินชีวิต ไปทางตรงกันข้าม เพราะมัวแต่
แสวงหาเงินทอง และชื่อเสียง

มรณะสติในลักษณะดังกล่าว จะช่วยเตือนสติเรา
ให้หันกลับมาดำเนินชีวิต ในทิศทางที่พึงปรารถนา”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล










"ความสุขในโลกนี้ อยู่กับความพอดี
แต่ความพอดีไม่มีอยู่ในโลก
ความพอดีมีอยู่ที่ใจ เท่านั้น"

หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ











"จะประพฤติปฏิบัติดีวิเศษขนาดไหน
คนที่ไม่ชอบใจเขาก็ตำหนิ จะชั่วเสียขนาดไหน
คนที่ชอบใจเขาก็สรรเสริญ เรื่องของโลก
เอาแน่นอนจริงจังไม่ได้ มันเป็นอย่างนั้น แต่ไหนแต่ไรมา

แต่จิตของเรามันหวั่นไหว หรือไม่
ถูกเขาสรรเสริญเยินยอ เราลุ่มหลงเพลิดเพลิน
ไปตามลมปากของเขาไหม ถูกเขาตำหนินินทา
เราเสียใจเหี่ยวแห้งเศร้าหมองไหม

เราตรวจตราพิจารณาภายในเรื่องของเรา
ถ้ารู้เท่า เรื่องสรรเสริญ และเรื่องนินทา
มันมีมาแต่ไหนแต่ไร จิตของเราไม่ลุ่มหลงเสียอย่าง
มันก็สุขสบาย"

พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร












เมื่อไหร่ที่เราเบื่อ. แสดงว่าเราขาดปัญญา. ในการมองสิ่งนั้นว่า. ไม่เบื่อ.

โอวาทธรรม
พระอาจารย์ฌอน ชยสาโร








“โลก” เขาเอาสุขทางกายเป็นใหญ่
จิตใจจะทุกข์อย่างไรก็ช่างมัน
แต่ “ธรรม” เอาสุขทางใจเป็นใหญ่
เพราะถือว่าใจเป็นส่วนสำคัญยิ่ง

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร