วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 15:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2020, 05:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"คำขอโทษเป็นของสำคัญมากนะ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
จะเป็นไฟเผาคนอยู่ในคนนั้นก็ตาม
พอคนนี้ไปขอโทษยกมือไหว้
เท่านั้นแหละ!! น้ำดับไฟนี้พรึบลงทันทีเลย สงบ
ของเล่นเมื่อไหร่ นี่แหละธรรม"

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน








" สุขภายนอก อาหารการกิน
เครื่องใช้ไม้สอย ถึงเวลาก็มี
ก็ได้ใช้ ได้กิน ได้ทาน ที่อยู่
ที่อาศัยนี้ การงานภายนอก
ก็ไม่ได้มีอะไร ก็ให้เอา
ความเพียรภาวนานี่แหละ
เป็นการเป็นงาน

เอาใจให้มันดี ถ้าใจชั่วบาป
ก็ลำบากแน่นอน
ใจโลภ ใจหลง มันก็วุ่น
รักษาใจให้มันดีก็พอแล้ว
ไม่ต้องเอาอะไรมาก "

โอวาทธรรม
หลวงปู่เพียร วิริโย









" จิตของคนตามธรรมชาติ
นั้นไม่มีความดีใจเสียใจ
ที่มีความดีใจเสียใจนั้น
ไม่ใช่จิต แต่เป็นอารมณ์
ที่มาหลอกลวง จิตก็หลง
ไปตามอารมณ์โดยไม่รู้ตัว
แล้วก็เป็นสุขเป็นทุกข์
ไปตามอารมณ์

เพราะยังไม่ได้ฝึก ยังไม่
ฉลาด แล้วเราก็นึกว่าจิต
เราเป็นทุกข์ นึกว่าจิตเราสบาย

ความจริงมันหลงอารมณ์ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ชา สุภัทโท











" อย่าพากันรื่นเริง บันเทิง
จนเกินไป ให้มองดูสกลกาย
ความแก่ ความเฒ่า ความชรา

ความจะแตก ความจะ
ทำลายนั้น จะไม่ทำลาย
ที่ไหน นอกจากจะแตก
ทำลาย ในตัวของเรา
จะตายในตัวของเรา

ให้รีบเร่งหาคุณงามความดี "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสมฺปนฺโน










" คนเรา เกิดมาแล้วนั้น
ควรจะรีบเก่งตั้งแต่อายุ
ยังน้อย เพราะมันจะช่วย
เหลือคนได้มาก ไปเก่ง
เอาตอนแก่ๆมันจะไป
ช่วยอะไรใครได้

ฝึกให้มากๆ ภาวนาให้มากๆ
คนเราไม่ต้องไปตามจับผิด
ใครหรอก ดูตัวเองให้มาก

ทุกๆครั้งที่มีใครเอาเรื่อง
ไม่ดีของคนอื่นมาเล่าให้
เราฟัง ให้เราตอบกลับไป
ว่า "ช่างมันเถอะ" คนเราดี
ไม่ดี เทวดาฟ้าดินท่านรับรู้อยู่

ตาเทวดานั้นมีมากมาย
อย่างกับตาข่าย สูงเลยหัว
เราไป เทวดาฟ้าดินท่าน
เห็นทั้งนั้น ให้ตั้งใจทำดี "

โอวาทธรรม
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ










"เมื่อภรรยาเสียงดัง สามีต้องนั่งนิ่ง
เมื่อสามีเสียงดัง ภรรยาควรนิ่งฟัง
เพื่อให้พึ่งพิงกัน ได้ยาวนาน"

หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป









” สังขารมันเกิดขึ้นที่ไหน อะไรเป็นสังขาร สังขารมันเกิดขึ้นที่จิตใจของเราเอง เป็นอาการของจิตพาให้เกิดขึ้นซึ่งสมมติทั้งหลาย

สังขารนี้แลเป็นตัวการสมมติบัญญัติสิ่งทั้งหลายในโลก ความจริงของในโลกทั้งหลาย หรือธรรมธาตุทั้งหลาย เขามีเขาอยู่อย่างนั้น

แผ่นดิน ต้นไม้ ภูเขา ฟ้าแดด เขาไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไรเลย ตลอดจนตนตัวมนุษย์ก็เป็นธาตุของโลก เขาไม่ได้ว่าเขาเป็นนั่นเป็นนี่เลย

เจ้าสังขารตัวการเข้าไปปรุงไปแต่งว่า เขาเป็นนั้นเป็นนี้ จึงหลงกันว่าเป็นจริง ถือว่าเป็นเรา เป็นของๆ เราเสียสิ้น

จึงมีราคะ โทสะ โมหะเกิดขึ้น จำจิตดั้งเดิมให้หลงตามไป เกิด แก่ เจ็บ ตาย เวียนว่ายไปไม่มีที่สิ้นสุด เป็นเอนกภพเอนกชาติ เพราะเจ้าสังขารนั้นแลเป็นตัวเหตุ.”

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต














#ท่านให้นั่งพิจารณา #ดูความคิดตัวเอง
#ดูตัวเอง #อย่าดูคนอื่น

ดูตัวเรานี่แหละ กิเลสตัวไหนในใจเรา

#ท่านจึงบอกว่า
"#จงอย่าดูถูกคน #จงดูคนให้ถูก"

ดูตัวเองนี่แหละอย่าไปดูถูกคนอื่น ตัวเรามันดีหรือยัง ไปบอกคนโน่นไม่ดีคนนี้ไม่ดี ตัวเองไม่ดูสักที ดูแต่คนอื่นแล้วไปโทษคนอื่น

#ตัวเรามันเหม็นมันเน่าขนาดไหนเราไม่ดูเลย

คนเรามันขาดตรงนี้ ขาดการชี้แนะ การชี้นำ เพราะฉะนั้นเราต้องดูตัวเรา อย่าไปดูคนอื่น

หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร














คิดวุ่นวายกับทางภายนอกทำไม
ทำไมไม่ดูตนเอง ไม่พักไม่ผ่อน
นี่จิตใจของพวกเราก็ค่อยประคับประคอง
คอยดูแลเขา คอยควบคุมเขา
เราก็จะสงบได้ เหมือนเราควบคุมลูก
ลูกตัวเล็กๆ เราจับแขนมัน
ไว้ไม่ให้มันหลุดมือไป มันไปไหนไม่ได้
ผู้ที่จับแขนก็คือ “สติสัมปชัญญะ”
จับจิตเข้าไว้.บังคับเข้าไว้
ให้มันอยู่กับข้อธรรมกรรมฐาน

แต่จิตใจนี้มันดิ้นรน
เพราะมันเคยคิดมานานแล้ว
ตั้งแต่เล็กมาจนใหญ่
มันคิดมันท่องเที่ยว มันวิ่งไปนู้นไปนี้
มันคิดมาเก่งแล้วไม่ให้มันคิดไม่ได้

เริ่มกันฝึก ไอ้คิดมันก็คิดบ้าง
บางทีมันออกไปบ้าง อย่าหงุดหงิด
ก็ดึงจิตเข้ามาอีก มาดูข้อธรรมกรรมฐาน
ทำอยู่อย่างนี้แหละ
ถ้ามันอยู่แล้วก็รีบประคอง
ประคับประคองมันเอาไว้
ดูลมหายใจเข้าออกอยู่นั่นแหละ
ประคับประคองเขาให้สงบได้นานๆ
ให้เขาอยู่ให้เขาสงบนานๆ เมื่อสงบนาน
มันจะเห็นความสุขชัดเจนขึ้นมา
จิตใจสงบ ก็การได้พักผ่อนนั่นเอง

ตรงนี้แหละ..เราทุกคนมันก็มีเรื่องคิด
แต่รู้จักฉลาดในการคิดไปทางที่ถูกที่ต้อง
ที่ควรที่ชอบ แล้วก็ฉลาดการฝึกจิตใจ
คนไม่ฉลาดมันจะคิดแต่เรื่องไม่ดี
คิดเรื่องไม่ดีเท่าไรมันยิ่งทุกข์
ทุกข์เท่าไรมันยิ่งคิด นั่น...คนไม่ฉลาด
ไม่ฉลาดดูแลจิตใจของตน
เป็นคนรักษาตนไม่เป็น
รักษาตนไม่ได้ อย่างไรก็ตามนั้น
ยังรักษาไม่ได้แล้วจะรีบรักษา
รักษาตน.รักษาจิตใจของตน
ก็ต้องฝึกฝนอบรมสติสัมปชัญญะ
ให้ระลึกเร็ว รู้เร็ว รู้เท่าทันจิตใจ
คิดอยู่ตลอด จิตตามจิตอยู่ตลอด
ไม่ปล่อยไม่ละไม่วาง สะกดรอยตามอยู่
ประคับประคองอยู่ หาวิธีควบคุมดูแลอยู่
เหมือนกันกับตำรวจกับขโมย
ตำรวจกับขโมยเขาสะกดรอยติดตามจนจับได้
เมื่อจับได้แล้วก็เอามาขังไว้ในคุก
เหมือนเอาจิตนั้นมาผูกไว้
กับข้อธรรมกรรมฐาน
เหมือนกับขโมยติดคุก
มาขังไว้มันก็ดิ้นรนมันใหม่ๆ
พอมันคุ้นเคยมา มันหยุดมันนิ่ง
แล้วมันก็จะเห็นความสงบ
บัดนี้จะพักผ่อนเอง

โอวาทธรรม หลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร