วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 148 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2020, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากพันทิพ

https://pantip.com/topic/39931988

อ้างคำพูด:
หลังจากนั่งสมาธิสวดมนต์แล้วรู้สึกแปลกๆ

เราเป็นมาวันนี้วันที่สองแล้ว วันแรกตอนสวดมนต์ก็ปกติ พอนั่งสมาธิไปสักพักจะเริ่มมึนๆ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะหายใจไม่ถูกหรือร่างกายไม่พร้อมรึป่าว
ส่วนวันนี้สองนี้ เราลองท่องนโมก่อนนั่งสมาธิเพราะกลัว หลังจากนั่งได้ไม่กี่นาทีก็มาสวดมนต์ แผ่เมตตา ตอนสวดรู้สึกมือสั่น แต่คิดว่ากล้ามเนื้อคงเกร็งหลังจากเล่นโทรศัพท์มา แต่พอตอนพูดว่า ข้าพเจ้า...ขออุทิศ...ยิ่งพูดนานเท่าไหร่ยิ่งนิ่ง ยิ่งรู้สึกตัวเองมือโต เท้าโต ตัวเล็ก มองมุมกว้าง
ควรทำอย่างไรดีคะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะได้หยุดนั่งสมาธิไปเกือบสองปี หลังจากนั่งเป็น ชม. เเล้วข้างในโยกเยกก็เลยกลัว รบกวนแนะแนวแนะนำหน่อยนะคะ สาธุค่ะ


มีแต่แนะนำกันให้หนีสภาวธรรมบ้าง บ้างก็ว่าไม่มีสาระอย่าไปสนใจมันบ้าง :b32:

นี่แหละทุกขสภาวะ (ทุกขอริยสัจ) อย่าเลี่ยงหนี อย่าหนีความจริง แต่ให้กำหนดรู้มัน เป็นยังไงกำหนดยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น นี้เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา กำหนดไปกำหนดรู้ดูมันให้ถึงต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา เมื่อเห็นเหตุ คือ สมุทัยแล้วก็จบ ก็นิโรธ คือดับทุกข์ได้

จบข่าว

นี่พูดง่ายๆ แต่ทำแต่ปฏิบัตินั่นมันไม่ง่ายเหมือนพูด พูดจบแล้ว แต่ปฏิบัติต้องเป็นเดือนเป็นปีเป็นหลายๆเดือนหลายปีกว่าจะรู้เข้าใจสภาวะทุกๆอย่าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2020, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
จากพันทิพ

https://pantip.com/topic/39931988

อ้างคำพูด:
หลังจากนั่งสมาธิสวดมนต์แล้วรู้สึกแปลกๆ

เราเป็นมาวันนี้วันที่สองแล้ว วันแรกตอนสวดมนต์ก็ปกติ พอนั่งสมาธิไปสักพักจะเริ่มมึนๆ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะหายใจไม่ถูกหรือร่างกายไม่พร้อมรึป่าว
ส่วนวันนี้สองนี้ เราลองท่องนโมก่อนนั่งสมาธิเพราะกลัว หลังจากนั่งได้ไม่กี่นาทีก็มาสวดมนต์ แผ่เมตตา ตอนสวดรู้สึกมือสั่น แต่คิดว่ากล้ามเนื้อคงเกร็งหลังจากเล่นโทรศัพท์มา แต่พอตอนพูดว่า ข้าพเจ้า...ขออุทิศ...ยิ่งพูดนานเท่าไหร่ยิ่งนิ่ง ยิ่งรู้สึกตัวเองมือโต เท้าโต ตัวเล็ก มองมุมกว้าง
ควรทำอย่างไรดีคะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะได้หยุดนั่งสมาธิไปเกือบสองปี หลังจากนั่งเป็น ชม. เเล้วข้างในโยกเยกก็เลยกลัว รบกวนแนะแนวแนะนำหน่อยนะคะ สาธุค่ะ


มีแต่แนะนำกันให้หนีสภาวธรรมบ้าง บ้างก็ว่าไม่มีสาระอย่าไปสนใจมันบ้าง :b32:

นี่แหละทุกขสภาวะ (ทุกขอริยสัจ) อย่าเลี่ยงหนี อย่าหนีความจริง แต่ให้กำหนดรู้มัน เป็นยังไงกำหนดยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น นี้เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา กำหนดไปกำหนดรู้ดูมันให้ถึงต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา เมื่อเห็นเหตุ คือ สมุทัยแล้วก็จบ ก็นิโรธ คือดับทุกข์ได้

จบข่าว

นี่พูดง่ายๆ แต่ทำแต่ปฏิบัตินั่นมันไม่ง่ายเหมือนพูด พูดจบแล้ว แต่ปฏิบัติต้องเป็นเดือนเป็นปีเป็นหลายๆเดือนหลายปีกว่าจะรู้เข้าใจสภาวะทุกๆอย่าง

:b32:
ไม่รู้ตัวเลยค่ะคุณกรัชกายว่าทุกขะอริยะสัจจะคือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้้้้้้้้ว่ากำลังเห็นอะไร...
ตอนคิดมันมืด...ตอนเห็นมันสว่าง...คุณกำลังคิดเห็นไม่ตรงตามคำสอนอยู่นะคะ...
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2020, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จากพันทิพ

https://pantip.com/topic/39931988

อ้างคำพูด:
หลังจากนั่งสมาธิสวดมนต์แล้วรู้สึกแปลกๆ

เราเป็นมาวันนี้วันที่สองแล้ว วันแรกตอนสวดมนต์ก็ปกติ พอนั่งสมาธิไปสักพักจะเริ่มมึนๆ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะหายใจไม่ถูกหรือร่างกายไม่พร้อมรึป่าว
ส่วนวันนี้สองนี้ เราลองท่องนโมก่อนนั่งสมาธิเพราะกลัว หลังจากนั่งได้ไม่กี่นาทีก็มาสวดมนต์ แผ่เมตตา ตอนสวดรู้สึกมือสั่น แต่คิดว่ากล้ามเนื้อคงเกร็งหลังจากเล่นโทรศัพท์มา แต่พอตอนพูดว่า ข้าพเจ้า...ขออุทิศ...ยิ่งพูดนานเท่าไหร่ยิ่งนิ่ง ยิ่งรู้สึกตัวเองมือโต เท้าโต ตัวเล็ก มองมุมกว้าง
ควรทำอย่างไรดีคะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะได้หยุดนั่งสมาธิไปเกือบสองปี หลังจากนั่งเป็น ชม. เเล้วข้างในโยกเยกก็เลยกลัว รบกวนแนะแนวแนะนำหน่อยนะคะ สาธุค่ะ


มีแต่แนะนำกันให้หนีสภาวธรรมบ้าง บ้างก็ว่าไม่มีสาระอย่าไปสนใจมันบ้าง :b32:

นี่แหละทุกขสภาวะ (ทุกขอริยสัจ) อย่าเลี่ยงหนี อย่าหนีความจริง แต่ให้กำหนดรู้มัน เป็นยังไงกำหนดยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น นี้เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา กำหนดไปกำหนดรู้ดูมันให้ถึงต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา เมื่อเห็นเหตุ คือ สมุทัยแล้วก็จบ ก็นิโรธ คือดับทุกข์ได้

จบข่าว

นี่พูดง่ายๆ แต่ทำแต่ปฏิบัตินั่นมันไม่ง่ายเหมือนพูด พูดจบแล้ว แต่ปฏิบัติต้องเป็นเดือนเป็นปีเป็นหลายๆเดือนหลายปีกว่าจะรู้เข้าใจสภาวะทุกๆอย่าง

:b32:
ไม่รู้ตัวเลยค่ะคุณกรัชกายว่าทุกขะอริยะสัจจะคือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้้้้้้้้ว่ากำลังเห็นอะไร...
ตอนคิดมันมืด...ตอนเห็นมันสว่าง...คุณกำลังคิดเห็นไม่ตรงตามคำสอนอยู่นะคะ...
:b32: :b32:



อย่างคุณโรสและสานุศิษย์แม่สุจินทำเท่าที่ทำนั่นแหละไม่มีปัญหาอะไร อย่างเก่งก็แค่ฟุ้งซ่าน คิกๆๆ ไม่ถึงกับบ้ากับเพี้ยนอะไร แต่แต่เมื่อไรลงมือปฏิบัติล่ะก็ บ้าชัวร์ เพี้ยน 100 % :b32:

http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 85609.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2020, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟังหลวงพ่อคูณเพียง 2 นาทีแรกพอ

https://www.youtube.com/watch?time_cont ... =emb_title

ภาคปฏิบัติไม่จำต้องรู้ความหมายศัพท์แสงทางภาคปริยัติมากนัก แต่ก็รู้ได้ว่า หลวงพ่อคูณท่านผ่านภาคปฏิบัติมาจริง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2020, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนรู้ศัพท์และความหมายของศัพท์ที่พูดกันทั่วๆไป

สติ ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง, จำการที่ทำและคำที่พูดแล้ว แม้นานได้

สัมปชัญญะ ความรู้ตัวทั่วพร้อม, ความรู้ตระหนัก, ความรู้ชัดเข้าใจชัด ซึ่งสิ่งที่นึกได้ มักมาคู่กับสติ
สัมปชัญญะ ๔ ได้แก่ ๑. สาตถกสัมปชัญญะ รู้ชัดว่ามีประโยชน์ หรือตระหนักว่าตรงตามจุดหมาย
๒.สัปปายสัมปชัญญะ รู้ชัดว่าเป็นสัปปายะ หรือตระหนักว่าเกื้อกูลเหมาะกัน
๓.โคจรสัมปชัญญะ รู้ชัดว่าเป็นโคจร หรือตระหนักในแดนงานของตน
๔.อสัมโมหสัมปชัญญะ รู้ชัดว่าไม่หลง หรือตระหนักในตัวสภาวะ ไม่หลงใหล ไม่สับสนฟั่นเฟือน

สติปัฏฐาน (สติ+ปัฏฐาน) ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งสติ, ข้อปฏิบัติมีสติเป็นประธาน, การตั้งสติกำหนดพิจารณาสิ่งทั้งหลายให้รู้เห็นเท่าทันตามความจริง, การมีสติกำกับดูสิ่งต่างๆและความเป็นไปทั้งหลาย โดยรู้เท่าทันตามสภาวะของมัน ไม่ถูกครอบงำด้วยความยินดียินร้าย ที่ทำให้มองเห็นเพี้ยนไปตามอำนาจกิเลส

สันตติ การสืบต่อ คือ การเกิดดับต่อเนื่องกันไปโดยอาการที่เป็นปัจจัยส่งผลแก่กัน ในทางรูปธรรม ที่พอมองเห็นอย่างหยาบ เช่น ขนแก่หลุดร่องไปขนใหม่เกิดขึ้นแทน ความสืบต่อแห่งรูปธรรม จัดเป็นอุปาทายรูปอย่างหนึ่ง
ในทางนามธรรม จิตก็มีสันตติ คือ เกิดดับเป็นปัจจัยสืบเนื่องต่อกันไป

(เกิด - ดับ คุณโรสไปเข้าใจว่า ดับ แล้วหายจ้อยไปเลยเหมือนไฟตกน้ำ :b32: ไม่ใช่ยังงั้น ดับแล้วมันก็เกิดอีก เกิดแล้วมันก็ดับอีก เกิดอีก ดับอีก ดังกระแสไฟฟ้า เกิดดับๆๆๆ ติดต่อกันยุบยิบๆๆๆๆ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2020, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

นั่นเขาว่าเหมือนหน้าคน เพราะเราเคยเห็นคนมาก่อนว่าคนมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังงี้ๆ
ส่วนสิ่งที่เราไม่เคยประสบพบเห็นมาเลย ครั้นประสบพบเจอเข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร สภาวธรรมก็ทำนองนั้น ผู้ปฏิบัติไม่เคยประสบมาก่อนเลย เมื่อประสบกับมันเข้าก็จึงไม่รู้ว่าอะไร ก็วาดภาพคาดเดาไปต่างๆนานาฉะนั้น

เขานางนอนก็เช่นกัน คนเห็นก็วาดภาพว่าเหมือนผู้หญิงนอน :b12:

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2020, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขอสอบถาม วิธีแก้นิมิตกรรมที่ไม่ดีในอดีตผุดขึ้นมาหลอกหลอนครับ

คือตอนนี้ผมประสบปัญหากรรมที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายของผมครับ ที่ผมทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน คืออยู่ๆมันก็นิมิตขึ้นมาหลอกหลอนครับ

เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วผมได้ก่อเรื่องขึ้นมาในคาบเรียนซึ่งผมก็ยอมรับผิดให้คือทำโทษต่อหน้าชั้นแล้ว แล้วปรากฏว่ามีเพื่อนนักเรียนหญิงเธอได้ด่าเสริมขึ้นมา ผมทั้งเจ็บทั้งอาย ที่โดนครูด่าแล้ว ใยมาด่า Gu เสริมได้อีก พอโดนด่าเสร็จก็เดินเข้าไปเตะหน้าเขาจนเลือดกำเดาไหล แต่เธอก็ไม่ตอบโต้อะไรได้แต่เพียงด่ากลับมาว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ แล้วก็โดนครูชำระโทษต่อ หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป เวลาเจอหน้ากันเธอก็จะเหน็บว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ ตลอดเวลา หลังจากนั้นกรรมก็สนองผม ผมได้ไปโดนแกงค์อันธพาลประจำโรงเรียน เตะหน้าเลือดกำเดาไหลแบบเดียวกับเธอเด๊ะ ๆ เลยครับ แล้วแถม เรื่องก็ได้กลายมาเป็นตราบาปในชีวิตของผมอีก
จนวันเลี้ยงจบ ผมจะไปขออโหสิกรรมกับเธอ เธอก็หนี ไม่กี่ปีต่อมา ผมก็มางานเลี้ยงรุ่น เจอเธอก็ทัก นางก็สะบัดหน้าหนีเราไป ผมก็จนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอคงจะอายและเจ็บยิ่งกว่าผมอีก

แต่ขอนับถือน้ำใจที่เธอไม่ไปฟ้องผู้ปกครองเธอ ไม่งั้นก็คงบานปลาย เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก มารยาทเพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เราเป็นคนทำตำหนิให้กับเธอ

อีกราย
ผมได้ล่วงเกิน เพื่อนหญิง อีกคน ซึ่งเธอดีกับเรามาก แต่เราไปทำเรื่องสวะกับเธอ กล่าวคือ เธอทะเลาะกับเด็กผู้ชายคนนึง แล้วพลาดเขวี้ยงของมาโดนหัวผมแตก จากนั้นเราก็ไปต่อยทุบตีนางทันที ไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนั้นไม่รู้ผีห่าตัวไหนสิงสู่ ผมทำเธอมากกว่าที่เธอทำผมซะอีก พอตั้งสติได้เห็นหน้านางช้ำก็สมเพชตัวเองจากใจ ถึงแม้จะขอโทษกันแล้ว นางก็เปลี่ยนไป ไม่นานนางก็ย้ายโรงเรียน ลือกันว่าเพราะผมเป็นเหตุ (เธอดีกับผมมากครับคนนี้ มีอะไรก็ช่วยตลอดก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปทำแบบนั้นกับนางได้)

และผมมักจะเห็นเธอ 2 คน นี้ มาปรากฏตัวในนิมิต เวลาทำสมาธิ อีกคนก็จ้องด้วยความแค้นเคือง ความผิดหวังในสิ่งที่ผมทำกับเธอ

ไม่ทราบว่าพอจะมีท่านใดชี้ทางสว่าง ให้ผมได้มั๊ยครับ ขอบพระคุณครับ



https://pantip.com/topic/39976048

คุณโรสว่าไง คือ มีความเห็นประการใดขอรับโผม :b10: :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2020, 16:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ฟังหลวงพ่อคูณเพียง 2 นาทีแรกพอ

https://www.youtube.com/watch?time_cont ... =emb_title

ภาคปฏิบัติไม่จำต้องรู้ความหมายศัพท์แสงทางภาคปริยัติมากนัก แต่ก็รู้ได้ว่า หลวงพ่อคูณท่านผ่านภาคปฏิบัติมาจริง


smiley smiley smiley

อาจารย์กรัชกายเหนื่อยมั๊ยคะ คุยกับคุณโรส

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2020, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ฟังหลวงพ่อคูณเพียง 2 นาทีแรกพอ

https://www.youtube.com/watch?time_cont ... =emb_title

ภาคปฏิบัติไม่จำต้องรู้ความหมายศัพท์แสงทางภาคปริยัติมากนัก แต่ก็รู้ได้ว่า หลวงพ่อคูณท่านผ่านภาคปฏิบัติมาจริง


smiley smiley smiley

อาจารย์กรัชกายเหนื่อยมั๊ยคะ คุยกับคุณโรส

:b32: :b32: :b32:


ไม่เหนื่อยครับ คุณโรสช่วยคลายเครียดได้ สนุกดี :b32: นี่หายไปอีกแระ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2020, 16:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ค. 2020, 07:10
โพสต์: 456

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จากพันทิพ

https://pantip.com/topic/39931988

อ้างคำพูด:
หลังจากนั่งสมาธิสวดมนต์แล้วรู้สึกแปลกๆ

เราเป็นมาวันนี้วันที่สองแล้ว วันแรกตอนสวดมนต์ก็ปกติ พอนั่งสมาธิไปสักพักจะเริ่มมึนๆ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะหายใจไม่ถูกหรือร่างกายไม่พร้อมรึป่าว
ส่วนวันนี้สองนี้ เราลองท่องนโมก่อนนั่งสมาธิเพราะกลัว หลังจากนั่งได้ไม่กี่นาทีก็มาสวดมนต์ แผ่เมตตา ตอนสวดรู้สึกมือสั่น แต่คิดว่ากล้ามเนื้อคงเกร็งหลังจากเล่นโทรศัพท์มา แต่พอตอนพูดว่า ข้าพเจ้า...ขออุทิศ...ยิ่งพูดนานเท่าไหร่ยิ่งนิ่ง ยิ่งรู้สึกตัวเองมือโต เท้าโต ตัวเล็ก มองมุมกว้าง
ควรทำอย่างไรดีคะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะได้หยุดนั่งสมาธิไปเกือบสองปี หลังจากนั่งเป็น ชม. เเล้วข้างในโยกเยกก็เลยกลัว รบกวนแนะแนวแนะนำหน่อยนะคะ สาธุค่ะ


มีแต่แนะนำกันให้หนีสภาวธรรมบ้าง บ้างก็ว่าไม่มีสาระอย่าไปสนใจมันบ้าง :b32:

นี่แหละทุกขสภาวะ (ทุกขอริยสัจ) อย่าเลี่ยงหนี อย่าหนีความจริง แต่ให้กำหนดรู้มัน เป็นยังไงกำหนดยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น นี้เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา กำหนดไปกำหนดรู้ดูมันให้ถึงต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา เมื่อเห็นเหตุ คือ สมุทัยแล้วก็จบ ก็นิโรธ คือดับทุกข์ได้

จบข่าว

นี่พูดง่ายๆ แต่ทำแต่ปฏิบัตินั่นมันไม่ง่ายเหมือนพูด พูดจบแล้ว แต่ปฏิบัติต้องเป็นเดือนเป็นปีเป็นหลายๆเดือนหลายปีกว่าจะรู้เข้าใจสภาวะทุกๆอย่าง

:b32:
ไม่รู้ตัวเลยค่ะคุณกรัชกายว่าทุกขะอริยะสัจจะคือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้้้้้้้้ว่ากำลังเห็นอะไร...
ตอนคิดมันมืด...ตอนเห็นมันสว่าง...คุณกำลังคิดเห็นไม่ตรงตามคำสอนอยู่นะคะ...
:b32: :b32:



อย่างคุณโรสและสานุศิษย์แม่สุจินทำเท่าที่ทำนั่นแหละไม่มีปัญหาอะไร อย่างเก่งก็แค่ฟุ้งซ่าน คิกๆๆ ไม่ถึงกับบ้ากับเพี้ยนอะไร แต่แต่เมื่อไรลงมือปฏิบัติล่ะก็ บ้าชัวร์ เพี้ยน 100 % :b32:

http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 85609.html

cool
ยังไม่ต้องทำ...เอาแค่คิดตรงตามให้ถูกก่อน
ถ้าคิดไม่ซื่อตรงย่อมหาสาระอะไรในชีวิตได้ไม่
กิเลสอยู่ในจิตตนเอง...ตอนเห็นไม่มีการคิดอะไร
ตอนได้ยินไม่ได้คิดอะไรตอนรู้กลิ่นก็ไม่มีคิดนึกปน
ตอนลิ้มรสไม่มีคิดปนตอนสัมผัสอะไรอะไรก็ไม่มีคิด
ไม่มีใครคิดล่วงหน้าได้ความคิดเกิดจากความจำเอาไว้
จิตคิดนึกคือจิตคิดนึกไม่มีรูปของแสงสีเสียงกลิ่นรสสัมผัสปน
เพราะตอนนอนหลับแล้วฝันคือจิตคิดนึกล้วนๆไม่มีอินทรีย์5ปรากฏ
แล้วที่เป็นเรามีอินทรีย5ครบตอนนี้เลยคิดอะไรเหรอเพราะจิตคิดนึกเกิดทางมโนทวารวิถี
แปลว่าเรามีตัวตนไปคิดพูดทำสิ่งต่างๆมีอินทรีย์5ปนกันหมดคิดไม่เคยถูกและไม่เคยคิดตรงตามคำสอนเลย
และเราเอาตัวไปคิดพูดทำตามความคิดตัวเองโดยขาดการฟังคือไม่เคยฟังเพื่อพิจารณาว่าอะไรผิดอะไรถูก
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2020, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarina เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จากพันทิพ

https://pantip.com/topic/39931988

อ้างคำพูด:
หลังจากนั่งสมาธิสวดมนต์แล้วรู้สึกแปลกๆ

เราเป็นมาวันนี้วันที่สองแล้ว วันแรกตอนสวดมนต์ก็ปกติ พอนั่งสมาธิไปสักพักจะเริ่มมึนๆ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะหายใจไม่ถูกหรือร่างกายไม่พร้อมรึป่าว
ส่วนวันนี้สองนี้ เราลองท่องนโมก่อนนั่งสมาธิเพราะกลัว หลังจากนั่งได้ไม่กี่นาทีก็มาสวดมนต์ แผ่เมตตา ตอนสวดรู้สึกมือสั่น แต่คิดว่ากล้ามเนื้อคงเกร็งหลังจากเล่นโทรศัพท์มา แต่พอตอนพูดว่า ข้าพเจ้า...ขออุทิศ...ยิ่งพูดนานเท่าไหร่ยิ่งนิ่ง ยิ่งรู้สึกตัวเองมือโต เท้าโต ตัวเล็ก มองมุมกว้าง
ควรทำอย่างไรดีคะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะได้หยุดนั่งสมาธิไปเกือบสองปี หลังจากนั่งเป็น ชม. เเล้วข้างในโยกเยกก็เลยกลัว รบกวนแนะแนวแนะนำหน่อยนะคะ สาธุค่ะ


มีแต่แนะนำกันให้หนีสภาวธรรมบ้าง บ้างก็ว่าไม่มีสาระอย่าไปสนใจมันบ้าง :b32:

นี่แหละทุกขสภาวะ (ทุกขอริยสัจ) อย่าเลี่ยงหนี อย่าหนีความจริง แต่ให้กำหนดรู้มัน เป็นยังไงกำหนดยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น นี้เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา กำหนดไปกำหนดรู้ดูมันให้ถึงต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา เมื่อเห็นเหตุ คือ สมุทัยแล้วก็จบ ก็นิโรธ คือดับทุกข์ได้

จบข่าว

นี่พูดง่ายๆ แต่ทำแต่ปฏิบัตินั่นมันไม่ง่ายเหมือนพูด พูดจบแล้ว แต่ปฏิบัติต้องเป็นเดือนเป็นปีเป็นหลายๆเดือนหลายปีกว่าจะรู้เข้าใจสภาวะทุกๆอย่าง

:b32:
ไม่รู้ตัวเลยค่ะคุณกรัชกายว่าทุกขะอริยะสัจจะคือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้้้้้้้้ว่ากำลังเห็นอะไร...
ตอนคิดมันมืด...ตอนเห็นมันสว่าง...คุณกำลังคิดเห็นไม่ตรงตามคำสอนอยู่นะคะ...
:b32: :b32:



อย่างคุณโรสและสานุศิษย์แม่สุจินทำเท่าที่ทำนั่นแหละไม่มีปัญหาอะไร อย่างเก่งก็แค่ฟุ้งซ่าน คิกๆๆ ไม่ถึงกับบ้ากับเพี้ยนอะไร แต่แต่เมื่อไรลงมือปฏิบัติล่ะก็ บ้าชัวร์ เพี้ยน 100 % :b32:

http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 85609.html

cool
ยังไม่ต้องทำ...เอาแค่คิดตรงตามให้ถูกก่อน
ถ้าคิดไม่ซื่อตรงย่อมหาสาระอะไรในชีวิตได้ไม่
กิเลสอยู่ในจิตตนเอง...ตอนเห็นไม่มีการคิดอะไร
ตอนได้ยินไม่ได้คิดอะไรตอนรู้กลิ่นก็ไม่มีคิดนึกปน
ตอนลิ้มรสไม่มีคิดปนตอนสัมผัสอะไรอะไรก็ไม่มีคิด
ไม่มีใครคิดล่วงหน้าได้ความคิดเกิดจากความจำเอาไว้
จิตคิดนึกคือจิตคิดนึกไม่มีรูปของแสงสีเสียงกลิ่นรสสัมผัสปน
เพราะตอนนอนหลับแล้วฝันคือจิตคิดนึกล้วนๆไม่มีอินทรีย์5ปรากฏ
แล้วที่เป็นเรามีอินทรีย5ครบตอนนี้เลยคิดอะไรเหรอเพราะจิตคิดนึกเกิดทางมโนทวารวิถี
แปลว่าเรามีตัวตนไปคิดพูดทำสิ่งต่างๆมีอินทรีย์5ปนกันหมดคิดไม่เคยถูกและไม่เคยคิดตรงตามคำสอนเลย
และเราเอาตัวไปคิดพูดทำตามความคิดตัวเองโดยขาดการฟังคือไม่เคยฟังเพื่อพิจารณาว่าอะไรผิดอะไรถูก


สำนักบ้านธัมมะไม่ต้องทำอะไร เกิดมาแล้วเป็นยังไงก็ยังไง เช่น ขี้เหม็นก็เหม็น เพียงแต่คิดตามให้ถูกว่าขี้เหม็น คิกๆๆ ก็เท่านี้เอง ไม่ต้องไปทำอะไรมันเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2020, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ขอสอบถาม วิธีแก้นิมิตกรรมที่ไม่ดีในอดีตผุดขึ้นมาหลอกหลอนครับ

คือตอนนี้ผมประสบปัญหากรรมที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายของผมครับ ที่ผมทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน คืออยู่ๆมันก็นิมิตขึ้นมาหลอกหลอนครับ

เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วผมได้ก่อเรื่องขึ้นมาในคาบเรียนซึ่งผมก็ยอมรับผิดให้คือทำโทษต่อหน้าชั้นแล้ว แล้วปรากฏว่ามีเพื่อนนักเรียนหญิงเธอได้ด่าเสริมขึ้นมา ผมทั้งเจ็บทั้งอาย ที่โดนครูด่าแล้ว ใยมาด่า Gu เสริมได้อีก พอโดนด่าเสร็จก็เดินเข้าไปเตะหน้าเขาจนเลือดกำเดาไหล แต่เธอก็ไม่ตอบโต้อะไรได้แต่เพียงด่ากลับมาว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ แล้วก็โดนครูชำระโทษต่อ หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป เวลาเจอหน้ากันเธอก็จะเหน็บว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ ตลอดเวลา หลังจากนั้นกรรมก็สนองผม ผมได้ไปโดนแกงค์อันธพาลประจำโรงเรียน เตะหน้าเลือดกำเดาไหลแบบเดียวกับเธอเด๊ะ ๆ เลยครับ แล้วแถม เรื่องก็ได้กลายมาเป็นตราบาปในชีวิตของผมอีก
จนวันเลี้ยงจบ ผมจะไปขออโหสิกรรมกับเธอ เธอก็หนี ไม่กี่ปีต่อมา ผมก็มางานเลี้ยงรุ่น เจอเธอก็ทัก นางก็สะบัดหน้าหนีเราไป ผมก็จนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอคงจะอายและเจ็บยิ่งกว่าผมอีก

แต่ขอนับถือน้ำใจที่เธอไม่ไปฟ้องผู้ปกครองเธอ ไม่งั้นก็คงบานปลาย เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก มารยาทเพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เราเป็นคนทำตำหนิให้กับเธอ

อีกราย
ผมได้ล่วงเกิน เพื่อนหญิง อีกคน ซึ่งเธอดีกับเรามาก แต่เราไปทำเรื่องสวะกับเธอ กล่าวคือ เธอทะเลาะกับเด็กผู้ชายคนนึง แล้วพลาดเขวี้ยงของมาโดนหัวผมแตก จากนั้นเราก็ไปต่อยทุบตีนางทันที ไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนั้นไม่รู้ผีห่าตัวไหนสิงสู่ ผมทำเธอมากกว่าที่เธอทำผมซะอีก พอตั้งสติได้เห็นหน้านางช้ำก็สมเพชตัวเองจากใจ ถึงแม้จะขอโทษกันแล้ว นางก็เปลี่ยนไป ไม่นานนางก็ย้ายโรงเรียน ลือกันว่าเพราะผมเป็นเหตุ (เธอดีกับผมมากครับคนนี้ มีอะไรก็ช่วยตลอดก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปทำแบบนั้นกับนางได้)

และผมมักจะเห็นเธอ 2 คน นี้ มาปรากฏตัวในนิมิต เวลาทำสมาธิ อีกคนก็จ้องด้วยความแค้นเคือง ความผิดหวังในสิ่งที่ผมทำกับเธอ

ไม่ทราบว่าพอจะมีท่านใดชี้ทางสว่าง ให้ผมได้มั๊ยครับ ขอบพระคุณครับ



https://pantip.com/topic/39976048

คุณโรสว่าไง คือ มีความเห็นประการใดขอรับโผม :b10: :b13:



คุณโรส นี่ละว่าไง ไหนว่ามาสิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2020, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ขอสอบถาม วิธีแก้นิมิตกรรมที่ไม่ดีในอดีตผุดขึ้นมาหลอกหลอนครับ

คือตอนนี้ผมประสบปัญหากรรมที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายของผมครับ ที่ผมทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน คืออยู่ๆมันก็นิมิตขึ้นมาหลอกหลอนครับ

เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วผมได้ก่อเรื่องขึ้นมาในคาบเรียนซึ่งผมก็ยอมรับผิดให้คือทำโทษต่อหน้าชั้นแล้ว แล้วปรากฏว่ามีเพื่อนนักเรียนหญิงเธอได้ด่าเสริมขึ้นมา ผมทั้งเจ็บทั้งอาย ที่โดนครูด่าแล้ว ใยมาด่า Gu เสริมได้อีก พอโดนด่าเสร็จก็เดินเข้าไปเตะหน้าเขาจนเลือดกำเดาไหล แต่เธอก็ไม่ตอบโต้อะไรได้แต่เพียงด่ากลับมาว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ แล้วก็โดนครูชำระโทษต่อ หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป เวลาเจอหน้ากันเธอก็จะเหน็บว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ ตลอดเวลา หลังจากนั้นกรรมก็สนองผม ผมได้ไปโดนแกงค์อันธพาลประจำโรงเรียน เตะหน้าเลือดกำเดาไหลแบบเดียวกับเธอเด๊ะ ๆ เลยครับ แล้วแถม เรื่องก็ได้กลายมาเป็นตราบาปในชีวิตของผมอีก
จนวันเลี้ยงจบ ผมจะไปขออโหสิกรรมกับเธอ เธอก็หนี ไม่กี่ปีต่อมา ผมก็มางานเลี้ยงรุ่น เจอเธอก็ทัก นางก็สะบัดหน้าหนีเราไป ผมก็จนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอคงจะอายและเจ็บยิ่งกว่าผมอีก

แต่ขอนับถือน้ำใจที่เธอไม่ไปฟ้องผู้ปกครองเธอ ไม่งั้นก็คงบานปลาย เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก มารยาทเพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เราเป็นคนทำตำหนิให้กับเธอ

อีกราย
ผมได้ล่วงเกิน เพื่อนหญิง อีกคน ซึ่งเธอดีกับเรามาก แต่เราไปทำเรื่องสวะกับเธอ กล่าวคือ เธอทะเลาะกับเด็กผู้ชายคนนึง แล้วพลาดเขวี้ยงของมาโดนหัวผมแตก จากนั้นเราก็ไปต่อยทุบตีนางทันที ไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนั้นไม่รู้ผีห่าตัวไหนสิงสู่ ผมทำเธอมากกว่าที่เธอทำผมซะอีก พอตั้งสติได้เห็นหน้านางช้ำก็สมเพชตัวเองจากใจ ถึงแม้จะขอโทษกันแล้ว นางก็เปลี่ยนไป ไม่นานนางก็ย้ายโรงเรียน ลือกันว่าเพราะผมเป็นเหตุ (เธอดีกับผมมากครับคนนี้ มีอะไรก็ช่วยตลอดก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปทำแบบนั้นกับนางได้)

และผมมักจะเห็นเธอ 2 คน นี้ มาปรากฏตัวในนิมิต เวลาทำสมาธิ อีกคนก็จ้องด้วยความแค้นเคือง ความผิดหวังในสิ่งที่ผมทำกับเธอ

ไม่ทราบว่าพอจะมีท่านใดชี้ทางสว่าง ให้ผมได้มั๊ยครับ ขอบพระคุณครับ



https://pantip.com/topic/39976048

คุณโรสว่าไง คือ มีความเห็นประการใดขอรับโผม :b10: :b13:



คุณโรส นี่ละว่าไง ไหนว่ามาสิ


เพื่อความเข้าใจภาพกว้าง วางแปลนให้ดู กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม การกระทำทุกๆอย่างไม่ว่าทางกาย ทางวาจา (คำพูด) ต้นกำเนิดอยู่ที่มโน (ใจ, จิต) ใจเป็นผู้ควบคุมสั่งการ ทำดี พูดดี ใจสั่ง, ตรงข้าม ทำร้าย พูดไม่ดี ใจก็เป็นผู้สั่ง

ใช้ชีวิตปกติประจำวันภาพทางใจเหมือนไม่ปรากฏ แต่พอเรามากำหนดจิตที่ลมหายใจเป็นต้น (ทำสมาธิ) อารมณ์ก็เหลือประตูใจประตูเดียว ทีนี้แหละสิ่งที่อยู่ในใจ ใจเคยสั่งให้กาย ให้วาจาทำดี ทำชั่ว มันจะโผล่ขึ้นมาให้เห็น เช่น ตัวอย่างนั่น เคยไปเตะถีบถองกระทืบผู้หญิงไว้ พอทำสมาธิภาพทางใจ (นิมิต) ก็ปรากฎให้เห็น

ทางแก้ ก็คือกำหนดตามที่เห็น ตามที่รู้สึก อย่าได้เลี่ยงหนีเป็นอันขาด หนีไปไหนไม่พ้นหรอก :b32: เช่น ลุกหนีไปเข้าห้องน้ำ มันเหมือนหายไปชั่วคราว พอมานั่งอีกภาพทางใจก็โผล่มาอีก ท่านจึงให้กำหนดให้ชัด พอจิตกำหนดชัดภาพนั่นก็หมดไป เพราะกุศลธรรมเกิด (จะเรียกว่าสติ เรียกสัมปชัญญะ เรียกปัญญาเป็นต้นก็สุดแล้วแต่)

ตย. เห็นก็เห็นหนอๆๆๆๆ รู้สึกกลัว ก็ กลัวหนอๆๆๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2020, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2020, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ขอสอบถาม วิธีแก้นิมิตกรรมที่ไม่ดีในอดีตผุดขึ้นมาหลอกหลอนครับ

คือตอนนี้ผมประสบปัญหากรรมที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายของผมครับ ที่ผมทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน คืออยู่ๆมันก็นิมิตขึ้นมาหลอกหลอนครับ

เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วผมได้ก่อเรื่องขึ้นมาในคาบเรียนซึ่งผมก็ยอมรับผิดให้คือทำโทษต่อหน้าชั้นแล้ว แล้วปรากฏว่ามีเพื่อนนักเรียนหญิงเธอได้ด่าเสริมขึ้นมา ผมทั้งเจ็บทั้งอาย ที่โดนครูด่าแล้ว ใยมาด่า Gu เสริมได้อีก พอโดนด่าเสร็จก็เดินเข้าไปเตะหน้าเขาจนเลือดกำเดาไหล แต่เธอก็ไม่ตอบโต้อะไรได้แต่เพียงด่ากลับมาว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ แล้วก็โดนครูชำระโทษต่อ หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป เวลาเจอหน้ากันเธอก็จะเหน็บว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ ตลอดเวลา หลังจากนั้นกรรมก็สนองผม ผมได้ไปโดนแกงค์อันธพาลประจำโรงเรียน เตะหน้าเลือดกำเดาไหลแบบเดียวกับเธอเด๊ะ ๆ เลยครับ แล้วแถม เรื่องก็ได้กลายมาเป็นตราบาปในชีวิตของผมอีก
จนวันเลี้ยงจบ ผมจะไปขออโหสิกรรมกับเธอ เธอก็หนี ไม่กี่ปีต่อมา ผมก็มางานเลี้ยงรุ่น เจอเธอก็ทัก นางก็สะบัดหน้าหนีเราไป ผมก็จนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอคงจะอายและเจ็บยิ่งกว่าผมอีก

แต่ขอนับถือน้ำใจที่เธอไม่ไปฟ้องผู้ปกครองเธอ ไม่งั้นก็คงบานปลาย เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก มารยาทเพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เราเป็นคนทำตำหนิให้กับเธอ

อีกราย
ผมได้ล่วงเกิน เพื่อนหญิง อีกคน ซึ่งเธอดีกับเรามาก แต่เราไปทำเรื่องสวะกับเธอ กล่าวคือ เธอทะเลาะกับเด็กผู้ชายคนนึง แล้วพลาดเขวี้ยงของมาโดนหัวผมแตก จากนั้นเราก็ไปต่อยทุบตีนางทันที ไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนั้นไม่รู้ผีห่าตัวไหนสิงสู่ ผมทำเธอมากกว่าที่เธอทำผมซะอีก พอตั้งสติได้เห็นหน้านางช้ำก็สมเพชตัวเองจากใจ ถึงแม้จะขอโทษกันแล้ว นางก็เปลี่ยนไป ไม่นานนางก็ย้ายโรงเรียน ลือกันว่าเพราะผมเป็นเหตุ (เธอดีกับผมมากครับคนนี้ มีอะไรก็ช่วยตลอดก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปทำแบบนั้นกับนางได้)

และผมมักจะเห็นเธอ 2 คน นี้ มาปรากฏตัวในนิมิต เวลาทำสมาธิ อีกคนก็จ้องด้วยความแค้นเคือง ความผิดหวังในสิ่งที่ผมทำกับเธอ

ไม่ทราบว่าพอจะมีท่านใดชี้ทางสว่าง ให้ผมได้มั๊ยครับ ขอบพระคุณครับ



https://pantip.com/topic/39976048

คุณโรสว่าไง คือ มีความเห็นประการใดขอรับโผม :b10: :b13:



คุณโรส นี่ละว่าไง ไหนว่ามาสิ


เพื่อความเข้าใจภาพกว้าง วางแปลนให้ดู กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม การกระทำทุกๆอย่างไม่ว่าทางกาย ทางวาจา (คำพูด) ต้นกำเนิดอยู่ที่มโน (ใจ, จิต) ใจเป็นผู้ควบคุมสั่งการ ทำดี พูดดี ใจสั่ง, ตรงข้าม ทำร้าย พูดไม่ดี ใจก็เป็นผู้สั่ง

ใช้ชีวิตปกติประจำวันภาพทางใจเหมือนไม่ปรากฏ แต่พอเรามากำหนดจิตที่ลมหายใจเป็นต้น (ทำสมาธิ) อารมณ์ก็เหลือประตูใจประตูเดียว ทีนี้แหละสิ่งที่อยู่ในใจ ใจเคยสั่งให้กาย ให้วาจาทำดี ทำชั่ว มันจะโผล่ขึ้นมาให้เห็น เช่น ตัวอย่างนั่น เคยไปเตะถีบถองกระทืบผู้หญิงไว้ พอทำสมาธิภาพทางใจ (นิมิต) ก็ปรากฎให้เห็น

ทางแก้ ก็คือกำหนดตามที่เห็น ตามที่รู้สึก อย่าได้เลี่ยงหนีเป็นอันขาด หนีไปไหนไม่พ้นหรอก :b32: เช่น ลุกหนีไปเข้าห้องน้ำ มันเหมือนหายไปชั่วคราว พอมานั่งอีกภาพทางใจก็โผล่มาอีก ท่านจึงให้กำหนดให้ชัด พอจิตกำหนดชัดภาพนั่นก็หมดไป เพราะกุศลธรรมเกิด (จะเรียกว่าสติ เรียกสัมปชัญญะ เรียกปัญญาเป็นต้นก็สุดแล้วแต่)

ตย. เห็นก็เห็นหนอๆๆๆๆ รู้สึกกลัว ก็ กลัวหนอๆๆๆๆ



เมื่อเข้าใจตามว่านั่นแล้ว ก็จะเข้าใจนี่

กัมมัสสโกมหิ เรามีกรรมเป็นของตน

กัมมะทายาโท เป็นทายาทแห่งกรรม

กัมมะโยนิ มีกรรมเป็นกำเนิด

กัมมะพันธุ มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

กัมมะปฏิสะระโณ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย.

ยัง กัมมัง กะริสสามิ เราทำกรรมใดไว้

กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่วก็ตาม

ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ. เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น


พุทธธรรมท่านสอนให้แต่ละคนๆรับผิดชอบตัวเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 148 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 102 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร