ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=58889
หน้า 1 จากทั้งหมด 10

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 09 พ.ค. 2020, 17:43 ]
หัวข้อกระทู้:  ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร รู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 09 พ.ค. 2020, 17:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

ดูตัวอย่าง

รูปภาพ

อ้างคำพูด:
หนุ่มไปส่องเขียดกลางดึก ส่องไฟไปเห็น ผู้หญิงใส่ชุดไทย นั่งอยู่ที่บ้านร้าง วิ่งหนีไม่คิดชีวิต ก่อนกลั้นใจเดินกลับไปดูอีกครั้ง


https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/2 ... VlXsWN3OEk

เทียบภาคปฏิบัติ ผู้ที่ฝึกหัดปฏิบัติทางจิตใหม่ๆ ความรู้สึกไม่ชัด มันเบลอๆ ก็จะเห็นนั่นเห็นนี่ เห็นสภาวะนั่นนี่ ก็เกิดความกลัว หรือเกิดความฟุ้งซ่าน ว่านั่นอะไรๆหนอนั่นอะไร :b32: มันจะเป็นอะไรไหม มันจะตายไหม :b2: คิดฟุ้งไป ก็เป็นอันตกจากกรรมฐานตามปัจจุบันขณะไม่ทันเพราะมัวแต่ฟุ้งซ่านอยู่

เพราะฉะนั้น ท่านจึงให้โยคีกำหนดจิตลงไปตามเป็นจริง ตามที่มันเป็นโดยไม่เลี่ยงหนี เหมือนคนเห็นตอไม้ในเวลากลางคืนแล้วคิดว่าผี วิบเดียวเพ่นป่าราบ หรือ เหมือนคนส่องกบเห็นรูปนางไม้แต่งชุดไทยที่มีคนนำไปวางไว้ ก็คิดว่า...ยังไม่ทันพิจาณาก็เพ่นหนีไป
ใจแข็งย้อนกลับไปดูชัดๆอีกที ก็เข้าใจตามจริงอ๋ออ้อมันเป็นพันนี้เอง
พอรู้ความจริงก็หายกลัว หายตกใจ มันก็มีแค่นี้แหละ

รูปภาพ

เป็นไงคุณโรสพอเข้าใจอะไรบ้างไหม

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 09 พ.ค. 2020, 18:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

ตัวอย่างภาคปฏิบัติเอาที่เบาๆก่อน

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเหมือนมีอีกร่างอยู่ในตัว

รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วย

1. มีความรู้สึกมีอีกร่างอยู่ในตัวเรา แต่เราจะควบคุมอีกร่างไม่ได้ อีกร่างเหมือนกับจะพยายามออกมา จากร่างเรา รู้สึกว่าเค้าจะยืดออกทางหน้าซ้ายบ้าง สักพักก็มาทางขวา แต่ไม่เคยออกได้ ปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะพยายามไม่ สนใจค่ะ ถูกต้องรึเปล่าค่ะ หรือควรจะทำอย่างไรกรุณาชี้แนะด้วยค่ะ

2. นั่งไปสักพัก จะไม่รู้สึกตัวเหมือนเราหายไป แต่รู้ว่าไม่ได้หลับ สักพักก็กลับมาเหมือนเดิม เหมือนหายไปแปล๊บเดียว แต่ค่อนข้างจะนานค่ะ ควรจะทำอย่างไรหรือปล่อยไปแบบนี้ค่ะรบกวนชี้แนะ ด้วย

ทั้งสองเหตุการณ์ จะไม่เกิดพร้อมกัน ถ้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ที่ 1 วันต่อมาก็จะเกิด เหตุการณ์ที่ 2 สลับกันค่ะ หรือบางวันก็ไม่เกิดอาการทั้ง 2 เลยค่ะ

3. เคยนอนหลับตอนกลางวันที่บ้าน แล้วมีความรู้สึกว่าไม่ง่วงไม่นอนละ แล้วก็ลุกขึ้นมาทำอะไรตามปกติ เช่น กวาด บ้าน เดินอยู่ในบ้าน สักพักสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์แล้วก็งงว่า เมื่อกี้เราไม่ได้หลับนี่ ยังทำอะไรตามปกติอยู่เลย แล้วทำไมมาสะดุ้งตื่นนอนบนที่นอนอย่างนี้

รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะแนวทางที่ควรจะปฏิบัติต่อไปด้วย
ปกตินั่งสมาธิแบบอานาปานสติอย่างเดียวเลยค่ะ
ก่อนนอนก็จะนอนภาวนาตลอดเลยค่ะ


ทั้งนั้นแหละ ขาดการกำหนดรู้สภาวธรรมตามเป็นจริง คือ ตามที่มันเป็น

เจ้าของ:  Rosarin [ 09 พ.ค. 2020, 19:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

กรัชกาย เขียน:
การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร สู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

Kiss
พูดทุกคำที่ตัวเองไม่รู้จัก...สติสัมปชัญญะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าถึงความจริง
ไม่ว่าทางจิตกับทางกายหรือทางโลกกับทางธรรมก็คือเดี๋ยวนี้ไม่ได้แยกออกไปจากปกติ
:b12:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 พ.ค. 2020, 20:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร สู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

Kiss
พูดทุกคำที่ตัวเองไม่รู้จัก...สติสัมปชัญญะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าถึงความจริง
ไม่ว่าทางจิตกับทางกายหรือทางโลกกับทางธรรมก็คือเดี๋ยวนี้ไม่ได้แยกออกไปจากปกติ
:b12:
:b4: :b4:


คุณโรสบอกความหมายของ สติ กับ สัมปชัญญะสิ มีปกติเป็นยังไง เอาว่าไป

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 พ.ค. 2020, 20:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

ไม่แปลกเลยเรื่องปกติ เมื่อจิตพอสงบแล้วก็จะประสบพบเห็นสภาวะทั้งหลายแหล่ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ดังนั้น ท่านให้กำหนดตามที่มันเป็น ไม่ใช่คิดฟุ้งซ่านว่าเป็นอะไร อะไร ฯลฯ กำหนดๆตรงๆกับความรู้สึกเลย รัดคอหนอๆๆๆ ปาดคอหนอๆๆ

อ้างคำพูด:
พอจิตสงบเหมือนมีอะไรมารัดคอ

คือตอนที่ผมนั่งสมาธิพอจิตสงบไม่คิดอะไร อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดที่คอ หรือ ไม่ก็เหมือนถูกอะไรปาดคอ พักหลังๆเป็นอย่างนี้แทบทุกครั้งครับ
รบกวนผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะด้วย


เมื่อกำหนดดังนั้น 4-5 ครั้งแล้วก็ตามดูลมหายใจเข้าออกต่อไป มีอาการอีกก็กำหนดอีก
การกำหนดดูรู้เท่าทันมันนี่แหละสติสัมปชัญญะเกิดแล้วทุกๆครั้งที่กำหนด

เจ้าของ:  Rosarin [ 13 พ.ค. 2020, 16:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร สู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

Kiss
พูดทุกคำที่ตัวเองไม่รู้จัก...สติสัมปชัญญะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าถึงความจริง
ไม่ว่าทางจิตกับทางกายหรือทางโลกกับทางธรรมก็คือเดี๋ยวนี้ไม่ได้แยกออกไปจากปกติ
:b12:
:b4: :b4:


คุณโรสบอกความหมายของ สติ กับ สัมปชัญญะสิ มีปกติเป็นยังไง เอาว่าไป

:b12:
เอาแค่คำว่าสติแค่คำเดียวนี้ก่อนให้ตรงความจริงที่ตัวเองกำลังเป็นคือเดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ากำลังขาดสติอยู่จริงๆ
เข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะ...ทุกอย่างต้องคิดตรงจริงเดี๋ยวนี้ไม่แยกออกไปไหน
สติ=ระลึกถูกตรงตามคำสอนได้ถูกตรงจริงตรงที่กำลังมีที่ร่างกายตัวเองเช่น
กำลังมีเห็น=เห็นแล้ว...กำลังเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง=เห็นแจ้งตรงตามที่ลืมตาดูคือไม่แยกเห็นไปจากขณะนี้
เอาแค่ทางเดียวนี่แหละให้มันเข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวเองกำลังเห็นอะไร...ทีนี้เอามาเทียบกับคำตถาคต...ไม่มีเรา
ที่ลืมตาดูแล้วเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เนี่ยเอามาเทียบตามคิดตามคำตถาคตที่ว่าไม่มีเรา...มันห่างไกลกับเรามั๊ย
ระลึกตามคำว่าไม่มีเรา...เห็นอยู่เนี่ยยังมีความคิดเห็นว่ามีตัวเราเป็นผู้ที่เห็นอยู่ไหมแล้วเทียบกับไม่มีเราแล้ว
คิดว่าคุณกำลังมีความคิดเห็นผิดเลยตรงๆ...หรือคุณคิดว่าที่ตถาคตบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเรานั้นตถาคตบอกผิด
:b12:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  Rosarin [ 13 พ.ค. 2020, 18:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร สู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

Kiss
พูดทุกคำที่ตัวเองไม่รู้จัก...สติสัมปชัญญะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าถึงความจริง
ไม่ว่าทางจิตกับทางกายหรือทางโลกกับทางธรรมก็คือเดี๋ยวนี้ไม่ได้แยกออกไปจากปกติ
:b12:
:b4: :b4:


คุณโรสบอกความหมายของ สติ กับ สัมปชัญญะสิ มีปกติเป็นยังไง เอาว่าไป

:b12:
เอาแค่คำว่าสติแค่คำเดียวนี้ก่อนให้ตรงความจริงที่ตัวเองกำลังเป็นคือเดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ากำลังขาดสติอยู่จริงๆ
เข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะ...ทุกอย่างต้องคิดตรงจริงเดี๋ยวนี้ไม่แยกออกไปไหน
สติ=ระลึกถูกตรงตามคำสอนได้ถูกตรงจริงตรงที่กำลังมีที่ร่างกายตัวเองเช่น
กำลังมีเห็น=เห็นแล้ว...กำลังเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง=เห็นแจ้งตรงตามที่ลืมตาดูคือไม่แยกเห็นไปจากขณะนี้
เอาแค่ทางเดียวนี่แหละให้มันเข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวเองกำลังเห็นอะไร...ทีนี้เอามาเทียบกับคำตถาคต...ไม่มีเรา
ที่ลืมตาดูแล้วเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เนี่ยเอามาเทียบตามคิดตามคำตถาคตที่ว่าไม่มีเรา...มันห่างไกลกับเรามั๊ย
ระลึกตามคำว่าไม่มีเรา...เห็นอยู่เนี่ยยังมีความคิดเห็นว่ามีตัวเราเป็นผู้ที่เห็นอยู่ไหมแล้วเทียบกับไม่มีเราแล้ว
คิดว่าคุณกำลังมีความคิดเห็นผิดเลยตรงๆ...หรือคุณคิดว่าที่ตถาคตบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเรานั้นตถาคตบอกผิด
:b12:
:b4: :b4:

เพียรฟังความจริงเพื่อเข้าใจและรู้สึกตัวตรงที่กำลังมีก่อนตายเข้าใจไหมคะว่าไม่มีเรา
https://youtu.be/kc_hyRuN_bE
:b16: :b16:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 13 พ.ค. 2020, 19:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร สู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

Kiss
พูดทุกคำที่ตัวเองไม่รู้จัก...สติสัมปชัญญะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าถึงความจริง
ไม่ว่าทางจิตกับทางกายหรือทางโลกกับทางธรรมก็คือเดี๋ยวนี้ไม่ได้แยกออกไปจากปกติ
:b12:
:b4: :b4:


คุณโรสบอกความหมายของ สติ กับ สัมปชัญญะสิ มีปกติเป็นยังไง เอาว่าไป

:b12:
เอาแค่คำว่าสติแค่คำเดียวนี้ก่อนให้ตรงความจริงที่ตัวเองกำลังเป็นคือเดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ากำลังขาดสติอยู่จริงๆ
เข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะ...ทุกอย่างต้องคิดตรงจริงเดี๋ยวนี้ไม่แยกออกไปไหน
สติ=ระลึกถูกตรงตามคำสอนได้ถูกตรงจริงตรงที่กำลังมีที่ร่างกายตัวเองเช่น
กำลังมีเห็น=เห็นแล้ว...กำลังเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง=เห็นแจ้งตรงตามที่ลืมตาดูคือไม่แยกเห็นไปจากขณะนี้
เอาแค่ทางเดียวนี่แหละให้มันเข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวเองกำลังเห็นอะไร...ทีนี้เอามาเทียบกับคำตถาคต...ไม่มีเรา
ที่ลืมตาดูแล้วเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เนี่ยเอามาเทียบตามคิดตามคำตถาคตที่ว่าไม่มีเรา...มันห่างไกลกับเรามั๊ย
ระลึกตามคำว่าไม่มีเรา...เห็นอยู่เนี่ยยังมีความคิดเห็นว่ามีตัวเราเป็นผู้ที่เห็นอยู่ไหมแล้วเทียบกับไม่มีเราแล้ว
คิดว่าคุณกำลังมีความคิดเห็นผิดเลยตรงๆ...หรือคุณคิดว่าที่ตถาคตบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเรานั้นตถาคตบอกผิด
:b12:
:b4: :b4:


ก็บอกแล้วบอกเล่า ว่า คุณโรส เป็นต้น (เป็นต้น แสดงว่ายังมีอีกเยอะ :b32: ) เอาศัพท์แสงเขามาพูดแล้วก็ตีความเอาเอง คิกๆๆ ว่ายังงี้ยังงั้นยังโง้นแบบนี้แบบนั้น คือ คิดเองเออเอง
ดังเคยพูดบ่อยๆว่า เหมือนคนเมากัญชาเต็มที่แล้วนอนมองก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาในอากาศคิดวาดภาพเอาว่า เหมือนม้า เหมือนนางฟ้า เหมือนเทวดา เหมือนดวงจันทร์ เป็นต้น ฉะนั้นแล.

จบข่าว :b13:

เจ้าของ:  Rosarin [ 14 พ.ค. 2020, 01:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
การปฏิบัติทางจิต เห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร สู้สึกยังไง ทางกาย ทางใจ ท่านให้กำหนดรู้มันตามที่เห็น ตามที่ได้ยิน ตามที่รู้สึก เป็นต้น ก็เพื่อให้สติสัมปชัญญะเป็นต้นเกิดชัด

Kiss
พูดทุกคำที่ตัวเองไม่รู้จัก...สติสัมปชัญญะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าถึงความจริง
ไม่ว่าทางจิตกับทางกายหรือทางโลกกับทางธรรมก็คือเดี๋ยวนี้ไม่ได้แยกออกไปจากปกติ
:b12:
:b4: :b4:


คุณโรสบอกความหมายของ สติ กับ สัมปชัญญะสิ มีปกติเป็นยังไง เอาว่าไป

:b12:
เอาแค่คำว่าสติแค่คำเดียวนี้ก่อนให้ตรงความจริงที่ตัวเองกำลังเป็นคือเดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ากำลังขาดสติอยู่จริงๆ
เข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะ...ทุกอย่างต้องคิดตรงจริงเดี๋ยวนี้ไม่แยกออกไปไหน
สติ=ระลึกถูกตรงตามคำสอนได้ถูกตรงจริงตรงที่กำลังมีที่ร่างกายตัวเองเช่น
กำลังมีเห็น=เห็นแล้ว...กำลังเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง=เห็นแจ้งตรงตามที่ลืมตาดูคือไม่แยกเห็นไปจากขณะนี้
เอาแค่ทางเดียวนี่แหละให้มันเข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวเองกำลังเห็นอะไร...ทีนี้เอามาเทียบกับคำตถาคต...ไม่มีเรา
ที่ลืมตาดูแล้วเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เนี่ยเอามาเทียบตามคิดตามคำตถาคตที่ว่าไม่มีเรา...มันห่างไกลกับเรามั๊ย
ระลึกตามคำว่าไม่มีเรา...เห็นอยู่เนี่ยยังมีความคิดเห็นว่ามีตัวเราเป็นผู้ที่เห็นอยู่ไหมแล้วเทียบกับไม่มีเราแล้ว
คิดว่าคุณกำลังมีความคิดเห็นผิดเลยตรงๆ...หรือคุณคิดว่าที่ตถาคตบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเรานั้นตถาคตบอกผิด
:b12:
:b4: :b4:


ก็บอกแล้วบอกเล่า ว่า คุณโรส เป็นต้น (เป็นต้น แสดงว่ายังมีอีกเยอะ :b32: ) เอาศัพท์แสงเขามาพูดแล้วก็ตีความเอาเอง คิกๆๆ ว่ายังงี้ยังงั้นยังโง้นแบบนี้แบบนั้น คือ คิดเองเออเอง
ดังเคยพูดบ่อยๆว่า เหมือนคนเมากัญชาเต็มที่แล้วนอนมองก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาในอากาศคิดวาดภาพเอาว่า เหมือนม้า เหมือนนางฟ้า เหมือนเทวดา เหมือนดวงจันทร์ เป็นต้น ฉะนั้นแล.

จบข่าว :b13:

:b12:
ถ้าพระพุทธเจ้าพูดเองคุณจะต้องกระอักเลือดนะ555
ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าบวชแล้วไม่ต้องใช้เงิน
เออแล้วก็ขยันรีดไถเงินชาวบ้านเลวไหม
ขี้เกียจไม่อยากทำงานก็ลามาบวชเหรอ
บวชแก้บนบ้างไม่มีเงินใช้ก็มาบวชเก็บเงิน
ชาวบ้านโง่ที่หลงเชื่อนักบวชจอมปลอม
ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่เรียนพระไตรปิฏก
ชาวบ้านเลยคิดว่าไม่อยากยุ่งกลัวบาปน่ะ
แต่รู้ไหมคะว่าตถาคตสอนให้ฉลาดรู้ว่า
อะไรเป็นอะไรถ้าสิ่งที่ทำไม่รู้ว่าชั่วก็เลิกทำไม่ได้
เช่นบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินบาปโลภจนไม่รู้สึกตัว555
ยังไม่ชัดอีกเหรอแค่โกนหัวโกนคิ้วไม่มีคุณธรรมอะไรให้กราบเลย
ชาวบ้านที่เขาเริ่มเข้าใจเขาเลิกใส่บาตรโจรนะคะคุณไม่รู้ตัวเหรอว่า
บวชแล้วอาบัติแล้วไม่ได้ปลงฉันอาหารทุกคำข้าวบาปมากขนาดไหน
บริโภคอย่างโจรอย่างเป็นหนี้ข้าวชาวบ้านนับเม็ดคำข้าวโรสกล่าวตามคำสอนนะ
คิดได้ไหมกลืนถ่านไฟแดงร้อนลวกปากตายแค่ชาตินี้ชาติเดียวแต่บวชแล้วบาปเนี่ย
ไม่ได้ฆ่าสัตว์แต่จะต้องตกนรกหมกไหม้ลืมตาอ้าปากกินข้าวไม่ได้555ไม่รู้สึกตัวจะให้ว่าไง
สำนึกไว้เลยนะว่ากลืนถ่านแดงร้อนลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้ชาติเดียว
อาบัติแล้วไม่มีที่ปลงอาบัติขโมยปัจจัย4ที่เขาถวายพระพุทธเจ้าคือมหาโจรรับเงินก็เศรษฐีหัวโล้น
อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อคนอื่นที่แท้ทำเพื่อปากท้องและลาภสักการะที่อยากได้เพิ่มโมหะเข้าไปอีก555
โลกไม่มีที่ลับที่แจ้งกรรมตัวเองที่ทำไสไปเลยเหมือนพระธรณีดูด...นั่งทำสมาธิได้จนถึงแปลงร่างได้รึยังคะ
พระเทวทัตทำสมาธิได้จนแปลงร่างได้โดนธรณีดูดลงนรกต่อหน้าที่ประทับเลยถามว่าพระพุทธเจ้าช่วยได้มั๊ย
คิดไว้รึยังว่าขนาดพระเทวทัตอยู่หน้าที่ประทับพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะ
หวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะขนาดพระพุทธเจ้าตัวเป็นๆยังช่วยอะไรไม่ได้ทำได้แค่บอก
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 14 พ.ค. 2020, 19:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

Rosarin เขียน:



ถ้าพระพุทธเจ้าพูดเองคุณจะต้องกระอักเลือดนะ555
ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าบวชแล้วไม่ต้องใช้เงิน
เออแล้วก็ขยันรีดไถเงินชาวบ้านเลวไหม
ขี้เกียจไม่อยากทำงานก็ลามาบวชเหรอ
บวชแก้บนบ้างไม่มีเงินใช้ก็มาบวชเก็บเงิน
ชาวบ้านโง่ที่หลงเชื่อนักบวชจอมปลอม
ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่เรียนพระไตรปิฏก
ชาวบ้านเลยคิดว่าไม่อยากยุ่งกลัวบาปน่ะ
แต่รู้ไหมคะว่าตถาคตสอนให้ฉลาดรู้ว่า
อะไรเป็นอะไรถ้าสิ่งที่ทำไม่รู้ว่าชั่วก็เลิกทำไม่ได้
เช่นบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินบาปโลภจนไม่รู้สึกตัว555
ยังไม่ชัดอีกเหรอแค่โกนหัวโกนคิ้วไม่มีคุณธรรมอะไรให้กราบเลย
ชาวบ้านที่เขาเริ่มเข้าใจเขาเลิกใส่บาตรโจรนะคะคุณไม่รู้ตัวเหรอว่า
บวชแล้วอาบัติแล้วไม่ได้ปลงฉันอาหารทุกคำข้าวบาปมากขนาดไหน
บริโภคอย่างโจรอย่างเป็นหนี้ข้าวชาวบ้านนับเม็ดคำข้าวโรสกล่าวตามคำสอนนะ
คิดได้ไหมกลืนถ่านไฟแดงร้อนลวกปากตายแค่ชาตินี้ชาติเดียวแต่บวชแล้วบาปเนี่ย
ไม่ได้ฆ่าสัตว์แต่จะต้องตกนรกหมกไหม้ลืมตาอ้าปากกินข้าวไม่ได้555ไม่รู้สึกตัวจะให้ว่าไง
สำนึกไว้เลยนะว่ากลืนถ่านแดงร้อนลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้ชาติเดียว
อาบัติแล้วไม่มีที่ปลงอาบัติขโมยปัจจัย4ที่เขาถวายพระพุทธเจ้าคือมหาโจรรับเงินก็เศรษฐีหัวโล้น
อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อคนอื่นที่แท้ทำเพื่อปากท้องและลาภสักการะที่อยากได้เพิ่มโมหะเข้าไปอีก555
โลกไม่มีที่ลับที่แจ้งกรรมตัวเองที่ทำไสไปเลยเหมือนพระธรณีดูด...นั่งทำสมาธิได้จนถึงแปลงร่างได้รึยังคะ
พระเทวทัตทำสมาธิได้จนแปลงร่างได้โดนธรณีดูดลงนรกต่อหน้าที่ประทับเลยถามว่าพระพุทธเจ้าช่วยได้มั๊ย
คิดไว้รึยังว่าขนาดพระเทวทัตอยู่หน้าที่ประทับพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะ
หวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะขนาดพระพุทธเจ้าตัวเป็นๆยังช่วยอะไรไม่ได้ทำได้แค่บอก


เอ้าวนวน คิกๆๆๆ

อุตส่าห์จิ้มแป้นตั้งเยอะแยะ แต่ไม่มีอะไรที่เป็นสาระเลย เห็นแต่มิจฉาทิฐิเต็มไปหมด :b13:

คุณปฤษฎีว่าวนไหม วน ไม่วน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 14 พ.ค. 2020, 19:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

Rosarin เขียน:


ถ้าพระพุทธเจ้าพูดเองคุณจะต้องกระอักเลือดนะ555
ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าบวชแล้วไม่ต้องใช้เงิน
เออแล้วก็ขยันรีดไถเงินชาวบ้านเลวไหม
ขี้เกียจไม่อยากทำงานก็ลามาบวชเหรอ
บวชแก้บนบ้างไม่มีเงินใช้ก็มาบวชเก็บเงิน
ชาวบ้านโง่ที่หลงเชื่อนักบวชจอมปลอม
ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่เรียนพระไตรปิฏก
ชาวบ้านเลยคิดว่าไม่อยากยุ่งกลัวบาปน่ะ
แต่รู้ไหมคะว่าตถาคตสอนให้ฉลาดรู้ว่า
อะไรเป็นอะไรถ้าสิ่งที่ทำไม่รู้ว่าชั่วก็เลิกทำไม่ได้
เช่นบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินบาปโลภจนไม่รู้สึกตัว555
ยังไม่ชัดอีกเหรอแค่โกนหัวโกนคิ้วไม่มีคุณธรรมอะไรให้กราบเลย
ชาวบ้านที่เขาเริ่มเข้าใจเขาเลิกใส่บาตรโจรนะคะคุณไม่รู้ตัวเหรอว่า
บวชแล้วอาบัติแล้วไม่ได้ปลงฉันอาหารทุกคำข้าวบาปมากขนาดไหน
บริโภคอย่างโจรอย่างเป็นหนี้ข้าวชาวบ้านนับเม็ดคำข้าวโรสกล่าวตามคำสอนนะ
คิดได้ไหมกลืนถ่านไฟแดงร้อนลวกปากตายแค่ชาตินี้ชาติเดียวแต่บวชแล้วบาปเนี่ย
ไม่ได้ฆ่าสัตว์แต่จะต้องตกนรกหมกไหม้ลืมตาอ้าปากกินข้าวไม่ได้555ไม่รู้สึกตัวจะให้ว่าไง
สำนึกไว้เลยนะว่ากลืนถ่านแดงร้อนลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้ชาติเดียว
อาบัติแล้วไม่มีที่ปลงอาบัติขโมยปัจจัย4ที่เขาถวายพระพุทธเจ้าคือมหาโจรรับเงินก็เศรษฐีหัวโล้น
อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อคนอื่นที่แท้ทำเพื่อปากท้องและลาภสักการะที่อยากได้เพิ่มโมหะเข้าไปอีก555
โลกไม่มีที่ลับที่แจ้งกรรมตัวเองที่ทำไสไปเลยเหมือนพระธรณีดูด...
นั่งทำสมาธิได้จนถึงแปลงร่างได้รึยังคะ
พระเทวทัตทำสมาธิได้จนแปลงร่างได้ โดนธรณีดูดลงนรกต่อหน้าที่ประทับเลยถามว่าพระพุทธเจ้าช่วยได้มั๊ยคิดไว้รึยังว่าขนาดพระเทวทัตอยู่หน้าที่ประทับพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้
สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะ
หวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะขนาดพระพุทธเจ้าตัวเป็นๆยังช่วยอะไรไม่ได้ทำได้แค่บอก



คุณโรสอ่านหนังสือแล้วเพ้อฟุ้งซ่าน ประเด็นที่หนึ่ง ประเด็นที่สอง ไม่เข้าใจเรื่องสมาธิเลย ประเด็นที่สาม ไม่เข้าใจเรื่องจิตใจเลย

อ้างคำพูด:
สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะหวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะ


ความคิดแนวเดียวกับเจ้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง เห็นพระพุทธรูปที่ไหนเก็บมาหลอมละลายหมด :b32: โชว์เก๋าเอามือตบหัวตบหูเพื่อให้คนเห็นว่า ตัวเองไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว สุดท้ายจบข่าว :b1:
การคิดการกระทำอย่างนั้นนั่นแหละ แสดงถึงความยึดมั่นถือมั่นล่ะ คิกๆๆ จิตใจเต็มไปอุปาทานล่ะนี่อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง เข้าไม่ถึงถึงจิตใจ ไม่เข้าใจหลักศรัทธาในเบื้องต้น ไม่เข้าใจที่พึงทางใจ :b13:

เจ้าของ:  Rosarin [ 15 พ.ค. 2020, 09:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถ้าพระพุทธเจ้าพูดเองคุณจะต้องกระอักเลือดนะ555
ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าบวชแล้วไม่ต้องใช้เงิน
เออแล้วก็ขยันรีดไถเงินชาวบ้านเลวไหม
ขี้เกียจไม่อยากทำงานก็ลามาบวชเหรอ
บวชแก้บนบ้างไม่มีเงินใช้ก็มาบวชเก็บเงิน
ชาวบ้านโง่ที่หลงเชื่อนักบวชจอมปลอม
ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่เรียนพระไตรปิฏก
ชาวบ้านเลยคิดว่าไม่อยากยุ่งกลัวบาปน่ะ
แต่รู้ไหมคะว่าตถาคตสอนให้ฉลาดรู้ว่า
อะไรเป็นอะไรถ้าสิ่งที่ทำไม่รู้ว่าชั่วก็เลิกทำไม่ได้
เช่นบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินบาปโลภจนไม่รู้สึกตัว555
ยังไม่ชัดอีกเหรอแค่โกนหัวโกนคิ้วไม่มีคุณธรรมอะไรให้กราบเลย
ชาวบ้านที่เขาเริ่มเข้าใจเขาเลิกใส่บาตรโจรนะคะคุณไม่รู้ตัวเหรอว่า
บวชแล้วอาบัติแล้วไม่ได้ปลงฉันอาหารทุกคำข้าวบาปมากขนาดไหน
บริโภคอย่างโจรอย่างเป็นหนี้ข้าวชาวบ้านนับเม็ดคำข้าวโรสกล่าวตามคำสอนนะ
คิดได้ไหมกลืนถ่านไฟแดงร้อนลวกปากตายแค่ชาตินี้ชาติเดียวแต่บวชแล้วบาปเนี่ย
ไม่ได้ฆ่าสัตว์แต่จะต้องตกนรกหมกไหม้ลืมตาอ้าปากกินข้าวไม่ได้555ไม่รู้สึกตัวจะให้ว่าไง
สำนึกไว้เลยนะว่ากลืนถ่านแดงร้อนลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้ชาติเดียว
อาบัติแล้วไม่มีที่ปลงอาบัติขโมยปัจจัย4ที่เขาถวายพระพุทธเจ้าคือมหาโจรรับเงินก็เศรษฐีหัวโล้น
อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อคนอื่นที่แท้ทำเพื่อปากท้องและลาภสักการะที่อยากได้เพิ่มโมหะเข้าไปอีก555
โลกไม่มีที่ลับที่แจ้งกรรมตัวเองที่ทำไสไปเลยเหมือนพระธรณีดูด...นั่งทำสมาธิได้จนถึงแปลงร่างได้รึยังคะ
พระเทวทัตทำสมาธิได้จนแปลงร่างได้โดนธรณีดูดลงนรกต่อหน้าที่ประทับเลยถามว่าพระพุทธเจ้าช่วยได้มั๊ย
คิดไว้รึยังว่าขนาดพระเทวทัตอยู่หน้าที่ประทับพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะ
หวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะขนาดพระพุทธเจ้าตัวเป็นๆยังช่วยอะไรไม่ได้ทำได้แค่บอก


เอ้าวนวน คิกๆๆๆ

อุตส่าห์จิ้มแป้นตั้งเยอะแยะ แต่ไม่มีอะไรที่เป็นสาระเลย เห็นแต่มิจฉาทิฐิเต็มไปหมด :b13:

คุณปฤษฎีว่าวนไหม วน ไม่วน

:b12:
555กระทู้คุณกรัชกายตั้งไม่ใช่เหรอไปเกี่ยวอะไรกะคนอื่นเค้า555
คุณกรัชกายไม่ต้องหาใครมาสนับสนุนความคิดตัวเองหรอกนะ
คุณกรัชกายน่ะไม่รู้สึกตัวและไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนคิดอ้อม
คุณกรัชกายคุณไม่รู้ว่าคุณไม่เคยคิดตามและคิดตรงทางไม่เป็น
คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตรงได้ทีละ1ทางตรงจริงที่ร่างกายคุณมีค่ะ
คิดไม่ทันตรง1ทางที่ร่างกายคุณกำลังมีแปลว่าคุณไม่ทันกิเลสตัวเองไปแล้ว
ที่คุณกรัชกายเป็นแบบที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้เป็นแล้วเป็นอนัตตาไปแล้วเพราะอัตตาคุณเยอะงัยคะ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 15 พ.ค. 2020, 09:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ถ้าพระพุทธเจ้าพูดเองคุณจะต้องกระอักเลือดนะ555
ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าบวชแล้วไม่ต้องใช้เงิน
เออแล้วก็ขยันรีดไถเงินชาวบ้านเลวไหม
ขี้เกียจไม่อยากทำงานก็ลามาบวชเหรอ
บวชแก้บนบ้างไม่มีเงินใช้ก็มาบวชเก็บเงิน
ชาวบ้านโง่ที่หลงเชื่อนักบวชจอมปลอม
ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่เรียนพระไตรปิฏก
ชาวบ้านเลยคิดว่าไม่อยากยุ่งกลัวบาปน่ะ
แต่รู้ไหมคะว่าตถาคตสอนให้ฉลาดรู้ว่า
อะไรเป็นอะไรถ้าสิ่งที่ทำไม่รู้ว่าชั่วก็เลิกทำไม่ได้
เช่นบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินบาปโลภจนไม่รู้สึกตัว555
ยังไม่ชัดอีกเหรอแค่โกนหัวโกนคิ้วไม่มีคุณธรรมอะไรให้กราบเลย
ชาวบ้านที่เขาเริ่มเข้าใจเขาเลิกใส่บาตรโจรนะคะคุณไม่รู้ตัวเหรอว่า
บวชแล้วอาบัติแล้วไม่ได้ปลงฉันอาหารทุกคำข้าวบาปมากขนาดไหน
บริโภคอย่างโจรอย่างเป็นหนี้ข้าวชาวบ้านนับเม็ดคำข้าวโรสกล่าวตามคำสอนนะ
คิดได้ไหมกลืนถ่านไฟแดงร้อนลวกปากตายแค่ชาตินี้ชาติเดียวแต่บวชแล้วบาปเนี่ย
ไม่ได้ฆ่าสัตว์แต่จะต้องตกนรกหมกไหม้ลืมตาอ้าปากกินข้าวไม่ได้555ไม่รู้สึกตัวจะให้ว่าไง
สำนึกไว้เลยนะว่ากลืนถ่านแดงร้อนลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้ชาติเดียว
อาบัติแล้วไม่มีที่ปลงอาบัติขโมยปัจจัย4ที่เขาถวายพระพุทธเจ้าคือมหาโจรรับเงินก็เศรษฐีหัวโล้น
อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อคนอื่นที่แท้ทำเพื่อปากท้องและลาภสักการะที่อยากได้เพิ่มโมหะเข้าไปอีก555
โลกไม่มีที่ลับที่แจ้งกรรมตัวเองที่ทำไสไปเลยเหมือนพระธรณีดูด...
นั่งทำสมาธิได้จนถึงแปลงร่างได้รึยังคะ
พระเทวทัตทำสมาธิได้จนแปลงร่างได้ โดนธรณีดูดลงนรกต่อหน้าที่ประทับเลยถามว่าพระพุทธเจ้าช่วยได้มั๊ยคิดไว้รึยังว่าขนาดพระเทวทัตอยู่หน้าที่ประทับพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้
สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะ
หวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะขนาดพระพุทธเจ้าตัวเป็นๆยังช่วยอะไรไม่ได้ทำได้แค่บอก



คุณโรสอ่านหนังสือแล้วเพ้อฟุ้งซ่าน ประเด็นที่หนึ่ง ประเด็นที่สอง ไม่เข้าใจเรื่องสมาธิเลย ประเด็นที่สาม ไม่เข้าใจเรื่องจิตใจเลย

อ้างคำพูด:
สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะหวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะ


ความคิดแนวเดียวกับเจ้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง เห็นพระพุทธรูปที่ไหนเก็บมาหลอมละลายหมด :b32: โชว์เก๋าเอามือตบหัวตบหูเพื่อให้คนเห็นว่า ตัวเองไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว สุดท้ายจบข่าว :b1:
การคิดการกระทำอย่างนั้นนั่นแหละ แสดงถึงความยึดมั่นถือมั่นล่ะ คิกๆๆ จิตใจเต็มไปอุปาทานล่ะนี่อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง เข้าไม่ถึงถึงจิตใจ ไม่เข้าใจหลักศรัทธาในเบื้องต้น ไม่เข้าใจที่พึงทางใจ :b13:

:b12:
คุณกรัชกายคะ
คุณไม่รู้จักสมาธิของจริง
สมาธิของจริงตรงตามคำตถาคตมีในขณะนี้เท่านั้น
สมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตที่มีการเกิดดับทีละ1ดวง
แต่ละ1ขณะตั้งมั่นคงตรงทางตรงตามเหตุตามปัจจัย
ไม่มีจิตแต่ละ1ดวงที่เกิดซ้ำเก่าและเป็นขณะที่ปนทางไม่ได้
เป็นขณะจิตทีละ1ดวงใหม่ที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่และดับไป
เป็นแล้วเดี๋ยวนี้ตรงทีละ1ดวงตรงแค่1ทางอายตนะค่ะ
คุณกรัชกายไม่เข้าใจหรือคะว่าคุณกำลังไม่รู้สึกตัว
คุณไม่รู้ว่าคุณมีความไม่รู้ความจริงที่กำลังมี
คุณจึงไม่รู้ว่าทุกคนมีสมาธิแล้วที่เกิดกับจิตทุก1ดวง
สมาธิแปลว่าความตั้งมั่นคงของจิตตรงทีละ1ดวงชื่อว่า เอกัคตาเจตะสิกะ ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 15 พ.ค. 2020, 11:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านให้ "กำหนดรู้ตามที่เห็นตามที่เป็น" ก็เพื่อให้ชัด

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ถ้าพระพุทธเจ้าพูดเองคุณจะต้องกระอักเลือดนะ555
ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าบวชแล้วไม่ต้องใช้เงิน
เออแล้วก็ขยันรีดไถเงินชาวบ้านเลวไหม
ขี้เกียจไม่อยากทำงานก็ลามาบวชเหรอ
บวชแก้บนบ้างไม่มีเงินใช้ก็มาบวชเก็บเงิน
ชาวบ้านโง่ที่หลงเชื่อนักบวชจอมปลอม
ชาวบ้านคิดว่าตัวเองไม่เรียนพระไตรปิฏก
ชาวบ้านเลยคิดว่าไม่อยากยุ่งกลัวบาปน่ะ
แต่รู้ไหมคะว่าตถาคตสอนให้ฉลาดรู้ว่า
อะไรเป็นอะไรถ้าสิ่งที่ทำไม่รู้ว่าชั่วก็เลิกทำไม่ได้
เช่นบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินบาปโลภจนไม่รู้สึกตัว555
ยังไม่ชัดอีกเหรอแค่โกนหัวโกนคิ้วไม่มีคุณธรรมอะไรให้กราบเลย
ชาวบ้านที่เขาเริ่มเข้าใจเขาเลิกใส่บาตรโจรนะคะคุณไม่รู้ตัวเหรอว่า
บวชแล้วอาบัติแล้วไม่ได้ปลงฉันอาหารทุกคำข้าวบาปมากขนาดไหน
บริโภคอย่างโจรอย่างเป็นหนี้ข้าวชาวบ้านนับเม็ดคำข้าวโรสกล่าวตามคำสอนนะ
คิดได้ไหมกลืนถ่านไฟแดงร้อนลวกปากตายแค่ชาตินี้ชาติเดียวแต่บวชแล้วบาปเนี่ย
ไม่ได้ฆ่าสัตว์แต่จะต้องตกนรกหมกไหม้ลืมตาอ้าปากกินข้าวไม่ได้555ไม่รู้สึกตัวจะให้ว่าไง
สำนึกไว้เลยนะว่ากลืนถ่านแดงร้อนลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้ชาติเดียว
อาบัติแล้วไม่มีที่ปลงอาบัติขโมยปัจจัย4ที่เขาถวายพระพุทธเจ้าคือมหาโจรรับเงินก็เศรษฐีหัวโล้น
อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อคนอื่นที่แท้ทำเพื่อปากท้องและลาภสักการะที่อยากได้เพิ่มโมหะเข้าไปอีก555
โลกไม่มีที่ลับที่แจ้งกรรมตัวเองที่ทำไสไปเลยเหมือนพระธรณีดูด...
นั่งทำสมาธิได้จนถึงแปลงร่างได้รึยังคะ
พระเทวทัตทำสมาธิได้จนแปลงร่างได้ โดนธรณีดูดลงนรกต่อหน้าที่ประทับเลยถามว่าพระพุทธเจ้าช่วยได้มั๊ยคิดไว้รึยังว่าขนาดพระเทวทัตอยู่หน้าที่ประทับพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้
สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะ
หวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะขนาดพระพุทธเจ้าตัวเป็นๆยังช่วยอะไรไม่ได้ทำได้แค่บอก



คุณโรสอ่านหนังสือแล้วเพ้อฟุ้งซ่าน ประเด็นที่หนึ่ง ประเด็นที่สอง ไม่เข้าใจเรื่องสมาธิเลย ประเด็นที่สาม ไม่เข้าใจเรื่องจิตใจเลย

อ้างคำพูด:
สร้างกันจังพระอิฐพระปูนพระโลหะหวังให้พระอิฐพระปูนพระโลหะช่วยอะไรหรือคะ


ความคิดแนวเดียวกับเจ้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง เห็นพระพุทธรูปที่ไหนเก็บมาหลอมละลายหมด :b32: โชว์เก๋าเอามือตบหัวตบหูเพื่อให้คนเห็นว่า ตัวเองไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว สุดท้ายจบข่าว :b1:
การคิดการกระทำอย่างนั้นนั่นแหละ แสดงถึงความยึดมั่นถือมั่นล่ะ คิกๆๆ จิตใจเต็มไปอุปาทานล่ะนี่อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง เข้าไม่ถึงถึงจิตใจ ไม่เข้าใจหลักศรัทธาในเบื้องต้น ไม่เข้าใจที่พึงทางใจ :b13:

:b12:
คุณกรัชกายคะ
คุณไม่รู้จักสมาธิของจริง
สมาธิของจริงตรงตามคำตถาคตมีในขณะนี้เท่านั้น
สมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตที่มีการเกิดดับทีละ1ดวง
แต่ละ1ขณะตั้งมั่นคงตรงทางตรงตามเหตุตามปัจจัย
ไม่มีจิตแต่ละ1ดวงที่เกิดซ้ำเก่าและเป็นขณะที่ปนทางไม่ได้
เป็นขณะจิตทีละ1ดวงใหม่ที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่และดับไป
เป็นแล้วเดี๋ยวนี้ตรงทีละ1ดวงตรงแค่1ทางอายตนะค่ะ
คุณกรัชกายไม่เข้าใจหรือคะว่าคุณกำลังไม่รู้สึกตัว
คุณไม่รู้ว่าคุณมีความไม่รู้ความจริงที่กำลังมี
คุณจึงไม่รู้ว่าทุกคนมีสมาธิแล้วที่เกิดกับจิตทุก1ดวง
สมาธิ แปลว่า ความตั้งมั่นคงของจิตตรงทีละ1ดวงชื่อว่า เอกัคตาเจตะสิกะ ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:


นี่ก็อีกหัวมังกุฎท้ายมังกร :b13: คือ ยกคำว่าสมาธิมาแล้วก็โยงไปนั่นมานี่ :b32:

หน้า 1 จากทั้งหมด 10 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/