วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 06:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2020, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20190715_170744 (1).jpg
20190715_170744 (1).jpg [ 85.18 KiB | เปิดดู 901 ครั้ง ]
.
๑. ชนกเหตุ ๒. ญาปกเหตุ ๓. สมฺปาปกเหตุ

๑. ชนกเหตุ คือ เหตุที่ทำให้เกิดวิบาก เรียกว่า "ชนกเหตุ" เช่น มหากุศลจิต ทำให้เกิด มหาวิบากจิต

๒. ญาปกเหตุ คือเหตุที่แสดงให้รู้ว่า มีเหตุนี้ มีลักษณะเป็นเครื่องหมาย
เป็นลางบอกเหตุ เป็นสัญญาณบ่งบอก อย่างเช่นว่า เห็นควันพวยพุ่งขึ้นในที่ไกลๆ
ก็สันนิษฐานได้ว่า ณ ที่นั้นมีการจุดไฟเกิดขึ้น หรือเหมือนกับคนหลงป่า
เขาจะจุดไฟเพื่อให้ควันปรากฏ แสดงว่าตรงนั้นมีคนอยู่จึงมีการจุดไฟขึ้น
ควันนั้นเราเรียกว่า"ญาปกเหตุ" "เหตุแสดงให้ทราบ"
หรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็คือมีน้ำท่วมแม่น้ำทางใต้ของประเทศ
ก็แสดงว่าทางเหนือมีฝนตกหนัก เป็นการแสดง ญาปกเหตุ ให้รู้ว่าทางเหนือมีฝนตก

๓. สมฺปาปกเหตุ แปลว่า เหตุให้ถึงเปรียบเหมือนนาวา เช่นว่า
ในข้อความว่า ( มคฺโค นิโรธสฺส ปทฏฺฐานํ)
อริยมรรคเป็นปทฎฺฐานแก่นิโรธ หรือนิพพาน หมายความว่า
มรรคเหตุให้ถึงนิพพาน แต่มรรคไม่ใช่เป็นเหตุให้นิพพานเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น มรรคในที่นี้จึงหมายเอาเหตุประเภทสัมปาปกเหตุ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2020, 13:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


มาๆๆ อ่านต่อ
มรรคจึงสามารถเป็นปทัฏฐานของนิโรธหรือนิพพานได้
ข้อนี้ห้ามเอาชนกเหตุหรือญาปากเหตุเป็นอันขาด
อันนี้เราต้องแยกแยะ
ต้องดูว่ามันเข้ากันกับเหตุประภทไหนได้บ้าง อย่างไรก็ตาม
ส่วนมากเป็นชนกเหตุ(เหตุที่เป็นปัจจัยสิ่งนั้น)
ถ้าเราเอามรรคเปนชนกเหตุ แล้วมรรคจะไปทำทำให้นิพพานเกิดได้อย่างไร
เพราะว่านิพพานก็เป็นสภาพที่อยู่แล้วเป็นสังขตธรรม มรรคจึงเป็นเพียง
สำเภานำบุคคลผู้เป็นอริยมรรคนั้นให้ลุถึงนิพพานเหตุลักษณะนี้แล

เรียกว่า สัมปาปกเหตุ คำว่าสัมปาปกเหตุ โดยทั่วๆไปหมายเอาอะไรก็ได้
ที่เป็นเหตุทำให้ถึง อย่างเช่น เราข้ามฟากโดยเรือ เรือเป็น
สัมปาปกเหตุที่สามารถไปให้ถึงฝั่งโน้นได้
กามคุณเป็นเหตุปทัฏฐานแก่กามราคะ อันนี้จัดเป็นชนกเหตุ หมายความว่า
หากอยู่เฉยๆ กามราคะมันจะไม่เกิด เพราะมันอยู่ในอนุสัยนอนเนื่อง
อยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ พอได้ กามคุณอารมณ์มากระทบเข้าหน่อยก็เกิดฟุ้งขึ้นมา
ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า กามคุณเป็นชนกเหตุให้กามคุณเกิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 41 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron