วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 17:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2020, 07:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“..ปัจจุบันอามิสมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราต้องรู้จักดูแลตัวเอง วัตถุของโลกมันทำให้คนหลง หลงจนไม่รู้จักตัวเอง พระพุทธเจ้าสอนว่าไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้เหตุเกิดของทุกข์ ไม่รู้ความดับทุกข์ ไม่รู้ข้อปฎิบัติถึงความดับทุกข์ เพราะมันไม่มีปัญญา แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะรู้กันง่ายๆ มรดกของสัตว์โลกที่แก้ไม่ได้ก็คือ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครรอดไปได้ มันก็รู้อยู่นะ แต่มันไม่มีปัญญา ถ้าคนมีปัญญา ก็ต้องน้อมมาดูตัวเอง..โอปนยิโก..”

หลวงปู่สี สิริญาโน
วัดป่าศรีมงคล อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี







"..คนเราเข้าใจผิด คิดว่าพอแก่แล้วจะสบาย ความจริงมีแต่ทุกข์ที่รออยู่ตลอดสาย พอแก่แล้วก็เจ็บนั่นเจ็บนี่ ยังอยากจะมาเกิดกันอีกหรอ.."

โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่กวง โกสโล
วัดป่านาบุญ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม








"รักตรงไหน มันทุกข์ตรงนั้น ทุกข์เพราะรัก ทุกข์เพราะเกลียด มีรักกับชัง เกลียดก็ทุกข์ รักก็ทุกข์ แต่ความพอใจมันกลบเกลื่อนความทุกข์จนมันไม่เห็นทุกข์"
.
หลวงพ่อสมบูรณ์ เมตตาให้โอวาท
17 พ.ค. 63









บางที่ก็ลืมนะ
ได้บ้านใหญ่โต สนุกสุขสำราญ
ลืมบ้านจริงๆ ของเรา
บ้านที่แท้จริงของเราอยู่ที่ไหน
บ้านที่จริงของเราคือมีความรู้สึกที่มันสงบ
คือ ความสงบนั่นแหละเป็นบ้านของเราจริงๆ
...
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
ปกหลังหนังสือบ้านที่แท้จริง
มรดกธรรม เล่มที่ ๒๒








“การภาวนา” จึงเป็นการ
ควบคุมไม่ให้จิตของเรา
ตามอารมณ์

เหมือนกันกับสำลี หรือนุ่น
ที่เป็นของเบา ก็ต้องมีอะไร
ครอบไว้ รักษาไว้ ลมพัดมา
มันจึงจะไม่ไปตามลม

“จิตของเรา” ก็เหมือนกัน
เราก็ต้องควบคุม
ด้วยการภาวนา "

โอวาทธรรม
พระอาจารย์วัน อุตตโม










" การพิจารณาสังขารทั้งปวง
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ให้กลมกลืนกันอยู่พร้อมกับ
ลมหายใจเข้า-ออก ให้ติดต่อ
อยู่ไม่ขาดสาย
อันนี้เองที่จะไปทำลาย
ความโง่ คือ "อวิชชา"

เมื่อทำลายความโง่ และ
อวิชชาแล้ว ก็กลายเป็น
วิชชา อยู่ในตัว แล้วเราก็
เร่งภาวนาพิจารณาเท่านั้น
เพื่อจะได้ไม่ลังเลสงสัย
ในโลกทั้งปวง ไม่สงสัย
ในโลกทั้งปวงอย่างถ่องแท้

โลกทั้งปวง คืออะไร ก็คือ
สังขารทั้งปวงนั่นเอง เกิด
ขึ้นมาแล้ว ก็แปรปรวนแตก
สลายไป หยาบก็แตกสลาย
ไปตามหยาบ ละเอียด
ก็แตกสลายไปตามละเอียด
แม้ผู้รู้อยู่ในขณะปัจจุบันนี้
ก็เกิดขึ้นแปรปรวน
แตกสลายไปเร็วที่สุด

ฉะนั้น ผู้รู้ในอดีต ผู้รู้ใน
อนาคต ผู้รู้ในปัจจุบัน
จึงเป็นสังขารอันละเอียดมาก
ท่านผู้ใดไม่ยึดถือผู้รู้ในอดีต
ผู้รู้ในอนาคต ผู้รู้ในปัจจุบัน
ว่าเป็นเรา เป็นเขา เป็นสัตว์
เป็นบุคคลแล้ว ท่านผู้นั้น
ก็ข้ามทะเลหลงไป ด้วยพระ
ปัญญาญาณแบบไม่มีรอยแล

แล้วก็ไม่ต้องถามหา
ภพ ๆ ชาติ ๆ อีกต่อไป "

โอวาทธรรม
หลวงปู่หล้า เขมฺปตฺโต










"กฎของกรรมนั้น เที่ยงเสมอ
หากเราไม่เคยก่อกรรมนั้นมาก่อน
วิบากกรรมนี้ ก็เกิดกับเราไม่ได้"

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ









“คนเรา ถึงจะอยู่ด้วยกัน
ก็มีความเห็นไม่เหมือนกันหรอก
แม้จะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา
ความรู้สึกนึกคิด ก็ไม่ตรงกัน

แต่เราก็นิ่งเฉยเสียแล้ว
ปัญหาก็จบ ไม่ต้องไปขัดกัน
ทุกวันก็อยู่กันอย่างร่มเย็น

ทำใจนะโยม นักปฏิบัติต้องทำใจ
ทำใจตรงนี้ได้ก็สบาย ปลดทิฏฐิมานะได้
อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข ถ้าปลงไม่ตก
ก็นึกเสียว่าเป็นกรรมก็แล้วกัน”

หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ









“อย่ารักใครมากจนเกินไป
อย่าเกลียดใครมากจนเกินไป
อย่าชังใครมากจนเกินไป
เพราะอีกไม่นาน
ทุกคนจะต้องตายจากกัน”

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก








#บุญและบาป

เป็นสิ่งที่จะติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ ถ้าทำบุญดีพร้อมถึงพร้อม นอกจากจะได้กับตัวเองแล้ว บุญยังส่งถึงพ่อแม่และครอบครัวเรา ให้พ้นทุกข์หรือเบาลง

#โลกมนุษย์เป็นโลกสร้างบุญ
#และสร้างบาป

ถ้าสร้างบุญเราก็เป็นสุข ส่งถึงพ่อแม่ครอบครัว แม้นถึงเวลาจากไปก็ไปสู่สุคติ คือ มีความสุข ถ้าเราสร้างสิ่งไม่ดี ทำไม่ดีก็เป็นทุคติ คือความทุกข์

#ดูปัจจุบันเป็นอย่างไร
#อนาคตก็เป็นอย่างนั้น

หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล
วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก









สติดีเท่าไรๆ. กิเลสจะไม่เกิด. กิเลสจะเกิดทางสังขาร. คือ ความคิดความปรุง

โอวาทธรรม
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน










#ถ้าพิจารณาดีๆ

ก็จะรู้ว่าอันนั้นเกิดมาแล้วก็ดับไป อันนี้เกิดมาแล้วก็ดับไป มีแต่สัญญาเท่านั้น เอาเรื่องใหม่มาพิจารณาเป็นลูกโซ่ เอาคืนเป็นคืน วันเป็นวัน

#อย่างพ่อแม่ครูจารย์ท่านเทศน์

เรื่องการละวางมันวางไปหมดนะ เพราะมันได้แยกแล้ว แยกกิเลสกับธรรมแล้ว แต่พวกเรานี่ มีแต่พากันตะครุบเงา หลงเงาตัวเอง

#นั่งเข้าๆ

เวทนามากก็นอนเลย กรนครอกๆ กิเลสมันไชโยนะ เพราะมันชนะ เดินจงกรมเหมือนกัน ส่งจิตออก แล้วก็ยังจะมาอวด ว่าตัวเองทำความเพียร

#ครูบาอาจารย์ท่านทำจริงนะ

มาทำเล่นๆ ไม่ได้ ถ้าจะเอาตัวเองก็ต้องทำขนาดนั้นเลย แต่ไม่เห็นครูบาอาจารย์ท่านตายนะ
.
หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
เทศน์อบรมพระ เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗










มันรักมาก. มันก็อาฆาตพยาบาทมาก. มันหวงมากหึงมาก. นี่แหละ. แล้วจะให้มันมาทำลายจิตใจเราทำไม. เนาะ

โอวาทธรรม
หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร








#ทำอะไรมีสติ

รู้สึกตัว รู้ตัว "จิตเป็นกลาง"
ทำอะไรก็รู้เท่าทัน จิตก็เป็นกลางเรื่อยไป
เป็นทางสายกลาง "กรรม" ก็ไม่มี
เพราะมีสติรู้ พอรู้ปั๊บ มันไม่มีตัวตนน่ะ
"มันสักแต่ว่ารู้"
สักแต่ว่าทำไปตามเหตุตามผล จบไปๆ
กรรมแต่ละขณะๆ จบไป
กรรมดี...ก็รู้ว่ามันมีประโยชน์ เราก็ทำไป
ไม่ได้ยึด ก็ผ่านไปเลย ก็ไม่กลัวกรรม
รู้แต่ว่าจะออกจากกรรมแล้วล่ะ
เพราะไม่ยึดแล้ว ไม่ติดแล้ว

ถ้าใครทำกรรมแล้วยังยึดอยู่ ยังติดอยู่
ยังเก็บเอาไว้อยู่ เอ้า มันก็ไปไม่ได้อีกน่ะ
อย่างที่ว่าในสมาธิอาจจะเห็น "ไม่มีตัวตน ไม่มีเรา"
แต่มันยังมีกรรมอยู่นี่ มันยัง "มีเรา" อยู่ในเวลากระทบ
เวลาทำนู่นทำนี่ มันก็ต้องมีกรรมแน่นอน
มีกรรมเมื่อไหร่_ก็ต้องไปเกิดเมื่อนั้นล่ะ
...

ทำกรรมดี... เราไปยึดว่าดี เราดี...
มันก็พาเวียนว่ายตายเกิด
เกิดดี...ก็ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่อีกน่ะ
แต่ถ้าเอ้ารู้ว่ามันมีเหตุผล ทำแล้วเกิดประโยชน์
มันควรทำก็ทำ ทำแล้วไม่ติด
นี่ เพื่อออกจากกรรม ไม่มีกรรม
เพราะจิตเป็นกลางๆ แล้ว

มันจึงต้องประกอบด้วยสติสมาธิปัญญา
สรุปแล้วต้องปฏิบัติ
ปฏิบัติ...ก็ รู้เป้าหมายเพื่อปล่อยเพื่อวาง
เพื่อไม่ยึด เพื่อไม่ติด เพื่อไม่ข้อง
ก็คือทำอะไรก็ทิ้งเลย! แล้วเลย
ทำอะไรแล้วเลย จบเลยๆๆ
ทำความดี....ก็จบเลย...
ทำไม่ดี....ก็แก้ไขให้มันจบไปเลย
จบอยู่ในจิตเรา ไม่เอามาปรุง ไม่เอามาแต่ง
ไม่เอาไปยึด ไปถือ จิตมันก็เป็นกลางอยู่เรื่อย
เป็นกลางหรืออุเบกขา อุเบกขาเรื่อยไป
แต่ไม่ใช่ไม่รับผิดชอบ ต้องรับผิดชอบด้วย
"แก้ไข" ทำให้มันดีขึ้น
แต่ขณะที่ทำ..ไม่ยินดีไม่ยินร้าย จิตเป็นกลางๆ...
ทำแล้วปล่อย ทำแล้ววาง ไม่มีตัวตน
.
พระอาจารย์ครรชิต สุทฺธิจิตฺโต
วัดป่าภูไม้ฮาว จ.มุกดาหาร







"การให้อภัย​ ไม่คิดอิจฉา​ ริษยา
อาฆาตร้ายต่อผู้อื่น​ ใครทำไม่ดี
กับเรา พยายามปล่อยวางให้ได้
พยายามรักทุกคนให้เสมอกันให้ได้
ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทำเเบบนี้เรื่อยๆ
ความเมตตาจะบังเกิดขึ้นเอง คราวนี้
ไปที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะ
ถ้าเราไม่คิดร้ายใคร ใครก็ไม่คิดร้าย
เราเช่นกัน.. ”
--------------------
#โอวาทธรรม
#หลวงปู่กงมา_จิรปุญโญ
#วัดดอยธรรมเจดีย์
อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร















[*]


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร