วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 15:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2020, 08:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20190715_170744 (1).jpg
20190715_170744 (1).jpg [ 85.18 KiB | เปิดดู 1171 ครั้ง ]
ก่อนจะเข้าหัวข้อเรื่อง มาเข้าใจเรื่องเหตุ ๓ ก่อน คือ
๑. ชนกเหตุ ๒. ญาปกเหตุ ๓. สมฺปาปกเหตุ

๑. ชนกเหตุ คือเหตุที่ทำให้เกิดวิบากเรียกว่า "ชนกเหตุ"

๒. ญาปกเหตุ คือเหตุที่แสดงให้รู้ว่า มีเหตุนี้เป็นเครื่องหมาย เป็นลาง
เป็นสัญญาณบ่งบอก อย่างเช่นเมื่อเรา เห็นควันพุ่งขึ้นในที่ไกล ๆ
ก็ทำให้เราสันนิษฐานได้ว่า ณ ที่ตรงนั้นจะต้องมีคนจุดไฟเกิดขึ้น

เหมือนกับเวลาคนหลงป่าเขาจะจุดไฟเพื่อให้ควันไฟปรากฏ
แสดงว่ามีคนอยู่จึงมีการจุดไฟขึ้น ควันอันนี้เรียกว่า "ญาปกเหตุ"
เหตุที่แสดงให้ทราบ เหตุที่บ่งบอกถึงบางสิ่งบางอย่าง หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง
ก็คือเหมือนกับมีน้ำท่วมที่แม่น้ำ ทางใต้ของประเทศก็แสดงว่า
ทางเหนือของประเทศมีฝนตกหนัก จึงมีน้ำท่วมทางใต้

การที่มีน้ำท่วมทางใต้ก็เป็นการแสดงญาปกเตุให้รู้ว่าทางเหนือมีฝนตก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2020, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


๓. สมฺปาปกเหตุ สัมปาปกเหตุ แปลว่าเหตุให้ถึง เปรียบเหมือนนาวา
เช่น ในข้อความว่า มคฺโค นิโรธสฺส ปทฏฺฐานํ อริยมรรคเป็นปทัฏฐานแก่นิโรธ
หรือนิพพาน มรรคนี้เป็นปทัฏฐานแก่นิพพาน หมายความว่ามรรคนี้เป็นเหตุให้
ถึงพระนิพพาน แต่ไม่ใช่มรรคเป็นเหตุให้พระนิพพานเกิด

เพราะ ฉะนั้น มรรคในที่นี้หมายเอาเหตุประเภทสัมปาปกเหตุ
มรรคจึงสามารเป็นปทัฏฐาน ของนิโรธหรือนิพพานได้
ข้อนี้ห้ามเอาชนกเหตุหรือเอาญาปกเหตุเป็นอันขาด อันนี้เราก็ต้องแยกแยะ
ต้องดูด้วยว่ามันเข้ากับเหตุประเภทไหรได้บ้าง จะอย่างไรก็ตาม

ส่วนมากจะเป็นชนกเหตุ(เหตุที่เป็นปัจจัยให้เกิดสิ่งนั้น)
สมมุติว่าเราเอามรรคเป็นชนกเหตุแล้ว มรรคจะทำให้นิพพานเกิดได้อย่างไร
เพราะว่านิพพานก็เป็นสภาพที่มีอยู่แล้วเป็นอสังขตธรรม

มรรคจึงเป็นสำเภานำบุคคลผู้เป็นอริยมรรคนั้นให้ลุถึงนิพพาน
เหตุลักษณะนี้แล เรียกว่า "สัมปาปกเหตุ" เหมือนอย่างเช่น
เราข้ามฟากโดยเรือ เรือเป็นสัมปาปกเหตุที่ให้เราสามารถไปให้ถึงฝั่งโน้นได้

กามคุณเป็นเหตุปทัฏฐานแก่กามราคะ อันนี้หมายถึงชนกเหตุ
หมายความว่า หากอยู่เฉย ๆ กามราคะมันก็จะไม่เกิด เพราะมันเป็นอนุสัย
ที่นอนเนื่องอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ พอได้กามคุณอารมณ์มากระทบหน่อยหนึ่ง
ก็ฟุ้งขึ้นมา ฉะนั้นจึงกล่าวว่า กามคุณเป็นชนกเหตุให้กามราคะเกิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร