ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ธรรมต้องเนื่องกัน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=59002
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 06 มิ.ย. 2020, 05:54 ]
หัวข้อกระทู้:  ธรรมต้องเนื่องกัน

เมื่อมีศรัทธาในพระศาสนาการศึกษาจึงเป็นเหตุสำคัญอย่างยิ่ง
ที่จะทำให้เราเข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาได้อย่างถูกต้อง
ตามที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ทำให้เข้าใจไม่สับสน โดยเอาผลมาเป็นเหตุ
หรือเอาเหตุมาเป็นผล เช่น วิปัสสนา คือปัญญาที่เห็นนามรูปที่ไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา นี่เป็นผลที่สืบเนื่องกัน ทีนี้เราไม่เข้าใจแต่อยากปฏิบัติ
ให้วิปัสสนาเกิด ก็มานั่งนึกเอาว่าตัวเราต้องเกิด ต้องแก่ เจ็บ ตาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เอาผลมาทำเป็นเหตุเป็นต้น

แล้วเราก็ต้องเข้าใจให้ดีว่า ธรรมส่วนไหนเป็นปริยัติ ธรรมส่วนไหนเป็นปฏิบัติ
ธรรมส่วนไหนเป็นปฏิเวธ ซึ่งธรรมทั้ง ๓ นี้ ต้องเป็นเหตุเป็นผล
หรือเป็นปัจจัยให้กันซึ่งกันและกันด้วย ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างไม่เกี่ยวกัน
คือปริยัติที่ถูกต้องก็เป็นปัจจัยแก่การปฏิบัติที่ถูกต้อง เพราะต้องอาศัยปริยัติ
เป็นแผนที่เดินทาง เราก็เดินทางได้อย่างถูกต้อง

ทีนี้เมื่อเราเดินทางได้ถูกต้องแล้ว ก็ถึงธรรมที่ถูกต้อง อย่างที่เราต้องการที่จะรู้ได้ถูกต้อง
ธรรมที่ต้องการจะเห็นก็จะบรรลุถึงธรรมนั้นได้ ถึงจุดหมายนั้นได้

เพราะฉะนั้นธรรม ๓ อย่างนี้ต้องเนื่องกันเสมอ ไม่ใช่ปริยัติอยู่ต่างหาก
ปฏิเวธอยู่ต่างหากเอามาปะปนกันไม่ได้จะไม่ใช่อย่างนั้น
นึกจะไปนิพพาน ก็ไปนึกถึงนิพพานกัน แล้วจะไปนิพพานกันได้อย่างไร
ไม่สนใจจะศึกษาแผนที่ดูแผนที่ ๆ จะดำนินทางไป

ถ้าจะอ้างแผนที่หรือตำรา ก็ถูกกล่าวหาว่านั่งจำแต่ตำรา พวกแบกตำรา
ดีแต่พูด ไม่ปฏิบัติ จึงทำให้ปริยัติกับการปฏิบัติเป็นคนละเรื่องกัน
พวกปริยัติก็ติเตียนพวกปฏิบัติว่า พุทโธ่เอ้ย ! ดีแต่นั่งหลับหูหลับตา
ไม่เคยดูตำหรับตำรา ไม่อ่านไม่เรียนจะไปรู้อะไร ก็เลอะเทอะไปอย่างนั้น

ไฟล์แนป:
boek.png
boek.png [ 32.66 KiB | เปิดดู 2014 ครั้ง ]

เจ้าของ:  AAAA [ 13 ต.ค. 2020, 13:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมต้องเนื่องกัน

4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  sirinpho [ 16 ต.ค. 2020, 18:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมต้องเนื่องกัน

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 02 ก.ค. 2021, 06:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมต้องเนื่องกัน

ความจริงธรรม ๓ ประการ ปริยัติ ปฏิบัติ ปริเวธ จะต้องเป็นปัจจัยเป็นเหตุเป็นผลสืบเนื่องกัน
ที่นี้เราเข้าใจเหตุผลได้ถูกต้องแล้วเราก็ต้องอาศัยปริยัติก่อนที่จะลงมือปฏิบัติ
เมื่อเราลงมือทำหรือปฏิบัติเราก็ต้องรู้ได้ว่ามันได้ถูกต้องแล้ว เราก็ต้องไปอาศัยปริยัติอีกที

ต้องไปอาศัยดูแผนที่ เมื่อจิตเราดำเนินไปอย่างนี้ การกระทำไปนี้
เรากำหนดไปแบบนี้แล้วเกิดความรู้ขึ้นมาอย่างนี้ เอ๊ะ! ถูกต้องไหม ?
ก็อาศัยปริยัติอีกที เป็นเรื่องที่อิงอาศัยกัน

ในทางปริยัติก็เหมือนกัน จะรู้ว่าปริยัติที่ได้ศึกษามานี้ ถูกต้องไหม?
ก็ต้องอาศัยการพิสูจน์ ก็ด้วยอาศัยการพิสูจน์จากการปฏิบัติ คือการเดินทาง
มันไปตามแผนที่หรือไม่ เราก็จะต้องอาศัยการปฏิบัติจึงจะรู้ว่า ตำราที่เขาวางไว้
ถูกต้องหรือเปล่า เมื่อเราปฏิบัติได้อย่างนั้นจริงเราก็ยอมรับว่า ตำราถูกต้อง

ใช่ว่าอ่านตำราจะเลื่อมใสแต่ตำรา รับรองตำราว่าต้องถูกต้อง
อย่างนี้ ก็ไม่ได้ใช่ไหม เพราะมันก็ไม่ของไม่แน่นอน เพราะ
ฉะนั้นมันต้องอาศัยซึ่งกันและกัน และทำให้เข้าใจ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ที่เนื่องกัน

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/