วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 07:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2020, 07:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ควรที่จะฝึกตนเองให้อภัยคนอื่น
แม้คนอื่นจะว่าให้เราอย่างไรก็ตาม

ทำอย่างนี้ดีกว่า เราจะทำน้อยทำมากแค่ไหน
สร้างวัดวาอาวาส ทำคุณงามความดีบริจาคทานอย่างไรก็ตาม

เราทำตามกำลังของเรา
ใครจะมาว่าให้อย่างโน้นอย่างนี้ก็ช่างเขา อภัยให้เสีย

เราอย่าไปโกรธเกลียดแค้นแสดงอาการต่างๆ ทั้งร่างกายและวาจา
เราไม่ต้องไปตอบโต้อะไรเขา

หัดเป็นคนฉลาดมีสติปัญญาให้อภัยทาน
มันจึงไม่มีเรื่องราวเถียงกัน

หลวงปูเปลี่ยน ปัญญาปทีโป








#การสวดมนต์ตามบ้าน

#ท่านต้องการให้พระเณรนี้ปฏิบัติ
"พระเณรที่บวชใหม่ๆ เข้าไปอยู่กับท่าน
สวดมนต์ไม่ได้ท่านก็ไม่ให้ไป ให้ผู้สวดได้
น่ะไป ผู้ที่เขาจำเป็นที่จะนิมนต์เราไป ลูกเขาตาย พ่อเขาตาย แม่เขาตาย ตามประเพณี
นั้น ก็ให้พระผู้สวดได้น่ะไปสวด องค์ที่สวด
ไม่ได้น่ะก็ให้อยู่ ไม่ให้เรียนต่อ ไม่ให้ท่องบ่น ท่านบอกว่า.."

#จิตมันไปอยู่ในหนังสือ มันไม่อยู่ในเนื้อ
ในตัว แล้วมันไม่รู้ของจริงที่เขาเขียน เขา
อ่านมาน่ะ มันเป็นความรู้ของเขา ไม่ใข่
ความรู้ของเรา ต้องทำให้มันรู้เองเห็นเอง
ขึ้นมา สัจธรรมมันอยู่ที่นี้.. ”
------------
#พระอาจารย์มั่น_ภูริทัตโต
#ที่มา_ติสฺสตฺเถรานุสรณ์
#หลวงพ่อคำพอง_ติสฺโส














จิตของพระอริยเจ้า ท่านไม่เศร้าโศก ไม่มีปริเทวนา การร้องไห้เสียใจ
จิตใจของท่านมีความสุขล้วนๆ

ส่วนจิตใจของปุถุชนคนธรรมดายังหนาไปด้วยกิเลส
เต็มไปด้วยความรัก ความโศก ถูกความทุกข์ครอบงำ

ความโศกย่อมเกิดจากความรักเป็นเหตุ

เมื่อมีความรักก็มีความโศก
ถ้าตัดความรักเสียแล้ว ความโศกจะมีแต่ที่ไหน

พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล)











อวิชชา ปัจจยา สังขารา

เมื่อเกิดสังขารวิญญาณก็มีเวทนาอยู่ทุกภพทุกชาติ
อวิชาคือท่านตัดได้ อวิชชามันกลับเป็นนิโรธไปหมด

นิรุชฌันติ ดับแล้ว

อริยสัจสี่ ให้พิจารณาตามความเป็นจริง

มันต้องขยัน ถ้าบ่หมั่น บ่เพียร ธรรมก็บ่เกิด

หลวงปู่แตงอ่อน กัลยาณธัมโม












...กิเลสมันไม่ยอมใคร
"มันจะเอาตัวเองเป็นใหญ่"
.
อยากจะได้อะไรนี้
ใครขัดใครขวางไม่ได้
ใครขวางก็ต้องโดนกำจัดเท่านั้น
.
คนจึงไม่มีความเมตตา
ไร้ความเมตตาปราณี
"ถ้ามีความอยาก"แล้ว
มันปราณีใครไม่ออก
.
แต่ถ้า..ไม่มีความอยากแล้วนี้
"เมตตาปราณีมันจะออกมา".
.........................................
.
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 25/5/2558
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี












การปฏิบัติธรรมมุ่งการเป็นที่พึ่งของตน ครูบาอาจารย์เป็นผู้ชี้แนะ เป็นผู้ชี้ทาง แต่สุดท้ายเราต้องเป็นผู้รู้เอง เห็นเอง เป็นปัจจัตตัง เปรียบเหมือนการทานข้าว เพื่อนผู้หวังดีก็อาจเอากับข้าวดีๆ มาให้ทาน รสชาติก็อร่อย วิตามินโปรตีนก็สมบูรณ์ เขาทำหน้าที่ของผู้หวังดีอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเราไม่ยอมทาน ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร สุดท้ายมันอยู่ที่เรา เรื่องที่สำคัญๆ ในชีวิต เรื่องความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย สิ่งเหล่านี้เราทุกคนต้องเผชิญคนเดียว ถึงจะมีผู้หวังดีห้อมล้อม มีครอบครัวที่อบอุ่น มีครูบาอาจารย์ให้กำลังใจ แต่ตัวทุกข์ที่เกิดขึ้น เราต้องเผชิญเอง ฉะนั้นเราหวังให้คนอื่นแก้ทุกข์ให้เรานั้น เป็นการคาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ยุติธรรมกับเขา แต่สิ่งที่เราหวังจากคนรอบข้างและสิ่งที่ควรพยายามให้เขาด้วย คือ ความเห็นอกเห็นใจ กำลังใจ การให้ข้อคิดหรือตักเตือนว่ากล่าวด้วยความหวังดีในเวลาอันสมควร การให้เกียรติ ให้อภัย คนอื่นช่วยเราได้ ช่วยได้มาก แต่ช่วยให้เราพร้อมที่จะช่วยตัวเอง

พระอาจารย์ชยสาโร









"ความโลภ มันมิใช่อยู่ที่วัตถุ แต่อยู่ที่ใจ
คือ ความอยาก วัตถุมันจะมีมากสักเท่าไร
ก็แต่ความอยากมันไม่พอ มันก็ไม่พออยู่ดีนั่นเอง"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี










“การรัก อีกอย่างหนึ่งเรียกว่า เมตตาตัว
คือ หมั่นประกอบบุญกุศล และคุณงามความดี
ให้มีขึ้นในตน

ขณะใดที่จะเกิดประโยชน์จาก ตา หู จมูก ปาก
มือ เท้า ของตนเองแล้ว ก็ไม่ยอมปล่อยโอกาส
ให้เสียไป มือของเราที่จะให้ทาน ก็ไม่ถูกตัด
ตาที่จะได้พบเห็นของดีๆ ก็ไม่ถูกปิดมิด

เราก็จะได้รับผลรายได้อันดี จากตัวของเรา
อย่างเต็มที่ อย่างนี้เรียกว่า เมตตาตัว เป็นการรัก
ที่ถูกทาง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุข”

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร










“แม่ที่รักเรา แม่ที่เป็นห่วงเป็นใยเรา
เราไม่มีอะไรจะตอบแทนท่าน ก็ทำสมาธิ
ยกบุญให้ท่าน ด้วยการภาวนา”

หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ











#ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนถาวรหรอก
#มีแต่การเกิดการดับเท่านั้นล่ะ

ทำให้มันรู้ อย่าให้มันหลงอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ เทียวเกิดเทียวตายอยู่นี้ ลุ่มๆดอนๆสูงๆต่ำๆ

ไม่รู้ทางออกเหมือนมดไต่ขอบกระด้ง หาทางออกไม่เจอ ถึงได้มาเกิดมาตายไม่เลิกไม่แล้วสักที

ทำให้มันรู้มันแจ้งถ้ามันแจ้งแล้วจะมาเกิดเอาอะไรอีก มันเบื่อ มันหน่ายคลายกำหนัดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พอแล้วอิ่มแล้ว

โมหะ คือความหลง โลกวิทู เป็นผู้แจ้งโลกแจ้งธรรม ทำให้มันสูงก็สูงได้ ทำให้มันต่ำก็ต่ำได้ ว่าสูงๆต่ำๆก็สมมุติเฉยๆ ถ้าธรรมนะไม่มีสูงไม่มีต่ำ ราบรื่นไปหมด นำไปสอนจิตใจตัวเองเอาให้เป็นนักปราชญ์

ควรสร้างสมนิสัย บารมีให้มันแก่กล้า อาจหาญ ได้ฟังธรรมนิดหน่อย มันก็ทะลุปุโปร่งไปได้ หนีจากวัฏฏะสงสารความเกิดความตายนี้ได้

#โอวาทธรรม #หลวงปู่แสง #ญาณวโร #พระอริยะสงฆ์ #วัดป่าดงสว่างธรรม ต.โคกนาโก อ. ป่าติ้ว จ. ยโสธร













ถ้าภาวนาเป็นแล้ว. บุญก็พา. วาสนาก็ส่ง. อะไรๆก็ดีไปหมด.

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี








#วันนี้เราบ่นว่ายุ่งยาก
#เราบ่นว่าลำบาก
#บ่นว่าไม่มีโอกาส
#วันหน้าเราก็จำต้องบ่นอีกต่อไป

ผู้จะมาปลดเปลื้องความยุ่งเหยิงขัดข้องหรือโอกาสเวล่ำเวลาให้เรานั้น ไม่มีใครจะสามารถมาเปลื้องให้ได้ เพราะใครก็ต้องเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงขัดข้องด้วยกันทั่วทั้งโลกอันนี้ เราอยู่ในบ้านคนเดียวมีกายอันเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับใครก็บ่นอยู่ภายในบ้านคนเดียว วุ่นวายอยู่คนเดียว คนอื่นบ้านอื่นเข้าใจว่าไม่ยุ่งยากเหมือนกับเรา เราก็จะเห็นว่าในโลกนี้หรือในแผ่นดินอันนี้มีแต่เราคนเดียวเป็นผู้รับเคราะห์กรรม ความยุ่งยากความทุกข์ก็จะมีแต่เราคนเดียว ความยุ่งเหยิงใด ๆ ก็จะมีแต่เรารับเสียคนเดียว
.
โปรดได้เปิดประตูบ้านออกไปมองดูคนภายนอก จะเห็นคนอื่นที่เป็นทุกข์เช่นเราหรือยิ่งกว่าเราอีกเป็นคนที่สอง เดินออกนอกบ้านไปก็ยิ่งจะเห็นคนที่สาม ที่สี่เป็นลำดับ ยิ่งเดินออกไปไกล ก็ยิ่งจะเห็นคนเป็นจำนวนมากซึ่งเต็มไปด้วยความยุ่งยากเช่นเดียวกับเรา เราเป็นอย่างไร เขาก็เป็นเช่นนั้น ความทุกข์ความยุ่งเหยิงทั้งมวล เราลองไปถามเขาดูว่า มีความทุกข์ความยุ่งเหยิงเช่นเดียวกับเราหรือไม่ โอกาสเวลาเขาจะมีหรือไม่ หรือไม่มีเฉพาะเรา ก็จะทราบได้ทันทีว่าคนในโลกนี้ สัตว์ในโลกนี้ไม่มีใครจะอยู่เหนือความทุกข์ความยุ่งเหยิงไปได้ แม้โอกาสและความสะดวกขัดข้องก็อยู่กับคนเรา ซึ่งจะให้โอกาสและความขัดข้องแก่ตนโดยทางใดเท่านั้น นอกจากตัวเราเองจะฝ่าฝืนตัวเราเพื่อทางเจริญแห่งโภคทรัพย์และสมบัติภายในใจแล้ว ไม่มีทางอื่นจะทำได้
.
แม้พระพุทธเจ้า ถ้าจะรอโอกาส รอวาสนา รอเวล่ำเวลา รอการงานให้เบาบางลงไปเสียก่อนจึงจะออกบำเพ็ญสมณธรรมแล้ว ป่านนี้พระองค์จะไม่ปรากฏเป็นศาสดาของโลก ให้เราทั้งหลายได้กราบไหว้เคารพนับถือเลย แต่พระองค์เป็นศาสดาได้ ก็เนื่องจากพระองค์เห็นว่าความไม่มีโอกาสก็ดี ความยุ่งยากก็ดี ก็คือพระองค์ผู้เดียว ความหิวกระหายทั้งหลายมีอยู่ในธาตุในขันธ์ของพระองค์ พระองค์จะต้องรับประทานอาหาร ผู้ใดจะมารับประทานแทนพระพุทธเจ้าไม่ได้ แม้กิเลสอาสวะที่มีอยู่ภายในใจของท่าน ก็เป็นภาระจะทรงทำหน้าที่ถอดถอนออกจนไม่มีอะไรเหลือ ผลที่ทรงได้รับจากความเพียรไม่ท้อถอย จึงปรากฏเป็นมหัศจรรย์ไปทั่วโลกธาตุประหนึ่งโลกธาตุหวั่นไหว
..............................................................
#หลวงตาพระมหาบัว #ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๐๕











“#ภาวนาวิถี”

โยมไม่เหนื่อยหรือ ที่ตระเวนเที่ยวไปกราบครูบาอาจารย์ ไม่เหนื่อยกับการเดินทางหรือ เดินทางมาตั้งเท่าไร เดินทางมากี่ภพกี่ชาติแล้ว ไม่เบื่อไม่เหนื่อยบ้างหรือ และที่เอาของไปถวายครูบาอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ก็ดีนะ แต่ครูบาอาจารย์ที่เราไปกราบไปถวายของท่าน ท่านล้วนแต่ไม่ต้องการอะไรแล้ว ท่านพอของท่านแล้ว ที่ท่านต้องการ น่าจะอยากเห็นเราภาวนามากกว่า มันจะดีกว่านะ ถ้าเราเปลี่ยนจากเอาของไปถวายท่าน แล้วเราไปบอกท่านว่า เราภาวนาเป็น ถ้าเราเร่งภาวนา เมื่อจิตละเอียด ความดีมากพอ จะทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้

พวกที่จะหลุดรอดออกมาภาวนานี้ ในทุกวันนี้จะน้อยเข้าทุกที ที่มาปฏิบัติธรรมกันในช่วงเข้าพรรษนี่ก็ดีมากแล้ว ให้ถือโอกาสนี้ทำให้เต็มที่ งานการเรื่องวุ่นวายใจอะไรก็ปล่อยไว้ก่อน พักไว้ก่อน ให้ใช้เวลาและประโยชน์ในช่วงเข้าพรรษาให้เต็มที่

การภาวนา ให้พุทโธให้ถี่ไปทุกระยะ พุทโธไปพร้อมกันไปหมด ความดีความละเอียดนำไปสู่ใจ ส่งเข้าไปข้างในให้ได้ สิ่งอื่นให้พักไว้ชะลอความห่วง เอาชีวิตเข้าแลก ถ้าดื้อมาก็ต้องกระหน่ำเข้าไป ต้องตัดทั้งหมด ใจคือเด็กอ่อน สติเป็นพี่เลี้ยง จิตไร้เดียงสายิ่งกว่าเด็กอ่อน หาอุบายให้ได้ ทำจนให้สติตั้งได้ ตั้งได้จังหวะ สติน่าอัศจรรย์มาก สติที่อาศัยสัมมาสติเป็นสัมปชาโน ให้รู้ตลอด รู้ทั่ว โตใหญ่ขึ้นไป มีความระแวดระวัง จิตจะละเอียดเข้าไปมาก จะดึงเข้ามาสู่ที่เก่าของเขา สัมมาสติจะส่งเข้ามาในใจ แบบไหนพอดี เชื่อเข้าไปก่อน ตามรู้เข้าไปก่อน เข้าไปสู่ข้างใน เอาจิตให้มันรวมให้ได้ รวมความรู้ให้ได้ เตือนตัวเองให้ได้ ให้รวมให้ได้ ออกไปให้ดึงกลับมาให้ได้ ตรวจตราดูเข้าไป อาการเป็นอย่างนี้ ความสงบแยกตัวออกมาดู ธรรมะคลี่คลายกระจ่างสะอาดขึ้น แสงสว่างใดเสมอปัญญาไม่มี รูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ให้คลี่คลายก่อน ยิ่งเข้าใจเท่าไหร่ ยิ่งเบา ชำระราคะให้เบาลงไป ราคะมันปิดเอาไว้ อสุภะกระหน่ำเข้าไปก่อน มันจะบรรเทา ทำมันมาก มันเป็นก้อนสกปรกทั้งหมด ดูไม่หยุดไม่ถอย เรียกว่าปัญญาขั้นต้น เอาหัวใจเป็นพยาน กิเลสตายจากใจไม่ฟื้น ไม่มีใครมารับรอง ทำอย่างเดียวไม่หยุดไม่ถอย สั่งสมไม่หยุด จะเป็นธรรมชาติเอง ทำแล้วมันชุ่มเย็น

=======================
พระอาจารย์บัณฑิต สุปณฺฑิโต
(บันทึกโดยลูกศิษย์)













#องค์หลวงตาท่านมักจะเล่าเรื่องหลวงปู่มั่นให้ฟังว่า ...

ท่านอยู่กับหลวงปู่มั่น
ท่าน(องค์หลวงตา)จะทำอย่างนั้น
ครูบาอาจารย์จะทำอย่างนี้
องค์นั้น อย่างนั้นอย่างนี้

ท่านเล่าเพื่อเป็นคติสอนเรา

คือท่านไม่ต้องมาบอก
ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้นะ !

แต่ท่านเล่าถึงว่า
ท่านทำยังไงเวลาอยู่กับหลวงปู่มั่น
เป็นแบบอย่างให้เราเดินตามนั้น
นี่คือแบบอย่าง !

เดี๋ยวนี้พอพระเราแยกย้ายออกไปมีลูกศิษย์ลูกหา
ก็ไปเห็นความหยาบของคนรุ่นใหม่
ซึ่งไม่มีในพระแต่ก่อนนี้
พระเดี๋ยวนี้เวลาจะไปไหน
อยู่ในวัด แต่งบาตรแต่งกลดแล้ว
แต่งบาตรแต่งกลดเสร็จไปถึงกราบครูบาอาจารย์
"ขอโอกาสครับ ผมจะลาไปนู่นครับ ผมจะลาไปนี่ครับ" แล้วไปเลย
ก่อนไปลา แต่งบาตรแต่งกลดแล้ว ...
แสดงว่าจะให้ไปหรือไม่ให้ไปกูก็ไป !

แต่พวกเราไม่มีอย่างนั้นเลย
เราจะไปไหน
เราจะรอเงียบ ๆ ไม่มีใคร แล้วจึงไปพบท่านองค์เดียว

"ขอโอกาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ตอนนี้ทำกิจประจำในวัดเสร็จแล้ว"
(กิจประจำในวัดรุ่นอาตมาก็จะมีการผ่าฟืน เก็บฟืนไว้ ปีหนึ่ง เราจะผ่าฟืนเก็บฟืนไว้ใช้ได้ทั้งปี หรือเตรียมหญ้าไว้ซ่อมหลังคา หรือเก็บไม้ไว้ใช้ตีตาดกองไว้ใช้ทั้งปี ปีหนึ่งเราจะมีภาระทำกิจส่วนรวมเก็บไว้ใช้ทั้งปี)

พอเวลาเราอยากจะไปธุดงค์
เราก็รอเงียบ ๆ ไม่มีใคร
เราขึ้นไปหาท่านองค์เดียว

“ขอโอกาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ตอนนี้พวกหมู่เกล้ากระผมทำไอ้นั้นไอ้นี่เสร็จแล้ว ไอ้นั้นก็ทำเสร็จแล้ว ไอ้นี่ก็ทำเสร็จแล้ว ขอโอกาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังมีภาระอะไรที่จะให้พวกกระผมทำอีกไหม ในวัดยังมีอะไรที่เกล้ากระผมจะต้องทำอีกไหม”

ท่านก็ว่า “เอ้อ มันก็ไม่มีอะไรแล้วนี่ อะไรต่ออะไรก็เสร็จแล้วนี่”

“ ถ้าเช่นนั้น ถ้าไม่มีภาระอะไรแล้ว
ถ้าพ่อแม่ครูบาอาจารย์เห็นเหมาะเห็นควรว่าเกล้ากระผมจะออกไปวิเวก
เกล้ากระผมจะขอโอกาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์ออกไปวิเวกที่โน่นที่นี่สักระยะหนึ่ง”

นี่คือการไปลาท่าน
คือไปปรึกษาท่าน ไม่ใช่ไปลาท่าน

ถ้าท่านจะให้ไปก็ “เอ้อ ไปสิ มันก็ไม่มีภาระอะไรแล้ว จะไปทางไหนก็ไป”

จะเป็นแบบนั้น
คือไม่ได้ไปลาท่านเลย
พอท่านอนุญาตแล้ว
เรากลับลงมาจึงมาเตรียมบริขารของเรา
กลดเราไม่ดี ขาบาตรเราไม่ดี อะไรไม่ดี
เตรียมเสร็จแล้ว
วันไหนเงียบ ๆ เราขึ้นไปหาท่านอีกครั้ง

“ขอโอกาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เกล้ากระผมคิดว่าจะไปทางนั้นทางนี้พ่อแม่ครูบาอาจารย์เห็นสมควรหรือไม่ ถ้าไม่เห็นสมควร เกล้ากระผมก็จะไม่ไป”

ท่านก็ว่า “ก็ดีนะ ทางนั้นทางนี้ก็เงียบสงบดีนะ” ... เราก็ไปเลย

นี่คือการอยู่กับครูบาอาจารย์ !
ทุกสิ่งทุกอย่างเรายกมอบให้เป็นความเห็นของครูบาอาจารย์ทั้งนั้น
เราไม่ได้ถือความเห็นของเราเป็นใหญ่
แต่เรามีความเห็นมีความคิดอะไร
เราไปปรึกษาท่าน
ให้ท่านเป็นผู้ชี้ ให้ท่านเป็นผู้ตัดสิน
นี่คือการอยู่กับท่าน !!

#พระอาจารย์สุธรรม #สุธัมโม









" ถ้าเรามาพิจารณาให้ดี
แล้ว อายุของเราเวลานี้มัน
มาถึงกี่ปี อยู่มาได้ ๔๐ ๕๐
นี้ก็เรียกว่าเป็นมหากุศล
อย่างยิ่ง ที่เรายังไม่แตกดับ​

ทีนี้ในกาลข้างหน้านั้นเรา
คาดคะเนไม่ได้​ เพราะพญา
มัจจุราชคอยจ้องที่จะจับอยู่
เสมอ เพราะฉะนั้นเราต้องมา
ถามตนเองว่า คุณงามความดี
คืออาวุธที่จะต่อสู้กับมฤตยูคือ
ความตายนั้น มีพอแล้วหรือยัง

ทีนี้อาวุธที่เราจะต่อสู้ก็คือ
อย่างที่พวกท่านทำอยู่เดี๋ยวนี้
มีทาน ศีล ภาวนา คืออบรม
จิตใจอยู่เดี๋ยวนี้ในขณะที่
ขันธ์ทั้ง ๕ เนี่ย คือรูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ
มันจะแตกจะดับ

ในขณะนั้นถ้าผู้ที่เคยปฏิบัติ
แล้ว ไม่สะทกสะท้านต่อ
เวทนาที่มันกลุ้มรุมร่างกาย
ของเราอยู่ คือมีสติรู้อยู่ว่า
มันจะแตกเมื่อไหร่ แต่ว่า
จิตใจนั้นไม่ได้เป็นห่วง
ร่างกาย คือมันวางเสีย

ทีนี้อย่างที่ท่านทั้งหลาย
ก็คงได้เห็นบางท่านเวลา
จะตายนั้นไม่มีการดิ้นรน
ท่านหลับตาไปแล้วก็หมด
ไปเองนี่เรียกว่าท่านตั้งสติได้

ความจำก็ไม่ลืมไม่กระวน
กระวาย นี่ก็เนื่องมาจาก
ท่านปฏิบัติจิตใจของท่าน
อย่างท่านทั้งหลาย
ที่ปฏิบัติอยู่เดี๋ยวนี้ ก็เพื่อ
หาอาวุธ เพื่อป้องกัน ต่อสู้
กับพญามัจจุราช คือ
ความตายที่จะมาในข้างหน้า "

โอวาทธรรม
หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป








" มนุษย์เรา แต่ละคนๆ
ไม่ใช่ว่าอายุจะยืนยาว
อะไรนักหนา

แล้วก็บอกไม่ได้ด้วยว่า
คนแก่จะต้องตายก่อน
วัยเด็กเสมอไป

ท่านจึงสอนว่า
อย่าประมาท
ในคุณงามความดี "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 100 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron