วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 16:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2020, 05:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์ มันเกิดจาก ร่างกายนี้หนึ่ง
ทุกข์ มันเกิดจาก จิตจากใจนี้หนึ่ง

ร่างกายมันมีโรคภัยไข้เจ็บ เจ็บหัวตัวร้อน เจ็บแข้งเจ็บขา เป็นโรคนั้นโรคนี้มารวมในสกลกายอันนี้ นี้เรียกว่าทุกข์ทางร่างกาย

ทุกข์ทางใจ กะมีความกลัว กลัวเจ็บ กลัวปวด กลัวตาย กลัวบ่ได้ย้านบ่มี ความรัก ความชัง ดีใจเสียใจนี่ทุกข์ทางใจ

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้า เพิ่นจั่งมาสั่งมาสอนให้พวกเรามาพินิจพิจารณา มาค้นมาคว้า ให้มันรู้ให้มันเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายพวกเรานี้และสมบัติทั้งหลายที่พวกเราสมมุติกันอยู่นี้ มันแตกมันดับได้เพราะมันเป็นของไม่เที่ยง มันแปรปรวนเปลี่ยนแปลง

ฉะนั้นท่านจึงให้มาพิจารณาดูภายในจิตใจตน เพื่อให้มองเห็นตนของตนเองที่แท้จริง ดวงจิตดวงใจแท้ๆของเรามันใสสะอาด แต่เพราะความยึดความหลงมันมาปิดมาบังจึงมองไม่เห็นความจริง จึงพากันมาเกิดๆดับๆไม่รู้ที่สิ้นสุด

ทุกข์อย่าไปกลัว เจ็บปวดอย่าไปกลัว ให้พิจารณา ให้ดูตัวทุกข์ที่เกิดขึ้น ทุกข์มากๆ เจ็บมากๆ ปวดมากๆ นั้นล่ะตัวธรรม

"..ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต.."

ตายอย่ากลัว ให้กลัวการเกิด เพราะการเกิดมาแล้วมันเป็นทุกข์ ...
.
หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม








การสวดมนต์ถือว่าเป็นการภาวนาได้
ภาวนาแปลว่าทำให้เกิด
การสวดมนต์ก็ทำให้เกิดการรื่นเริงเพลิดเพลิน
หรือทำให้เกิดความสงบภายในจิตใจได้
ขณะสวดมนต์อยู่บางทีอุบายเกิด
บางทีธรรมะเกิดขึ้นมาขณะสวดมนต์ก็ได้
ให้มีความตั้งอกตั้งใจเคารพในการสวดมนต์
มีความแน่วแน่ในคำสวดของเรา
นั้นเป็นการภาวนาอย่างสมบูรณ์ทีเดียว

หลวงปู่แบน​ ธนากโร








#ทุกคนหนีโลกธรรมไม่พ้น

จึงอย่าหนีมัน เพราะมันเป็นของธรรมดา
คนส่วนใหญ่คิดว่าตนฉลาด

พระองค์ตรัสว่า เป็นคนโง่ตั้งแต่เริ่มคิด
เพราะเป็นอารมณ์หลง

ดังนั้น เมื่อถูกด่า-ว่า-หรือติ หรือนินทา
จะมีอารมณ์ไม่พอใจ โกรธ
เก็บเอามาคิดปรุงแต่ง
เกิดอาฆาต-พยาบาท-จองเวร
เพราะอารมณ์โง่ โมหะหรือหลง
หรือมิจฉาทิฏฐิ จึงทำร้ายตนเอง
เผาตนเอง เบียดเบียนตนเอง
ขาดเมตตาต่อตนเอง เหมือนกินยาพิษ
เพราะโมหะ (โง่) แต่ใครเชื่อพระองค์
ก็เป็นสุข เพราะถือเป็นของธรรมดา
ให้ตั้งไว้ในอารมณ์ช่างมัน
หรือวางเฉย หรือสักแต่ว่า หรืออุเบกขา
จนถึงสังขารุเบกขาญาณในที่สุด

#หลวงปู่หลุย_จันทสาโร











ถ้ามีสตินึกถึงพุทโธ ธัมโม สังโฆ
ก็ไม่ต้องไปถามไปอธิบายอะไรแล้ว

เป็นการพ้นโลก พ้นจากโลภะ โทสะ โมหะทั้งหลาย
จิตบริสุทธิ์เหมือนกับเพชรบริสุทธิ์

อันนี้เป็นที่พึ่งได้ จิตนิ่งเย็นสบายเรียกว่าปีติสุขเกิดขึ้น
เป็นกุศลเป็นภาวนาแล้วให้ผลดีแล้ว

หายใจเข้าก็สบาย หายใจออกก็สบาย

โอวาทธรรมหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต
ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ จ.นนทบุรี










ทุกคนมีใจ ใจทำอะไร จงดูใจ จงสอนใจ ถ้ารู้จริง หลงมันอยู่เป็นเจ้าหัวใจไม่ได้ หลงมันอยู่ได้ เพราะใจพอใจหลงเหลือเกิน ไม่พอใจละ ไม่พอใจศึกษา ไม่พอใจในการพิจารณา ใจจึงได้คาความไม่รู้ คาความหลง สอนใจเอานะ หลงได้แต่ใจละไม่ได้ ใจ ของท่านฉลาดจริงไหม ปัจจัตตัง ใจรู้ได้เฉพาะใจเองเลย

หลวงปู่บุญจันทร์ จนฺทวโร






ไปหาติคนอื่น บางทีมีปัญหา

ติเรา ติเรา การติเรานั่นล่ะคือการแก้ปัญหา

เป็นการแก้ปัญหาที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าถูกต้อง
ต้นไม้ในโลกมีทั้งมีแก่นและไม่มีแก่น

คนในโลกก็เช่นเดียวกัน มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ
มีทั้งมีคุณภาพและไม่มีคุณภาพ

ธรรมดาธรรมชาติของเขาเป็นอย่างนั้น
จึงไม่ต้องไปติ ไม่ต้องไปชมอะไรกัน

ถ้าหากว่าจะติจะชม พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการติเราชมเรา
การที่ใจมุ่งตำหนิคนอื่นนั้น ใจไม่สบาย ใจเป็นอกุศล

ใจมุ่งในการตำหนิเรา มุ่งในการแก้ไขเรา
ใจมีลักษณะนี้ ใจเป็นข้อปฏิบัติ ใจมีอรรถ ใจมีธรรม

มีธรรมจึงให้มุ่งที่จะแก้ไข ปรับปรุงเราเองอยู่เสมอ

หลวงปู่แบน ธนากโร









ถ้าจะแก้กรรมเวรให้ถูกจุดตรงๆ แล้ว ต้องทำสมาธิ
เพราะการทำสมาธิเป็นการฝึกหัดจิตโดยตรง
คือตัวผู้ก่อกรรมทำเวรนั่นเอง
เมื่อจิตเห็นความส่งส่ายเป็นตัวกรรมตัวเวรแล้ว
ก็จะได้ตั้งสติควบคุมจิตให้อยู่ในความสงบ
มีสติรู้อยู่อย่างเดียวไม่ส่งส่ายออกไปแสวงหากรรมเวร
แล้วกรรมเวรของจิตก็จะสิ้นสุดลงเพียงแค่นี้

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
จากหนังสือ เทสโกวาท









สติสัมปชัญญะ

"..ในแต่ละวันคนเราจะเจอเหตุการณ์มากมายในชีวิต ไม่ว่าจะนั่ง เดิน หรือนอน ล้วนต้องมีสติ ถ้าเราขาดสติในการใช้ชีวิตประจำวัน จะทำให้เกิดความเสียหายได้...

...ปัจจุบันนี้ข่าวสารสามารถเดินทางไปยังผู้รับสารได้อย่างรวดเร็ว ถ้าผู้รับสารไม่มีสติในการฉุกคิดและตึกตรองว่าข่าวสารนั้นเป็นข่าวจริงหรือเท็จ หากมีการส่งต่อข่าวสารนั้นก็อาจจะทำให้บุคคลที่ถูกกล่าวถึงได้รับความเสียหายได้

..เพราะฉะนั้น "สติสัมปชัญญะ" จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต หากขาดสติจิตใจย่อมรั่วไหลไปตามวัตถุต่าง ๆ ได้ทันที เพราะฉะนั้นสติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะระลึกถึง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและเกิดประโยชน์ต่อสังคมนั้น..."

ธรรมะคำสอน
หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป











... "เราต้องสมมุติว่าเราเป็นคนตาย"
ถ้าเราอยากจะปฏิบัติเพื่อให้ใจเรา
เข้าข้างใน..เข้าสู่ความสงบ

.
ต้องคิดว่า "เราตายจากทุกสิ่งทุกอย่างไป"
ตายจากลาภยศ สรรเสริญ
ตายจากรูปเสียงกลิ่นรส

.
"เราเป็นคนตายแล้ว"
เราติดต่อกับลาภยศ สรรเสริญ
ติดต่อกับคนนั้นคนนี้ไม่ได้แล้ว
เงินทองของเราใครจะเอาไปทำอะไรนี้
เราไปห้ามเขาไม่ได้แล้ว
ไม่ได้เป็นของเราแล้ว

.
ถ้าเราคิดอย่างนี้
เราก็จะสามารถตัดการติดต่อ
ตัดการส่งใจให้ออกไปหาสิ่งต่างๆได้
เราก็จะดึงใจด้วย..พุทโธ..ให้เข้าข้างในได้
.."การปฏิบัตินี้ก็เพื่อ ดึงใจเข้าข้างใน".
....................................
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา /6/2559
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











"ตายแล้วไปไหน ไม่ต้องไปสนใจมัน
แต่ให้สนใจปัจจุบันว่า ทำตัวดีแค่ไหน
ทำความดีเสียในขณะนี้ ตายแล้วก็จะไปดีเอง"

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ










“ขอให้เชื่อมั่นลงไปในผลทาน
ที่เราได้บริจาคมา เชื่อมั่นในผลศีลที่เรารักษา
ที่เราไม่ทำบาป ไม่เบียดเบียนใคร
เชื่อมั่นในการไหว้พระ นั่งสมาธิภาวนานี้ว่า
เป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ไพศาล

แม้ว่าตนยังไม่สามารถทำอาสวกิเลส
ให้หมดสิ้นไป โดยประการทั้งปวงได้
ก็เป็นอุปนิสัยปัจจัยอย่างแรงกล้า
ติดตามไป เมื่อเกิดในชาติต่อไป
จะดลบันดาลให้เป็นผู้ยินดีในบุญ”

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ













ภ า วิ โ น พ หุ ลี ก โ ต

#การปฏิบัติส่วนที่เป็นทางตรง
#คือ #การเพ่งกสิณภายในกายของตน

การเพ่งภายนอก เมื่อเกิดอุคคหนิมิตแล้ว ส่งจิตตามไป ก็ไปติดในอรูปฌานเท่านั้น

การเพ่งกสิณภายใน เมื่อเกิดอุคคหนิมิตแล้ว พิจารณาให้แยบคายเป็นปฏิภาคนิมิต จนเห็นกายตนชัดเจน

#เห็นตามเป็นจริงเน่าเปื่อยผุพังไปตามธรรมชาติ #จึงถูกต่อหนทางอริยมรรค คือ เห็นอริยสัจจธรรม ๔ จริง

ผู้ใดมีกาย วาจา ใจ แต่ไม่เป็นกายของตนโดยสัจจธรรมของจริง ก็เท่ากับมีกาย วาจา ใจ เปล่าประโยชน์ไปเท่านั้น ถึงเป็นนักบวชก็หัวโล้นเปล่าๆ วุ่นวายกันเปล่าๆ...

#ให้พิจารณาสีมาในกาย

น้อมเข้ามาเป็นโอปนยิโก พิจารณาให้เท่าทันอารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ทางตา ทางหู ทางจมูก จากลิ้น ทางกาย ทางใจ

#ทำให้ยิ่งเป็น #ภาวิโน #พหุลีกโต

คือทำให้ยิ่งเจริญให้มากจนเพียงพอแล้ว อันเป็นส่วนแห่งวิปัสสนาแก่กล้าพอก็ตัดสินตัวเจ้าของ ได้เอง อุปมาเหมือนการตัดหวายให้หินหลุดลงสะดือสีมาฉะนั้น...

#บุคคลถ้าขาดเสวนาส้องเสพกับนักปราชญ์บัณฑิตแล้ว #เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์จริงๆ

ถึงแม้จะเจริญสมณธรรมก็ไม่เป็นไปเพื่อภูมิธรรมชั้นสูง ถึงจะเป็นไปก็เพียงความรู้ความเห็นของตนขั้นสมาธิเท่านั้น... ต้องนึกคิดใน มหาสติปัฏฐาน ๔

#ผู้ที่ฟังธรรมเป็น
#ย่อมได้ฟังธรรมอยู่ทุกเมื่อ

เพราะธรรมะปรากฏกึกก้องอยู่ทุกเมื่อ คืออะไรก็ตามมากระทบสัมผัสกับจิต ล้วนเป็นธรรมะทั้งสิ้น แล้วโอปนยิโกน้อมเข้ามาสอบสอนตนด้วยตนเองฯ

#ปัญญา #แปลว่า #รู้แจ้งแทงตลอดทะลุทะลวงไม่มีที่ปิดบัง #ก็คือย่อมรู้ในกองสังขารนี้เองฯ

__
จาก : หนังสือ “#อาจาริยธัมโมทยาน” (หน้า ๑๘๘)
#หลวงปู่ผั่น ปาเรสโก
#วัดป่าหนองไคร้ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร












ให้รู้จัก. พอ. พอเมื่อไหร่. คุณก็รวยเมื่อนั้น. เข้าใจนะ

หลวงปู่หา สุภโร








#ตอนอาตมาไปอินเดีย
#อาตมาเกิดปีติมากนะ

อย่างที่พุทธคยานี่ เกิดปีติมากขนาดไหนดูเอา ถ่ายรูปออกมา "ใหญ่เท่าเจดีย์เลย" เห็นไหม (ว่าแล้วท่านยิ้ม) แต่รูปอื่นๆ ถ่ายออกมา ไม่ใหญ่เท่าเจดีย์สักรูปนะ

เด็กวัด - หลวงปู่ทำไมภาพนี้ถึงใหญ่เท่าเจดีย์ล่ะครับ

หลวงปู่เปลี่ยน - ตอนนี้ "อาตมาปีติมาก...กำลังแผ่เมตตาออกไปอยู่ เลยถ่ายมาตัวใหญ่เลย กำลังแผ่เมตตา เข้าใจบ่.."

#หลวงปู่เปลี่ยน #ปญฺญาปทีโป










" คนเราเกิดมาแล้ว
หนีความตายไปไม่ได้
มีเกิดมีดับ

เกิดมาแล้วให้ทำความดี
ให้เพียงพอ การให้ทาน
รักษาศีลนี้ ไม่ใช่ของใคร
คนใดคนหนึ่ง คือถ้าใครทำ
คนนั้นก็ได้รับผลด้วยกัน

อย่าเลือกเวลา การทำ
ความดี ทำได้ทุกเวลา
สถานที่ เพศ วัย ไม่ว่า
จะเป็น คนแก่ คนหนุ่ม
คนสาว ทำได้หมด

ให้รีบทำความดีเสีย
เดี๋ยวจะตายก่อนไม่ได้ทำนะ.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต







"เจ็บไข้ได้ป่วย สำคัญอยู่ที่ใจ"

"..นี่พูดถึงเรื่องใจ
"ใจเป็นสำคัญนะใจเป็นหลัก"

เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอะไร
ก็ตาม ถ้าใจไม่เอนไม่เอียง
แล้ว มันเจ็บก็รู้ว่ามันเจ็บ
ทุกข์รู้ว่าทุกข์อยู่อย่างนั้น

"ถ้าใจเอนเสียอย่างเดียว
นี้เป็นไฟไปหมดนะ"

ร่างกายจะเป็นเพียง
เล็กน้อยก็ตาม
เป็นมากขึ้น
เพราะใจเป็นตัวเสริม

กองทุกข์อยู่กับใจ
ความกังวลอยู่กับใจ
กระจายออก
ไปทั่วสรรพางค์
ร่างกายเลยกำเริบ
กันไปหมด ทุกข์นะ
เป็นไข้ก็ไข้ใหญ่เลยเทียว

"ถ้าใจไม่กำเริบ
ไม่เป็นไรแหละ
สำคัญอยู่ที่ใจ".."

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 54 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร