วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 09:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2020, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เบื้องต้น ผู้แสวงทางธรรมจำต้องแยกภาษาธรรม กับ ภาษาคนให้ออก อย่าพูดสับสนปนเปกัน เช่น นำคำว่า สติ มาพูด เราก็ต้องรู้ว่า สติ ทางธรรมได้แก่อะไร

สติ. ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ...

ถ้าไปเอาของเขามาพูด "สติ" แล้วก็ว่าไปเรื่อยเอาเอง แบบนี้เรียกว่า เอาภาษาธรรมมาปนกับภาษาคน อย่างนี้หลง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2020, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อให้เห็นภาษาธรรมอีกดู

กฐิน
กตัตตากรรม
กตัญญุตา
กตญาณ
กตัญญูกตเวที
กตัญญูกตเวทิตา
กฐินทาน
กรรม
กรรมวาท
กรรมบถ
กรรมวาจา
กรรมวาจาวิบัติ
กรรมวาจาสมบัติ
กลาป
กวฬิงการาหาร
กสิณ
กัตตุกัมยตาฉันทะ
กัมมัฏฐาน
กามสุข
กามคุณ
กามาวจร
กายสัมผัส
กายานุปัสสนา
กายสักขี
กิริยวาท
กิริยาอาขยาต
กิเลส
กิลาโส
กุกกุจจะ
กิเลสวัฏฏ์
กุปปธรรม
กุลมัจฉริยะ
กุศลบุญจริยา
กุศลกรรม
เกจิ
เกษมจากโยคธรรม
ขัณฑ์
ขลุปัจฉาภัตติกังคะ
ขัดบัลลังก์
ขัดสมาธิ
ขันธ์ปัญจก
ขาทนียะ
ขีณาสพ
คัพภเสยยกสัตว์
โฆสัปปมาณิกา
จตุธาตุววัตถาน
จักรธรรม

เราเห็นก็นำมาพูดไปตามแต่เราจะว่า แบบนี้เรียกว่า เอาภาษาธรรมมาปนกับภาษาเรามาปนกับภาษาคนผิดไม่ตรงกับของเขา (เมื่อเอาของเขามาเราก็ต้องว่าไปตามความหมายของเขา)
เหมือนเราเอาภาษาต่างประเทศ doubtless มา แต่เราว่าของเราไปเรื่อย อย่างนี้ถือว่าผิดไปจากของเขา เราเอาของเขามาพูดก็ต้องเอาตามความหมายของเขา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2020, 09:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เบื้องต้น ผู้แสวงทางธรรมจำต้องแยกภาษาธรรม กับ ภาษาคนให้ออก อย่าพูดสับสนปนเปกัน เช่น นำคำว่า สติ มาพูด เราก็ต้องรู้ว่า สติ ทางธรรมได้แก่อะไร

สติ. ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ...

ถ้าไปเอาของเขามาพูด "สติ" แล้วก็ว่าไปเรื่อยเอาเอง แบบนี้เรียกว่า เอาภาษาธรรมมาปนกับภาษาคน อย่างนี้หลง

:b32:
เดี๋ยวนี้นึกไม่ออกเลยว่า...ไม่มีเรา
ไม่เคยระลึกได้เลยว่าไม่มีเรา
คิดเอาแต่ได้อยากได้บุญ
โดยละตัวตนไม่เคยได้
เพราะไม่รู้ความจริง
กำลังมีอวิชชาก็ไม่รู้
ชาตินี้อยากได้ทั้งนั้น
จะละความอยากได้งัย
ในเมื่อไม่รู้ทั้งหมดที่กำลังมี
แถมไม่เคยฟังเพื่อให้นึกได้ทันที
ปกตินึกไม่ได้เนี่ย=สะสมกิเลสอกุศลแล้วค่ะ
ประโยชน์ของการฟังคือไม่อยากได้อะไรเลย
ฟังเพื่อให้คิดถูกรู้ถูกต้องตามได้และเข้าใจความจริงนึกออกทันทีไม่มีนั่งคิดนึกด้นเดาเอาเองค่ะ
https://youtu.be/HNjlmzWLttw
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2020, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เบื้องต้น ผู้แสวงทางธรรมจำต้องแยกภาษาธรรม กับ ภาษาคนให้ออก อย่าพูดสับสนปนเปกัน เช่น นำคำว่า สติ มาพูด เราก็ต้องรู้ว่า สติ ทางธรรมได้แก่อะไร

สติ. ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ...

ถ้าไปเอาของเขามาพูด "สติ" แล้วก็ว่าไปเรื่อยเอาเอง แบบนี้เรียกว่า เอาภาษาธรรมมาปนกับภาษาคน อย่างนี้หลง

:b32:
เดี๋ยวนี้นึกไม่ออกเลยว่า...ไม่มีเรา
ไม่เคยระลึกได้เลยว่าไม่มีเรา
คิดเอาแต่ได้อยากได้บุญ
โดยละตัวตนไม่เคยได้
เพราะไม่รู้ความจริง
กำลังมีอวิชชาก็ไม่รู้
ชาตินี้อยากได้ทั้งนั้น
จะละความอยากได้งัย
ในเมื่อไม่รู้ทั้งหมดที่กำลังมี
แถมไม่เคยฟังเพื่อให้นึกได้ทันที
ปกตินึกไม่ได้เนี่ย=สะสมกิเลสอกุศลแล้วค่ะ
ประโยชน์ของการฟังคือไม่อยากได้อะไรเลย
ฟังเพื่อให้คิดถูกรู้ถูกต้องตามได้และเข้าใจความจริงนึกออกทันทีไม่มีนั่งคิดนึกด้นเดาเอาเองค่ะ
https://youtu.be/HNjlmzWLttw


นี่แหละเขาเรียกมั่วไปเรื่อย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2020, 08:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำนักนี้ ไม่ใช้พุทธธรรม คือ คิดเอาเอง นี่ชัดเจนนะ

อ้างคำพูด:
ถามจริงๆเถอะนะเป็นคนไทย คุยกันภาษาไทยไม่รู้เรื่องเหรอ
ก็บอกว่าที่ไปยกคำต่างๆมานั้นน่ะ เป็นปัญญาของพระพุทธเจ้าทั้งหมดที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ไปยกมาอ้างทำไม
ปัญญาตัวเองไม่มีถึงได้ยังเกิดมาอยู่เนี่ยๆๆๆ

ไปอ่านแล้วก็ท่องจำคำท่องจำนวนได้ก็แค่สัญญา


ไม่ฟังอีล้าค่าอีลมเลยทรงบอกว่า ปัญญาเกิดได้ตามลำดับ เริ่มที่ 1 เกิดจากฟังก่อน
จากนั้นจึงเริ่มคิดไตร่ตรอง ถึงจะเกิดปัญญาที่ 2 ที่เกิดต่อจากข้อที่ 1 และ ถ้าไม่เริ่มจากข้อ 1 และ 2 ก็จะไม่เกิดข้อ3
มันคิดไม่เป็นเลยเหรอจะทำปัญญาตามที่พระพุทธเจ้าสอนก็ต้องทำด้วยการฟังคนอื่นพูดแล้วคิดตามทีละคำ
ไม่ใช่ไปท่องตัวหนังสือ เป็นต่อยหอยแล้ว เอามาเขียนเป็นฉากนั่นน่ะ พระพุทธเจ้าบอกสิ่งที่ทุกคนมีแล้วที่ตัวตน
ทำไมไม่รู้จักหัดคิดตามให้ถูกตัวตน ที่ได้มาแล้วอัตภาพคน มันไม่ได้เกิดด้วยความบังเอิญ ฟังไม่รู้เรื่องเลยหรือ
ลืมตาดูไม่เคยรู้ความจริงที่กำลังปรากฏที่ร่างกายตัวเองเลย ถามจริงๆ เอาอะไรไปภาวนาในเมื่อไม่รู้ความจริง
https://youtu.be/XTkN0s5Qoyw

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=59111&p=459637#p459637

ชัดจริงๆ :b32: สมดังคำที่พูดอยู่เสมอว่า เสียเวลาขายเต้าฮวยเปล่าๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 127 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร