ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=59273 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 20 ส.ค. 2020, 13:14 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ | ||
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน
|
เจ้าของ: | โลกสวย [ 21 ส.ค. 2020, 02:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
ลุงหมาน เขียน: กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 21 ส.ค. 2020, 03:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
โลกสวย เขียน: ลุงหมาน เขียน: กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() ![]() คริคริคริ ขำคนอวดว่าตัวดี เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555 ![]() ![]() ![]() ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์ https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 21 ส.ค. 2020, 06:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
โลกสวย เขียน: เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() ดีๆๆ ครับ คัดมาจาก หนังสือ วิสุทธิมัคค์ และ ปรมัตถมัญชุสา ภาค ๓ พระพุทธโฆสาจารย์ รจนา และพระธัมมปาลมหาเถระ รจนา อาจารย์สิริ เพ็ชรไชย ปป.ธ. ๙ แปล หน้า ๕๘๑ อ่านคัมภีร์เหล่านี้ มีความลึกซึ้งมากต้องค่อย ๆ เข้าใจ นัยยะ ที่ซ่อนอยู่ บางที่กำลังปัญญาอย่างเราอาจยังหยั่งความลงลึกซึ้งไม่ได้ กะว่าจะค่อยๆ เรียนรู้ ถามผู้รู้อีกที ขอบคุณ โลกสวยครับ |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 22 ส.ค. 2020, 00:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
ลุงหมาน เขียน: โลกสวย เขียน: เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() ดีๆๆ ครับ คัดมาจาก หนังสือ วิสุทธิมัคค์ และ ปรมัตถมัญชุสา ภาค ๓ พระพุทธโฆสาจารย์ รจนา และพระธัมมปาลมหาเถระ รจนา อาจารย์สิริ เพ็ชรไชย ปป.ธ. ๙ แปล หน้า ๕๘๑ อ่านคัมภีร์เหล่านี้ มีความลึกซึ้งมากต้องค่อย ๆ เข้าใจ นัยยะ ที่ซ่อนอยู่ บางที่กำลังปัญญาอย่างเราอาจยังหยั่งความลงลึกซึ้งไม่ได้ กะว่าจะค่อยๆ เรียนรู้ ถามผู้รู้อีกที ขอบคุณ โลกสวยครับ ไม่มีนัยยะอะไรลึกซึ้งหรอกค่ะ ธรรมะพื้นฐานเบื้องต้น ต้องมั่นคงชัดเจน พระอภิธรรม พระไตรปิฎก ปฎิจจสมุปปาท ระบุชัดแจ้ง ภพมี 3 คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ แบ่งออกเป็น 31 ภูมิ ปัจจัย มี 24 ภพของอุปาทาน มี 2 คือ กัมมภพ และอุปปัตติภพ ภพที่เป็นปัจจัยแก่ชาตินั้น คือ กัมมภพแต่อย่างเดียวเท่านั้น และกัมมภพนี้เอง เป็นผู้ปรุงแต่งให้ เกิด อุปปัตติภพ คือชาติขึ้นมา ![]() |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 22 ส.ค. 2020, 09:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: ลุงหมาน เขียน: กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() ![]() คริคริคริ ขำคนอวดว่าตัวดี เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555 ![]() ![]() ![]() ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์ https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc ![]() ![]() ![]() คุณยายโรสอวด ความไม่รู้ มั่วอีกแระค่ะ คุณยายโรส แสดงอวิชชาออกมาเต็มๆ เหตุมีเหตุเดียว คืออวิชชา คือความไม่รู้ เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร ไม่ใช่เหตุ6 อย่าง เจตสิกสังขาร 6 ตัว กุศล อกุศล อย่างที่คุณยายมั่วออกมา นั่นเค้าเรียก สังขาร นั่นแหละ สุดยอดการหลอกลวงของอวิชชา ที่คุณยายโรสหนังเหนียว ยังโดนต้มจนเปื่อย คุณยายโรส มั่วแหลก เพราะไม่เรียนพระอภิธรรม ก๊ากๆๆๆๆ ![]() |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 22 ส.ค. 2020, 10:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
ลุงหมาน เขียน: กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คริคริ เม จะเฉลยให้นะคะ คุณตาหมานคะ ตัดมาย่อๆ ความหมายจึงผิดพลาด ต้องแจ้งให้ชัดเจน ว่า ตัดแยกมากล่าวแค่ สองภพ ไม่ได้รวมสามภพ "ส่วนโดยการรวมกัน มีอธิบายว่า รวมกรรมภพและอุปปัตติภพ พร้อมกับภพที่ผนวกเข้าด้วยกันเกิดเพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยเป็นกามภพหนึ่ง รูปภพและอรูปภพก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็น ๓ ภพ แม้ภพที่มีอุปาทาน ๓ ที่เหลือก็เหมือนกัน จึงเป็น ๑๒ พร้อมกับภพที่ผนวกเข้าด้วยกันโดยสงเคราะห์ (คือรวมกัน) เพราะอุปาทาน (๔) เป็นปัจจัยอย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้." ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ส.ค. 2020, 17:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: ลุงหมาน เขียน: กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() ![]() คริคริคริ ขำคนอวดว่าตัวดี เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555 ![]() ![]() ![]() ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์ https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc ![]() ![]() ![]() คุณยายโรสอวด ความไม่รู้ มั่วอีกแระค่ะ คุณยายโรส แสดงอวิชชาออกมาเต็มๆ เหตุมีเหตุเดียว คืออวิชชา คือความไม่รู้ เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร ไม่ใช่เหตุ6 อย่าง เจตสิกสังขาร 6 ตัว กุศล อกุศล อย่างที่คุณยายมั่วออกมา นั่นเค้าเรียก สังขาร นั่นแหละ สุดยอดการหลอกลวงของอวิชชา ที่คุณยายโรสหนังเหนียว ยังโดนต้มจนเปื่อย คุณยายโรส มั่วแหลก เพราะไม่เรียนพระอภิธรรม ก๊ากๆๆๆๆ ![]() ![]() คิดให้ตรงตอนนี้เลย แล้วมันรู้สึกตัวไหมล่ะ เวลาเรียกตัวเองว่าเม เธอรู้สึกว่ามีเมตรงไหน ตรงนั้นแหละกำลังมีอวิชชา คิดคำว่าเม...ไม่ได้คิดถูกตามคำสอนอยู่นะคะ5555 ไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีกิเลสอวิชชา55555555555 ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 24 ส.ค. 2020, 18:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: ลุงหมาน เขียน: กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้ เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒ และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน คุณตาหมานคะ ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ จึงมีภพ 31ภูมิ ![]() ![]() คริคริคริ ขำคนอวดว่าตัวดี เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555 ![]() ![]() ![]() ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์ https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc ![]() ![]() ![]() คุณยายโรสอวด ความไม่รู้ มั่วอีกแระค่ะ คุณยายโรส แสดงอวิชชาออกมาเต็มๆ เหตุมีเหตุเดียว คืออวิชชา คือความไม่รู้ เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร ไม่ใช่เหตุ6 อย่าง เจตสิกสังขาร 6 ตัว กุศล อกุศล อย่างที่คุณยายมั่วออกมา นั่นเค้าเรียก สังขาร นั่นแหละ สุดยอดการหลอกลวงของอวิชชา ที่คุณยายโรสหนังเหนียว ยังโดนต้มจนเปื่อย คุณยายโรส มั่วแหลก เพราะไม่เรียนพระอภิธรรม ก๊ากๆๆๆๆ ![]() ![]() คิดให้ตรงตอนนี้เลย แล้วมันรู้สึกตัวไหมล่ะ เวลาเรียกตัวเองว่าเม เธอรู้สึกว่ามีเมตรงไหน ตรงนั้นแหละกำลังมีอวิชชา คิดคำว่าเม...ไม่ได้คิดถูกตามคำสอนอยู่นะคะ5555 ไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีกิเลสอวิชชา55555555555 ![]() ![]() ![]() "คิดให้ตรงตอนนี้เลย" คริคริ มั่วแหลกอีกแล้ว คุณยายโรส ไม่ประสีประสา ในพระอภิธรรม ไม่ประสีประสาในปฎิจจสมุปปาท เรย คิดนี่แหละ มันเป็นจิตสังขาร เกิดจากอวิชชา แต่สฬายตนะ น่ะ เป็นปัจจัย ทำให้เกิดผัสสะ นะคะ ไปหัดท่องพื้นฐานให้ดีๆ ให้เข้าใจก่อนนะคะ จะได้ไม่มาปล่อยไก่ ตั้งใจเรียนหน่อยนะคะ อ่อนหัดมั๊กๆค่ะ เดี๋ยวจะด้อยโอกาศที่จะเข้าใจธรรมอันลึกซึ้ง ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 27 ส.ค. 2020, 06:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
![]() อุปาทานขันธ์5 คือมิจฉาทิฏฐิ ดับได้เมื่อถึง โสดาปัตติผล คือบรรลุโสดาบัน จึงมีศีลบริสุทธิ์เป็นกุศลศีล ไม่มีอกุศลศีลปนเหมือนปุถุชน ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 27 ส.ค. 2020, 20:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
Rosarin เขียน: อุปาทานขันธ์5 คือมิจฉาทิฏฐิ ดับได้เมื่อถึง โสดาปัตติผล คือบรรลุโสดาบัน จึงมีศีลบริสุทธิ์เป็นกุศลศีล ไม่มีอกุศลศีลปนเหมือนปุถุชน ![]() ![]() ![]() คริคริ มั่วอีกแล้วค่ะคุณยาย อธิบายความหมายของมิจฉาทิฎฐิผิดแล้ว พระโสดาบัน ท่าน ละสังโยชน์ 3 คือสักกายะทิำฐิ วิจิกิจฉา ศีลพตปรามาส ส่วนดับอุปทาน จึงเป็นปัจจัยให้ตัณหาดับ ตามปฎิจจสมุปาท นั่นต้องขั้นพระอรหันต์มรรค กำลังถึงอรหัตตผล นะคะ นะคะๆๆๆ ไม่ใช่พระโสดาบัน แม้นเอกพีซีโสดาบัน ก็ ต้องก้าวไป เป็นพระสกิทา พระอนาคา ถึงขั้นพระอรหันต์มรรค ก่อนค่ะ อย่ามั่วค่ะคุณยาย ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 29 ส.ค. 2020, 09:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: อุปาทานขันธ์5 คือมิจฉาทิฏฐิ ดับได้เมื่อถึง โสดาปัตติผล คือบรรลุโสดาบัน จึงมีศีลบริสุทธิ์เป็นกุศลศีล ไม่มีอกุศลศีลปนเหมือนปุถุชน ![]() ![]() ![]() คริคริ มั่วอีกแล้วค่ะคุณยาย อธิบายความหมายของมิจฉาทิฎฐิผิดแล้ว พระโสดาบัน ท่าน ละสังโยชน์ 3 คือสักกายะทิำฐิ วิจิกิจฉา ศีลพตปรามาส ส่วนดับอุปทาน จึงเป็นปัจจัยให้ตัณหาดับ ตามปฎิจจสมุปาท นั่นต้องขั้นพระอรหันต์มรรค กำลังถึงอรหัตตผล นะคะ นะคะๆๆๆ ไม่ใช่พระโสดาบัน แม้นเอกพีซีโสดาบัน ก็ ต้องก้าวไป เป็นพระสกิทา พระอนาคา ถึงขั้นพระอรหันต์มรรค ก่อนค่ะ อย่ามั่วค่ะคุณยาย ![]() ![]() อยากจะอวดตัวตนข่มคนอื่น โดยคิดว่าตัวเองจำบัญญัติคำได้เยอะ555 โฮะโฮะโฮะ...มันไม่รู้สึกที่ตัวว่าที่มีลมหายใจอยู่เนี่ยเพราะมีตัว ง่ายๆเลยจับแขนคิดเห็นว่าตัวเองมีแขนมั๊ย555พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตน555 คิดเห็นผิดว่ามีแขนทั้งตัวนั้นแหละที่คิดว่ามีแล้วก็ส่องกระจกอยากดูความสวย555ไม่รู้ตัวว่าบอรมมะโง่555 ไม่มีเราแปลว่าไม่มีพระพุทธเจ้าและไม่มีทั้งตัวเธอที่พยายามจะอวดว่าฉลาดกว่าคนอื่นนักหนาดับเบิ้ลบรมโง่ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 29 ส.ค. 2020, 09:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
![]() ปาฏิหาริย์ของการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือดับคิดเห็นผิด ถ้าคิดตามปกติเหมือนเรียนหนังสือคุณก็คิดถูกตามได้ทีละ1ทาง เห็นเกิดแล้วดับทันทีจิตจึงมีปกติเป็นอกุศลเดี๋ยวนี้มีครบ6ทาง6ขณะจิต เพียงเห็นดับไป3ขณะจิตยังไม่ครบ6ขณะ6ทางอาสาวะที่ดองในจิตไหลแล้วค่ะ ![]() พระพุทธเจ้าไม่ได้ต้องการดอกไม้ธูปเทียนหรือลาภสักการะจากใคร เพราะพระองค์แสดงพระธรรมให้ผู้ที่กำลังฟังเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมี พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกให้ไปทำโดยไม่เข้าใจให้ถูกต้องแต่ทรงบอกว่าอย่าพึ่งเชื่อแต่ให้ฟัง เพื่อเข้าใจเหตุผลชัดเจนว่าทำไมพระองค์ถึงมาบอกว่าตัวเรานั้นไม่มีแล้วกำลังมีอะไรต้องฟังให้เข้าใจ ไม่ใช่เชื่อแล้วก็ตามคนอื่นไปเพื่อหวังอยากได้เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเห็นถูกหรือผิดอยู่ที่การฟัง เพราะถ้าตัวเองฟังแล้วยังคิดแย้งไปเรื่อยๆนั่นน่ะแปลว่าปัญญาเราน้อยมากและไม่คิดให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง https://youtu.be/ZWRY1gYxxRI ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 07 ก.ย. 2020, 20:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
![]() กรัชกายเอ๊ย...เอ๊ย ตราบใดที่ยังไม่รู้สึกตัวว่า ตัวตนของเธอมันไม่มีอยู่จริงนะเฮ๊ย เธอจะไม่มีวันเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร เอาแต่ท่องจำบัญญัติคำเป็นนกแก้วนกขุนทองไม่รู้จักว่าคนไหนคือพระพุทธเจ้า ถามจริงจริ๊งคุยกันภาษาคนอยู่เนี่ยคิดไม่ออกเลยเหรอพระพุทธเจ้าก็เป็นคนมองตากันเวลาพูด...ไม่มีเรา คิดยังไงเหรอ...คิดว่าอยู่ดีเกิดมาไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเลยมีคนมาพูดบอกคุณว่า...ไม่มีเรา มองตาอยู่คิดไร ลองนึกสิสมมุติเห็นหน้าตากันคุณคุยกับโรสแล้วโรสบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเรา...พูดภาษาไทยคิดออกบ่โรสพูดไร ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 07 ก.ย. 2020, 21:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีภพ |
![]() เวลาฟังคนอื่นพูดให้ฟังเนี่ย ให้มันรู้จักคิดให้เข้าใจถูกตาม ลืมตามองหน้าคนพูดบ้างบอกว่า ไม่มีเราเข้าใจว่ามันเป็นสัจจะธัมมะ ที่ไม่มีใครเชื่อว่าเดี๋ยวนี้ตัวตนมันไม่มี ไม่ยอมฟังแล้วก็คิดแต่ว่าจะไปทำให้หมดตัวตน มันก็ทำบุญเอาเงินไปประเคนพระภิกษุจนหมดตัวกันอยู่ไม่ลืมตาดูรึไง เชื่อคนอื่นแล้วเขาชวนไปไหนไปทำอะไรยังไม่ได้ฟังอะไรเลยเชื่อและทำตามเลย พระพุทธเจ้าสอนให้ฟังก่อนเชื่อไม่ใช่เชื่อก่อนทำเป็นมนุษย์ไม่รู้พอตายไปสวรรค์ก็ยึดตัวเทวดาที่เป็นอีก555 บนสวรรค์ไม่ได้ทำงานไม่มีเพศบรรพชิตมีเหาะได้มีวิมานแก้ววิมานทองเสกเอาคิดว่าจะมีเวลาคิดอยากฟังมั๊ย ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |