วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 07:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2020, 06:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


#สัมภเวสี

#ญาติตายก่อนอายุขัยเป็นสัมภเวสีหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเมตตาบอกวิธี
"ทำบุญให้คนตายไม่ต้องตกนรก"

#ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมแปลกใจมาก พี่ ๆ น้อง ๆ ทำไมอายุสั้นพลันตายกันเหลือเกิน ไม่เห็นจะตายครบกำหนดอายุขัย แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาก็คือว่า การทำบุญอุทิศให้คนที่ตายก่อนอายุขัย ประเภทอุปฆาตกรรมอย่างนี้ จะถึงมีผลแก่ผู้ตายหรือเปล่าครับ?

#หลวงพ่อ : สัมภเวสี คือ คนที่ตายก่อนอายุขัย เรียกว่ามีกรรมที่เรียกกันว่า อุปฆาตกรรมมา
ริดรอน ตัดรอนเสียตั้งแต่ยังไม่หมดอายุขัย ท่านพวกนี้เวลาตายทางนรกไม่ต้องการ ทางสวรรค์ไม่ต้องการ บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่เขาทำยังไม่ให้ผล ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกไปสอบสวนและจัดการลงโทษ

มีสภาพเหมือนกับคนออกจากบ้านนี้ แล้วไปเข้าบ้านโน้นไม่ได้ จะกลับมาเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาอยู่ด้วยความลำบาก อยากจะกินอะไรก็หากินไม่ได้ ผีประเภทนี้เรียกว่าสัมภเวสี
#แปลว่าพวกแสวงหาที่เกิด

วิธีช่วยคนตายก่อนอายุขัย(สัมภเวสี)
ถ้าญาติของเราตาย ตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือไม่สิ้นอายุ ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย มดกัดตาย ยุงกัดตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย ถูกยิงตาย
รถชนตาย แต่ก็ไม่แน่นักนะบรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มีแต่เผื่อเหนียวไว้ก่อน

สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่าให้มีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักหนึ่งฟอง

#เมื่อทำบุญเสร็จอุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตายไม่ให้ใครทั้งหมด

ถ้าทำอย่างนี้ละ ท่านพวกนี้จะมีความสุขได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบเมื่อเข้าถึงอายุขัยเมื่อใด ก็เป็นอันว่าพวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน

คำสอน : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
ที่มา : หนังสือ ตายไม่สูญ…แล้วไปไหน










#สันตุสสโกวาท
“คำทำนาย”

อย่าไปเชื่อคำทำนาย ทุกวันนี้หมอดู หมอเดา หมอเกาขี้กลากมากขึ้นเรื่อยๆ พอเขาโกหกเท่านั้นล่ะ อ้าปากหวอ.. ฟังเขา ใครๆก็เป็นหมอดูหมด เพราะอ่านหนังสือสาม สี่ ห้า หน้า ก็โกหกไปเรื่อย อันนั้นมีมาก หมอดูหมอเดาทุกวันนี้

#เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าไปเชื่อนะ

ให้เชื่อการกระทำของตนเองดีกว่า กรรมคือการกระทำ ถ้าเราเชื่อกรรม เชื่อการกระทำของตนเอง นั้นละ. เลิศประเสริฐกว่านะ ถ้าเราไปเชื่อหมอดูหมอเดา บางคนก็ว่า บวชเข้ามาแล้ว ต้องสึกตามเวลานั้นเท่านั้นเท่านี้ เราจะไปเชื่อทำไมพราหมณ์ เราเป็นพุทธศาสนิกชน
ต้องเชื่อพระพุทธเจ้าสิ พระพุทธเจ้าบอกว่าทำดี...เวลาใด ครู่ใด ขณะใด เวลาใด ครู่นั้นแล ขณะนั้นแล เวลานั้นแล.. เป็นเวลาดี

เพราะเราทำดี จะไปเลวได้ยังไงใช่ไหม แต่ถ้าหากว่าเราทำชั่วทีนี่ กาลเวลาไหนก็ตามถ้าเราทำชั่ว กาลนั้นแล เวลานั้นแล ปีนั้นแล เดือนนั้นแล..ชั่วหมด เพราะเราทำชั่ว

#เพราะฉะนั้นให้เชื่อกรรมเชื่อผลของกรรม

อย่าไปเชื่อหมดดู อย่าไปเชื่อหมอเดา อย่าไปเชื่อคำทำนาย ถึงเขาจะทำนายเป็นฝ่ายชนะขนาดไหนก็เถอะ แต่ถ้าตัวเองประมาท เอาเถอะ.. ข้าจะสอบได้อยู่แล้วละ ข้าไม่ต้องอ่านหนังสือก็ได้ โหรเขาบอกว่าแล้วข้าจะต้องสอบได้ ไม่ต้องเตรียมการ เที่ยวสนุกสนานกินเหล้าเมายา เอาเถอะ ฉลองไว้ก่อนเลย.. ข้าจะสอบได้อยู่แล้วล่ะ แล้วทีนี้เป็นยังไงพอไปสอบเข้ามา เมาเหล้าก็ยังไม่สร่าง ผลที่สุดไม่รู้ คิดอะไรก็ไม่ออก จะเป็นผู้สอบได้ ได้อย่างไร เพราะเหตุไร เพราะเป็นผู้ประมาท

#นี้ล่ะความประมาทเหมือนคนตายแล้ว

เพราะฉะนั้นพวกเราทุกท่านนะ ใครอยู่ในระดับไหน อย่าเป็นผู้ประมาท ให้เป็นผู้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เป็นผู้ตื่นตัวอยู่เสมอ ถ้าเป็นคนตื่นตัวอยู่เสมอ จะเป็นผู้ชนะได้ทุกแห่งทุกหนในการเป็นอยู่

โดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ฤๅษีตาไฟทำนายผิด” แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒











อย่าเป็นแต่ครูสอนผู้อื่น. ให้สอนตัวเองบ้าง.

หลวงปู่ชา สุภัทโท









เพียงศีลห้าก็เอาเถอะ ไม่ต้องตั้งกฎหมายมากหรอก กฎหมายจะตั้ง สักกี่ล้านก็ตามเถิด ธรรมโลกบาลคุ้มครองโลกสองอย่าง ความละอายต่อบาป ความกลัวต่อบาปเท่านั้น จะคุ้มครองโลกได้ ถ้าไม่ละอายต่อบาป ไม่กลัว ต่อบาปแล้วจะตั้งธรรมวินัยสักเพียงไหนก็ไม่อยู่หรอก ถ้าไปฆ่ามันลูกหลาน มันก็มี มันก็มาฆ่าอีกเหมือนกัน เวรสนองเวร ภัยสนองภัย

ไฉนโลกมันจึงตั้งอยู่ได้ เพราะมีคนดีอยู่ด้วย ถ้าไม่มีคนดี มีแต่คนชั่ว มันก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะมันมีคนดีปนอยู่มันจึงตั้งอยู่ได้ โลก ถ้ามันมีคนชั่วก็ตั้ง อยู่ไม่ได้ เท่านั้นก็พอแล้ว...

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต









#อำนาจแห่งความเมตตานี้สามารถที่จะยังความสงบร่มเย็นให้แก่โลกได้เป็นอเนกประการ

มีนิทานสั้นๆเรื่องหนึ่งในสมัยพุทธกาล คือมีพระราชาองค์หนึ่งได้เดินทางกลับจากการรบ ก็พารี้พลผ่านเข้ามาในเขตละแวกป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่สงบสงัดร่มเย็น เพื่อจะให้พักผ่อนและหาน้ำอาบน้ำกิน เผอิญไปพบพระภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูป กำลังเจริญเมตตาภาวนาทำสมาธิอยู่ ณ สถานที่นั้น โดยมรรยาทอันสงบเงียบปราศจากเสียงใดๆ ก็รู้สึกแปลกประหลาดพระทัยเป็นอันมาก

ทรงปรารภในพระทัยว่า.....“ในบ้าน ๆหนึ่งนั้นมีคนเพียง ๒-๓ คน ก็ยังทุ่มเถียงทะเลาะวิวาทกันวุ่นวาย สมณะเหล่านี้อยู่รวมกันนับจำนวนเป็นร้อยๆแต่ไม่มีความวุ่นวายอะไรเลย ถ้าในบ้านเมืองของเรามีความสงบอย่างนี้ คงจะไม่ต้องเกิดสงครามรบพุ่งกันเป็นแน่”

ก็เกิดความเลื่อมใสตรงเข้าไปกราบพระภิกษุผู้เป็นอาจารย์ และขอเรียนสมณธรรมด้วย

เมื่อได้รับคำแนะนำแล้ว ก็ส่งรี้พลให้ล่วงหน้ากลับเข้าสู่เมือง ส่วนพระองค์เองก็เสด็จประทับอยู่ในป่า ทรงบำเพ็ญเพียรเมตตาภาวนาอยู่ถึง ๑๒ ปี จนบรรลุฌานสมาบัติ แล้วจึงเสด็จกลับคืนเข้าสู่บ้านเมือง

พอเสด็จถึงพระนครก็ทรงแผ่เมตตาไปทั่วทุกทิศรวมทั้งประเทศใกล้เคียงด้วย ประชาชนก็พากันหลั่งไหลเข้ามาห้อมล้อมชื่นชมโสมนัส และเคารพนับถือในพระองค์เป็นอย่างยิ่ง

เมื่อได้ทรงปราศรัยไต่ถามทุกข์สุขราษฎรแล้วก็ทรงแสดงธรรมให้มีเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขาซึ่งกันและกัน ประชาชนก็สดับฟังด้วยความเชื่อถือจับใจ และพากันปฏิบัติธรรม

ต่อจากนั้นความรักใคร่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็กระจายไปทุกบ้านทุกหมู่ ยังความสนิทสนมกลมเกลียวเป็นมิตรซึ่งกันและกันทั่วราชอาณาจักร สงครามต่างบ้านก็มิได้ปรากฏอีกต่อไป ราษฎรก็อยู่ด้วยความสุขสบายเป็นลำดับมา

นี่แสดงถึงอำนาจความดีทางจิตของบุคคลคนเดียว สามารถทำให้ไพร่ฟ้าประชาชนร่มเย็นเป็นสุขได้ตลอดทั่วกันหมดทั้งประเทศ

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร








"#จิตที่สงบตั้งมั่นย่อมสามารถเห็นสิ่งทั้งปวงตามความเป็นจริง"

จิตที่มีสติต่อเนื่องแล้ว เริ่มมีอาการตั้งมั่น มีอาการผ่อนคลาย มีความสุข มีพลัง มีกำลัง มีความชัดเจน ถ้าเป็นความเคลิ้มๆ เบลอๆ อันนี้ไม่ใช่ ต้องมีความคมชัดอยู่ในนั้น #คืออาการสำคัญที่สุด เรียกว่า #กัมมนีโย #เป็นความควรแก่งาน งานที่เราจะรู้จักสิ่งตรงข้าม คือความไม่ควรแก่งาน จิตแข็งๆ ทื่อๆ หนัก นั้นยังไม่ใช่กัมมนีโย กัมมนีโยนี้น้อมไปในทางไหนมันก็วิ่งตาม #คือจิตที่อยู่ในโอวาท #มีความคล่องแคล่วว่องไวมาก

นี่เป็นอาการที่เริ่มปรากฏของความตั้งมั่น หนักแน่น ไม่หวั่นไหว ไม่หลุด มีความสุขความสบาย มีความปราโมทย์ปรากฏ #จิตใจมีความรู้สึกคล่องแคล่วสบาย อยู่ในโอวาท มีกำลัง #พร้อมที่จะรับรู้รับทราบ #รู้ความจริงของกาย #ความจริงของใจ คือ #ไตรลักษณ์

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ









“ถ้าเหลือ ค่อยมาทำบุญ
ถ้าขัดสน ยังไม่พอ มีหนี้สิน
ก็เอาไปดูแลครอบครัวก่อน
ทำครอบครัวให้มีความสุข
เหลือแล้ว พอแล้ว
ค่อยมาทำบุญกับพระ”

หลวงปู่ทุย ฉันทกโร








"การตัดกรรม คือ การหยุดทำความชั่ว หยุดทำบาป
การตัดเวร คือ การหยุดการพยาบาท อาฆาตจองเวร
ซึ่งกันและกัน คือ ไม่แก้แค้นซึ่งกันและกัน รู้จักคำว่า
ให้อภัยซึ่งกันและกัน และผู้ที่ทำผิด ก็ให้รู้จักคำว่า
ขอโทษ ผู้ที่ถูกขอโทษ ก็รู้จักคำว่าให้อภัย อันนี้
เป็นอุบายตัดกรรมตัดเวร"

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 90 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร