วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 10:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2020, 05:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


บุญบาปแม้เพียงเล็กน้อย ประมาทไม่ได้

มีอยู่ชาติหนึ่งเรา ...#เอาลูกแมวไปปล่อยป่า เพราะรังเกียจมัน ลูกแมวตัวนี้อดข้าวปลาอาหารอยู่ในป่าหลายวัน จึงมีคนใจดีมาพบเอาไปเลี้ยง
กรรมนี้จึงมาสนองเราในชาติปัจจุบันเป็นเหตุให้ตัวเองหลงป่าอดอาหาร ขนาดเชี่ยวชาญชำนาญป่าอย่างเรา ยังหลงทางเพราะกรรมของตน
ให้จำไว้........บุญบาปแม้เพียงเล็กน้อย #ประมาทไม่ได้ กรรมเมื่อตามมาถึงแล้วมันแสดงผลทันที ช้าหรือเร็วทุกคนต้องได้รับผลของกรรมนั้น ไม่มีใครปัดเคราะห์สะเดาะกรรมให้กันได้
คนเราถ้าเห็น #กรรมเก่า ของตนเอง เหมือน “ดูหนังดูละคร” มันจะบ่กล้าทำบาปใหม่ให้เผาผลาญใจของตนเองดอก เพราะพ่อแม่กิเลสปิดจิตบังใจเอาไว้ พวกลูกกำพร้าธรรม มันถึงบ่ฮู้ความจริงของบาปบุญคุณโทษ

(พระธรรมคำสอน...หลวงปู่ชอบ ฐานสโม)










"#แม้พรหมก็ยังมีสังขาร" คำเทศน์สอนครั้งสุดท้ายของ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต

หลวงปู่บอกว่า ตอนที่พระเทศน์สอน และนำปฏิบัติภาวนานั้น เทวดาทั้งหลายก็จะลงมาฟังและร่วมปฏิบัติภาวนาด้วยเช่นกัน เทวดานั้นมี “สังขาร” เช่นเดียวกับมนุษย์ ทั้งอสุรกาย สัตว์ ยักษ์ มนุษย์ เทวดา ไปจนถึงพรหม สรรพสิ่งที่เวียนวนอยู่ในวัฏสงสาร ก็ล้วนแต่มี “สังขาร” ทั้งสิ้น

“สังขาร” หรือในอีกแง่หนึ่งก็คือ “การปรุงแต่งของจิต” คำเทศน์ของหลวงปู่ชี้ชัดว่าในสังสารวัฏตั้งแต่ชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุด ทุกระดับชั้น ระดับจิต ก็ล้วนแล้วแต่มีการปรุงแต่งในจิตทั้งสิ้น จะปรุงแต่งแบบหยาบ (เป็นกาย เป็นธาตุขันธ์) หรือปรุงแต่งแบบละเอียด (เป็นอรูป) จะปรุงแต่งไปโดยอกุศล (นรก เดรัจฉาน) หรือ ปรุงแต่งไปโดยกุศล (สวรรค์) ก็ยังเป็นการปรุงแต่ทั้งสิ้น

พูดง่ายคือ “ไม่มีสภาวะจิตใดที่ไม่ปรุงแต่ง เว้นจากจิตแห่งอริยะบุคคล”

หลวงปู่บอกว่า การทำให้เราเท่าทันและพ้นไปจากอำนาจการปรุงแต่งของจิต ตัดวงจรแห่งความทุกข์ และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นมีเพียงการภาวนาเท่านั้น จะเป็น ๑ ชม. จะได้ครึ่งชั่วโมง หรือทำได้แค่ ๑๐-๑๕ นาที ก็ต้องเพียรพยายามที่จะทำให้ได้ นั่นคือความเมตตามากล้นของหลวงปู่บุญฤทธิ์ต่อศิษยานุศิษย์ ซึ่งแม้กายสังขารท่านจะเป็นไปตามปัจจัยของความชรา แต่จิตท่านยังตั้งมั่น มีกำลังมั่นคงและเปี่ยมด้วยธรรมบารมี

จากบันทึกคำสอนของท่านเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๒ ซึ่งท่านได้สอนภาวนาครั้งสุดท้ายเรื่อง “สังขาร”

หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต











"...กุญแจเพชรดอกสำคัญดอกเดียว ที่จะเปิดประตูเข้าไปเอาแก้วมณี คือความเป็นพระโสดาบันได้ มีหนึ่งเดียว
นั่นก็คือ #สติบารมี ที่แข็งแกร่งของจิตเราเอง

แต่ถ้าบุญบารมีของเรายังไม่เต็ม และจิตใจของเรายังเป็นเพชรไม่พอ ก็ไขประตูเข้าไปเอาแก้วมณีไม่ได้.."

หลวงปู่ไม อินทสิริ










...ถ้ามีสติ ก็รู้ว่าขณะนี้กำลังสัมผัสอะไร
กำลังได้ยินเสียง กำลังเห็นภาพ
"จะรู้ทัน..เวลาความหลงปรากฏขึ้นมา"

.เช่นเห็นภาพแล้วก็เกิดความชอบหรือเกิดความชังขึ้นมา "ถ้ามีสติ..จะรู้ว่ากำลังชอบ หรือชัง หรือเฉยๆ"
ถ้าชอบก็รู้ว่ากำลังหลงแล้ว กำลังจะพาไปสู่ความทุกข์ ถ้าชอบอะไรก็ต้องตัดใจอย่าไปชอบมัน ถ้าเกลียดอะไรก็ต้องตัดใจอย่าไปเกลียดมัน
เพราะไม่ได้มาทำอะไรให้กับเรา
ไม่ได้สร้างความสุขความประเสริฐให้กับใจ..ทำลายใจไม่ได้

.ไม่ต้องกลัวเวลาสัมผัสกับสิ่งที่น่ากลัว
ไม่ต้องยินดีเวลาสัมผัสกับสิ่งที่รักที่ชอบ
เพราะใจไม่ได้...ไม่เสียกับสิ่งเหล่านี้
"ใจเพียงแต่รับรู้เท่านั้นเอง"

.สิ่งต่างๆที่ได้มา ที่มีอยู่ทุกวันนี้ อีกไม่นานก็จากเราไป
หรือไม่เช่นนั้นเราก็จากมันไป ไม่ได้อยู่กับใจไปตลอด
เหมือนกับภาพที่ปรากฏในกระจก
ไม่ได้อยู่ในกระจกไปตลอด เดี๋ยวก็หายไป
คนนี้เดินผ่านไป อีกคนก็เดินเข้ามาที่หน้ากระจก
ก็เป็นภาพของคนอีกคนหนึ่งไป

.ภาพที่ปรากฏในกระจกไม่ได้เป็นของกระจก
ฉันใดสิ่งต่างๆที่ใจรับรู้..ก็เป็นอย่างนั้น
ไม่ได้เป็นของใจ ใจเป็นเพียงผู้รับรู้เท่านั้นเอง
ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม.
...................................
กำลังใจ29 กัณฑ์294
ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










คนเนรคุณอกตัญญู
เพราะตกเป็นทาสกิเลส
ถูกกรรมเก่าบังไว้
ทำให้ป่วยทางจิตวิญญาณ
พิการทางความคิด

ไม่มีใครเตือนได้ สอนได้
แสดงว่ากรรมหนักมาก
ต้องปล่อยให้ประสบการณ์สอน
จะตายเมื่อไหร่อาจคิดได้

พระเทวทัตสุดท้ายเจ็บหนักจึงรู้จักสำนึก
คิดถึงพระคุณพระพุทธเจ้าให้คนหามไปกราบขอขมา
แต่ถูกกรรมชั่วลากลงนรกก่อนถึงประตูวัดพระเชตวัน

โอวาทธรรม พระอาจารย์คม อภิวโร












"อย่าไปหวังน้ำบ่อหน้า...พุทธะ สอนให้อยู่กับปัจจุบัน
เอาวันหนึง คืนหนึง พอ...ปัจจุบันดีแล้ว อนาคตสงสัยทำไม
ปัจจุบันบ่ดีแล้ว อนาคตจะดีได้อย่างใด"

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต









ภาวนา คือ การพัฒนาให้เห็นที่มันถูกต้อง
เห็นเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นที่พอดี
แล้วมาแต่งใจเจ้าของ

พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)









" นรกมีนะ นรกมีอยู่แล้ว
ตั้งแต่ดั้งเดิม ไม่ว่าตำรวจ
ไม่ว่าทหาร ไม่ว่าเจ้านาย
ไม่ว่าราษฎร ไม่ว่าใคร
ถ้าทำผิดแล้วตกนรกได้ทั้งนั้น

นรกไม่ได้ลำเอียงใครนะ
เผาได้ทั้งนั้นเหมือนไฟ
เอ้า เข้าไปซีไฟ ใครจะว่า
นี้ตำรวจ นี้ทหาร นี้ข้าราชการ
แล้วเข้าไปว่าไฟไม่ร้อนมีไหม
ไหม้แหลกหมดนั่นแหละ
ไฟไม่ลำเอียงนะ

อันนี้ก็เหมือนกัน เราอย่า
เข้าใจว่านรกมันกลัวคนชั่ว
นะ นรกชอบเผาที่สุดก็คือ
เผาคนชั่ว คนดีไม่ได้เผาแหละ

เพราะคนดี
ไม่ได้ไปตกนรกนี่นะ "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน









"ให้เราพิจารณาดู ทุกสิ่งทุกอย่าง
ถ้าเราไม่หนีมัน มันก็หนีเรา

คนก็เหมือนกัน
เราไม่จากเขา เขาก็จากเรา
มันอยู่ที่ใครไปก่อนใคร เท่านั้นเอง

บางที.. วัตถุก็ไปก่อนเรา
บางที.. เราก็ไปก่อนวัตถุ
บางที.. คนใกล้ชิดเรา เขาก็ไปก่อน
บางที.. เราไปก่อนเขา

มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย ของกรรม"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท










#สติสัมปชัญญะ

คนหลง ใจหลง ไม่รู้ตัว เวลาคนอื่นทำชั่ว ทำไม่ดีก็ไปติเตียนเขา นินทาเขา ไม่ชอบ ไม่พอใจ แต่ตัวเองหลงอยู่ โลภ โกรธ หลง อยู่ ถือตัว ถือตนอยู่ ก็ไม่รู้ตัว

#ไม่ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง
#จะเป็นคนดีขึ้นได้อย่างไร

มันก็ชั่วตลอดกาล ใจหลงเสียมืดมน อดีตก็หลงว่าใจเป็นตัวเป็นตน ปัจจุบันก็หลงว่าใจเป็นตัวเป็นตน อนาคตก็หลงว่าใจเป็นตัวเป็นตน

#ยังไปหลงรูปหลงนามเป็นตัวเป็นตนเข้าอีก

เมื่อหลงเป็นตัวเป็นตนของเรา ก็ไปหลงว่าเป็นตัวเป็นตนของเขา เลยยุ่งกันใหญ่ไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักสิ้น หลงจนลืมอนัตตา สุญญตา

ใจหลงเสียมืดมนก็เป็นมนุสสเนรยิโก มนุสสเปโต ตโม ตม ปรายโน มืดมาแล้วก็มืดต่อไปอีก

#หลวงพ่อบุญจันทร์ #จันทวโร












จงหายใจเข้าหายใจออกอยู่อย่างนี้แหละ

อย่าใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น ใครจะยืนเอาก้นขึ้นฟ้าก็ช่าง อย่าไปเอาใจใส่ อยู่แต่กับลมหายใจเข้าออก ให้ความรู้สึกกำหนดอยู่กับลมหายใจ ทำอยู่อย่างนี้แหละ

#ไม่ไปเอาอะไรอื่น

ไม่ต้องคิดว่าจะเอานั่นเอานี่ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น..ให้รู้จักแต่ลมเข้า... ลมออก... ลมเข้า... ลมออก... พุท เข้า โธ ออก อยู่กับลมหายใจอย่างนี้แหละ

#เอาอันนี้เป็นอารมณ์

ให้ทำอยู่อย่างนี้ จนกระทั่งลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ให้รู้จักอยู่อย่างนั้น จนจิตสงบ หมดความรำคาญ ไม่ฟุ้งซ่านไปไหนทั้งนั้น

#ให้มีแต่ลมออกลมเข้า

ลมออกลมเข้าอยู่อย่างนั้น ให้มันเป็นอยู่อย่างนี้ ยังไม่ต้องมีจุดหมายอะไรหรอก นี่แหละเบื้องแรกของการปฏิบัติ--

หลวงปู่ชา. สุภัทโท













#ให้เห็นโทษนะ

ต้องเห็นโทษแก้โทษ เจ้าของผิดตรงไหนให้แก้ตัวเอง ๆ แล้วจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

แม้พระเทวทัตจะตกนรกถึงขั้นมหาอเวจี ยังสามารถขึ้นมาได้ ไปเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าได้โดยสมบูรณ์ การแก้ไขตัวเองเป็นอย่างนั้น

#ถ้าไม่แก้ยังจะจมไปอีกไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์

เราก็ให้พยายามแก้ ตั้งแต่เป็นเด็กเป็นเล็ก เป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นที่รื่นเริงบันเทิงไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็ให้พยายามรู้เนื้อรู้ตัว

#เมื่อธรรมแทรกเข้าไปในจิตใจของเราแล้ว

ให้นำไปคิดพินิจพิจารณา แล้วก็จะเกิดผลแก่เราขึ้นไปจากการพลิกตัวให้เป็นคนดี จากความชั่วทั้งหลาย เราจะเป็นคนดีไปเรื่อย ๆ

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
๒๕ สิงหาคม ๒๕๔๕


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 83 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร