วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 20:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2021, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


#เรื่องของกรรม

มีหลายคนเลยชอบพูดว่า ยังไม่เคยไปทำอะไรให้เค้าเลย ทำไมเขาต้องมาทำกับเราอย่างนี้! แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบันนี้ เป็นผลกรรมในอดีตที่เราเคยทำกับเขาไว้ มันตามมาทัน..มันก็ให้ผล

บางคนโดนด่า โดนว่า โดนนินทาสารพัด บางคนโดนโกง โดนอะไรอะไรมา ก็เพราะว่าเราเคยไปทำกับเขามาก่อน แล้วเคยไปด่า ไปว่า ไปนินทาเขา เคยไปโกงเค้ามา เราจึงได้รับผลของกรรมที่เราเคยกระทำลงไป

ถ้าคนมีหิริโอตตัปปะ เวลาจะทำอะไรเป็นความชั่วก็มีความเกรงกลัว เกรงกลัวว่าบาปกรรมนั้นจะมาให้ผล เขาก็มีความละอายจึงต้องทำแต่กรรมดี...กรรมดีหรือกรรมชั่ว ถึงจะทำในที่ลับหรือที่แจ้ง ถึงไม่มีใครรู้ใครเห็นกับเรา มันก็ให้ทั้งนั้น...

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป









“ธรรมะวันเด็ก”

...เป็นเรื่องปกติของธรรมชาติ
ของทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้
ที่จะต้องเป็นไปอย่างนี้..
มีการรวมตัวกันเข้ามา
แล้วก็แยกตัวกันออกไป

.ร่างกายของเราก็เหมือนกัน
ของคนอื่นก็เช่นกัน ไม่ว่าจะ
เป็นมนุษย์หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ก็เป็นแบบเดียวกันทั้งนั้น

.ต้นไม้ภูเขาก็เป็นแบบเดียวกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการรวมตัวกัน
แล้วก็แยกออกจากกัน..เป็นปกติ

.ผู้ที่รู้เรื่องราวเหล่านี้แล้ว.."ย่อมไม่หลงยึดติด"
ไม่คิดว่าสิ่งต่างๆจะต้องอยู่รวมตัวกันไปตลอด
เมื่อเกิดมีการแยกตัวกัน..ผู้รู้ ผู้ที่ไม่ยึดติด
"ก็จะไม่ทุกข์ ก็จะไม่เศร้าโศกเสียใจ"

.ส่วนผู้ที่ไม่รู้ ผู้ที่ยังมีความหลงอยู่
ยังมีความยึดติดอยู่ ยังต้องการให้สิ่งต่างๆ
รวมตัวกันอยู่ไปตลอดเวลา
เมื่อสิ่งต่างๆ เกิดการแยกตัวกันขึ้นมา
ก็จะเศร้าโศกเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ

.รับไม่ได้กับความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นกับตนเอง นี่คือความแตกต่างระหว่างบุคคล ๒ คน
คนที่รู้กับคนที่ไม่รู้.
....................................
กำลังใจ 15 กัณฑ์ 204
ธรรมะบนเขา 9/7/2547
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯชลบุรี










#พระธรรมเทศนา
“อย่าอิจฉาเขาถ้าบุญเรายังไม่ถึง”

พวกเราเกิดมาในโลก ทำไมคนนั้นเป็นเศรษฐี ทำไมคนนั้นจน มันมีที่มาที่ไปทั้งหมด

พวกเราอย่าไปคิดอิจฉาคนอื่นเขา
ที่เขารวยกว่าก็เพราะเขาได้ทำบุญ
สร้างบุญสร้างกุศลมา มีแต่ให้มองตนเอง ว่าทำไมข้าพเจ้าจึงไม่รวย ทำไมข้าพเจ้าตัวดำ ตัวขาว ตัวสูง ตัวเตี้ย มันล้วนแล้วแต่เป็นอดีตกรรมทั้งนั้น อดีตกรรมส่งผล บางชาติอกุศลกรรมให้ผลก็ตกต่ำ

บางทีบุญกุศลกรรมดีให้ผลก็สูงส่ง เป็นคนโชคดีหมดทุกอย่าง แต่ถ้าลืมตัวขึ้นมา ของที่เป็นอกุศลทำหมด จ้างฆ่าคนอื่นเพราะมีเงิน จ้างทำความชั่ว พอลืมตัวก็ดิ่งเหวเลย ภพถัดไปก็ลงดิ่งเหวอีก ตกนรกหมกไหม้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน กว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้
นี่คือหลักธรรมคำสอนของพุทธะ

เพราะฉะนั้น พวกเรามองกัน ถึงจะอิจฉาในใจ แต่ก็ต้องมองอดีตด้วย กรรมของผู้กระทำนั้นไม่เหมือนกัน

#ทำไมพระพุทธเจ้าจึงได้เป็นพระพุทธเจ้า

พระเทวทัตมองแต่ในปัจจุบัน ไม่มีญาณทัศนะว่าทำไมคนจึงนับถือเลื่อมใสพระพุทธเจ้า ไป ณ สถานที่ใดมีแต่คนยกย่องเชิดชูบูชา

แต่ทำไมข้าพเจ้าก็เป็นลูกกษัตริย์เหมือนกันคนไม่นับถือ ที่คนนับถือเลื่อมใสพระพุทธเจ้า ก็เพราะท่านบำเพ็ญมาถึงสี่อสงไขย กำไรแสนมหากัปป์ ตั้งความปรารถนาว่าขอให้ข้าพเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต

ถึงท่านจะทำบุญเล็กทำบุญน้อยรักษาศีลภาวนา ดูแลปรนนิบัติพ่อแม่ อยู่ในสถานที่ใดก็ขอให้ข้าพเจ้าสำเร็จพระโพธิญาณ ได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต คือในใจของท่านดิ่งอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา

นี้ก็เหมือนกัน พวกเราท่านทั้งหลาย มาเห็นแต่ในปัจจุบัน คนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เพราะบุพกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ทำไมพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ จึงได้เป็นพระอัครสาวก ทำไมพระอานนท์จึงได้เป็นพุทธอุปัฏฐาก ทำไมอนาถบิณฑิกะเศรษฐีจึงได้เป็นอุปัฏฐากฝ่ายฆราวาสผู้ชาย ทำไมนางวิสาขาจึงได้เป็นอุปัฏฐากฝ่ายฆราวาสผู้หญิง ล้วนแล้วแต่มีความเป็นมาเป็นไปทั้งหมด

คือการตั้งความปรารถนาของสาวกแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนเราเกิดมาจึงไม่เหมือนกัน

กรรมเป็นเครื่องจำแนกให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเกิดมาไม่เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น พวกเราให้ตั้งจิตตั้งใจ
เกิดมาภพใดชาติใดขอให้ข้าพเจ้าเป็นคนดี ได้พบพระพุทธศาสนา ให้คบคนดี อย่าได้หลงทาง ขอให้ข้าพเจ้าได้สำเร็จมรรคสำเร็จผลในที่สุด ได้เป็นพระอริยบุคคล ไม่ขอมาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ให้ถึงพระนิพพานโดยเร็วด้วยเถิด

ให้เราตั้งความปรารถนาอย่างนี้ในใจ อย่าไปตั้งความปรารถนาอย่างอื่นว่าขอให้ร่ำให้รวย ให้สวยให้งาม ให้มีความสุขมีลูกมีภรรยาว่าง่ายสอนง่าย นั่นเป็นความปรารถนาในวัฏสงสาร

คือยังเวียนว่ายตายเกิด มันไม่มีที่สิ้นสุด ถึงจะมีลูกหลานอยู่ในโอวาท
แต่ถ้ามีคนมาอิจฉา เราก็ดุเดือดใส่เขา
ไปฆ่าแกงทำความชั่วตกนรกหมกไหม้

กว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ ลูกหลานเราไปไหนหมด ตัวเองเวียนว่ายตายเกิดลุ่ม ๆ ดอน ๆ สูง ๆ ต่ำ ๆ ไม่มีที่สิ้นสุดในโลกวัฏสงสาร

พวกเราเกิดมามีที่มาที่ไปทั้งหมด ให้พยายามประกอบคุณงามความดี ฝึกฝนจิตใจ

อย่าถลำจนเกินไป ให้ใจเราสอนตัวเราเอง ถ้าปัจจุบันเราดี อนาคตก็ต้องดี

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “อย่าอิจฉาเขาถ้าบุญเรายังไม่ถึง”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๙









“ เราต้องทรมานร่างกาย
เพื่อให้ใจเป็นสุข

คำว่าทรมานร่างกายนั้น
อย่าทรมานจนกระทั่งอดข้าว
อดปลา จนกระทั่งร่างกาย
ต้องทุพพลภาพ

เราทรมานร่างกายก็คือ
ทำสมาธิ ภาวนา หรือทำทาน
รักษาศีล ภาวนา เพราะว่า
การให้ทานก็ดี รักษาศีลก็ดี
ภาวนาก็ดี โดยมาก
คนไม่อยากจะทำกัน

สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็น
คุณประโยชน์ อันมหาศาล
ต่อพวกเราในอนาคต

ในการทำความดีต่างๆ
เหล่านี้นั้น เป็นเรื่องที่เราทำ
แล้วเราได้เอง ไม่ใช่ว่าทำแล้ว
คนอื่นจะมาแย่งเอาไป
บุญกุศลต่างๆเหล่านี้
เราทำเองใช้เอง
ทำสมาธิทำเองใช้เอง
ทำบุญทำการกุศล
ทำเองใช้เอง อย่างนี้เป็นต้น

เพราะฉะนั้นเราอย่าพากัน
ประมาทไปเลย
มีโอกาสก็ทำเสียตั้งแต่บัดนี้.."

โอวาทธรรม
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร








"แทนที่จะไปเสียเวลา เสียกำลังความคิด
ไปตั้งหน้าจัดการกับกิเลสผู้อื่น
ก็ให้ตั้งหน้าจัดการกับใจของตนเอง
ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับกิเลส

ทำได้เพียงไร ก็จะเหมือนสามารถแก้ไขคนอื่น
ทั้งหลาย ให้กลายเป็นคนดีได้ทั้งโลก
เพราะใจเรา จะไม่เร่าร้อนเพราะผู้ใดเลย

จะเหมือนคนทั้งโลก ไม่ได้ก่อกรรมทำร้าย
ให้เราต้องกระเทือนใจเลย"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ








"ครูบาอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง
แต่สำคัญที่เรา ต้องปฏิบัติให้จริง
สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละ จึงจะดี"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ









#การสวดมนต์เป็นกิจวัตรมีอานุภาพมาก

จะบทไหนก็ดี พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงก็ดี เสียงสวดมนต์จะช่วยขจัดมลทินต่างๆ ในที่นั้นๆ

เสียงสวดไปตกที่ไหน ดังไปถึงที่ไหนจะขจัดมลทิน ความขัดข้องในที่นั้นๆได้จนหมดจด

คนที่สวดมนต์ เป็นกิจวัตร จะมีเทพเทวดา คอยรักษาคุ้มครอง ทั้ง ๑๐ ทิศ

#หลวงปู่บุญส่ง_ฐิตสาโร









บางคนทำวัตรสวดมนต์. ดังก้องไปถึงเทวโลก. พรหมโลก. บางคนดังก้องอยู่แต่หูเจ้าของ. เพราะว่าความตั้งมั่นต่างกัน.

หลวงพ่อสุบรรณ์ สิริธโร









“เวลามันหลง ระลึกได้ขึ้นมา.. รู้สึกตัว
เวลามันโกรธ ระลึกได้ขึ้นมา.. รู้สึกตัว
เวลามันทุกข์ ระลึกได้ขึ้นมา.. รู้สึกตัว
เวลามันกลัว ระลึกได้ขึ้นมา.. รู้สึกตัว

รู้สึกตัวระลึกได้อย่างนี้คือ.. การปฎิบัติธรรม”

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร