วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2021, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


#ปีชงมันไม่มีหรอก ชงกันขึ้นมาเอง สมมติกันขึ้นมาเอง ปีนี้กับปีที่แล้วมันก็ปีเดียวกันนั่นแหละ มีมืดกับมีแจ้ง มี ๓๖๕ วันเหมือนกัน ดีหรือชั่ว ไม่ได้อยู่ที่วันเดือนปี มันอยู่ที่การกระทำ ความดี ความชั่ว มันอยู่ที่การกระทำของเรา ถ้าเราทำความดีไว้ ต่อให้มันจะปีชงกี่ชง มันก็ไม่เกี่ยวกัน ส่วนบาปกรรมที่ทำไว้ก็ไปล้างไปกลบมันไม่ได้ ทำบาปแล้วมันก็ต้องส่งผลไม่ช้าก็เร็ว...

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต







ไหว้พระสวดมนต์ก็ดีี
รักษาศีลก็ดี
เจริญภาวนาก็ดี
อยู่ในที่คนไม่เห็น อยู่ในห้อง
มันก็เป็นความดีอยู่นั่นแหละ...

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป








ไม่มีอะไรเหนือกรรม ใจดวงนี้ไม่เคยตาย

"..ท่านจึงสอนให้สร้างบุญสร้างกุศล สมกันกับว่าใจนี้เป็นของไม่ตาย ใจดวงนี้ไม่ตายเลย แต่โลกทั้งหลายเห็นกันด้วยร่างกาย ถือเอาร่างกายทั้งหมดกับความรู้นี้ว่าเป็นตัว..

ในโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรเหนือกรรม ท่านจึงแสดงไว้เป็นบทเป็นบาท นตฺถิ กมฺมสมํ พลํ ไม่มีอานุภาพใดที่จะเหนืออานุภาพแห่งกรรมดีกรรมชั่วนี้ไปได้ กรรมดีกรรมชั่วก็คือทำบุญทำบาปนั่นแหละ อันนี้มันติดแนบอยู่กับใจ เพราะฉะนั้นท่านจึงให้ปัดออก อันไหนชั่วมันเป็นภัยต่อเรา ให้ทำกรรมที่ดีขึ้นมาภายในใจตัวเอง แล้วจิตใจจะค่อยสง่างาม ใจดวงนี้ไม่เคยตายนะไม่มีป่าช้า พวกฝังพวกเผาเหล่านี้มีแต่ฝังร่างกายเผาร่างกายทั้งนั้นนะ ใจนี้ไม่เคยได้เผามันละ พอร่างกายนี้แตกปั๊บ จิตดวงนี้ออกแล้ว ถ้ามีบาปบาปดึงไปแล้ว ถ้ามีบุญบุญพาไปแล้ว ไม่เคยตาย.."

โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน










...ความว่างก็คือ..ความสงบนี่เอง

“ใจที่ว่าง..ก็เกิดจาก ใจที่สงบ”

สงบจากความคิดปรุงแต่ง.
...........................................
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 8/1/2563
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









"ให้เราคิดถึงครูว่าเป็นผู้มีคุณค่าอยู่บนหัวใจเรา หรืออยู่บนกระหม่อมจอมขวัญของเราเสมอ อย่าได้ลืม อย่าได้ลบหลู่ดูหมิ่น เราจะเป็นผู้เจริญในอนาคต ไม่อับเฉาเศร้าหมอง เวลาเราเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นครูอาจารย์คน ย่อมมีคนเคารพสนองตอบความดีของเรา"

คำสอน หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน









หลวงปู่สิมได้สอนถึงการให้ทานว่า..
"แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉานที่ตัวเล็กกว่ายุง เช่น ริ้น ไร และลอด หลวงปู่ก็ยังสอนให้พวกเราให้ทาน ตัวลอดนี่ หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ ท่านบอกว่าตัวมันเล็กจนลอดผ้าเข้าไปกัดเราได้นั่นแหละและหลวงปู่ก็ยกย่องว่า การที่เราให้ทานน้ำเลือดน้ำเหลืองในตัวเราแก่พวกนี้เป็นทานบริสุทธิ์เสียด้วย
"ทานํ เม บริสุทฺธํ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ"
เวลาเรากินสัตว์อื่น เรากินทั้งเลือดทั้งเนื้อทั้งหนัง ตับไตไส้พุง แม้กระทั่งกระดูก เลือดเนื้อเชื้อไขในตัวของเราได้มาจากพ่อแม่ ไม่ได้ไปซื้อไปหามาจากไหน ปล่อยให้เขากัดไปเถอะ ตั้งใจให้เป็นทานไปเป็นทานละเอียดบริสุทธิ์"

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
วัดถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่








"..ถ้ารู้ "ธรรม" ก็นำธรรมนั้น
มาฟอกซัก ชำระเสียให้สะอาด

ใจเรามันสกปรกมานาน
ต้องล้างเสียที อวิชชามันเยอะ
เอาความโง่ของพวกเราออก
เอาความดีมาใส่แทน

จงรับไปปฏิบัติซี เอามา
แล้วก็วางเฉย ๆ มันจะ
ได้ประโยชน์อะไรเล่า.."

โอวาทธรรม
พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ










#ทำยังไงบารมีจึงจะพอ #สร้างบารมีให้พอคือยังไง

ก็ต้องทำให้มาก เดินจงกรมก็เดินให้มาก นั่งสมาธิก็นั่งให้มาก นั่งให้มากเดินให้ มากๆ นี่ล่ะเป็นการสร้างบารมีให้พอ หนักเข้า นั่งภาวนานี่ต้องให้ชนะความเจ็บความปวดให้ได้เสียก่อนจึงค่อยเลิก เดินจงกรมนี่ ให้ชนะขาอ่อนขาเพลียไปเสียก่อนจึงค่อยเลิก เรียกว่ามันขยับก้าวหน้าไปได้ขึ้นชั้น ถ้าหากว่าเดินจงกรมผ่านการเหน็ดการเหนื่อยผ่านการอ่อนการเพลีย ทีนี้ถ้าจะเดินตลอดคืนเดินตลอดรุ่งนี้ ไม่มีปัญหาอะไร เดินได้อย่างสบาย ไม่ได้เดินอย่างทุกข์อย่างลำบาก นั่งภาวนาก็เหมือนกัน นั่งอย่างสบาย ไม่ได้นั่งอย่างทุกข์ ไม่ได้นั่งอย่างทรมาน นี่เรียกว่า บารมีพอ

มันค่อยก้าวไปทีละขั้นๆ ทีแรกก็ต้องอาศัย ขันติบารมี อดทนเอา แล้วก็อาศัย วิริยบารมี ความพากความเพียรเอา แล้วก็อาศัย สัจจอธิษฐาน เป็นบารมีเคียงคู่ไปด้วย อาศัย ขันติ วิริยะ สัจจะ อธิษฐาน นี่ บารมีอันนี้พยายามสร้างขึ้นให้มาก ในเมื่อสร้าง ขึ้นให้มากๆ พอแล้ว ใจมันเป็น ใจมันเป็นแล้วทีนี้มันก็เป็นไปเอง ที่จะเดินจนสว่างก็เดินได้ ที่จะนั่งจนสว่างนี่ก็นั่งได้ เพราะมันเดินอย่างสบาย มันไม่ได้เป็นอย่างทุกข์อย่างยาก มันนั่งมันก็นั่งของมันอยู่อย่างสบาย มันไม่ได้นั่งอย่างทุกข์อย่างยาก

เอ้า... ใครมีความพากความเพียร ใครมีความสัตย์ความจริงให้ตั้งอยู่อย่างนี้ ให้ตั้งลงในลักษณะนี้ ผู้นั้นไม่ว่าผู้เก่าไม่ว่าผู้ใหม่ จะเห็นความอัศจรรย์ในการปฏิบัติธรรม

ถ้าหากว่าผู้เก่าก็ดีผู้ใหม่ก็ดี ไม่มีความพากความเพียร ไม่มีการตั้งความสัตย์ ความจริงอย่างนี้ ความอัศจรรย์ในข้อปฏิบัติ ความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนานี้ มืดมน ...

#หลวงปู่แบน #ธนากโร
เทศนาเมื่อ ๙ สิงหาคม ๒๕๓๐









#ก็จิตสงบจากอารมณ์นั่นเองแหละเป็นความสุข

อะไรที่ยังมั่นยังหมายอยู่ ยังอยากมี อยากดี อยากสุข อยากพ้นไปอยู่ ก็ให้เข้าใจว่า ยังเป็นเชื้อทุกข์ในตนอยู่.. นั่นคือ มันยังหลงพอใจอยู่

สมุทัยใจขี้หลง.. พิจารณาให้รู้ ณ ที่ใจ ที่ยังยึดยังถืออยู่ ผลของการยึดการถือ คืออะไร เป็นอย่างใดต่อไป ควรไหม สมควรที่จะต้องปล่อยวาง หรือไม่ หรือตนชอบพอในทุกข์อยู่

ก็จิตสงบจากอารมณ์ นั่นเองแหละ เป็นความสุข จิตไม่เพลิดเพลิน จิตปล่อยวาง
เฉย ๆ อยู่ รู้อยู่ จึงรู้เท่าทัน เอา เกสา - โลมา -นขา -ทนฺตา -ตโจ นี้แหละ เป็นกุญแจธรรมเปิดประตูมรรคผลนิพพาน..

#หลวงปู่จาม #มหาปุญโญ











“อย่าไปนึกว่าคนในโลก เขาจะรักเราทุกคน
และก็จงอย่าไปคิดว่าคนในโลก เขาจะเกลียดเราทุกคน
จงถือว่า รักหรือเกลียด ไม่มีความสำคัญ
ความสำคัญมีอยู่ว่า เราระมัดระวังใจของเรา
อย่าไปคบกับความชั่ว อย่ารับคำนินทา
และก็อย่ารับคำสรรเสริญ ก็ให้ความดีนั้น
ตกอยู่กับเขา ใครเขานินทาว่าร้ายเรา
ก็ปล่อยให้ความเลวนั้น ตกอยู่กับเขาแต่ผู้เดียว”

หลวงปู่ฤาษีลิงดำ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร