#เลิกยึดกายเสียบ้าง

"ปล่อยวางเสียที​ เขาเป็นธาตุ ๔
ไม่ใช่ตัวเรา เขาไม่เที่ยง
เรื่องของเขา ให้เราปล่อยมือ
อย่าถือให้หนัก เมื่อรู้จักความจริง
ว่ามันไม่เที่ยง​ ตามเรื่องของสังขาร
ไม่ยึดมันนั้นถูกทางแท้.."

#หลวงปู่สาย_เขมธัมโม










“ สมาธิ แปลว่า ตั้งใจมั่นอยู่ในอารมณ์ที่เพ่ง
อยู่อันเดียวเป็นหลัก แต่เมื่อรวมเข้าไปจริงๆ แล้วก็พักอยู่ให้รู้จักรสชาติของธรรมในชั้นนี้ แต่เมื่อหมดกำลัง ก็ถอนออกมา ส่วนญาณพิเศษว่าหลุดว่าพ้นยังไม่ปรากฏ เป็นเพียงพักอารมณ์อันหยาบเฉยๆ เรียกว่าจิตใจพักงาน
อันหยาบของอารมณ์ แต่จะติดอยู่แค่เพียง
รสของสมาธิไม่ได้ เพราะรสของสมาธิเป็น
รสขนาดกลาง ต้องพิจารณาใช้สติปัญญาลง
สู่ธาตุขันธ์ ในส่วนรูปขันธ์นามขันธ์ ให้เสมอภาคเหมือนหน้ากลอง ทั้งอดีต ทั้งอนาคต ปัจจุบันใดๆ ทั้งสิ้น ลงสู่ไตรลักษณ์เสมอหน้ากลองอีกเรื่อยๆ ติดต่ออยู่ไม่ขาดสาย ย่นย่อลงมาเป็นหลักอันเดียวในปัจจุบัน ทรงอยู่ซึ่งหน้าสติซึ่งหน้าปัญญา ตราบใดนิพพิทาญาณยังไม่ปรากฏแก่สันดานอันประณีต ก็พิจารณาติดต่ออยู่ ไม่ขาดวรรคไม่ขาดตอนอยู่อย่างนั้น มีทางเดียวนี้ไม่มีทางอื่นเลย แต่นานๆ จึงจะพิจารณาคราวหนึ่ง ขาดๆ วิ่นๆ นั้น ผู้นิสัยหยาบก็พอประทังไปเท่านั้น ไม่สามารถจะถึงนิพพิทาญาณ ความเบื่อหน่ายคลายหลงคลายเมาได้ง่าย กลายเป็นหมันไปอีก... “

#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต
#จากหนังสือชีวประวัติ
#หลวงปู่หล้า_เขมปัตโต










“สังขารเป็นของไม่ดี
เป็นที่เจ็บปวด
สังขารเป็นของที่เจ็บช้ำ
ดังนั้นจึงต้องปล่อย
จึงต้องถอน​ ไม่ต้องยึด
เพราะสังขารเป็นของจัญไร
ไม่มีที่พึ่ง​ หัวใจมีที่พึ่งอยู่ที่...
ภาวนา​ พุทโธ ๆ เป็นที่พึ่งของจิต
ต้องตั้งใจภาวนาพุทโธ.. “

#หลวงปู่ซามา_อาจุตโต
วัดป่าอัมพวัน อ.เมือง จ.เลย
#ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต ในยุคต้น ๆ
อีกหนึ่งในพระอรหันต์แห่งยุค









“..การภาวนาธรรม มีสติกับจิต
นี้แหละ​ คือ พุทโธ ที่แท้จริง
ท่านแปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ถ้าไม่มีสติ จิตใจก็ไม่อยู่ที่...
จะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานไม่ได้
จะกลายเป็นความโง่เซ่อไปเท่านั้น
ขอรักษาสติกับจิตจงดี ๆ
จะเกิดภูมิปัญญาธรรมขึ้นเอง.. “

#หลวงปู่ดี_ฉันโน
#อีกหนึ่งพระอรหันต์แห่งยุค
#ลูกศิษย์องค์ท่านหลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต










"ธรรมของพรหม"
"เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ล้วนสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าจะอบรมพรหมวิหารธรรม ก็อย่าเห็นว่าเมตตากรุณาเท่านั้นสำคัญ มุทิตาและอุเบกขาก็สำคัญอย่างยิ่ง ไม่มีเมตตา กรุณา ก็จะมีใจโหดเหี้ยม ไม่มีมุทิตาก็จะมีความอิจฉาริษยา ไม่มีอุเบกขาก็จะไม่รู้จักวางเฉย ไม่รู้จักปล่อยวางยึดมั่นอยู่
ความโหดเหี้ยม ความอิจฉาริษยา ความยึดมั่นไม่ปล่อยวาง ย่อมเป็นความไม่สวยไม่งามของจิตใจ ย่อมไม่เป็นที่พึงปรารถนา ฉะนั้น เมื่อปรารถนาจะไม่ให้ได้ชื่อว่าเป็นคนโหดเหี้ยม ขี้อิจฉาริษยา หรือไม่ปล่อยวาง ก็ต้องอบรมพรหมวิหารธรรม เพื่อให้จิตพ้นจากสภาพที่ไม่งดงาม ไม่เป็นที่พึงปรารถนาดังกล่าว "

"รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนัก"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร










คนเราเมื่อมีลาภ ก็เสื่อมลาภ
เมื่อมียศ ก็มีเสื่อมยศ
เมื่อมีสรรเสริญ ก็มีนินทา
เป็นของคู่กันมาเช่นนี้
จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์
ถึงจะดีแสนดี...มันก็ติ
ถึงจะชั่วแสนชั่ว...มันก็ชม

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเลิศยิ่งกว่ามนุษย์เทวดา
ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน
ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกะธรรม
ดังกล่าวแล้วไม่ได้
ต้องคิดเสียว่า
เขาจะติ ก็ช่าง
เขาจะชม ก็ช่าง

เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดเนื้อร้อนใจ
ก่อนที่เราจะทำอะไร
เราคิดแล้วว่าไม่เดือดร้อนแก่ตัวเรา
และคนอื่น...เราจึงทำ
เขาจะนินทา ว่าร้าย อย่างไร ก็ช่างเขา
บุญเราทำ กรรมเราไม่สร้าง
พยายามสงบกาย สงบวาจา สงบใจ
ใยจะต้องไปกังวล กลัวใครจะติเตียนทำไม
ไม่เห็นมีประโยชน์
เปลืองความคิดเปล่าๆ

โอวาทธรรม
พระยานรรัตนราชมานิต
วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
กรุงเทพมหานคร







"..สำหรับผู้ที่อยู่เป็นฆราวาส
ถ้ามุ่งหมายที่จะปฏิบัติธรรม
เอาดีกับพระพุทธเจ้า ก็ยึด
ศีล ๕ เป็นหลักในการปฏิบัติ

การปฏิบัติสมาธิ ฝึกสติ
หรือจะบริกรรมภาวนา
พิจารณาอะไรก็ได้ อารมณ์
ที่เราจะเอามาพิจารณา
เป็นอารมณ์ในการปฏิบัติ
เรื่องชีวิตประจำวัน
วิชาความรู้ งานการที่เรา
รับผิดชอบ จะเป็นอะไรก็ได้

เพราะ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น
เป็น สภาวธรรม เป็น อารมณ์
สิ่งรู้ของจิต สิ่งระลึกของสติ
พระพุทธเจ้าปฏิบัติสมาธิ
ท่านเอาธรรมชาติของกาย
ของจิต เป็นอารมณ์

ธรรมชาติของกาย คือ
ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก
ท่านกำหนดสติรู้ลมหายใจ
จนกระทั่งจิตเป็นสมาธิ

ถ้าช่วงใด ที่จิตอยู่กับ
ลมหายใจ ท่านก็ปล่อย
ให้มันอยู่ไป ถ้าช่วงใด
จิตว่าง พระองค์ปล่อยให้ว่าง
ถ้าช่วงใด จิตเกิดความคิด
พระองค์ก็ปล่อยให้คิด

พระองค์กำหนดสติตามรู้อยู่ที่
ลมหายใจ ความคิด ความว่าง
ลมหายใจ ความคิด ความว่าง
วนเวียนอยู่ใน ๓ จังหวะนี้.."

โอวาทธรรม
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย








"คนที่ชอบพูด ชอบทำอะไรผิดพลาด
ที่ผิดพลาดก็เนื่องจาก ระหว่างที่ทำนั้นขาดสติไป
สติ เป็นธรรมเครื่องเบรก เครื่องยับยั้ง
แล้วก็เป็นธรรมเครื่องระมัดระวัง จึงมีการระมัดระวัง
และยับยั้งในสิ่งที่ไม่ควรที่จะปล่อยไป
สติจึงเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่พยายามทำให้เกิด
ให้มีขึ้นในใจ

คนที่จะเจริญก้าวหน้า หรือคนที่จะมีแต่ความเสียหาย
ขึ้นอยู่กับการมีสติ หรือขึ้นอยู่กับการขาดสตินั้น
มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่เดียว"

หลวงปู่แบน ธนากโร









“กราบไหว้พระสีวลีให้ท่านช่วย
ให้เรารวยอยู่อย่างนั้นแหละ
ก็ตนเองไม่ทำ มันจะรวยเมื่อไหร่
นาก็ไม่ทำ บาตรก็ไม่ได้ใส่
ต้นลำไยก็ไม่ได้ปลูกสักต้น
แล้วจะเอาที่ไหนไปขาย

เพราะมันไม่มีเหตุ ผลก็ไม่มีใช่ไหม
ธรรมเกิดจากเหตุ​ ดับเพราะเหตุ
อธิษฐานเฉยๆ ไม่สำเร็จหรอก
ต้องบำเพ็ญด้วย เช่น​ ถ้าอธิษฐานอยากรวย
จะสำเร็จต้องทำบุญเก่ง

เหมือนเราไปสร้างยุ้งข้าวไว้
และเปิดประตูไว้รอนะ
อธิษฐานให้ข้าวบินเข้ายุ้ง
บ่มาสักเม็ดเลย มันต้องมีเหตุ คือ
จ้างเขาทำนาใช่ไหม นั่นแหละเห็นแล้ว”

หลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป









คนธรรมะถึงกัน.
บ่ได้ขัดคอกันเด้อ.

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต








#เกิดแก่เจ็บตาย #มันเป็นอยู่มีอยู่ทุกขณะ #แต่ทำไมเราไม่รู้ไม่เห็น

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันก็แสดงเหตุปัจจัย ตามเรื่องตามราวของมันอยุ่ทุกขณะ แต่..ทำไมเราไม่รู้ไม่เห็น

นี่เป็นเพราะอะไร พิจารณาเข้าสิ อย่าอยู่เฉยๆ อยู่เฉยมันไม่ได้อะไรนะ

#หลวงปู่จาม #มหาปุญโญ








#จงคิดอยู่เสมอว่า #เรามีเวลาเหลืออยู่แค่วันนี้ #หรือชั่วโมงนี้

จะได้รีบกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ มิใช่มานั่งโกรธ นั่งเกลียด นั่งคิดริษยากัน เสียเวลาโดยเปล่าประโยขน์

#หลวงพ่อจรัญ #ฐิตธัมโม









สติวินโย #สติเป็นวินัย

สติ คือความรู้ ระลึกได้ความรู้อยู่
สติเป็นวินัย นำตนออกจากความชั่ว
นำความชั่วออกจากตน

เมื่อมีสติแล้วไม่หลง
ไม่หลงก็ไม่ทำความชั่ว
เราจงมากำจัดความหลงนี้
คือทำตัวให้มีสติ

นั่งสมาธิก็หัดสติ พิจารณาก็หัดสติ
เมื่อมีสติอยู่แล้ว เป็นผู้รู้อยู่แล้ว มีวินัย

#หลวงปู่ฝั้น #อาจาโร
(อาจาโรวาท)