วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2021, 06:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“#เห็นทุกข์ให้น้อมใส่ตัว”

โลกมีสิ่งต่างๆ มาหลอกล่อ ให้สัตว์โลกเพลิดเพลิน กว่าจะรู้ตัวก็หมดแรง และตายไป ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ต้องมาเกิด แก่ เจ็บ ตายอีก

เรามองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป เพราะเห็นว่าไกลตัว ซึ่งเรียกว่าตั้งอยู่ในความประมาท ร่างกายมันเน่า อสุภะเราเอาอะไรมาทา มันก็ไม่ฟัง อสุภะมันแสดงอยู่ตลอดเวลา

ที่เราทำๆกันนี้ ยังดีไม่พอ ให้สังเกตตัวเอง แล้วหมั่นแก้ไข เมื่อเห็นทุกข์ผู้อื่นก็ให้น้อมเข้ามาใส่ตัว

เปรียบเสมือนการถือของร้อน บางคนก็รู้สึกถึงความร้อนและวางลงได้เร็ว ทั้งที่ของนั้นยังไม่ร้อนจัด แต่บางคนต้องให้ร้อนจัดๆ ถึงวางลงได้

เช่นเดียวกับที่บางคนเห็นทุกข์คนอื่น แม้เพียงเล็กน้อยก็อยากหาทางออก แต่บางคนต้องทุกข์หนักๆ ถึงจะหาทางออก

ส่วนมากแล้ว คนทางโลกมีทุกข์กัน ก็ไม่ตระหนักถึงทุกขสัจ ตามตำราตามหนังสือที่ไหนก็เขียนไว้หมด เราก็รู้กันหมด แต่ทำไมความจริงมันไม่ลงไปที่ใจ

เพราะคุณงามความดีมันยังไปไม่ถึง มาฟังเทศน์ฟังธรรมกันอยู่ ฟังกันไป แต่ละคนจะถึงไปที่ใจกันได้มากน้อยเพียงใด

วิธีแก้ทุกขสัจมีทางเดียว คือต้องเอาธรรมแก้ได้สถานเดียวเท่านั้น ต้องแก้ที่ตัวเอง

ทุกวันนี้เราเล่นละครกันไป มีสุข มีทุกข์ ความสุขนี่เป็นอามิส พอหายทุกข์ก็เป็นสุข เลยพากันนึกว่ามันเป็นความสุขที่แท้จริง

ทำไมเราจึงมัวแต่เล่นละครกันอยู่ ไม่เปลี่ยนมาเป็นผู้กำกับกันบ้างเล่า ทุกวันนี้วิชาความหลงกลบเราไปจนหมด ต้องเห็นแบบไม่หลงให้ได้

ฝ่ายพาไม่หลง เรียกว่ามรรค มรรคจะคอยสอนใจอยู่ ในขณะที่ความหลงที่อยู่ในใจก็โตขึ้นไปพร้อมๆ กันตามวิถีโลก

เราลองย้อนดูว่ามีอะไรเป็นของเราบ้าง พากันทิ้งไม่เป็น มันไม่มีอะไรจริงๆ ได้อันหนึ่งอีกอันหนึ่งก็เสียไป

คำว่ามีก็ไม่มีในใจ ไม่ไปมั่นหมายไว้ ให้ฝึกฝนเข้าไป สติปัญญาเป็นสิ่งที่ต้องฝึกหัด ใช้ธรรมเป็นคู่แข่งขันกับความหลง สู้เข้าทุกท่าทุกอย่าง

แก้ให้พ้นต้องเทียบเคียงตลอด ให้ทัน แก้ให้ได้ พอกรรมมันมาถึงตัว เวลานั้นอะไรก็ช่วยไม่ได้ จงอย่าประมาทกรรม ให้เร่งทำเสียแต่วันนี้

เราต้องเชื่อเรื่องกรรม เพราะกรรมเป็นเรื่องจริง พันธุกรรมเป็นตัวหล่อหลอมที่ทำให้เรามีความเหมือนกัน แต่ถ้าจะอยู่เหนือกรรม ก็ต้องเข้าถึงอริยสัจ แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็ให้หมั่นทำความดี

คนเรามีกรรมเก่า แต่ถ้าทำปัจจุบันให้ดี ก็จะสามารถตัดกรรมเก่าได้ แต่การตัดกรรมของคนทั่วไปนี้ ยังเป็นการตัดกรรมทางจิต ในขณะที่ครูบาอาจารย์ท่านสามารถตัดกรรมได้ จนกระทั่งถึงธาตุขันธ์

เช่น เมื่อครูบาอาจารย์อาพาธ ท่านจะพิจารณาทางจิต จนลดหรือหายจากอาการอาพาธทางธาตุขันธ์ได้ เพราะกรรมก็อาจส่งผลถึงธาตุขันต์ได้

ครูบาอาจารย์ท่านสามารถพิจารณาถึงอริยสัจ ซึ่งทำให้ตัดกรรมได้หมด แต่เราที่เป็นฆราวาส ยังไม่สามารถทำได้แบบนี้ ให้เราหมั่นทำความดี ทำบุญไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

บางคนอาจจะทำบุญไว้เยอะ ทำให้ในปัจจุบันทำอะไรก็ดีไปหมด เจริญรุ่งเรือง แต่ในที่สุด ทุกคนก็ต้องได้รับผลจากกรรมที่ทำไว้

ไม่เว้นแม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ที่ต้องรับผลจากการที่เคยเป็นคนเลี้ยงโค แล้วรีบต้อนโคกลับบ้าน โคหิวน้ำก็ไม่หยุดให้ดื่มน้ำ

ผลของกรรมนั้น ทำให้ครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่กุสินาราเพื่อปรินิพพาน พระพุทธเจ้ากระหายน้ำมาก ได้แวะพัก และตรัสให้พระอานนท์ไปตักน้ำ

พระอานนท์ถือบาตรไปถึงแหล่งน้ำ ปรากฎว่า วัวพึ่งเดินผ่านไปทำให้น้ำขุ่นมาก พระอานนท์จึงเดินกลับไปโดยไม่ได้ตักน้ำ

พระพุทธเจ้าก็ให้พระอานนท์เดินกลับไปใหม่ น้ำก็ยังขุ่นอยู่ ต้องรอจนถึงครั้งที่ ๓ น้ำจึงใส พอที่พระอานนท์จะตักน้ำไปถวายได้

แม้แต่กรรมเพียงเล็กน้อย ก็ต้องส่งผลกลับมาให้เราเสมอ ไม่ว่าเราจะทำบุญไว้มากแค่ไหน

เพราะฉะนั้นคนที่ดูดี มีความสุขในตอนนี้ สักวันก็ต้องได้ รับผลกรรมที่เคยทำ พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง สังคม หน้าที่การงาน โรคภัยไข้เจ็บ เราล้วนทำมาเองทั้งสิ้น

จงน้อมรับ และแก้ไขข้อบกพร่องของตน เมื่อพบสิ่งใด ก็ให้เผชิญกับสิ่งนั้น จงอย่าหนี มิฉะนั้นเราจะต้องเป็นฝ่ายหนีไปเรื่อย

โลกนี้ไม่มีใครได้ดังใจหรอก เราทำเอาไว้อย่างนี้เอง ต้องยอมรับ ตั้งความดีเอาไว้ ทุกอย่างจะลดลง

เอาเมตตามาใช้ ทำเพื่อหาเวลาออก มันเป็นหลักธรรมชาติ อะไรจำเป็นต้องทำทางโลกก็ทำ แต่ก็ทำทางธรรมให้มีศีลเป็นหลักเกณฑ์ในชีวิต

ในที่สุดจะแยกตัวออกมาได้เอง ยืนหยัดเอาศีลสร้างความดี ความมักน้อยสันโดษเกิดขึ้น

ให้มีสติ ไปไหนเอาพุทโธประคองไว้ตลอด จะนำความดีเข้ามาสู่ใจ

#พระบัณฑิต #สุปณฺฑิโต
(บันทึกโดยลูกศิษย์)
วัดป่าตอสีเสียด
ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
หมายเหตุ
บันทึกธรรม คณะศิษย์ต่างจิตต่างใจ เรียบเรียงมาจากศรัทธาหนึ่งและจากความจำอีกหนึ่ง แต่ความเข้าใจ ความจดจำย่อมมีความคลาดเคลื่อนตามระดับภูมิธรรมของแต่ละคน ดังนั้น หากข้อความใดอันเป็นประโยชน์ต่อใจของผู้อ่าน ขอน้อมบูชาคุณต่อพระพุทธองค์และองค์ผู้นำธรรมของพระพุทธเจ้ามาแสดงให้ฟัง แต่หากมีข้อผิดพลาด ผู้บันทึกตลอดจนผู้รวบรวมจัดทำ ขอน้อมรับความผิดนั้นไว้ทุกประการ












#วัดนะ

ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่โรงลิเก ไม่ใช่โรงละคร ไม่ใช่โรงครัวนะ จึงย้ำกับลูกหลาน ออกตนญาติโยม ลูกหลานที่จะตามไปปฏิบัติธรรมอยู่นี่ล่ะ

ห้องน้ำมีนิดหน่อย ถ้าไปปฏิบัติธรรมนะ ถ้าไปนอนไม่ต้องไปเสียดีกว่า อยู่บ้านดีกว่า

วัดน่ะ ไปวัดกาย วาจา ใจ ไปปฏิบัติธรรมน่ะ ไม่ใช่ไปนอนนะ ถ้าไปนอนก็ไปนอนโรงแรมซิ

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญฺโญ











"รักแท้ที่ยั่งยืน ควรวางรากฐาน
อยู่บนทฤษฎี ๔ สม กล่าวคือ

๑. สมศรัทธา มีศรัทธาเสมอกัน
(เชื่อมั่น ศรัทธา ในสิ่งเดียวกัน)
๒. สมศีลา มีศีลเสมอกัน
(ไม่นอกใจ ซึ่งกันและกัน)
๓. สมจาคา มีความเสียสละเสมอกัน
(ลืมความเป็นเธอ ลืมความเป็นฉัน
หลอมกันเป็นเรา)
๔. สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน
(มีระดับสติปัญญาเสมอ หรือใกล้เคียงกัน)

ท่าน ว.วชิรเมธี










"..กายเรานี้เป็นแต่เพียง
ธาตุสี่ ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน
ไม่ใช่สัตว์ บุคคล เรา เขา

ผู้ปฎิบัติยึดหลักอันนี้
ภาวนาบ่อยๆ พิจารณา
ให้มากๆ พิจารณาย้อน
กลับไปกลับมา จิตจะค่อยๆ
ก้าวเข้าสู่ภูมิรู้ ภูมิธรรม
เป็นลำดับๆ ไป.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล








...อย่าไปโทษใครเวลาเราทุกข์
เวลาเราเดือดร้อน
“ต้องโทษตัวเราเอง” ที่ไม่หาที่พึ่ง

.ที่ไม่รีบสร้างที่พึ่ง
พอมีเรื่องอะไรมากระทบ
ก็ทุกข์วุ่นวายกัน

.ถ้าได้..สร้างสติ
สร้างสมาธิ สร้างปัญญาแล้ว
“ไม่ว่าอะไรจะมากระทบกับใจ”
จะไม่เป็นปัญหาเลย.
..........................................
กำลังใจ ๔๕, กัณฑ์ที่ ๓๙๗
วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๒
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร