วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2021, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




venerable_tri_dao_headshot-nobg.png
venerable_tri_dao_headshot-nobg.png [ 61.79 KiB | เปิดดู 441 ครั้ง ]
“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” แปลว่า
“ขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง”

ในคัมภีร์ฎีกานะโม เรียกง่าย ๆ ว่า
คัมภีร์อธิบายความหมายของนะโม
เล่าถึงความเป็นมาของบทสวดนี้ไว้ว่า
ครั้งสมัยพุทธกาล มีเทพเจ้า 5 พระองค์
เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามลำดับ

เทพเจ้าพระองค์แรกคือ “สาตาคิรียักษ์”
เป็นเทวดาประเภทภุมมเทวดา (พระภูมิ)
สถิตอยู่ที่เขาสาตาคีรี ในหิมวันตประเทศ
มีหน้าที่เฝ้าประตูของป่าหิมพานต์ทางทิศเหนือ
เป็นหนึ่งในคณะบริวารของพระเวสสุวัณ
สาตาคิรียักษ์เมื่อได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้า
แล้วบังเกิดจิตเลื่อมใสจึงเปล่งวาจาขึ้นว่า
“นะโม” (ขอนอบน้อม)

ต่อมาพระอสุรินทราหูทราบว่าพระพุทธเจ้า
เป็นที่พึ่งของโลก ทรงโปรดให้มนุษย์
และเทวดาบรรลุธรรมเป็นจำนวนมาก
จึงปรารถนาจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม
แต่ด้วยพระองค์มีรูปร่างใหญ่โต
หากเข้าใกล้พระพุทธเจ้าจะไม่สมควร
พระพุทธเจ้าทรงทราบ
จึงเนรมิตร่างของพระองค์ให้ใหญ่โตกว่า
พระอสุรินทราหูในท่าไสยาสน์
เมื่อพระอสุรินทราหูเห็นดังนั้นจึงมีจิตเลื่อมใส
ยอมเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม
พอฟังจบแล้วจึงเปล่งวาจาด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าว่า “ตัสสะ” (พระองค์นั้น)
จากนั้นพระอสุรินทราหูกราบลาพระพุทธเจ้า
กลับแดนอสูร พระจตุโลกบาล

เจ้าสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา (สวรรค์ชั้นหนึ่งในคติพระพุทธศาสนา)
พากันเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม
หลังจากฟังธรรมแล้วจึงเปล่งวาจาพร้อมกันว่า
“ภะคะวะโต” (แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า)
ต่อมาเมื่อพระจตุโลกบาล หรือมหาราชทั้ง 4
กลับไปยังวิมานของตนแล้ว

พระสักกะเทวราช หรือ พระอินทร์ เจ้าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
(สวรรค์ชั้นที่สองในคติพระพุทธศาสนา)
เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม
พอฟังจบก็เปล่งวาจาขึ้นว่า
“อะระหะโต” (เป็นผู้ไกลจากกิเลส)
เมื่อพระสักกะเทวราชเสด็จกลับวิมานแล้ว

พระสหัสบดีพรหมเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อสนทนาธรรม เมื่อจบการสนทนาแล้ว
จึงเปล่งวาจาว่า “สัมมาสัมพุทธัสสะ” (ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง)
ดังนั้นการที่เราสวดมนต์บทสรรเสริญพระพุทธเจ้านั้น
เราได้นำคำเปล่งวาจาจากเทพเจ้าทั้ง 5 มา ซึ่งเป็นมนต์ที่มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เทพเจ้าทุกพระองค์มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า
อย่างพระอสุรินทราหู หรือพระราหู
ในภายภาคหน้าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ส่วนพระมหาราชทั้ง 4 พระสักกะเทวราช
และพระสหัสบดีพรหม ล้วนติดตามอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า
ตั้งแต่วันที่พระองค์ประสูติ

โดยเฉพาะพระมหาราชทั้ง 4 รับหน้าที่
ป้องปกพระพุทธเจ้าตั้งแต่สถิตในพระครรภ์
ของพระนางสิริมหามายา พระสักกะเทวราช
และพระสหัสบดีพรหมก็ถวายเครื่องอัฐบริขาร
แด่เจ้าชายสิทธัตถะตอนเสด็จออกผนวช
ทั้งยังนำพระเมาฬี (ผม) ของพระองค์
ไปประดิษฐานในพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
บทสวดนะโม ตัสสะฯ เป็นบทสวดสั้น ๆ
นิยมสวดสามจบต่อครั้ง ก่อนที่จะเริ่มสวดมนต์บทอื่น
คงเนื่องมาจากเป็นมนต์ 5 คำที่มีความศักดิ์สิทธิ์
มาจากการเปล่งวาจาของเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ 5 พระองค์
ฉะนั้นต่อไปนี้ เชื่อว่าคงมีความศรัทธาและมีจิตเป็นกุศลมากขึ้น
ในขณะสวดและภาวนาด้วยบทสวด นะโม ตัสสะฯ นี้

ที่มา : นะโม นั้นสำคัญมาก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2021, 19:42 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b8: :b8: :b8: มาเพิ่มเติมค่ะ

สาเหตุของการต้องตั้ง “นโม” (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=32274


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2022, 17:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


นโม พุทฺธสฺส (ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า) โดย อธ. ได้แก่
มหากุศลจิตจิตตุปบาทที่มีศรัทธาเป็นประธาน

จำแนกตามปทัฏฐานหาระดังนี้

- โยนิโสมสิการเป็นปทัฏฐานแก่มหากุศลจิตตุปบาท
- การฟังธรรมเป็นปทัฏฐานแก่โยนิโสมนสิการ
- การคบหาสัตบุรุษเป็นปทัฏฐานแก่การฟังธรรม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร