กิจของบรรพชิตตามการบรรพชามีแค่2กิจคือ
1)คันถะธุระคือศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
2)วิปัสสนาธุระคืออบรมจิตและทำตามสิกขาบทเท่านั้น
ไม่เกี่ยวพันหรือเกี่ยวข้องผูกพันกับคฤหัสถ์เลย
และการที่จะมีผู้อุปถากก็คือบรรพชิตด้วยกันเท่านั้น
จึงเข้าใจความสมควรไม่สมควรทำในฐานะอยู่ร่วมกัน
คฤหัสถ์ประกอบอาชีพมีทรัพย์สินเงินทองสงเคราะห์ญาติ
มีที่อยู่อาศัยตามบทบาทเช่นเป็นพระราชามีพระราชวังเป็นที่อยู่
คำว่าสำนักเป็นภาษาที่ชาวมคธใช้เรียกที่อยู่อาศัยของแต่ละอาชีพ
ไม่ใช่คำที่คนไทยเอามาเรียกชื่อสถานที่ลอกเลียนที่พักของพระพุทธเจ้า
ปกติคนครั้งพุทธกาลชาวบ้านบรรลุอนาคามีเขาก็ไม่ได้บวชยังต้องครองเรือน
ต่อเมื่อบรรลุถึงอรหัตตผลจึงไม่อยู่ครองเรือนและทรัพย์สินต่อไปต้องออกบวชเท่านั้น
และไม่มีใครเอาญาติพี่น้องลูกเมียไปอยู่วัดด้วย555เขาไปแต่ตัวไปอยู่ตามถ้ำป่าเขากัน
แล้วชีพราหมณ์ก็ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยไม่ใช่พระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา
ยุคนี้จะสอนอะไรชาวบ้านมันเพี๊ยนไปหมดเพราะบวชไม่ศึกษาคำสอนเอาแต่คิดวิธีเรี่ยไรเงินชาวบ้าน
กฐินแปลว่าสะดึงขึงผ้าส่วนผ้าป่าคือผ้าบังสกุลที่บรรพชิตไปเก็บเอาตามป่าเป็นผ้าที่เขาทิ้งแล้วเปื้อนฝุ่น
บังสกุลเป็นภาษาที่ชาวมคธใช้เรียกสิ่งที่เปื้อนฝุ่นดังนั้นผ้าบังสกุลจึงแปลว่าผ้าเปื้อนฝุ่นที่เขาทิ้งแล้วในป่า
สอนชาวบ้านให้ซื้อผ้ามาถวายพร้อมเงินทองพอใจมากโลภอยากให้ชาวบ้านมากราบไหว้กิเลสบรรพชิต?
https://youtu.be/4OLhzfcAWqA
