คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลึกซึ้ง
ความหมายตรงคำตรงจริงเป็นเท่ากับ
คือเอ่ยคำตรงกับสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามี
ในขณะนี้ไม่ว่าจะเอ่ยคำไหนก็มีแล้วทั้งนั้น
เป็นสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏทุกกาลทุกเวลา
ทุกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นใครกล่าวตามคำจริงนี้
คำนั้นก็กำลังมีไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
ทุกคนไม่เข้าใจเอาแต่เชื่อและสอนทำตามกันไป
โดยไม่อบรมจิตให้เข้าใจถูกตามคำจริงที่ทรงตรัสรู้
ขณะนี้กำลังเห็นไม่ว่าจะเห็นที่ไหนก็แค่เห็น=เห็นแล้ว
ไม่ได้ทำเห็นอีกทีให้พิสดารแปลกแยกออกไปจากปกติ
แต่เห็นเกิดตรงกลางตาดำคือเห็น=เห็นดับมืดมิดลงทันที
ไม่มีอะไรให้เห็นนอกตาเพราะนิมิตคือภาพฝันที่ไม่ใช่สัจจะ
ก็สัจจะของเห็นแค่เกิดขึ้นเห็นเท่านั้นไม่มีรูปร่างอะไรทั้งสิ้น
หลังเห็นทางตาขณะนี้ดับลงเกิดจิตทางหูจมูกลิ้นกายใจสลับทีละ1ทาง
แต่ละ1ทางไม่มีทางเกิดพร้อมกันแถมมีอากาศธาตุแทรกคั่นจิตทุกดวงเลย
เป็นแบบจุดธูปที่ปลายก้านธูปมีแสงไฟ1จุดเล็กแกว่งเร็วๆจุด1จุดหมุนเป็นวงกลม
คือการเคลื่อนไหวของจิตทีละ1ทางเกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็วในความมืดแบบจุด..............ให้รู้ว่า
ไม่มีอะไรเกิดนอกจิตได้เลยแต่การปรากฏของรูปที่มหาภูตรูปลวงให้คิดไปตามความคิดเห็นผิดนอกตาค่ะ
อะไรที่คิดว่ามองเห็นได้นอกตานั้นคือกิเลสตัวเองปรุงคิดนึกจำไปตามความเห็นของตัวตนตนเองไม่ฟังธรรม
เพราะว่าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้แล้วทรงเทศนาธรรมทุกวัน45ปีไม่ได้ต้องการลาภสักการะใดๆทั้งสิ้นเลย
เห็นได้จากตอนที่สาวกมีการทะเลาะกันแล้วพระองค์บอกไม่ฟังจึงเสด็จไปอยู่ป่าผู้เดียวมีแต่สัตว์ถวายผลไม้
เราจะยึดมั่นถือมั่นว่าตัวเองคิดพูดทำถูกแล้วอีกนานมั๊ยรู้หรือไม่ว่าเห็นเป็นบุญไม่ได้เพราะเห็นเป็นผลของบุญ
แต่ละ1ชาติเลือกภพภูมิไม่ได้ตายแล้วเกิดทันทีเปลี่ยนภพเร็วแบบกะพริบตาคือแบบนี้ ปฏิสนธิ...............จุติ
https://youtu.be/b5SB4Pyqik4