วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 01:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2021, 17:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ค. 2020, 07:10
โพสต์: 456

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
กิเลสแปลว่าไม่รู้
ทุกคนไม่รู้สึกตัวว่ามีไม่รู้
คือทุกคนไม่รู้สึกตัวว่ามีกิเลส
พืชเชื้อของกิเลสนอนอยู่ในจิตตน
รอไหลออกมาตอนตื่นลืมตาเห็นแล้วไม่รู้
ไม่รู้ทุกอย่างที่มีเพราะไม่ได้กำลังฟังคำสอนอยู่แปลว่า
ไม่ว่าจะคิดพูดทำอะไรที่ไม่พึ่งการฟังคำสอนก็ทำตามกิเลสพาคิด
ขณะนี้ทุกคนกำลังจำความจำไม่ใช่ปัญญาไม่ใช่สติไม่ใช่จิตไม่ใช่ความรู้สึกไม่ใช่กิเลส
จำเป็นจำดับทันทีและคำสอนของพระพุทธเจ้าแบ่งได้โดยละเอียดตามอภิธรรม4ประการ
อภิธรรมแบ่งเป็นธรรม4แบบคือ
1.จิต(วิญญาณขันธ์มีจิตเกิด6ทางเป็นผลเกิดจากกรรมเก่าที่ส่งกิเลสออกมาผลิตกรรมใหม่)
2.เจตสิกมี3ขันธ์(เวทนาขันธ์=ความรู้สึก,สัญญาขันธ์=ความจำ,สังขารขันธ์=ปรุงแต่งกรรมดี-ชั่ว)
3.รูป(รูปขันธ์)เป็นธาตุที่ไม่ใช่สภาพรู้มีอายุยืนกว่าจิตดังนั้นเมื่อจิตขณะก่อนดับไปยังมีรูปเก่าที่ยังไม่ดับอยู่
4.นิพพานไม่มีสภาพรู้อะไรเลยเหมือนหลับสนิทและไม่มีจิตเจตสิกรูปในนิพพาน=ขณะนี้นิพพานไม่ปรากฏ
เวลาศึกษาพระธรรมต้องแยกประเภทให้ถูกถ้าแยกผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิทันทีคือเกิดอกุศลจิตก็เป็นบาปคือชั่ว
ความจำทำหน้าที่จำทุกอย่างที่ปรากฏเป็นเจตสิกประเภทสัญญาขันธ์ทำหน้าที่2อย่างคือ1.จำถูก 2.จำผิด
ปัญญาเป็นเจตสิกประเภทเดียวที่ทำหน้าที่ดับกิเลสทันทีที่ฟังคำสอนเข้าใจถูกเป็นกุศลที่ทำให้ถึงนิพพาน
สติเป็นเจตสิกประเภทระลึกตรงตามคำสอนได้ขณะกำลังฟังคำสอนคือชี้นำทางให้ปัญญาเกิดแทนกิเลส
นิพพานไม่มีการเกิดดับจึงไม่ปรากฏนิมิตให้รู้ก่อนถึงแปลว่านิพพานดับกิเลสถึงอรหัตตผลดับอวิชชาหมด
https://youtu.be/K-0ALvoBFh4
:b16:
:b20: :b20:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร