ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ปัญญาแตกฉานในธรรม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=61243 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Rosarina [ 01 พ.ย. 2021, 11:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | ปัญญาแตกฉานในธรรม |
![]() ถ้าไม่มีความรู้ในสิ่งนั้นมาก่อนก็จะต้องศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจโดยรอบรู้ก่อน เพราะเกิดเป็นคนถูกอบรมสั่งสอนให้เชื่อให้ทำตามถูกกำหนดแม้ไม่อยากทำ เวลาเรียนหนังสือคุณครูก็จะให้การบ้านกลับไปทำบางคนไม่ชอบทำก็ลอกเอา นั่นเป็นปกติวิสัยปกติอุปนิสัยความเคยชินจะขยันหรือขี้เกียจของความเป็นมนุษย์ ![]() เมื่อมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ความจริงของโลกตามความเป็นจริงของสิ่งนั้นที่เป็นหนึ่งเดียว หมายถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่งนั้นไม่เที่ยงไม่ยั่งยืนรู้ได้ยากต้องอาศัยฟังยาวนาน เพราะต้องคิดตามตรงทีละคำรอบรู้ความหมายตรงคำนั้นไม่คิดต่อเองเพิ่มเติมลงในคำนั้น แปลว่าฟังคำไหนเข้าใจคำนั้นตรงคำจบตรงนั้นเพื่อไม่ลังเลฟังคำต่อต่อไปให้ทันทุกคำทันที ![]() เพราะปาฏิหาริย์ของคำจริงตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วนั้นนำทางให้ผู้ฟังบรรลุธรรมทุกขั้น คืออนุสาสนีปาฏิหาริย์แปลว่าความอัศจรรย์ของพระพุทธพจน์ฟังเข้าใจขณะนั้นดับมิจฉาทิฏฐิทันที ไม่ได้มีตัวตนปลีกวิเวกออกจากการฟังเพื่อไปนั่งเงียบๆคนเดียวโดยคิดว่าคิดเอาเองจะเกิดปัญญาเองได้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงเพื่อมาเปล่งพระสุรเสียงเทศนาธรรมเพื่อให้สาวกฟังไม่ใช่ไปคิดทำตามใจชอบ ![]() การจะมีอัธยาศัยอย่างไรนั้นเป็นการสะสมบ่มเพาะอุปนิสัยมานับชาติไม่่่่่ถ้วนคือเข้าใจธรรมชาติธรรมดามั๊ย เอาตรงตรงเลยนะสันดานตัวเองเป็นอย่างไรมีตัวเองนั่นแหละเป็นพยานรู้การกระทำทางกายวาจาใจตนเอง พระพุทธเจ้าไม่ห้ามการกระทำของใครทั้งสิ้นแต่ทรงเทศนาธรรมได้เฉพาะผู้ที่ต้องการจะฟังเท่านั้นเราฟังมั๊ย สาวกที่ฟังพระพุทธพจน์มีสติปัญญาเข้าใจไม่เท่ากันแน่นอนหลังฟังจบต่างแยกย้ายไปทำตามอัธยาศัยนะคะ ![]() ไม่มีใครฟังได้24ชม.ทุกวันโดยไม่หลับไม่นอนไม่ทำอะไรแต่การได้อบรมจิตให้ปรุงแต่งรู้ตรงคำจากการฟัง และไม่ได้ฟังคำของคนอื่นแต่เป็นการฟังคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าใจในภาษาชาติที่ตัวเองเกิดเพื่อ รู้ลักษณะตรงคำที่เข้าใจความหมายนั้นทันทีไม่มีแปล2แง่3ง่ามให้คิดเเรื่องอื่นไปด้วยในขณะที่กำลังฟังคำนั้น กว่าจะรู้เพิ่มขึ้นคือรู้มากเกิดจากฟังคำเดิมซ้ำๆบ่อยมากเป็นพหูสูตคิดจำคำถูกตรงตามคำสอนได้ตามเป็นจริง ![]() ปกติเข้าห้องเรียนเรียนวิชาอะไรก็คือฟังคุณครูสอนตามชั่วโมงเรียนทุุุุุุุุุุุุุุุุุกวันตามปกตินับชั่วโมงเรียนใช่มั๊ยคะ แต่ความจริงตรงตามความเป็นจริงของสิ่งนั้นตามพระพุทธพจน์มีให้ศึกษาเรียนรู้จากการฟังได้ตลอดชีวิตค่ะ เพราะความจริงที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงรู้ได้ตรงปัจจุบันเท่านั้นอย่่่างอื่นเป็นเท็จหมดทุกกาลทุกสถานที่ค่ะ แปลว่าความจริงมีในขณะนี้แล้วไม่ฟังเวลานี้ก็ไม่สามารถรู้ความจริงอะไรได้เลยคือเวลาก็เท็จมีแต่สัจจะที่จริง https://youtu.be/Ara63UJZDb4 ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |