| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| พระพุทธศาสนาสอนความจริงไม่ใช่ความเชื่อ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=61246 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | Rosarina [ 02 พ.ย. 2021, 07:47 ] |
| หัวข้อกระทู้: | พระพุทธศาสนาสอนความจริงไม่ใช่ความเชื่อ |
พระ แปลว่า ผู้ประเสริฐ พุทธ แปลว่า ผู้รู้ ตื่น เบิกบาน ศาสนา แปลว่า คำสอน ศาสดา แปลว่า เจ้าของคำสอน ศาสนาพุทธ=คำสอนผู้รู้ตื่นเบิกบาน ศาสดายกคำสอนแทนพระองค์ดังนั้นศาสดา=ศาสนา(คำสอน=พระธรรมและพระวินัย) พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นไม่ใช่ศาสนวัตถุไม่ใช่พิธีกรรมและไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน คนอื่นที่มาขอบวชคือเข้าใจคำสอนต้องการสละสิ่งที่ชาวบ้านทำ เพื่อมาศึกษาและประพฤติตนให้ถูกต้องตามพระพุทธเจ้าเท่านั้น การบวชมาหาเงินทองแจกทานก่อสร้างวัตถุทำไม่ได้มันบาป ถ้ายังชอบหาเงินใช้เงินก็ไม่บวชก็ศึกษาและทำตามคำสอนได้ เป็นชาวบ้านไม่มีสิกขาบทคือข้อห้ามทำผิดด้วยกำกับเหมือนบวช สิกขาบทเกิดจานปุถชนมาขอบวชแล้วทำผิดจึงบัญญัติไว้ให้รู้ว่ากิเลสเพิ่มแล้ว ต้องปลงอาบัติดังนั้นการบวชมีสิกขาบทคือข้อห้ามทำพึงระลึกตามว่าได้มีกิเลสเพิ่มทำตามไม่ได้ลาสิกขาได้ ถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ยังชอบหาเงินใช้เงินก็ลาสิกขาออกไป การคิดว่าห่มผ้าจีวรแล้วได้เงินง่ายคือความชั่วที่ต้องตกนรกเท่านั้น เพราะความจริงในพระพุทธศาสนานั้นคิดเองไม่ได้แม้แต่คำเดียว พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกที่เป็นขันธ์ที่แตกดับเสื่อมสลายทุกเวลา โลกที่ยังติดข้องใน31ภพภูมิโดยขาดการฟังพระธรรมเป็นโรคไม่รู้อะไรทั้งนั้น มีแต่ความต้องการอยากได้ไม่สิ้นสุด ยังพอใจติดข้องใน31ภพภูมิเพราะยังขาดปัญญา โลก แปลว่า สิ่งที่เกิดดับ ขันธ์ แปลว่า เกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนมีแต่ธรรม อัตตาตัวตนไม่มีอยู่จริงเพราะเป็นอุปาทานขันธ์5ยึดของไม่มีเป็นเรามีกิเลสตัณหาอวิชชา นิมิตภพภูมิ=กิเลส นิมิต (มาจากบาลี) นิมิตฺต (การกำหนด, เครื่องหมาย) (แปลว่า) เครื่องหมายให้เกิดกิเลส หมายถึง ส่วนหยาบที่เป็นรูปร่าง สัณฐาน ความหมายที่จิตคิดถึงสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เช่น เห็นเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เป็นโต๊ะ เก้าอี้ ได้ยินเสียงผู้หญิง หรือผู้ชาย ได้กลิ่นดอกไม้ ลิ้มรสเป็ดไก่ ถูกต้องสัมผัสสำลี คิดนึกเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นไปด้วยอกุศลจิต เป็นการยึดนิมิต (กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาดับกิเลสได้เกิดขณะกำลังฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ=ปริยัติ) ขณะที่รู้รูปร่างสัณฐาน ความหมายต่างๆ ด้วยกุศลจิต ขณะนั้นไม่ใช่เป็นการยึดนิมิต แต่เป็นบัญญัติอารมณ์ของกุศลจิต เท่านั้น อ้างอิงจากมศพ. http://www.dhammahome.com สิ่งที่มีจริง เรียกว่า ธรรม ธรรมทุกชนิดเกิดโดยอนัตตา ไม่มีใครทำหรือสร้างขึ้นแต่เกิดแล้ว ดับหายไปทันทีว่างเปล่าจากสิ่งนั้นทันทีเอากลับมารู้ไม่ได้ แปลว่า ไม่มีเรา มีแต่ความว่างเปล่ามืดๆแบบหลับสนิทไม่รู้อารมณ์โลก ขณะนี้ที่รู้อารมณ์ว่ามีโลกทางตาหูจมูกลิ้นกายใจคืออารมณ์ไม่รู้ความจริงของ1ขณะจิต จะรู้จักความจริงนี้ได้จะต้องเริ่มศึกษาเรียนรู้ความจริงนี้จากฟังผู้รู้ที่อธิบายทีละคำให้รู้เรื่องตามเป็นจริงค่ะ https://youtu.be/uPO25il3kzM
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|