อะแฮ่ม...อิอิ
แค่ชื่อหัวข้อก็หนาวแล้ว
ต้องสำรวมกายวาจาใจในการคิดพูดทำระหว่างฟังด้วยนะคลิปนี้
เพราะความจริงรู้ได้ยากมากฟังทั้งชาติก็อาจจะหาความจริงไม่เจอเลยก็ได้
ทุกคำในพระไตรปิฏกสำหรับฟังเพื่อตามหาอวิชชาตัวจริงที่กำลังมีอยู่ต่อหน้าต่อตา
จะไปถามใครเพราะใครใครก็ไม่มีใครรู้ถ้าไม่ได้ฟังพระสัทธรรมคือธรรมของผู้สงบจากกิเลสตัณหาอวิชชา
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงทุกอย่างในจักรวาลนี้ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นทั้งโลกนี้และโลกหน้าว่าไม่มีเรา
ความจริงที่ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฏกสำหรับฟังเพื่อเข้าใจธรรม(สิ่งที่มีจริง)ที่กำลังมีตรงตามเหตุตามปัจจัย
ไม่ได้ทำเข้าใจหรือเปล่าความจริงที่กำลังมีไม่มีใครทำได้เพราะทุกคำเป็นยาที่พระพุทธเจ้าปรุงรักษาโรคไม่รู้
ยังไม่ฟังแสดงว่ายังไม่ไปหาหมอเลยยังไม่ได้คุยได้ถามเลยว่าคุณหมอคะหนูนอนไม่ค่อยจะหลับไม่รู้ว่าเป็นไร
คำจริงของพระพุทธเจ้าสำหรับฟังเพื่อเข้าใจถูกโรคที่กำลังเป็นกำลังมีสัญญาวิปลาสกำลังจำผิดคลาดเคลื่อน
ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏจึงทำให้มีจิตวิปลาสตามมาเมื่อจิตวิปลาสเลยทำให้ทิฏฐิวิปลาสไป
ตอนนี้กำลังมีวิปลาส3อยู่ครบแปลว่ากำลังมีกิเลสตัณหาอวิชชาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังมีอุปาทานขันธ์5จำผิด
ว่าเรามีตัวตนทำอะไรได้อยู่ไม่เคยฟังไงล่ะว่าพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธรรมที่กำลังมีจริงๆไม่ใช่ตัวตน
ได้ยินได้ฟังอะไรต้องคิดดีดีคิดละเอียดคิดตรงความหมายทุกคำเข้าใจให้ตรงกับความจริงที่กำลังมีตรงหน้า
เพราะถ้าฟังไม่รู้เรื่องแสดงว่าแค่ไปหาหมอฟังคนอื่นคุยกับหมอว่ากินยาแล้วเป็นยังไงแต่ตัวเองยังไม่ตรวจโรค
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับอ่านแล้วเอาไปท่องจำคำไปท่องชื่อยากันทำไมเหรอทำไมไม่ฟังซะก่อน
สติแปลว่าต้องกำลังระลึกตามเสียงคำของพระสัทธรรมจากคนอื่นพูดให้ได้ยินแล้วเงี่ยหูตั้งใจฟังเพื่อคิดตาม
https://youtu.be/CTeKEAJa7k0
