วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 16:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2021, 07:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำใจให้เป็นอุเบกขา คือวางเฉยกับสิ่งที่ทำให้เฮาเกิดทุกข์ เขาดีกะดีไปอนุโมทนานำ เขาชั่วก็เรื่องของเขาบอกได้ก็ได้ บอกบ่ได้ก็ปล่อย อย่าไปว่าเขาไม่ดี ว่าคนนั้นคนนี้ไม่ดี มันเหมือนแสดงความมืดบอดความบ่ดีของตัวเองออกมา ถ้าเรายังไปว่าให้คนอื่นไม่ดี เราจะไปสอนคนให้ดี ใครละจะไปเชื่อเรา มันก็ยากนะ นี้ละเฮ็ดจังได๋ก็ได้จังสั้นละพิจารณาเบิ่ง..อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ผู้มีภูมิอรรถภูมิธรรมให้ดูเอาใช้ปัญญาเอา อย่าคอยให้แต่ท่านจ้ำจี้จ้ำไช..อย่าใกล้เกลือกินด่าง มันสิเสียประโยชน์เปล่า

โอวาทธรรม..หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต






เป็นบาปก็ว่าเป็นบาป (การดื่มเหล้า)

"ในข้อห้า สุรา เป็นของมึนเมา พอพูดถึงในแง่นี้ก็เคยมีคนมาถาม ตอนไปฉันที่กระทรวงศึกษาธิการ เขามาถาม ผู้ถามก็เป็นนักสุราคอสุราทีเดียว ว่าการดื่มสุรานี้ ท่านบอกว่าเป็นโทษ เราจะดื่มไม่ให้เกิดความมึนเมา ดื่มพอดิบพอดี พอเข้าสังคมได้ อันนี้จะเป็นบาปไหม ว่างั้น เพราะเราไม่ดื่มให้มึนเมา จำเป็นก็ต้องได้ตอบ ขนาดไหนที่ว่าเห็นว่าพอดี ที่เข้าสังคมได้พอดี ไม่ถึงกับมึนเมา

หากว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นของดี ไม่เสียอะไรแล้ว ก็ขอเชิญไปหาสุรามาให้หลวงตาบัวดื่มเดี๋ยวนี้ เอาให้ขนาดพอดีกับเข้าสังคม เวลานี้เรากำลังอยู่ในสังคม พวกท่านทั้งหลายจะเห็นด้วยไหม จะพอใจไปหาสุรามาให้หลวงตาบัวดื่มไหม ดื่มเพื่อสังคมเวลานี้ อย่าเอาขนาดที่มันเป็นบาป ให้เอาขนาดที่ท่านทั้งหลายเห็นดีว่าเหมาะกับสังคม

เขาก็บอกว่าทำไม่ได้ เมื่อทำไม่ได้แล้ว หลวงตาบัวก็เป็นคน ท่านทั้งหลายก็เป็นคน ข้อบัญญัติบันยังทั้งหมดพระพุทธเจ้าบัญญัติสอนคน สิ่งที่ว่าเป็นบาปก็ว่าเป็นบาป แล้วใครจะเหนือโลกไปไม่เป็นบาป ฆราวาสก็ต้องเป็นบาป พระก็ต้องเป็นบาป เมื่อพระเห็นว่าไม่งามแล้วฆราวาสก็ไม่งามเหมือนกัน สิ่งที่ไม่งามก็คือสิ่งที่ผิด จึงไม่ควรจะไปกล้าหาญในสิ่งเช่นนั้น ซึ่งนักปราชญ์ทั้งหลายท่านตำหนิ ท่านกลัวกัน"

คำสอน หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน







...หรือจะนับลมหายใจก็ได้ มีหลายวิธีด้วยกัน อย่างเช่น นับลมหายใจเข้าหนึ่งออกหนึ่ง เข้าสองออกสอง ถึงห้า-ห้า ถ้าหลงในระหว่างการนับต้องเริ่มต้นใหม่ ถ้านับหนึ่ง-หนึ่ง สอง-สอง ถึงห้า-ห้า แต่ไม่เผลอเลย เริ่มต้นใหม่นับ หนึ่ง-หนึ่ง สอง-สอง ถึงหก-หก ถ้าเผลอต้องเริ่มต้นใหม่ นับหนึ่งถึงห้า หนึ่งถึงหก ถ้าจิตไม่เผลอหนึ่งถึงห้า หนึ่งถึงหก หนึ่งถึงเจ็ด หนึ่งถึงแปด หนึ่งถึงเก้า หนึ่งถึงสิบ เรียกว่า หนึ่งรอบ

การอยู่กับลมหายใจมีทางเลือก เลือกจุดกำหนดว่ากำหนดตรงจุดใดจุดหนึ่ง จะเป็นปลายจมูก จะเป็นที่คอ ที่หน้าอก ที่ท้อง ก็ได้ทั้งนั้น หรือจะกำหนดกายตั้งแต่ศีรษะลงไปถึงเท้า หายใจเข้าหายใจออกมีความรู้สึกในกาย ไม่ได้กำหนดจุดใดจุดหนึ่ง จะกำหนดการสัมผัสของลม สังเกตความยาวความสั้น ความหยาบความละเอียดของลมเข้าลมออก ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างจิตตัวรู้กับลมสิ่งรู้...

พระอาจารย์ชยสาโร
นำสมาธิภาวนา ในวาระปฏิบัติธรรมครู
วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๓ ณ บ้านบุญ ปากช่อง นครราชสีมา








.อย่าประมาท ให้รีบเร่งสร้างทรัพย์ภายใน.

…ความเจ็บไข้ได้ป่วยก็ดี
ความตายก็ดีนี้..” มันไม่มีตารางเวลา “

.ไม่เหมือนกับความแก่
ความแก่นี่ยังมีตารางเวลาว่า
ต้องอายุเท่านั้นเท่านี้ถึงจะแก่

.แต่ความเจ็บไข้ได้ป่วย..ความตายนี้
“ มันจะมาในอายุวัยใดก็ได้ “

.แล้วเวลามาแล้วนี่ โอกาสที่เรา
จะได้มาสร้างทรัพย์ภายในต่างๆ
ให้กับเรานี้..ก็จะไม่มี จะหมดไป

.แล้วเวลาเราไป
“ เราก็จะ..ไปแบบลำบาก “.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓






คนที่มี “สัจจะ”มักทำอะไรแล้ว
ประสบความสำเร็จ
เพราะสัจจะเป็นบารมีอย่างหนึ่ง
ที่ส่งผลให้กำลังใจเข้มแข็งมากขึ้น

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ






"..ผู้ไม่มีแผลในฝ่ามือ.. ถึงจะถือยาพิษ..
จับยาพิษ.. แต่ยาพิษก็ไม่อาจซึมซาบไป
ให้โทษ แก่ฝ่ามือที่ไม่มีแผลได้เลยฉันใด

..บาปหรือตำหนิ..ย่อมไม่ตกแก่ผู้พ้นจาก
บาปแล้วฉันนั้น.."

#หลวงปู่มั่น_ภูริทตฺโต






“ผู้ที่มีจิตใจผ่องใส สะอาด ไม่มีโทษ
จะมีหน้าตาผ่องใส ไม่เศร้าหมอง
ไม่ขุ่นมัว เป็นที่น่าคบค้าสมาคมด้วย
บุคลิกลักษณะนั้น บ่งบอกถึงความสุขของใจ”

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร






"อะไรที่เราว่า เป็นนั้นเป็นนี้นั้น
ไม่เป็นอยู่ได้ตลอดไป เพราะว่าเกิดมาแล้ว
มีความเจริญขึ้น เมื่อเจริญแล้วก็เสื่อมไป
เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็นอยู่อย่างนี้
ตลอดกัป ตลอดกัลป์

จิตใจของผู้มีความลุ่มหลงมัวเมา
ไม่ตั้งมั่นอยู่ในธรรมะปฏิบัติ
มีแต่ความไหวหวั่นพรั่นพรึง
ก็หวังแต่ส่วนที่ดี ในโลกธรรมนั้น
ก็มีส่วนดีอยู่ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่ไม่ดีอยู่ครึ่งหนึ่ง
ต้องรู้เท่าทัน ใจก็เป็นกลาง ไม่ทุกข์ร้อน
กับสิ่งทั้งหลาย"

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร







“รักได้ ชอบได้ อย่าไปหวังอะไรไปมากมายกว่านี้
มีหวังได้ แต่อย่าหวังมากมาย จนเกินไป เพราะว่า
สุดท้ายแล้ว มนุษย์ ก็ย่อมเป็นมนุษย์วันยังค่ำ
ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ดี เพราะมันคือความจริง
ความจริง ก็ย่อมคือความจริง ไปวันยังค่ำ สุดท้าย
ความจริง ก็ย่อมปรากฏเสมอ ไม่วันใดหรือวันหนึ่ง”

ท่านพุทธทาสภิกขุ






#เวลาภาวนาต้องไม่มีตัวไม่มีตน

ไม่มีอะไร เป็นอากาศว่างไปหมด
แต่ความรู้ไม่ว่าง

ให้ย้อนเข้ามาพิจารณาธรรมะว่า เราตกอยู่ในกองทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

เราเป็นผู้รู้ผู้เดียว
แม้ที่สุดก็ไม่มีเราในรู้นั้น

ไม่ยึดมั่นยึดถืออะไรอีก
วางหมด มันเบาไม่หนักแล้ว

#หลวงปู่ท่อน #ญาณธโร








#เรื่องเล่าเรื่องที่11 ...หลวงปู่ลี กุสลธโร...

ปรารถนาพุทธภูมิ

มีลูกศิษย์คนหนึ่ง ขับรถพาหลวงปู่ลี ขึ้นไปชมถ้ำขาม ซึ่งอยู่ในวัดภูผาแดง พอกลับลงมาระหว่างทาง ลูกศิษย์จึงได้กราบเรียนถามหลวงปู่ด้วยความไม่ประสา ว่า

ลูกศิษย์ : หลวงปู่ครับ หลวงปู่ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ บ้างหรือครับ?

หลวงปู่ลี : รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
.............
(จากหนังสือที่ระลึก "๙๐ ปีเศรษฐีธรรม")






#ถ้าหาความสงบแล้วล่ะก็

โห...มันไม่อยู่กับพุทโธก็มัดมันเข้าไป บริกรรมถี่ๆ เข้า ไม่ให้อะไรเข้าแทรก อย่างนั้นเลยนะ

ครูบาอาจารย์ท่านฝึกมา ถ้าพิจารณาก็ให้พิจารณาไปตามเจ้าของนี่ อย่างคนตายเขาหามเข้ากองไฟนี่ ไฟไหม้เขาทำไมไม่เจ็บ คิดดู อ่ะ...เลิกกัน

หลวงปู่ลี กุสลธโร






ตั้งใจดูสิ โลกนี้ว่าไม่อยู่ ถึงจะดีก็ไม่อยู่ ถึงจะชั่วก็ไม่อยู่ มันต้องเห็นธรรมเป็นแน่ มันจะผุดขึ้นมาในจิตเอง เหมือนชาวนาเขาไปปลูกต้นไม้ หมากผลมันก็เกิดขึ้นเอง

เดินจงกรมภาวนาหรือนั่งสมาธิภาวนาบ่อย ๆ ก็เกิดความเคยชินขึ้นเองเหมือนกัน เป็นธรรมดามันก็เริ่มจากเล็กไปหาใหญ่ เริ่มจากยากไปหาง่าย

เวลานี้พระกรรมฐานเหมือนกรรมฐานนกเอี้ยง ร่าเริงเหมือนนกเอี้ยง เอาแต่เรื่องทางโลกมาคุยกัน

........................................................................
#หลวงปู่ลี #กุสลธโร
#วัดป่าภูผาแดง
อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
คัดจากหนังสือ “ธรรมลี เศรษฐีธรรม” หลวงปู่ลี กุสลธโร
พระอริยเจ้าผู้เป็นดั่งเศรษฐีธรรม โดยพระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร







#พิจารณาสิ

คนอื่นเขาลำบาก ชาวไร่ชาวนา เขาทำนาจนหัวสั่นหัวคลอน เขาลำบากขนาดไหน นี่นั่งภาวนาก็นั่งอยู่ในมุ้ง ดูบ่นสิน่ะว่ายาก

มันหาความสุขน่ะมันยากจริงๆนะโลกมนุษย์ แก้หัวใจตนเองออกดูสิ ตรงไหนมันขัดมันข้อง ปลดออกๆ

พระพุทธเจ้าให้เจริญสติ ถ้าสติกลายเป็นมหาสติ มันจะเห็นหรอก นี่ไม่ทำเอา มันเลยไม่เกิดอะไรล่ะ

คิดน่ะ คิดเรื่องคนอื่นโน่น หัวใจตัวเองน่ะไม่ดู คนที่เขาภาวนา เขาไม่ได้สนใจนะ ท่านหลบไปและดูงานตัวเอง ปากมีแต่ไม่พูด

หากแก้โลกธรรมแปดออกจากใจแล้ว มันไม่หวั่นไหวอะไรหรอก นี่ใจเรามันวิ่งตามนี่แหละ สรรเสริญ นินทา ถ้าตัดตัวนี้ออกแล้วมันสบายนะ

นี่มันไม่ตัด วิ่งตามเขาอยู่อย่างนั้น แม้มาบวชในศาสนา แต่หัวใจก็ยังอยู่กับเรื่องโลกๆ การห่มผ้าเหลือง มันต่างที่การปฏิบัติ
.....................................................
#หลวงปู่ลี #กุสลธโร
#วัดป่าภูผาแดง
อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
คัดจากหนังสือ เศรษฐีธรรม



" ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่
จงเป็นผู้ฉลาดสำนึกไว้ให้
ให้มั่นคงแน่วแน่ ว่าความสำเร็จ
ยิ่งใหญ่กว่าในการเกิดมา
เป็นคนคือปฏิบัติได้ผลใน
พระพุทธศาสนา เป็นผลที่
จำปรากฏแก่จิตใจตนเป็นอันดับแรก
และจักแผ่ออกไปถึงผู้อื่นทั้งหลายได้ด้วย

ผลการปฏิบัติพระพุทธศาสนา
ที่ปรากฏชัดเจนในใจผู้ปฏิบัตินั้น
มีความสำคัญสูงสุด
ถ้าหยุดปฏิบัติพระพุทธศาสนาเมื่อไร
ก็อย่ามั่นใจว่าจะเป็นคนดี
เป็นพระดี เป็นเณรดี แต่จงมั่นใจ
ว่าถ้าเป็นคนดีไม่ได้
เป็นพระดีไม่ได้ เป็นเณรดีไม่ได้
ชีวิตก็มีความหมายไม่ได้
เป็นชีวิตที่เสียเปล่า อย่าทำชีวิต
อันมีค่านี้ให้เสียเปล่า

การได้เกิดเป็นมนุษย์นี้แสนยาก
และการได้พบพระศาสนาที่สุดประเสริฐคือพระพุทธศาสนาก็ยิ่งแสนยาก
จงภูมิใจให้อย่างยิ่งทุกเวลาที่
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาแล้ว
อย่าให้เสียชาติเปล่า "

--- แสงส่องใจ วิสาขบูชา ๒๕๓๘
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร








“ กิเลสตัณหาก็เป็นธรรม
ธรรมทั้งนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น
เป็นธรรมทั้งนั้น เรียกว่า
ธรรม คือธรรมเป็น
ธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้ว
ดับไป เพ่งเข้าหาจิต เพ่ง
เข้าหาจิตดูเข้าไปหาจิต
หยั่งเข้าหาจิต

กิเลสตัณหามันเป็น
เหมือนกับเปลือกเนี่ย
เปลือกไม้นั่นน่ะ เหมือน
กับเปลือกผลไม้อย่างงั้น
ล่ะ เข้าไปหาถึงเนื้อแล้ว
เปลือกไม่มี เข้าไปหาถึง
แก่นแล้วกระพี้ไม่มี

เข้าไปหาจิตจริงๆ แล้ว
เรื่องขี้หมูขี้หมาไม่มีหรอก
เรื่องไฟเผาหัวนี่ไม่มี
ลูบๆ คลำๆ ก็ลูบๆ คลำๆ
ใครๆ ก็ว่า เหมือนกับเอา
เชื้อไปใส่ไฟ เข้าไปหาจุด
ที่ไฟมันเกิด

เหมือนสวิตซ์ไฟอย่างเนี้ย
ดับที่ถูกถูกที่จุดมันเนี่ย
นะ กี่ดวงกี่ดวงดับทันที
ถ้าหากว่าดับไม่ถูกจุด
นั่นน่ะ ตายเพราะไฟ
นั่นล่ะนี่ ธรรมทั้งหลาย
เกิดจากจิต..”

โอวาทธรรม
หลวงปู่แบน ธนากโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 34 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร