วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 00:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2021, 06:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"#เปรตกินส่วนต่างวัด"

บุญมีจริงบาปก็มีจริง สองร้อยกว่าปีมาแล้วยังเป็นเปรตอยู่เลย

ปกติหลวงปู่จะนั่งสมาธิทุกวัน วันหนึ่ง หลวงปู่ก็นั่งสมาธิจนเกือบจะตีหนึ่ง ได้ยินเสียงเหมือนเสียงระเบิดดังตึ้ม!!! เห็นแสงวูบขึ้นไปสูงกว่าตึก สว.ห้าชั้น วูบขึ้นไปสว่างจ้า จิตของเราก็จดจ้องไป

ก็เห็นคนสองคนยืนเคียงคู่กันตรงไปไฟวูบขึ้นไป แล้วคนสองคนก็ขยายตัวออก ยืนเคียงไหล่กัน สูงขึ้นไปเท่ากับตึก สว.ไฟก็พุ่งออกตามร่างกาย ลามไปตามเนื้อตามตัว

หลวงปู่คิดสงสารก็เลยถามไปว่า ..."กรรมอะไรจึงได้มาเป็นอย่างนี้"

เขาก็เลยเล่าให้ฟังว่า... ในอดีตชาติ เขาเป็นทายกวัดในคราวที่วัดบวรสร้างโบสถ์ใหม่ ๆ เขาไปสั่งกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์ เขาตีราคากัน แผ่นละ ๑๒ บาท ทางวัดจ่าย ๑๒ บาท แต่เขาเอาไปจ่ายค่ากระเบื้อง ๖ บาท อีก ๖ บาทแบ่งกันใช้สองคน

หลวงปู่จึงว่า ... โอ! เป็นแบบนี้มันแก้กันไม่ได้หรอก ก็ต้องใช้กรรมไป เขาก็ร้องไห้ครวญครางอยู่ที่วัดบวรนี่ล่ะ

หลวงปู่จึงมาพิจารณา เอาของสงฆ์มานี่มันบาปจริง อย่างที่คนโบราณเขาพูด ไม่ใช่ว่าเขาพูดหลอกหลวง มันบาปจริง ๆ เป็นเปรตจริง ๆ สองร้อยกว่าปีมาแล้วยังเป็นเปรตอยู่เลย

เพราะฉะนั้น ให้พวกเราเข้าใจว่า บาปมีอยู่จริง ไม่ใช่มีแต่บุญนะ บุญมีจริง บาปก็มีจริง สิ่งไหนที่ไม่ถูกต้องก็คือสิ่งที่ผิดศีลห้า พวกเราอุบาสกอุบาสิกาผู้ถือศีลห้าศีลแปด ก็คือผู้ปลดเปลื้องจากการกระทำความชั่ว สิ่งไหนที่เป็นของดี เราก็ปฏิบัติ

เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้ ก็ไม่เป็นบาปเป็นกรรม สิ่งที่เป็นบาปเป็นกรรมก็มาจากความโลภ ความโกรธ ความหลง เมื่อเป็นบาปเป็นกรรมแล้วมันก็แก้กันไม่ได้ อย่างนี้ล่ะ อยู่เป็นเปรตมาเป็นร้อยปี ที่เป็นหมื่นปีพันปีก็มี...

พวกเราเมื่อรู้แล้วก็ให้มีความเกรงกลัวละอายต่อบาป มีหิริ โอตตัปปะ ให้เกรงกลัวต่อความชั่วทั้งปวงในจิตในใจตลอดไป

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่ไม อินทสิริ






ถ้าไม่มีอะไรเป็นทาน ก็สละ ความโลภ ความโกรธ ความหลง นั่นแหละ เป็นทาน

คติธรรมคำสอน หลวงปู่อว้าน เขมโก







#เจ้ากรรมนายเวร

"เจ้ากรรมนายเวรมีจริงหรือไม่ เจ้ากรรมนายเวรก็หมายถึงบุคคลกระทำกรรมนั้นๆ ไว้แล้ว มอบให้เจ้ากรรมนายเวรนั้นเป็นผู้รักษา และประสิทธิ์ประสาทให้แก่ผู้กระทำหรือผู้เป็นกรรมเป็นเวรต่อกันอีกทีหนึ่ง จึงจะเรียกว่าเจ้ากรรมนายเวร

กรรมเวรเกิดขึ้นจากจิต เป็นนามธรรม เมื่อจิตไปสวดเอารูปกาย ซึ่งเป็นวิบากของกรรมเป็นตัวตน กรรมจะต้องตามมาใช้กรรมนั้นอีก จิตผู้สร้างกรรมนั้น ย่อมจะรับผลกรรมนั้นยิ่งทวีคูณ เมื่อกายแตกดับแล้ว จิตจะต้องเป็นผู้รับผลกรรมนั้นแต่ผู้เดียว และยังจะต้องได้รับต่อไปอีกหลายภพหลายชาติอีกด้วย"

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี







…ทุกข์อยู่ในใจเรา
สมุทัยอยู่ในใจเรา
นิโรธอยู่ในใจเรา
มรรคอยู่ในใจเรา

.ถ้าอยากจะหลุดพ้นจากกองทุกข์
“ ต้องดึงใจให้กลับเข้ามาข้างใน “

.ไม่ให้ออกไปทางตาหูจมูกลิ้นกาย
ถ้าออกไปทางตาหูจมูกลิ้นกาย
“ จะไม่พบอริยสัจ ๔ “.
…………………………………………….
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







“กรรมดีหรือชั่ว ถ้าได้ทำลงไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่น จะไม่รู้เรื่องที่เราทำ
ตัวเรานั่นแหละ รู้ตัวเองดีที่สุด

ถึงจะโกหกคนทั้งโลกได้
แต่เราจะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเรา พูดจริงพูดเท็จได้
แต่จิตไม่เคยบอกเท็จในเรื่องของกรรม

พอตายไปแล้ว ยมบาลไม่ต้องถามให้ยาก
จิตเราที่บันทึกกรรมดีชั่ว จะอธิบายบอกเล่าให้ฟังเอง”

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม







“ เราจะไปเกิดในที่ดี
มันยากแล้ว
บุญมันบ่ถึงเขา
เราต้องทำเอา

เกิดเป็นมนุษย์
เป็นสัตว์อันสูงสุด
ก็เป็นเพราะ
"ปุพเพกะตะปุญญะตา"
บุญหนหลังมา
ติดตามตนให้เกิดเป็น
ผู้สมบูรณ์บริบูรณ์

ครั้นเป็นผู้สมบูรณ์แล้วก็
"อัตตะสัมมาปะณิธิ"
ให้ตั้งตนอยู่ในที่ชอบ
อย่าไปตั้งตนอยู่ในที่ชั่ว

รักษาศีล ให้ทาน
หัดทำสมาธิอย่าให้ขาด.."

อนาลโยวาท
หลวงปู่ขาว อนาลโย






"..ตื่นขึ้นมา..
ให้พิจารณาตัวเองไว้นะ
วันนี้กูจะล้างหน้าศพ
ล้างหน้าแปรงฟัน
ล้างหน้าศพ
เย็นมาอาบนํ้าศพ

บ่อยๆเนืองๆเข้า
ตัวรู้สึกมันจะฝ่อ
มันจะฝ่อ คือ..
ความจริงเข้าไปแล้ว
เอ่อ มันจริงว่ะ

ถ้าไม่อาบสัก ๗ วัน
กลิ่นศพเหม็นแล้ว
อยู่ไม่ได้แล้ว
เข้าใครไม่ได้แล้ว
เข้าสังคมก็ไม้ได้
ไอ้นี้แฮ่ะเหม็นว่ะ
เสร็จเลย

ด้วยเหตุนี้..
เขาจึงว่าบริษัทต่างๆนี่
ยาสีฟันไม่รู้กี่บริษัทแฟ๊บ
มันก็ปรุงแต่งขึ้นมา
หลายบริษัท
สบู่ยิ่งมากมายเลย
มากําจัดไอ้สกปรก
ที่มนุษย์ที่ทํามัน
เกิดขึ้นมาเอง
จะโทษใครไม่ได้

เราเกิดมาก็ออกจาก
มูตรคูถแล้ว ..."

#หลวงพ่อประสิทธิ์ #ถาวโร
#วัดถ้ำยายปริก







"#ถ้าถูกจริตมันก็สงบสบาย"

" .. "อันหนึ่งสมถะ อันหนึ่งวิปัสสนา" มันถูกกับจริตอันใด การภาวนามันสบาย ก็ให้เอาอันนั้น "ถ้ามันถูกกับจริต จิตก็สงบสบายไม่ฟุ้งซ่านไปที่อื่น" จิตรวมอยู่ นั่นแหละมันถูกนิสัย "ครั้นมันไม่ถูกนิสัยแล้ว นึกพุทโธหรืออันใดมันก็ฟุ้งซ่าน" หายใจยาก หายใจฝืดเคือง "หมายความว่ามันไม่ถูกจริตของตน"

"อันใดมันถูกจริตมันก็สบายใจ" ใจสว่าง จิตไม่ฟุ้งซ่าน เบื้องต้นใครเอาอันใด ก็ต้องเอาอันนั้นเสียก่อน "พิจารณาอาการสามสิบสอง นี่เรียกว่าวิปัสสนา" เรียกว่าค้นคว้า "เมื่อเราบริกรรมพุทโธหรืออะไรก็ตาม บริกรรมแล้วมันไม่สงบ" เราก็ต้องค้นคว้าหาอุบาย มันเป็นการอบรมกันมันเป็นเรื่องปัญญา "จิตไม่สงบเราก็ต้องพิจารณาให้มันสงบ"

มันไม่สงบแล้วมันก็ไปที่อื่น "ไปสู่อารมณ์ภายนอกที่อื่น" เราก็ต้องเอามันมา ปลอบโยนมัน "ค้นคว้าให้มันพิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนังไปสุดตลอด" ให้มันครบถึงอาการ ๓๒ ใช้สัญญาค้นไป ค้นไป ไม่ให้มันไปที่อื่น ค้นไป บางทีมันลงความเห็นเรื่องปัญญา เราค้นไป ว่าไป "มันมีความเห็นตามแล้วมันก็สังเวช สลดใจ จิตมันจึงจะสงบลง" .. "

"#อนาลโยวาท"
#หลวงปู่ขาว #อนาลโย







...ให้พากันจดจำเอาอย่างนี้
การภาวนาเป็นของลำบาก
แต่เวลาถึงขั้นที่ดูดดื่มแล้ว
มันไม่ได้คิดนะเวล่ำเวลา
มันดูดดื่มทางอรรถทางธรรม
เพื่อความพ้นทุกข์
แล้วดูดดื่มไปเรื่อย

เดินจงกรมสักเท่าไร
จนจะก้าวขาไม่ออก
มันถึงจะออกจากทางจงกรม
คือมันเพลินในการพิจารณาธรรมะ

ธรรมะนี้เป็นธรรมะอัตโนมัติ
มันหากหมุนเงื่อนนี้ต่อเงื่อนนั้น
เงื่อนนั้นต่อเงื่อนนั้น
อยู่อย่างนั้นละเพื่อแก้กิเลส

หมุนไปหมุนมาแก้ไปแก้มา
กิเลสมันจะมีอำนาจมาจากไหน
มากยิ่งกว่าสติปัญญาไม่ลดละ
มันก็ค่อยหดตัวเข้ามาๆ

ครั้นหดเข้ามาจริงๆ แล้ว
ก็มาอยู่ที่ อวิชฺชาปจฺจยา
ตีไปข้างหลังอวิชชาแตก
ด้วยแล้วนั่นละท่านว่าบรรลุ
หรือตรัสรู้ธรรม บรรลุธรรม
ตรัสรู้ที่ตรงนั้นแหละ...

หลวงตามหาบัว







#อาตมาเคยเห็นชาวบ้านที่เข้าป่า_แล้วถูกเสือถูกช้างฆ่าเอาตาย

นั่นเป็นเพราะอะไรกัน ก่อนออกป่า เขาก็ได้บวงสรวงเทวดา ทำการไล่สิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรออกจากตัว แถมยังขอน้ำมนต์ ลงยันต์ สะเดาะเคราะห์ ไหว้ผีไหว้สางก่อนเข้าไป

#เมื่อเข้าไปแล้ว_อยู่ในป่าก็เที่ยวหาสัตว์_ฆ่าสัตว์_เอามาหุงหากิน

นั่นแทนที่จะเอาเสนียดจัญไรออกจากตัว กลับนำเสนียดจัญไรใส่ตัวเสียอีก ในที่สุดก็ต้องตาย เพราะ เข้าไปเบียดเบียนเขา แล้วอะไรจะช่วยเราได้

#อาตมาเข้าป่าเดินธุดงค์_เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหาออกจากใจ_ไม่ได้ไปเบียดเบียนเขา

สัตว์ร้ายจำพวกเสือ ช้าง งูพิษ ก็ไม่เห็นจะทำอะไร อยู่อย่างสงบ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างไป อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันในป่าเขา เอาธรรมชาติเป็นที่อยู่ เอาธรรมเป็นที่พึ่ง เอาบารมีเป็นที่นำทาง

นอนโคนไม้ ไม่มีหน้าต่าง ประตู ถ้าเขาจะมาทำร้าย อาตมาก็ไม่ว่า ไม่พยาบาท ไม่จองเวร ทำจิตใจสบาย ไม่มีความโลภ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความหลง ไม่มีความรัก แม้แต่ตัวเอง นอกจากความดีมีไว้ประจำตน

#พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย_สอนว่า_ให้ระงับเวรด้วยการไม่จองเวร

ฉันใด ความดีของเราที่ได้กระทำขึ้นไว้ในจิตใจ ก็ย่อมมีบารมีเกื้อกูลรักษา ไม่นำเราไปตกในที่ชั่วหรอก

พระพุทธเจ้าของเราพูดไว้ไม่ผิดหรอก คำสั่งสอนของพระทุกองค์เป็นหนึ่งไม่มีสอง

#หลวงปู่เพ็ง #พุทธธัมโม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร