วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2021, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


…ให้ระลึกถึงเทวทูต
เทวทูต คือ “ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย
ของร่างกาย “

.แล้วเราก็จะได้ปลงได้ว่า
เอ้อ ไปวุ่นวายกับมันมากน้อยเพียงไร
มันก็หนีไม่พ้น ความแก่ ความเจ็บ
ความตายอยู่ดี
“ สู้อย่าไปวุ่นวายกับมันมากมายดีกว่า “.
……………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๒







"..การทำบุญทำทาน
การรักษาศีล
เจริญเมตตาภาวนา
เป็นหลักรักษาใจ

การภาวนาไมใช่ว่า
จะทำวันหนึ่งวันเดียวได้
ต้องอาศัยทำบ่อยๆ
ทำทุกวัน ทุกเวลานาที
ไม่เลือกกาลไม่เลือกเวลา

ขอให้ลูกหลานจงรีบเร่ง
สร้างความดีใส่ตน
อย่าพากันประมาท
เพราะสักวันหนึ่ง
เราต้องจากโลกนี้ไป.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป





“เจโตปริยญาณ”

นั่งภาวนาดูใจเจ้าของนั่นแหล่วดี ดูจิตดูใจให้มันสว่างไสว ไม่มีอารมณ์เศร้าหมองมาพัวพัน นั่งชมดูอารมณ์เจ้าของ...ดีแบบนั้น นั่งลงปั๊บเห็นลูกหลานมาหาไม่ได้แหล่ว

หลวงปู่มั่นตอนอยู่เขาสาริกาแม๊
มีวัดหนึ่งอยู่ข้างล่าง ท่านออกจากหมู่คณะขึ้นไปบนเขา มีหลวงตาองค์หนึ่งอยู่ข้างล่าง หลวงปู่มั่นอยู่ข้างบน พอลงมาบิณฑบาตก็เลยไปถาม...

"หลวงตา! สร้างบ้านสร้างเรือนให้ลูกให้เต้าเสร็จแล้วหรอ? " (ลป.มั่นถาม)

หลวงตางงแหล่ว กลางคืนมีแต่ปรุ่งสร้างบ้านสร้างเรือน (ลป.มั่นท่านรู้)

"สร้างบ้านให้ลูกให้หลานได้กี่หลังแล้ว ไม่เห็นขึ้นไปเลย"

ตอนโยมมาจังหันเช้าเอาข้าวเอาปลามาถวาย...

หลวงตา : โอ้ยเราอยู่ไม่ได้แล้ว ลป.มั่นมาท้วงเรา "สร้างบ้านสร้างเรือนให้ลูกให้เต้าเสร็จหรือยัง"...!?
(ลป.ขำ) ก็เลยหนีเลย ไม่อยู่ด้วย ไม่งั้น ลป.มั่นจะลงมาถามอีก

ท่านรู้วาระจิตของคนแม๊ เรานั่งอยู่นี้ถ้าท่านนั่งดูอยู่ท่านรู้...ท่านก็พูดขึ้นมาเลยแหล่ว วันหนึ่งๆเราคิดไปอะไรๆ ท่านรู้หมด บางคนคิดไปเอาลูกเอาหลานในบ้าน ไปดูหลานในบ้านให้ลูกก็มี

โอวาทคำสอนหลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร
วัดป่าวิเวกพัฒนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ
ณ กุฏีกลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร (วันที่ 3 มิ.ย. 2562)
บันทึกธรรม : นรินทร์ ศรีสุทธิ์




พระ..
ที่ยังไม่ถึงพระโสดาบัน
จะเป็นขั้นไหนก็ตาม
แก่แค่ไหนก็ตาม
พระพุทธเจ้ายังไม่เรียกว่าพระ
เรียกว่า "สมมติสงฆ์"

ถ้าหากตั้งแต่..
พระโสดาบันขึ้นไป
ท่านจึงจะเรียกได้

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ




#อย่าไปอยากรู้เรื่องของคนอื่นมันเป็นทุกข์

ให้สนใจเรื่องของตัวเอง คือ เรื่องกายกับใจ ดูมันให้ชัด การภาวนาก็อย่าไปมั่นไปหมาย การไปคาดหมายนั้นจะทำให้เราไปติดในภพในชาติ การภาวนาก็ไม่สำเร็จ

เพราะการคาดหมายนั้น มันปรุงมันแต่งไปต่าง ๆ นานา คาดนั่นหมายนี่ว่าเป็นเราเป็นเขา

ดังนั้นการภาวนา ท่านจึงให้พิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ที่ประกอบไปด้วยธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม มีอะไรเป็นของสวยของงาม

#ให้พิจารณาทีละอย่าง

ตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ว่าสิ่งใดสวย พอมาประกอบเป็นคนเป็นมนุษย์ ผู้หญิงผู้ชายมีอะไรสวยอะไรงาม

ถ้ามันว่าสวยมันไม่ตายเหรอ?
เอาไปได้ไหม? สิ่งที่ว่าสวยว่างาม

พิจารณาให้มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาให้เป็นอสุภะอสุภัง แล้วถามใจตัวเองว่า ยินดีกับมันอีกไหม?

ในร่างกายประกอบไปด้วยธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เมื่อธาตุขันธ์แตกดับ เน่าเปื่อยผุพัง ย่อยสลายไป เอาอะไรไปได้บ้าง แม้กระทั่งกระดูก...

หลวงปู่เพียร วิริโย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร