วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 07:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2022, 05:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงปู่เทสก์ สอนการปฏิบัติ มี 4 ข้อ

1. ให้รักษาศีลข้อเดียว คือ รักษาใจให้ปกติ

2. อย่าส่งจิตออกนอก คือ อย่าส่งออกไปปรุงแต่งเรื่องคนโน้น คนนี้หรือเรื่องภายนอก ถึงไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายได้ ถ้าเราไม่ส่งจิตออกนอก

3. อยู่กับผู้รู้อยู่เสมอๆ ไปอยู่ป่าเขามันว้าเหว่ ก็ให้รู้ให้ดูว่าใครมันว้าเหว่ จะกวาดลาน ถูพื้น อาบน้ำ ทำทุกอย่างให้อยู่กับผู้รู้ แม้แต่คิดก็ให้ดูว่า ใครเป็นผู้รู้ ผู้คิด แม้แต่ปวดหัว ก็เอาไว้ดูว่าใครเป็นผู้ปวด

4. หาใจให้เจอ ใจคือความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงไปทาง ชอบ ชัง ถูก ผิด ดี ชั่วเจอใจที่เป็นกลาง.

ศาสนาพุทธจบลงเท่านี้.

หลวงปู่เทสก์









...สอนใจให้คิดปล่อยวาง
ให้เข้าใจถึงความจริงว่า
ใจมาตัวเปล่าๆ จะไปตัวเปล่าๆ
ไม่ได้เอาอะไรไปเลย

.ไม่ว่าจะเป็นสมบัติเงินทองข้าวของ
มากน้อยเพียงไรก็ตาม
เอาติดตัวไปไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว
ตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ต่างๆ
ก็ไม่สามารถเอาไปได้

.เอาไปได้ก็คือ
ความฉลาดหรือความโง่เท่านั้น
ถ้าเอาความโง่ไป
ก็จะสร้างแต่ความทุกข์ให้กับใจ
ถ้าเอาความฉลาดไป
ก็จะสร้างแต่ความสุข.

..................................................
.
จุลธรรมนำใจ15กัณฑ์387
ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี






#อินเตอร์เน็ตเป็นเหตุ

#ก่อนจังหัน

#พระมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ นะ #วัดป่าบ้านตาดไม่เคยบกบางพระ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มาไม่ทราบว่ามาแบบไหนนะ มีหูมีตามาด้วยหรือเปล่า มีใจมาด้วยหรือเปล่า มาศึกษาอบรม #เดี๋ยวนี้พระเราเลอะเทอะมากทั่วประเทศไทย นับตั้งแต่วัดป่าบ้านตาดออกไปทั่วประเทศไทย พระเราจะจิตใจต่ำทรามมากทีเดียว จนไม่มองเห็นศีลเห็นธรรมติดเนื้อติดตัวพระ #เห็นแต่ผ้าเหลืองกับหัวโล้นๆ เท่านั้นนะเวลานี้ พระทั้งหลายเราตื่นตัวแล้วยัง เลวมากนะเดี๋ยวนี้พระเรา เลวลงไปทุกวันๆ ไม่ว่าท่านว่าเรามันเหมือนกันหมดนะ โอ๋ย พิลึกพิลั่นศาสนาคำสอนของพระพุทธเจ้าสุดยอดๆ มันทำไมตามีไม่ดู หูมีไม่ฟัง จิตใจมันทุ่มเทไปหาตั้งแต่ส้วมแต่ถานเรื่องกิเลสตัณหาเสียทั้งนั้นเวลานี้ จนน่าอายโลกนะพระเรา เลอะเทอะไปทีเดียว #เป็นพระหน้าด้านไปทั่วประเทศไทยนะเวลานี้ ไม่รู้จักอาย #ไม่รู้จักบาปจักบุญ #บวชเข้ามาแทนที่จะเสาะแสวงหา #อรรถหาธรรมตามคำสอนพระพุทธเจ้า มันแหวกไปหานรกอเวจีทั้งนั้น มันไม่ฟังเสียงพระพุทธเจ้ายิ่งกว่าเสียงนรกอเวจีคือกิเลสตัณหานะเวลานี้ เลอะเทอะมากทีเดียว ให้ดูตัวเองนะที่พูดอย่างนี้ ให้ดูตัวเองทุกคน อย่าไปตำหนิคนนั้น ตำหนิคนนี้ ให้ดูตัวเอง บวชมาเราเป็นผู้บวช เรามาเป็นผู้ศึกษาอรรถธรรมเราศึกษาอะไรเวลานี้ ให้ดูตัวของเราเลอะมากที่สุดเลยเวลานี้ ไม่มีความหมายนะไอ้เรียนมาจบชั้นนั้นชั้นนี้ แบกพระไตรปิฎกมาจนหลังหักมันก็ไม่ได้มีความหมาย หัวใจมันจืดมันชืด มันต่ำทรามเสียอย่างเดียวเท่านั้น #อย่าโอ้อย่าอวดนะพระเรา #บวชมาให้เอาธรรมมาอวด อย่าเอากิเลสตัณหา เอาชื่อเอาเสียง เอาชั้นเอาภูมิมาอวดกันนะ นั้นเป็นเรื่องของโลกของกิเลสต่างหาก เรื่องของธรรมต้องอวดตัวเองด้วยการประพฤติปฏิบัติ ทุกสิ่งทุกอย่างเอาธรรมอวดในหัวใจ ตีกิเลสออกไปธรรมจ้าขึ้นมา อวดไม่อวดมันก็เลิศอยู่ในนั้นล่ะนะ ไอ้ขี้หมูขี้หมาจะอวดไปไหนมันก็คือขี้หมูขี้หมา ให้จำให้ดี

#ยิ่งเลอะเทอะ ๆ ไปทุกวันๆ นะพระเรา ทำไมจึงเป็นอย่างงั้น #คัมภีร์วินัยมีอยู่ มันทำไมถึงเป็นอย่างนั้น อายตัวเองบ้างซิน่ะ บวชเข้ามาหาในพุทธศาสนามันมีความสนใจในแง่ไหนกับพุทธศาสนา มีตั้งแต่เรื่องส้วมเรื่องถาน เรื่องทำลายชาติและศาสนาไปในตัว นี่ถ้าเราไม่พูดไม่มีใครพูด คนนั้นเกรงใจคนนั้น คนนี้เกรงใจคนนี้ เราเอาธรรมพระพุทธเจ้ามา เกรงพระธรรม เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จึงได้นำธรรมที่เลิศเลอมาชำระล้างพวกเราทั้งหลาย ที่มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มหัวโล้นพระอยู่นี่ ผ้าเหลืองอยู่นี่น่ะ ให้พิจารณานะ #มันด้านมากแล้วนะพระเราทุกวันนี้ ด้านจริง ๆ จนจะดูไม่ได้แล้วนะ ดูในวัดป่าบ้านตาดนี้ก่อนอื่น ก่อนจะไปดูที่ไหนให้ดูที่นี่นะ แล้วทุกท่านมาศึกษาอบรมให้ดูให้ดี ในวัดนี้เราให้โอกาสสำหรับพระตลอดมา ไม่เคยให้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย เช่นการช่วยชาติอย่างนี้เราก็ทำโดยลำพังเรา นอกจากมีธุระจำเป็นที่จะขอร้องพระมาช่วยชั่วระยะเท่านั้น นอกนั้นปล่อยให้ทำหน้าที่การงานชำระกิเลส เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา มีสติปัญญา ดูหัวใจเจ้าของที่มันเคลื่อนไปทางไหนๆ นี้เท่านั้นในวัดนี้เราไม่ให้ลดในการประพฤติปฏิบัติ แม้จะมีงานเกี่ยวข้องกับช่วยชาติบ้านเมือง เราก็แยกตัวของเราออกไป สำหรับพระเณรไม่ให้บกพร่องด้วยเลย ให้พากันจำทุกคน ในวัดนี้ตั้งหน้าปฏิบัติศีลธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา มีไว้สำหรับใคร พระพุทธเจ้าสอนเพื่อใคร เวลานี้มีหรือยังสิ่งเหล่านี้ในตัวของเรา หรือมีแต่หัวโล้น ๆ ผ้าเหลืองนั่นเหรอ มันอายโลกเขานะ โลกสมบัติผู้ดีเขามีอยู่นะ แล้วพระท่านผู้ดียังมีอยู่ ให้อายท่านบ้างนะ จำให้ดี นี่เราก็ไม่ค่อยได้อบรมสั่งสอน พระก็หลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ไม่ทราบว่าแบบไหน ๆ เอาส้วมเอาถานมาทุ่มใส่หัวกัน นี่มันก็เต็มแต่ส้วมแต่ถานแล้วในวัดนี้ แล้วจะเอาส้วมเอาถานที่ไหนมาโปะเข้าไปอีก มันจะมีที่เก็บที่ไว้เหรอ เอาละให้พร

"อินเตอร์เน็ตเป็นเหตุ"

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๗






"ความอดทนเป็นตะปะอย่างยิ่ง"

" .. การที่อยู่ด้วยกัน มันต้องมีการกระทบกระเทือนกันบ้าง ต้องมีความอดทนจึงจะอยู่กันได้ " ในศาสนานี้แสดงอานิสงส์ของความอดทนเป็นอย่างยิ่ง ความอดทนเป็นตะปะอันยิ่งใหญ่" เพราะเหตุที่นิสัยจิตใจของคนมันมีต่างกัน ท่านจึงสอนให้มีความอดทน

แต่อยู่ด้วยกันแล้วจงหาความดีต่อกัน "ไม่อิจฉาพยาบาท ไม่จองล้างจองผลาญ ไม่โกรธเกลียดกัน ไม่มีทิฏฐิมานะ" มีอะไรก็ควรที่จะปรึกษาหารือเข้าหากันได้ .. "

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี









วันนี้องค์หลวงปู่จาม ได้นอนพักอิริยาบถเหยียดกายหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง พิจารณาใบไม้สักใบแก่ใบเฒ่า หลุดหล่นจากขั้นกิ่งก้าน
“นั่น... หล่นอีกใบแล้ว”
“นั่น... ตายไปอีกใบแล้วนั่น
มันไม่อาลัยต้นของมันแท้ๆ”
วันนี้ลมกรรโชกแรง ประจวบกับใบไม้สักเหลืองแก่แห้งกรอบแล้ว นับแต่จะหลุดหล่นและร่วงทิ้งสู่ดิน
“ใบใด ใบใดตกตายก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินทั้งนั้น
มันมิได้หนีไปจากดิน
เกิดจากดินคืนสู่ดิน น้ำมันแห้งไปจากใบ
ลมมันหายไปจากใบ
ไฟร้อนแดดเผาให้แก่เฒ่า”
องค์หลวงปู่พูดพร้อมมองดุ ผู้บันทึกนั่งเฝ้าจะถวายน้ำฉัน
แล้วสักพักหนึ่ง มีนกปิดปะลิวหอนจุก หรือนกแต้มปูน ฝูงหนึ่งพากันบินมาส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วแว่วหวาน พริ้งเพราะน่าฟัง แต่องค์หลวงปู่ไม่อาจได้ยินเสียงหากแต่เห็นตัวนั้นตัวนี้ จับกิ่งนั้นกิ่งนี้ บินวนไปวนมาเพื่อให้องค์หลวงปู่ได้ดู อยู่นานสองนาน
แล้วองค์หลวงปู่ปรารภว่า“ ถ้าเป็นเหมือนนกได้ ก็จะสบาย
มันไม่อาลัยง้าไม้ที่มันเที่ยวจับ แต่ละมื้อแต่ละวันมันจับกิ่งไม้ไม่รู้กี่ต้นกี่ก้าน ไปเรื่อยของมัน”
พูดแล้วเท่านั้นก็ลุกขึ้นฉันน้ำเปล่า หนึ่งแก้วใหญ่ เป็นแก้วที่สองในวันนี้
แก้วแรกเวลา ๑๑.๐๐ น.
แก้วที่สาม ๑๗.๐๐ น.
แก้วที่สี่ ๒๐.๐๐ น. (รับเป็นบางวัน)
.......
แน่นอนทีเดียวหล่ะ

ประสาประสะของอัตตโนไหนเลยจะปล่อยผ่านให้ล่วงเลยไป จึงได้แต่สืบความค้นหากิริยาเยี่ยงนก พฤติเยี่ยงใบไม้แห้งเหล่านั้น
จึงลงมติโดยส่วนตน ตรงนี้ว่า
จริงที่สุดแล้ว -; พระธุดงคกรรมฐาน ไม่ควรติดตระกูล ไม่ควรติดที่อยู่ ควรทำตนเหมือนกับนกน้อยนั้น คือว่า เมื่อเกาะกิ่งไม้ใด

ถึงคราวจะบินจากไป ก็บินโผไปจากกิ่งไม้นั้น ไม่นำพาห่วงหาอาลัย มิหนำซ้ำไม่คิดที่จะฝากร่องรอยของฝ่าเท้านั้นอีกด้วย
พระธุดงคกรรมฐานควรสะอาดโดยรอบ มีระเบียบ คล่องตัว สุขุม รอบคอบ สำรวมกาย ไม่คะนอง ไม่ทำชั่ว ทุกอย่างเป็นไปด้วยความพอดีพองาม มีวาจาที่มีสาระ มีจิตระวังในการไม่เบียดเบียน, พรากตนให้ห่างจากกาม, ไม่หนักอยาก ไม่ปล่อยใจให้หลงตามอารมณ์ หมั่นตรึกตรองในธรรมะ แม้เล็กน้อยก็ต้องระวัง หมั่นใคร่ครวญในศีลของตน - พิจารณาในโทษของการเกิด
พิจารณาในความตาย
พิจารณาในสารัตถะของชีวิตจิตใจ
องค์หลวงปู่พูดสอนซ้ำๆ ซากๆ ว่า “ มีเกิดต้องมีตาย
มีหนุ่มต้องมีแก่
มีสุขต้องมีทุกข์
มีดีใจมีเสียใจ
มีโง่มีฉลาด
มีดีมีชั่ว
มีได้ก็มีเสีย โลกเป็นอยู่เช่นนี้
อดทนไปเถอะ เกิดมาแล้วอย่าเมาว่าได้เกิดเกินไป
คนเมาเกิดมาตาย ต้องทิ้งความชั่วเอาไว้แก่ผู้อื่น
ผู้มารู้จักเกิด มารู้จักตาย ต้องฝากความดีเอาไว้แก่โลก”

๒๔ มกราคม ๒๕๕๑
.........................................................................................................................................
ขอขอบคุณที่มาบทความ : หนังสือมหาปุญโญวาท 6 พิมพ์ถวายวัดป่าวิเวกวัฒนาราม ( วัดหลวงปู่จาม ) บ้านห้วยทราย คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยสำนักพิมพ์มติชน







"..พุทโธ.. ไม่ได้สอนให้หลงว่า"ร่างกระดูก"เป็นของสวยงาม พุทโธ.. ไม่ได้สอนให้หลงในวัฏฏะสงสาร.."
--------------------------------
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต






อะไรผ่านมา พิจารณาให้ชัด แล้วก็ปล่อยไปเลย รู้วาง

หลวงปู่คูณ สิริจันโท


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 131 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร