วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 23:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2022, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


๑๐ มกราคม ๒๕๖๕ วันนี้วันพระ
ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีฉลู

ศีล สมาธิ ปัญญา
"ผู้ภาวนา ศีลไม่บริสุทธิ์ ปัญญาก็ไม่เกิด
มันไม่มีเครื่องหนุนเกื้อกูลกัน
ศีล อบรมสมาธิ
สมาธิ อบรมปัญญา
เมื่อศีลบริสุทธิ์ ใจก็มีสมาธิ
เมื่อใจมีสมาธิก็เกิดปัญญา
ศีล สมาธิ ปัญญา"

คติธรรม คำสอน
#พระราชวัชรญาณเวที
หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล







…ถึงแม้เราจะเก่ง ไม่ต้องอวดเก่ง
ถึงแม้เราจะดี ไม่ต้องอวดดี
อย่าถือตน อย่าถือว่าตนเองสูงกว่าผู้อื่น
“ให้อ่อนน้อมถ่อมตนไว้ แล้วจะมีความสุข”.
……………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา ชีโอน
วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑





ผู้ที่คบมิตรเเท้หรือกัลยาณมิตร
ย่อมได้ไมตรีจากมิตรเเละการคบ
ย่อมเป็นเครื่องชักนำให้ประพฤติเป็นประโยชน์
เเลเป็นเครื่องชักนำให้เป็นคนดีงาม

พระโอวาท
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
(เจริญ สุวฑฺฒโน)








สมัยก่อน วัดป่าบ้านตาดสมัยที่ยังไม่ได้ช่วยชาติ ท่านเน้นทางด้านจิตภาวนา อดนอนผ่อนอาหาร ท่านจะปฏิบัติเหมือนแข่งกันเลยนะ เห็นแล้วน่ากลัวนะความเพียร บางองค์ไม่หลับไม่นอน ภาวนาทั้งวันทั้งคืน ถ้าเป็นสำนักอื่นก็ว่ามันเคร่งไป ต้องเดินสายกลาง แต่วัดป่าบ้านตาดไม่ยังงั้น ใครมีกิเลสมากต้องฟาดมันหนัก ๆ ท่านจะเอาอย่างนั้นเลย มัชฌิมามันต้องรู้จักของใครของเราสิ กิเลสมาก ปฏิบัติธรรมแบบเหยาะๆ แหยะๆ มันจะไปทันได้ยังไง มันก็ไม่มัชฌิมาสิ กิเลสห้าสิบ ธรรมก็ต้องห้าสิบ มันถึงจะเป็นมัชฌิมา นี่กิเลสตั้งแปดสิบ ธรรมยี่สิบ มันไม่ใช่มัชฌิมาแล้ว ไปที่ไหนเขาว่าปฏิบัติทางสายกลาง องค์หลวงปู่บ้านตาดท่านว่ามันกางเสื่อกางหมอน มันเป็นมัชฌิมาหมู มันก็ถูกของท่าน

เข้าไปอยู่นั่น มันเข้าใจได้เยอะ ผิดจากทั่ว ๆ ไป ของท่านจะฉีกแนวอีกแบบหนึ่ง ต้องจริงจังจริง ๆ จึงจะอยู่กับท่านได้ เหลาะ ๆ แหละ ๆ นี่ เข้ากับท่านไม่ได้เลย ไล่ออกทุกวัน แค่ท่านมองแล้วขวางตาท่านท่านก็ไล่เลย ก็มี คือท่านมีวิชาดู ท่านดูทั้งภายนอก ดูทั้งภายในด้วย ไม่อย่างนั้นท่านจะสอนได้ยังไง หลวงตาจบแค่ป.๓ สอนปริญญาตรี โท เอก ได้ ก็เพราะท่านเอาวิชาเหนือโลกมาสอนเรา

อย่างดูใจของพระ บางทีพระคิดไม่ดี ทำไม่ดี ท่านก็รู้ ออกไปไม่ได้บอกไม่ได้ลาท่านก็รู้ ท่านไปยืนเฝ้าหน้าประตูเลย ใครจะไม่กลัวท่านล่ะ เป็นวิชาเหนือโลก เหนือที่คนทั้งหลายจะคาดคิดด้วย ที่คนทั้งหลายกลัวท่านก็อย่างนี้นั่นเอง สิ่งไหนที่ท่านพูด อย่าไปขัด อย่าไปแย้งท่าน ท่านไม่ได้เอาอยากมาพูดอย่างคนทั่วไป ท่านพูดด้วยญาณหยั่งทราบท่าน นั่นคือความจริงที่ปรากฏออกมา ไม่เหมือนพวกเราที่คิด ด้น เดาเอา ถึงพูดออกมา แต่ท่านพูดความจริง เป็นสัจธรรม ด้วยญาณหยั่งทราบของท่านจริงๆ ท่านไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างคนทั่วไป เพราะฉะนั้น อย่าไปขัด อย่าไปขวาง อย่าไปกางไปกั้นท่านไปตำหนิติโทษท่าน ก็เท่ากับไปขวางกั้นในตัวเจ้าของ เหมือนเอานรกไปเผาตัวเจ้าของเลยนะ เวลาท่านทำนายหรือพูดถึงผู้หนึ่งผู้ใด นั่นย่อมเป็นความจริงอยู่เสมอ

โอวาทธรรม
พระอาจารย์โสภา สมโณ






#รักษาธรรมคือรักษาตัวเราเอง

"...ความตระหนี่ถี่เหนียวนี้ไม่ดี อยู่ที่ไหนก็ไม่ดี
อยู่ในกระเป๋าก็ไม่เกิดประโยชน์ มัวแต่ตระหนี่ถี่เหนียวแล้ว
เงินในกระเป๋าก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่นำออกไปทำประโยชน์ ก็เกิดประโยชน์ขึ้นมา
เช่นทำบุญให้ทาน
หรือไปทำเพื่อประโยชน์กาลใด ประโยชน์นั้นก็ปรากฏขึ้นมา
เราไปทำบุญให้ทานกับผู้ใดก็ได้ แม้ที่สุดกับสัตว์ สัตว์ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส จากการเลี้ยงดูหรือการสงเคราะห์เขา
ให้เด็กเล็กเด็กน้อยคนละห้าบาทสิบบาท เด็กก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
ให้คนทุกข์คนจนไปที่ไหนเขาก็มีความยิ้มแย้มแจ่มใส
ต่อบุญของเราที่บริจาคทานลงไปแล้ว เพราะฉะนั้นการให้ทานจึงสร้างความยิ้มแย้มแจ่มใส
ต่อจิตใจของผู้รับทั่วหน้ากัน... "

#หลวงตาพระมหาบัว_ญาณสมฺปนฺโน
#เทศน์อบพระสงฆ์_เนื่องในงานครบรอบวันมรณภาพท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง_ธัมมวโร ณ วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕







"... บุญกุศลที่เรา สร้างไว้
ติดแนบกับหัวใจ​เรานี้แล..!!
... จะพาไปเกิด​ ในสถานที่ดี
คตินี่สวยงามและ สมหวัง...
... ตลอดไปเรื่อยๆ... "
#เพราะอำนาจแห่งบุญ

#พระมหาบัว_ญาณสัมปันโน






ก่อนแต่งงาน คิดว่าผู้หญิงนี่สวยงาม
แต่จริงๆเหม็นเหลือเกินอย่างนักหนา
ตัวผู้เหมือนกันชายเหมือนกัน

ต้องอาบน้ำมากอย่างหนักหนาเพราะความจริงเป็นอย่างนี้นะ
ยุ่งมากเหลือเกินเรื่องอสุภะโยม

เพราะความจริงเป็นอย่างนี้ไม่ใช่ไม่จริง
ไม่มีคนหนึ่งไม่เป็น โยมพ่อโยมแม่ของเราก็เป็นอย่างนั้น

หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด
#หลวงปู่เชอรี่







#ชีวิตเราเหมือนก้อนน้ำแข็ง

"ญาติโยมสานุศิษย์ทั้งหลายไปเยี่ยม ก็ไม่ได้สนองศรัทธาอย่างเต็มที่
เพราะว่าเสียงมันจะหมดแล้ว ลมมันก็จะหมดแล้ว นับว่าเป็นบุญ
ที่เป็นตัวเป็นตนมานั่งให้ญาติโยมเห็นอยู่ นี่นับว่าดีแล้ว ต่อไปก็จะไม่ได้เห็น
ลมมันก็จะหมด เสียงมันก็จะหมด มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยของสังขาร
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านสอนไว้ ชัยยะ วัยยัง คือ ความสิ้นไปเสื่อมไปของสังขาร.."

#เสื่อมไปอย่างไร_เหมือนก้อนน้ำแข็ง_มันจะเสื่อมทีละน้อยทีละน้อยไม่กี่นาทีไม่กี่ชั่วโมง #ละลายเป็นน้ำไป_พอเกิดมาเราเก็บเอาความเจ็บ_ความแก่_ความตาย_มาพร้อมกัน...!!!

#หลวงปู่ชา_สุภทฺโท








#อารมณ์จิตแต่ละระดับ

ทีนี้อาตมาจะอธิบายเรื่องความรู้สึกอย่างนี้ให้ฟังเป็นลำดับ เช่น

ความรู้สึกของสัตว์เดรัจฉาน

ขอโทษเถอะนะ อย่าว่าอาตมาเอาสัตว์เดรัจฉานมาเทียบเลย เมื่อมันมีความรู้สึกอย่างไรนั้น มันไม่ได้ทบทวน และไม่มีกำลังของสติและปัญญา ซึ่งเป็นกำลังตปธรรมอย่างที่พวกเราสร้างขึ้นมานี้มันไม่มี เพราะฉะนั้น ความรู้สึกที่ปรากฏขึ้น เขาไม่มีกำลังอะไรทบทวน เมื่อจะเป็นไปอย่างไรเขาก็เป็นไปตามความรู้สึกของเขา นี่เป็นส่วนมากของสัตว์เดรัจฉาน

#ทีนี้ขึ้นมาถึงมนุษย์เรา

หากมนุษย์ใดมีความรู้สึกแล้ว ปล่อยให้ความรู้สึกอันนั้นแหละ เข็นเอาอาการทั้งหมดให้เป็นไปตามอำนาจของมันได้ อันนี้เรียกว่า สัตว์มนุษย์ เพราะมีสัตว์เดรัจฉานเจืออยู่

-สำหรับความรู้สึกของโลกียชนนี่-

จะมีการเข้าข้างกิเลสบ้าง หรือบางทีก็มีการทบทวนบ้าง แต่บางทีเมื่อรุนแรงก็ไม่มีความสามารถจะยับยั้งไว้ได้ หรือบางทีตั้งใจไว้ดีแล้ว ว่าจะไม่ให้เป็นไปอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ตัวเองตั้งใจไว้แล้ว แต่แล้วก็ปล่อย อันนี้ท่านเรียกว่าปุถุชนหรือโลกียชน

-ทีนี้สำหรับกัลยาณปุถุชนไม่เป็นอย่างนั้น-

คือว่าตั้งใจจะเอาชัยชนะมันอยู่เสมอ ๆ พยามยามอยู่เสมอ ไม่ยอมเอนเอียงเข้าข้างมัน แต่เมื่อเหตุการณ์มันรุนแรงมันก็สู้ไม่ไหว มันรุดเข้าไปต่อสู้กับเหตุการณ์เลย ในเมื่อหล่นไปแล้วก็รู้สึกมีความละอายภายในจิตใจ อันนี้ท่านเรียกว่า กัลยาณปุถุชน

ทีนี้ เมื่อผู้ใดมีความรู้สึกขึ้นมาแล้ว ความรู้สึกของจิตจะรุนแรงก็ตาม ไม่รุนแรงก็ตาม แต่สามารถบังคับอาการทั้งสองของกายและวาจาไม่ให้เป็นไปตามความรู้สึกได้อยู่ ตลอดเวลา พร้อมทั้งความรู้สึกของจิตที่มันรุนแรงอยู่ก็สามารถบังคับให้เบาลงได้ แต่ไม่ขาดสูญ ..คือมีอุบายวิธีหรือกำลังทำให้มันตกด้วยอำนาจตปธรรมนั้นจริงอยู่ แต่ไม่ทันท่วงที ไม่เก่งที่สุด แต่สามารถบังคับได้ จนเป็นเหตุไม่ให้คนนั้นผูกโกรธเลยเป็นอันขาด ไม่มีทางผูกโกรธได้ มีแต่ความรู้สึก วูบขึ้นก็ตก มีความรู้สึกวูบขึ้นก็เอากำลังเข้าไปยับยั้งตก ความรู้สึกวูบขึ้นเอาไปยับยั้งก็ตก อยู่ในลักษณะนี้แล #เรียกว่าโสดาบันบุคคล

เพราะฉะนั้นจะย้อนมาอธิบายเปรียบเทียบเหมือน เหมือนน้ำกะฉอกอยู่ในขันนะ อันหนึ่งมันกะฉอกกระเด็นออกข้างนอก หมายถึงความรู้สึกของปุถุชน ถ้ามันออกแรงนะ ถ้าออกเบาเขาเรียกว่ากัลยาณปุถุชน ถ้ามันกระเพื่อมหรือมันดิ้นอยู่ จริงอยู่ แต่ไม่กระเด็นออก เป็นลักษณะของโสดาปัตติมรรค

ทีนี้ความรู้สึกที่ปรากฏขึ้นบังคับได้เลย บังคับได้ไม่ให้รุนแรง และไม่ให้มันหยุดเอง อะไรในทำนองนี้ เป็นโสดาปัตติผล นี่ อยู่ในทำนองนี้ ถ้าไวไฟจนถึงขนาดที่เรียกว่ามีความรู้เป็นเอกรัตติงของจิต สว่าง แจ่ม เหมือนกันกับเรามองไฟอย่างนี้ เราไม่ต้องตั้งปัญหาถามตัวเองหรอกว่าเราจับแล้วไฟมันจะไหม้มือเราไหม ไม่ต้อง

สติมันเป็นชวนะ แพล็บ รู้เลย ไม่สามารถจะจับไฟได้ ฉันใด อารมณ์ที่จะนำพาไปสู่ความเศร้าหมอง อารมณ์ที่จะนำพาไปสู่ความดิ้นรน หรือเป็นไปเพื่อความทุกข์นั้นรู้แพล็บ อ่านตลอดหัว ตลอดหางชัชวาล อยู่ตลอดเวลา #อันนั้นเป็นลักษณะของอรหันตบุคคล

โอวาทธรรม :
#พระอาจารย์สมชาย #ฐิตวิริโย

พิมพ์คัดจากหนังสือ ฐิตวิริยาจารย์เทศนา (ฉบับย่อ)







#วันนี้วันพระ
#ตั้งเจตนารักษาอุโบสถศีล
#เมื่อเรายังมีลมหายใจอยู่
———————-
#หลวงปู่สังวาลย์ ท่านว่า…

"ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายเป็นของที่น่ากลัว เป็นของทุกคนไม่ต้องการ แต่พวกเราก็หนีไม่พ้น ขอให้พวกเราพยายามสร้างศีล สมาธิ ปัญญาภาวนาให้เกิดให้มีขึ้นในจิตในใจของตน

ให้กระดูกของเรามันกองบนพื้นดินเป็นครั้งสุดท้าย “เออพอเสียทีสำหรับการเกิดการตาย” เรายังหนุ่มเรายังสาวอยู่ อย่าพากันประมาท ถ้าความแก่ ความเจ็บ ความตายเข้ามาครอบงำสังขารร่างกายของเราแล้ว เราจะเอาอะไรล่ะ เป็นที่พึ่งที่อาศัยของตนเอง

จึงขอให้พวกเราเร่งรีบขวนขวายเสียเมื่อยังหนุ่มสาว พากันเจริญสมถะภาวนาวิปัสสนาภาวนาให้รู้ว่า ตายแล้วเราจะไปไหนจะไปเกิดเป็นอะไร เป็นเทวดาเป็นพรหม เราก็รู้ หรือเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานก็รู้ ทำให้มันรู้เสียเมื่อเรายังมีลมหายใจอยู่"

โอวาทธรรม หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม อ.สามชุก จ. สุพรรณบุรี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร