วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2022, 05:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"... คุณไม่ชอบคนนินทา จึงหนีนินทา หนีผู้
หนีคน คุณจะหนีไปไหน ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากได้เห็น ไม่อยากได้รับ ได้รู้ คนเขานินทา เขาว่าร้ายเรา โดยการหนีไปอยู่แต่ผู้เดียว

... ถ้าอย่างนั้น คนหูหนวก ตาบอด เขาคง
ไม่มีทุกข์ เขาคงเข้าพระนิพพานกันหมดแล้ว แต่พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงให้ใช้สิ่งที่มี ฝึกตนเอง สอนตนเอง เราห้ามเขานินทาไม่ได้ดอก

... แต่เราห้ามใจเราทุกข์ได้ เราห้ามใจเรา
ไม่ให้ไปใส่ใจคำพูดเหล่านั้นได้ แก้ที่ใจสิ จะ
ไปแก้ที่หูได้ยิน แก้ตาได้เห็นทำไม เราห้ามหูไม่ให้ได้ยินก็ไม่ได้ เราห้ามตาไม่ให้เห็นก็ไม่ได้

... สำคัญคือเราพิจารณาใจเรา ไม่ให้ใส่ใจ
ไม่ให้ทุกข์ได้ ทุกข์กับปากคนก็ทุกข์จนตายนั่นล่ะ ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา แก้ที่ใจ อย่าแก้
ที่กาย อย่าแก้ที่คนอื่น ให้แก้ที่ใจเรา

... แก้ที่ความรู้สึกเรา จะหนีไปไหนมันก็ถูกนินทา มันเป็นของคู่โลก สรรเสริญก็เป็นของ
คู่โลก หนีไปก็หอบทุกข์ไปเต็มหัวใจ จะไปกับทุกข์ทำไม ทำไมไม่แก้ตรงที่มันทุกข์... "

#คุณไม่ได้ทุกข์ที่เขา_ไม่ได้ทุกข์ที่หู_ที่ตา
#ไม่ได้ทุกข์ที่การนินทา_แต่ทุกข์ที่ใจ_ให้ตั้งสติสังเกตใจ ดูใจ แก้ใจ แก้ใจได้ ไปอยู่ไหนก็ไม่ทุกข์ เข้าใจนะ ให้มีสติตอนได้ยิน ได้เห็น #พิจารณาตอนทุกข์_ตอนเห็นขณะทุกข์ตอนนี้เดี๋ยวนี้นะ
#อยู่ในถ้ำกาย_อย่าอยู่ในถ้ำหินนะ"

#หลวงปู่หา_สุภโร





#เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

...กับชุมชน กับโรงพยาบาล เราให้ไปเต็มที่เลย เพราะเรามีให้กับให้เท่านั้น ลาภยศสรรเสริญเราไม่เอาเลยนะ มันวุ่นวาย ทางวัดเราไม่เดือดร้อนอะไร กฐินก็ไม่มีมา 2 ปีแล้ว ปฏิบัติตัวให้ประเสริฐ คือคำว่า..."พระ"

หลวงปู่ประเวศ ปัญญาธโร
วัดป่าคลองมะลิ จ.จันทบุรี








“อย่าไปแกว่งเท้าหาเสี้ยน”

ธรรมะการปฏิบัติทั้งหมดนี้มีเป้าหมายอยู่ที่การดับความทุกข์เท่านั้น ความไม่สบายใจ..ความไม่สบายใจของเราก็เกิดจากความอยาก ความอยากของเราก็เกิดจากความหลง ที่ไม่เห็นว่าสิ่งที่เราอยากนี้มันจะทำให้เราทุกข์มากกว่า..อยู่เฉยๆดีแล้ว อย่าไปแกว่งเท้าหาเสี้ยน แกว่งเท้าไปหาเสี้ยนกลับเจ็บตัวมากกว่า แต่อยู่เฉยๆไม่ได้ ชอบแกว่ง..ชอบไปหาทุกข์มาใส่หัว อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องไปหาแฟน แล้วต้องมาทุกข์กับแฟน มีแฟนแล้วก็ไม่พอ อยากจะมีลูกอีก เอ้า..ก็เลยไปเอาลูกมาอีก มาทุกข์กับลูกอีก พอมีอะไรก็ทุกข์ แต่ไม่มีปัญญา ไม่มอง ไม่เห็นล่วงหน้าก่อนว่ามันจะเป็นความทุกข์ มองเห็นแต่ว่ามันเป็นความสุข มีแฟนก็สุข..มีเพื่อนไปไหนมาไหนทำอะไรด้วยกันได้ แต่ไม่เห็นตอนเวลาทะเลาะกัน เวลาโกรธกันเกลียดกัน..เวลาจากกัน ไม่เห็นตอนนั้น นี่เรียกว่าหลง มองไม่เห็นอนิจจา ถึงต้องมาสอนให้หัดมองให้เห็นอนิจจาว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน มันมีสองด้าน มีรักแล้วเดี๋ยวก็ชังได้ เดี๋ยวมันก็มีการเปลี่ยนแปลง อันนี้คือปัญญา ถ้ามีปัญญาแล้ว เราก็จะหยุดความอยากได้ ไม่อยากได้อะไร เพราะจะเห็นว่าทุกอย่างที่เราอยากได้มันเป็นทุกข์ เมื่อเราไม่อยากได้อะไร เราอยู่คนเดียวได้
เราจะไม่อยากได้อะไร เราก็จะไม่ทุกข์กับอะไร

ธรรมะบนเขา
วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์”

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี








…คิดถึงความตายให้มากๆ
คิดถึงความตายอยู่เรื่อยๆ

.คิดว่าทุกคนในที่สุดก็ต้องตายกันหมด
สิ่งต่างๆ ที่ทำกันแทบเป็นแทบตาย
ก็หมดความหมายไป
ไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป

.การทำให้ร่างกายอยู่สุขสบาย
อยู่ไปนานๆ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
มีงานทำ มีเงินใช้
“ เป็นความสุขชั่วคราว “
ไม่ติดไปกับเรา

.คนจนตาย กับคนรวยตาย..ก็เท่ากัน
“ ไม่ได้เอาทรัพย์สมบัติไป “.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๓๑, กัณฑ์ ๔๔๙
วันที่ ๑๗ พ.ย.๒๕๕๕





"เรื่องการอธิษฐานนั้น
โยมเข้าใจว่า เป็นการขอ
แต่ที่จริงนั้นการอธิษฐาน
นั้นเป็น1 ในบารมี 10 ทัศ
แต่การอธิษฐานก็ต้องมี

มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่
มีการบำเพ็ญบารมี
มีความเพียร การกระทำ
ความดี ไม่ใช่ว่าขอไป
เรื่อยๆขอให้รวย แต่ไม่
บำเพ็ญบารมีใดๆก็ไม่
สำเร็จ คำว่าอธิษฐาน
หมายถึง การตั้งมั่นที่จะ
ทำให้ได้ ถ้าขอให้รวย
แต่ไม่ทำก็ไม่รวย "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร







“คนที่เกื้อกูลกัน ถึงเป็นคนอื่น ก็นับเป็นเหมือนพี่น้อง
คนที่เป็นพี่น้องกัน แต่ไม่เกื้อกูลกัน ก็เป็นเหมือนคนอื่น
พยาธิ เกิดในตัวเราเองแท้ๆ ยังไม่มีประโยชน์เลย
แต่ยา เกิดในป่ากลับมีประโยชน์มหาศาล”

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย








"การไม่กระทำบาปนั้นมันเลิศที่สุด
บางคนบางคราว โจรมันก็ให้ได้
มันก็แจกได้ แต่ว่าจะพยายามสอน
ให้มันหยุดเป็นโจรนั้นนะ มันยากที่สุด

การจะละความชั่ว ไม่กระทำผิดมันยาก
การทำบุญ โจรมันก็ทำได้ มันเป็นปลายเหตุ
การไม่กระทำบาปทั้งหลายทั้งปวงนั้นนะ
เป็นต้นเหตุ"

หลวงปู่ชา สุภัทโท






ใจที่มีแต่ราคะจะประเสริฐได้อย่างไร

”..ราโค เสฎฺโฐ ธมฺมานํ.. วิราคะ แปลว่า การคลายออก คลายกำหนัดของจิตออกจากอารมณ์ใด ๆ คลายออกได้ เพราะมันเบื่อหน่าย

"หน่าย" แล้ว "วาง" แล้ว "ปล่อย"

หากเป็นธรรมเช่นนี้ มันก็ดับได้ ดับหลง
ดับเมา ดับความโง่เขลา แต่ใจของพวกเรานั้นใด ๆ ก็มีแต่ราคะ ใจที่มีแต่ราคะจะประเสริฐได้อย่างไร..”

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ






"..จิตมิใช่อารมณ์ ..อารมณ์มิใช่จิต แต่อาศัยจิตนึกคิดจึงเป็นอารมณ์ ..พอเป็นอารมณ์ ก็เข้าไปยึดเอาอารมณ์ เพราะเห็นอารมณ์เป็นสาระ ของดิบของดี

..จึงให้เปลี่ยนจากอารมณ์ของโลก มาเป็นอารมณ์ของธรรม ให้เอา "พุท-โธ" เป็นอารมณ์ ให้จิตคิดนึกรู้อยู่กับแต่ "พุท-โธ" เพื่อล่อจิต - ผูกจิต - ดึงจิต - ตั้งจิต ให้อยู่

..เมื่อจิตตั้งอยู่แล้ว – สุขเกิดขึ้น ปิติเกิดขึ้น อุเบกขาเกิดขึ้น เอกัคคตาเกิดขึ้น รวมเรียกว่าฌานเกิดขึ้น จิตตั้งในองค์ฌาน - จิตสงบในองค์ฌาน จะหนีจากฌาน ก็ไปเดินวิปัสสนา จะไปได้หรือไม่ก็สุดแท้แต่ปัญญา.."

---------------------------
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร