ความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มีความตรงเป็นปัจจุบันธรรมตรงปัจจุบันขณะคือมีจิตเพียงดวงเดียว
และจิตเกิดหลายๆครั้งสลับกัน6ทางเป็นจิต1ดวงตรงปัจจุบันขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์์
เราจะเอาความคิดเห็นของเราที่คิดปนกันหลายๆทางมายุ่งกันเข้าข้างตัวเองนั้นไม่ได้
พระธรรมไม่ลำเอียงเข้าข้างใครทั้งสิ้นเพราะเป็นการตรัสรู้ความจริงไม่ใช่คิดเอา
และพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่บัญญัติความจริงทั้งหมดอย่างละเอียดเพราะทศพลญาณ
ทศพลญาณคือปัญญาที่ทรงเข้าถึงตัวจริงธรรมเพื่ออธิบายสิ่งที่ผู้อื่นคิดเดาเองไม่ได้
แม้สาวกอรหันต์และเทพพรหมเทวายังต้องมาเข้าเฝ้าเพื่อฟังคำตอบจากพระพุทธเจ้า
ขณะนี้ที่เรากำลังคิดว่ามีตัวตนของเรามาอ่านความคิดคนอื่นอยู่นี้กำลังมีจริงจริง
แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าที่คิดว่ามีตัวตนเรียกว่ามีอุปาทานขันธ์5คือยึดว่ามีตัวเอง
ทรงแสดงพระธรรมทุกคำในพระไตรปิฏกเพื่อให้ทราบว่าสัจจะคือไม่มีตัวเรา
มีแต่ธรรม(ธรรมแปลว่าสิ่งที่มีจริง)ธรรมเป็นธรรมและตัวจริงธรรมมีชื่อต่างๆ
ที่จำเป็นในการทำความเข้าใจทีละคำตรงตามความหมายของเสียงตรงสัจจะ
การเข้าใจตรงปัจจุบันธรรมคือในขณะนี้เป็นปัจจุบันธรรมแสนโกฏิขณะ
ทรงตรัสรู้ความจริงตรงจิตปัจจุบัน1ขณะแต่ที่คิดว่ามีตัวตนเราคือนิมิต
แต่ความเป็นจริงคือจิตเกิดดับตรง1ทางตามปกติตามเป็นจริงที่ดับไม่มีใครเป็นเจ้าของ
ขณะนี้ก็ดับแล้วถึงแสนโกฏิดวงจิตคือล้านล้านขณะตามเป็นจริง
ตามความคิดของเรายังคิดว่าอ่านมาเยอะจำมาเยอะรู้มากมาย
แต่สัจจะคือจิตรู้ได้ทีละ1สัจจะตรงตัวจริง1ลักษณะของธรรม
ดังนั้นการศึกษาต้องตั้งต้นทีละ1คำเพื่อศึกษาตัวจริงธรรมที่ดับหมดแล้ว
เพื่อจะได้เข้าใจถูกตามได้ว่าอะไรที่กำลังปรากฏให้รู้ว่ามีจริงที่กายใจเวลานี้
https://youtu.be/9Sq_ccHmM8k

ดีจ้า...ข้างบนมีแก้ไขอีกแล้วค่ะ
ลองอ่านเพื่อพิจารณาไตร่ตรอง
ช้าช้าได้พร้าเล่มงามเข้าใจทีละคำ