วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 13:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2022, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


#ถ้าไม่เข้าทางถอยเลย
.
เขาจะว่าดีเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ถ้าออกจากธรรมคำสอนมันไม่ใช่หรอก ใครจะโปรโมทดีแค่ไหนก็แล้วแต่ อย่าไปเชื่อนะ อย่าไปเชื่อง่าย ไปดูเสียก่อน มันเข้าทางมั้ย ถ้าไม่เข้าทางถอยเลย ถ้าเข้าทางค่อยเข้าไป ค่อยยกเป็นแบบอย่างเยี่ยงอย่างให้แก่เรา ความดีจึงค่อยเกิดขึ้นแก่เรา อานิสงส์เกิดขึ้นแก่เรา

ให้พากันคิด อย่าสะเปะสะปะไปทั่ว วัดวาอาราม บางที่รกรุงรัง กุฏิวิหารมะเละเกะกะไม่รู้อะไรไม่รู้จักเก็บจักจัด นี่เรียกว่าใช้ไม่ได้ เรียกว่าไม่มีธรรมไม่มีวินัย ปล่อยเลอะเทอะไปหมด แต่เวลาเทศน์นี้ โอ๊ย เทศน์ถึงพระนิพพาน นั่นแหละ ให้เรารู้จักอันไหนธรรม ถ้าไม่รู้จักก็ให้ศึกษากับครูบาอาจารย์เสียก่อน

#พระเทพวัชรญาณเวที
หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล






…วันก่อนได้ดูวีดีโอของหลวงตา
เดือนที่แล้ววันที่ ๒๕
ที่หลวงตาไปเขาใหญ่

.เห็นสมาชิกหลายคนไปกัน
หลวงตาท่านก็ห่วงใยลูกศิษย์ลูกหา
“ท่านก็พยายามเต็มที่ สอนอย่างสุดหัวใจ”

.แล้วพวกเรา
“ ไม่สุดหัวใจกับท่านบ้างหรือ “
ควรถวายเป็นปฏิบัติบูชาเลย

.หวงอะไรห่วงอะไรอยู่หรือ
มีอะไรน่าหวง มีอะไรน่าห่วง
“ มีแต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาทั้งนั้น”.
………………………………………….
.
กำลังใจ ๕๐ กัณฑ์ที่ ๔๑๔
๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








"เราพากันตั้งมั่นอยู่ในความดี
การรักษาสมบัติของพ่อแม่ คือ
กายของเราใจของเราอย่าให้เสียหาย
นี่ล่ะเป็นการตอบแทนพระคุณ
ของคุณพ่อคุณแม่ที่ถูกต้อง
พระพุทธเจ้าท่านทรงยกย่อง
การบูชาด้วยข้อปฏิบัตินี้
เป็นการบูชาอย่างยิ่ง"

พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร
(หลวงปู่แบน ธนากโร)
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร






คำของผู้อื่นจะทำอะไรเราได้ ถ้าเราไม่นำมาคิด ทั้งคำสรรเสริญหรือนินทาก็ตาม

หลวงพ่อมานพ พุทธครุโต






ท่านอาจารย์พระมหาบัวไม่เคยสอนให้หลงในสิ่งที่เห็นในสมาธิ นรกสวรรค์ บาปบุญเป็นของมีจริง แต่มิให้ติดสิ่งเหล่านั้น เพราะมิใช่สิ่งที่จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ ท่านสอนให้ตรงดิ่งเข้าเป้าหมายคือหลุดจากการเวียนว่ายตายเกิด สู่ความสงบอันเป็นนิรันดร ลูกศิษย์ถามขึ้นว่า

“แล้วทำอย่างไร จึงจะผ่านจุดนี้ไปได้” ท่านอาจารย์จึงอธิบายต่อไป “มันจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม ขอให้จิตสงบเถอะ มันจะรู้ของมันเอง ไม่ใช่เหมือนกับว่าจะผ่านตรงนี้แล้วก้าวไปตรงโน้นนี่นา จิตน่ะเวลามันติด ไม่ต้องก้าวไปตรงไหนมันก็ติด พอเห็นบนฟ้าไปด้วยเรือเหาะเรือบิน ไปทวีปโน้นทวีปนี้ มันก็ติด มันติดอยู่ภายใน ไม่มีก้าว ไม่มีเข้ามีออก มันติดอยู่ภายในนี่ เวลาจะแก้มันก็แก้อยู่ภายในเช่นกัน ถ้ามันแก้ของมันได้ ก็จะเบาไป มันจะรู้เอง ไปไหนก็จะรู้ จนกระทั่งหมดจริงๆ อยู่ไหนมันก็รู้ วางใจได้ตรงนี้ แน่ะ-เข้าใจแล้วเหรอ?”

ท่านถามด้วยเมตตาแล้วอธิบายซ้ำอีก เมื่อเห็นลูกศิษย์ก้มลงกราบรับ แสดงว่าเข้าใจ และขอบพระคุณที่ท่านได้กรุณาชี้แจงแนะนำ
“หลักของมันจริงๆ เป็นเช่นนั้น ไม่ต้องก้าวไปไหนละ มันปลดมันเปลื้องตัวของมันเองที่มันผูกพันอยู่นั่นแหละ ค่อยปลดค่อยเปลื้องของมันไปโดยลำดับ ค่อยสว่างกระจ่างแจ้ง แจ้งออก ชัดออกๆ นั่นแหละ

หลักสำคัญ เอาให้มันสงบนะ อย่าไปสนในเรื่องอื่นเลย เมื่อมันอยู่ในวิสัยของเราแล้วก็จะทราบได้เอง ทั้งๆ ที่เราเป็นคนไม่เชื่ออะไรเลย แต่แล้วพอรู้จริงเข้า จะค้านเจ้าของจนหัวแตก คือไม่มีถอย ถึงหัวจะแตกก็แตกแต่หัว ก็เราเชื่ออย่างนี้จะว่าไงวะ นั่นเมื่อมันถึงขั้นของมันจริงๆ มันก็จริงอยู่อย่างนั้นจะว่าไง?

ถ้ามันไม่จริงยังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง มันก็เป็นธรรมดาอีก ที่มันจะแทรกอะไรเข้ามาก็ได้ เรื่องของธรรมและเรื่องของกิเลสเป็นคู่แข่งกันอยู่ มันเป็นธาตุสืบกัน

แม้แต่เราจะปฏิบัติธรรมอันเป็นของจริง เราเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าธรรมนี้เป็นธรรมแท้ๆ กิเลสมันยังเข้าแทรกว่าไม่ให้เชื่อธรรม ไม่ให้เชื่อบาป เชื่อบุญ ไม่ให้เชื่อนรก ไม่ให้เชื่อสวรรค์ นั่นล้วนเป็นเรื่องของกิเลสทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของธรรม

ถ้าเป็นเรื่องของธรรมแล้วมีแต่ความจริงทั้งนั้นไม่ลบล้าง มีอะไรที่ไหน ภพน้อยภพใหญ่ที่ไหนๆ พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยลบล้าง...”

ถึงตอนนี้ลูกศิษย์ถามขัดขึ้น
“ถ้าเช่นนั้น วิจิกิจฉา หรือความสงสัยนี้ก็คือตัวกิเลสซิคะ?” ท่านอาจารย์เลยดุเข้าให้
“ก็คือกิเลสนั่นแล้ว!” มันจะอะไรที่ไหนเล่า?

พูดกันมาตั้งนานหาว่าพูดเฉยๆ อีกนั่นแหละ ถ้าจะว่ากันไปต่างคนต่างก็มีกิเลส แบกกิเลสเข้าหากัน เอ้า-กิเลสมากนักหรือ เอ้า-กิเลสรับไป มันก็เลยกลายเป็นคนบ้าใช่ไหม? ต้องพูดอย่างนี้แหละ ก็เป็นธรรมดา ยังจะมาพูดอยู่อีก ตัวที่เห็นนั่นละกิเลสละ”

ลูกศิษย์หัวเราะชอบใจที่โดนดุ เพราะเป็นอุบายที่จะบอกผู้มีวิจิกิจฉาว่ากิเลสนั้นคืออย่างไร ท่านอาจารย์หันไปฉันน้ำในแก้ว เพราะท่านคงจะเหน็ดเหนื่อยนักที่ต้องสอนผู้เบาปัญญาทั้งหลาย ครู่หนึ่งท่านก็สอนต่อว่า

“ไปอ่านหนังสือที่ให้ไว้ มีอยู่ในนั้นหมดแล้ว พยายามวางจิตให้อยู่กับที่ไม่วอกแวกจะได้ผลดี”

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน








.#ความยึดทั้งหลายนั่นแหละ
#ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราแบกเอาไว้

ล้วนแต่ที่จะทำให้เราต้องหนักทั้งนั้น หรือที่จะต้องทำให้เราเป็นทุกข์ทั้งนั้น

#ไม่เอาอะไรสักอย่าง

เพราะศาสนาของพระพุทธเจ้าสอนให้ละ ไม่ต้องเอาอะไรสักอย่าง ดีก็ไม่เอา เพราะความดีนั้นเป็นของเกิด ของเกิดทั้งหลายเขาจะต้องดับ

#ความดี #ที่เราไปว่าเขาดี

แล้วเราก็ไปชอบใจว่าเขาดี สิ่งที่เขาดีนั้น เขาไม่รู้ตัวของเขาเอง ว่าเขาเป็นอะไร เขาไม่รู้ตัวของเขาเอง ว่าเขาดี

แม้แต่เขาเกิดขึ้นเขาก็ไม่รู้ เขาจะดีหรือไม่ดี เขาจะรู้ตัวของเขาได้ยังไง จะเปลี่ยนแปลงเขาก็ไม่รู้ ถึงเขาจะเปลี่ยนแปลงยังไง. เขาก็ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนแปลง เขาจะดับไปเขาก็ไม่รุ้

#จึงว่าอะไรที่เกิดขึ้นทั้งหมด
#ให้เราศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
#อย่าไปยึดอย่าไปหวงแหน

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น. ถ้าหากว่าเรายึดเอาไว้ มันจะทำให้เราเป็นทุกข์ ทำให้เราเครียด ทำให้เรามีความลำบาก เป็นทุกข์มาก.

#เพราะเราไปยึดของที่เกิดดับ

ท่านจึงว่า อุปาทาน ความยึด ยึดของเกิดตาย ยึดของเกิดดับ. ยึดของไม่มีตัวไม่มีตน

#ท่านจึงให้พิจารณา
#ให้รู้ชัดตามความเป็นจริง
#ของสิ่งที่เป็นข้าศึก
#สิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยนั้น

อะไรเป็นข้าศึก อะไรเป็นพิษเป็นภัย ก็เรื่องของเกิดของดับอันนี้ล่ะเป็นข้าศึก เอาของเกิดมาดับอันนี้มาพิจารณาศึกษาเรียนรู้

..... #หลวงปู่แบน #ธนากโร







#ภาชนะเก็บบุญ

โยม : หลวงปู่เจ้าขา ดีใจเหลือ ที่ได้มาทำบุญกับหลวงปู่ ทำบุญกับพระสุปฏิปันโน

หลวงปู่ : อือ

โยม : ไปทำบุญที่ไหน ก็ไม่สุขใจเท่าทำบุญกับหลวงปู่ เย็นกายเย็นใจ ได้บุญเยอะ

หลวงปู่ : ทำบุญที่ไหนก็ดีหมดนั่นล่ะ ได้บุญหมดนั่นล่ะ ติแต่ว่าทำบุญกับวัดนี้ กับพระนี้ เหมือนจะได้บุญน้อย ทำบุญกับวัดนั้นกับพระนั้นจะได้บุญมาก

#ได้บุญมาก
#หรือบุญน้อย
#บ่สำคัญดอก

#สำคัญว่า "#ที่เก็บบุญ"
#ของคุณนั้น #เก็บบุญอยู่บ่ #นี่ ?!

"ที่เก็บบุญ" มันเก็บบ่อยู่
ก็เที่ยวทำบุญไป มันก็ไหลออกไป

จำไว้เด้อ -เก็บบุญไว้ในใจ อย่าให้ไหลออกทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายเด้อ

รักษาใจให้สะอาด บุญเราจะได้สะอาดไปด้วย เพราะบุญอยู่ในใจเด้

ได้บุญมาก หรือบุญน้อย บ่สำคัญดอก สำคัญว่าที่เก็บบุญของคุณนั้น เก็บบุญอยู่บ่ ??
.
บันทึกคำสอนของพระญาณวิสารเถร(#หลวงปู่หา #สุภโร)
คัดลอกจาก #ตามรอยหลวงปู่ภูกุ้มข้าว ฉบับปฐมบท






“การทำบาป ไม่ว่าที่แจ้ง ที่ลับ
มันเป็นบาปเสมอกันหมด

ทำที่แจ้ง ก็เป็นบาป
ทำที่ลับ ก็เป็นบาป
เพราะเราเป็นผู้ทำเอง

บาปเป็นของเราเอง
ไม่ได้อยู่ในที่ลับ ที่แจ้ง”

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน







"ความพลัดพรากจากของรัก
ความไม่ได้สิ่งที่อยากได้
ความไม่ได้สิ่งที่อยากเป็น
เหล่านี้เป็นของธรรมดา
ไม่ใช่เรื่องสำหรับเศร้าโศกเสียใจ
มีปัญญาเห็นจริงอย่างนี้แล้ว
คิดอะไรก็ดี ทำอะไรก็ดี
พูดอะไรก็ดี ดีทั้งนั้น"

หลวงปู่ขาว อนาลโย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 185 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร