วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2022, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


#ทำจิตเหมือน_ผ้าเช็ดเท้า
"... ให้ทำตัวเป็นผู้น้อย.. ​ ต่อผู้อื่น
อยู่เสมอ
อย่ายกตน ยังไงก็ยอมฟังเสียงคนอื่น
อยู่เสมอ
เหมือนผ้าเช็ดเท้า.. ต่ำกราบธรรม..
ไม่ใช่ต่ำ
เพื่อกราบมูตรกราบคูถ​ เมื่อทำตัวให้ต่ำ
น้อมรับธรรมแล้ว
#ธรรมะจะเข้าสู่ใจ_ใจจะสูงขึ้นตามลำดับ..."

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี







“ยังรักกิเลส มากกว่ารักธรรม”

ถาม ใช้พุทธานุสติกับอานาปานสติผสมกัน

ตอบ จะใช้อย่างไหนก็ได้ ข้อสำคัญให้เกิดผลก็แล้วกัน ผลก็คือความสงบ จิตรวมเป็นหนึ่ง เป็นเอกัคคตารมณ์ เป็นอุเบกขา สักแต่ว่ารู้ ไม่มีความคิดปรุงแต่ง

ถาม : ชอบคิดโน่นคิดนี่ แต่ถ้าตั้งใจมากๆก็จะง่วงไปเลย

พระอาจารย์ : เป็นนิวรณ์ ถ้าไม่ฟุ้งซ่านก็ง่วงเหงาหาวนอน ต้องแก้ด้วยการไปอยู่ที่เปลี่ยวที่น่ากลัว อดอาหาร เจริญสติอย่างต่อเนื่อง

ถาม : ถ้าอดก็กลัวจะผอมค่ะ

พระอาจารย์ : ไม่กลัวอ้วนหรือ อ้วนอันตรายกว่าผอม อ้วนแล้วความดัน เบาหวาน ไขมันอุดตันเส้นเลือดก็จะตามมา

ถาม : กิเลสเยอะค่ะ

พระอาจารย์ : ยังรักกิเลส มากกว่ารักธรรม

กำลังใจ ๕๘ กัณฑ์ที่ ๔๔๔
๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี






#การทำบุญ
"... การทำบุญ.. ไม่ใช่หนทาง​
พ้นทุกข์
... โดยตรง.. แต่เป็นทางทำให้
ทุกข์น้อยลง
... การภาวนา.. ​นั่นซีเป็นทาง..
นำทุกข์ให้หมดไป ..."

#หลวงปู่เทสก์_เทสรังสี
[วัดหินหมากเป้ง อ.เมือง จ.หนองคาย]







"เลิกคิดเลยโยม มันผ่านไปแล้วกลับไปแก้อะไรไม่ได้หรอก ที่ทุกวันนี้เราเป็นแบบนี้ก็เพราะเราสร้างมาแล้วทำมาแล้ว ถ้าจะแก้ แก้ที่เหตุ เหตุอยู่ที่ปัจจุบันนี้ล่ะ แก้ตรงนี้ แก้ยังไง ก็บำเพ็ญคุณงามความดี ทาน ศีล ภาวนา ตามคำสอน ก่อนจะนอนก็กราบพระไหว้พระ ทำวัตรเช้า-เย็น แล้วไม่ต้องสงสัยล่ะอนาคต ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วเขาจะให้ผลเอง"
.
โอวาทตอนหนึ่งของหลวงพ่อสมบูรณ์






ยิ้มเบาๆบ่อยๆ

จะไปที่ไหน รู้จักกันไม่รู้จักกันเป็นพี่น้องกัน
“ขอแสดงความยินดีได้”

ที่ร้านอะไรใครช่วย ขอบคุณด้วย ไม่ลืม
ทำดีได้ เบากว่า

โยม ถ้าปฏิบัติในทางศาสนาจะมีอย่างนั้นแน่นอน เบากว่า

หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด







โยม แปรงอันนี้ใช้ได้กี่ครั้ง
หลายครั้งใช่ไหม
อืม ใช้พุทโธได้หลายครั้งเหมือนกันนะ

หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด





"ดูแล้วก็น่าสงสารนะ มนุษย์เรานี่
อย่างอื่นฉลาดหมดทุกอย่าง
จะสร้างรถก็ได้ สร้างเครื่องบินก็ได้
แต่จะสร้างจิตของเราให้สงบนี่ไม่ได้
น่าสงสารเหมือนกัน"

หลวงพ่อชา สุภัทโท





".. อย่าฝากหัวใจไว้กับคำพูดของผู้อื่น ให้ฝากหัวใจไว้กับพระธรรม.."

หลวงปู่ชา สุภัทโท






ผู้มีปัญญาทั้งหลายท่านพิจารณาเห็นแล้วจึงเบื่อหน่าย เพราะว่าอาศัยรูปนามอันนี้ไป ก็รู้อยู่ว่าอาศัยไปได้ไม่นานเลย เดี๋ยวมันก็จะแตกจะดับทำลายลงไปแล้วรูปนามอันนี้

#จึงปรารถนาอยากจะพ้นจากชาติความเกิดอันนี้ไป

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ






เรื่องสมาบัติ ๘ หลวงปู่จำได้แต่ปริยัติ แต่ไม่ได้ปฏิบัติเพราะฝืนกับนิสัย พอจิตลงสู่อัปปนาสมาธิ หรืออุปจารสมาธิหลวงปู่ก็เพ่งไตรลักษณ์เลย บางทีปรากฏว่าเหาะเหินเดินอากาศ ตีลังกา เดินจงกรมในอากาศ หรือนอนไปในอากาศ บางทีปรากฏว่าเหาะทะลุภูเขา หมดกำลังฌานจิตก็ถอนออกมา หลวงปู่ก็พิจารณาลงสู่ไตรลักษณ์

หลวงปู่ถือว่าสิ่งเหล่านี้มันมีอยู่ใต้อนิจจังทั้งนั้น จิตใจของหลวงปู่ก็เลยไม่ติดอยู่ เพราะเห็นว่าใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ทั้งโลกอดีต โลกอนาคต โลกปัจจุบัน นับทั้งร้อยโกฏิจักรวาลด้วย ย่อมอยู่ใต้อำนาจไตรลักษณ์ทั้งนั้น

หลวงปู่ชอบระเบิดปรมาณูลูกนี้ ทิ้งใส่โลกตูมเดียวแตกเลย ทิ้งใส่ความหลงตูมเดียวก็แตกเลย ก็ไม่สงสัยในโลกทั้งปวงอีกด้วย

และหลวงปู่นึกเห็นในปริยัติ เช่นอุทกดาบสรามบุตรได้สมาบัติ ๘ บริบูรณ์แล้วยังไม่ถึงพระโสดาบัน จึงเป็นเหตุให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหนีไปปฏิบัติแต่ลำพังพระองค์เอง

เมื่อได้ตรัสรู้แล้วก็คิดเห็นพวกอาฬารดาบส อุทกดาบส แล้วมุ่งจะมาเทศนาโปรดและก็รู้ในญาณของพระองค์ว่า ท่านดาบสทำกาลกิริยา (ตาย) ไปแล้วได้ ๗ วัน ไปเกิดที่อรูปพรหม มีอานิสงส์ ๘๔,๐๐๐ กัลป์เสียแล้ว “

ถ้าหากว่าพวกนี้ยังไม่ตาย เรามาทันก็จะสำเร็จพระโสดาบัน”

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต









#หลวงปู่คำพันธ์ #โฆสปัญโญ
#ฐีติภูตังญาณทัศนะ

เมื่อจิตสงบลงไปอาการสงบดังกล่าวนั้น ภาษาปริยัติ เรียกอาการนั้นว่า ฐีติภูตัง หมายถึงจิตไม่มีอาการปรุงแต่ง นิ่งอยู่ เป็นอัปนาสมาธิ เหมือนเด็กแรกเกิด จิตบริสุทธ์ไม่มีกิเลส เหมือนน้ำที่ลมไม่พัดกวน สะอาด มันเคยสะอาด แต่เมื่อมีนามรูปเข้ามาทางหู ตาจมูก ลิ้น กาย แล้วจะปรุงแต่ง

เมื่อจิตลงสู่ฐีติภูตัง แล้วให้กำหนดเห็นสิ่งต่างๆ เป็นปฏิกูล แล้วพิจารณาให้คลายกำหนัดจนเกิดนิพพิทาญาณ แล้วพิจารณาให้คลายออกจากร่างกาย เรียกว่า ยถาภูตังญาณทัศนะ แล้วจะคลายกำหนัด ความรักจากสิ่งต่างๆ ความสิ้นรัก ความเกลียดจะออกไปแล้วจะเกิดวิราคะ เกิดวิมุติต่อไป จึงจะสิ้นสุด

ปฏิปทาของหลวงปู่คำพันธ์ที่ทำให้ท่านมีลูกศิษย์อยู่อย่างมากมายสามารถจำแนกได้ คือ
1. ปฏิปทาที่เกิดจากการปฏิบัติจากท่านเอง คือ การเจริญธรรม กรรมฐาน ตามแนวทางของท่านอาจารย์เสาร์ กัณตสีโร อาจารย์ผู้ให้แนวทางในการฝึกจิตใจและการตั้งกรรมฐาน หลวงปู่คำพันธ์ท่านมีความเพียร อุตสาหะอย่างสูง และสามารถบรรลุธรรมชั้นสูงมีความแตกฉาน รู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
2. เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานของศิษย์ทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะพระสงฆ์ลูกศิษย์ของหลวงปู่ฯ มีทั้งธรรมยุติและมหานิกาย ตลอดจนผู้ที่มาฝึกอบรมกรรมฐานกับหลวงปู่ฯ มีจำนวนมากทุกๆ ปี
3. เป็นอาจารย์นักเทศนักธรรมสำหรับผู้ที่ฟังธรรมะ จะได้รับฟังธรรมะจากหลวงปู่ฯ อยู่เสมอซึ่งธรรมะที่ท่านเทศนาสั่งสอนอบรมลูกศิษย์จะเป็นภาษาธรรมที่ฟังและเข้าใจง่ายแต่ลึกซึ้ง และกินใจ เป็นสัจธรรมทุกบททุกตอนของเทศนาธรรมนั้น
4. เป็นนักพัฒนา ทั้งทางสงฆ์และทางสังคม กล่าวคือ หลวงปู่ฯ คำพันธ์มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในกิจการงานของสงฆ์ หลวงปู่ฯ อุทิศตนสืบสานงานทางด้านพระพุทธศาสนาตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด เป็นที่เคารพศรัทธาของพระผู้ใหญ่ทั้งใกล้และไกล ตลอดจนงานพัฒนาทางด้านสังคม เช่นการสร้างถนน โรงเรียน โรงพยาบาล งานสังคมสงเคราะห์ต่างๆ สร้างวัดวาอาราม บูรณะจัดการต่างๆ ตลอดจนพระอุโบสถ และพระธาตุเจดีย์ที่ชำรุดทรุดโทรมในจังหวัดอื่น ที่มีผู้เข้ามาขอความเมตตาจากหลวงปู่ฯ ท่านก็ได้อนุเคราะห์อย่างเต็มกำลังอย่างมิได้ย่อท้อจวบจนวาระสุดท้ายของท่าน
5. เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากที่สุดแห่งยุดรูปหนึ่งของประเทศไทย เพราะหลวงปู่ฯ ได้รับสรรพวิชาสายสำเร็จลุนแห่งนครเวียงจันทร์ ซึ่งเป็นสุดยอดของสายวิชาทางพระเวทย์มนตรา และอาคมล้วนแล้วแต่เป็นวิชาทางสายขาวทั้งสิ้น ทั้งการปฏิบัติธรรมพระกรรมฐาน ตลอดจนสรรพวิชาของชีปะขาวครุฑและสรรพวิชาของลุ่มแม่น้ำโขงทั้งจากอดีตชาติของหลวงปู่ฯ เป็นเอกในเรื่องวิชาอาคมแห่งยุคอย่างแท้จริง
จากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบกันทั้งทำให้หลวงปู่ฯ ได้รับการยอมรับนับถือจากทั้งพระสงฆ์และประชาชน ทุกหมู่เหล่าซึ่งรายละเอียดต่างๆ มีมากมายเหลือคณานับ

...อ้างอิงจาก//หนังสือเทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง
........เขียนโดยอาจารย์ พิเชฏฐ์ หลังทรัพย์






เวลาตาเห็นรูป นี่เกิดได้ดับได้ ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา

หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 35 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร