วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2022, 06:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


..ความจริง...
เราภาวนาได้ทุกเวลา และสถานที่
การภาวนาก็คือ..การมีสตินี่เอง

.ถ้ามีสติรู้อยู่กับการเคลื่อนไหว ของกายกับใจ
ก็ถือว่า..กำลังภาวนาแล้ว

.ให้มีสติอยู่กับตัว อยู่ที่กายกับใจ
อย่าไปอยู่กับเรื่องนั้นเรื่องนี้ ถ้าไม่จำเป็น.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ 20, กัณฑ์ที่ 232
22 มกราคม 2549





คาถาใด ๆ ก็สู้เมตตาไม่ได้
เพราะเมตตานั้น ใครเห็นก็รัก

โอวาทธรรม
#พระพรหมวชิรคุณ
ท่านพ่อไพบูลย์ สุมงฺคโล






#การสวดมนต์ภาวนา

"... มีกายอยู่จงใช้กายนี้ สร้างบุญกุศลคุณ
งามความดี กายอันหนึ่งต้องสูญสิ้นแต่ใจไป
หาที่อยู่ใหม่ ผู้มีปัญญาพึงรู้ว่าใจนี้เรียกร้องเครื่องรักษา สิ่งนั้นคือ การสวดมนต์ภาวนา
วันหนึ่งคืนหนึ่งให้ไหว้พระสวดมนต์

... การไหว้พระสวดมนต์นี้เป็นจิตเป็นใจ เป็นสารคุณ มหาคุณต่อจิตใจของเราจริงๆ การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นธรรมชาติอันเลิศเลอ เมื่อน้อมเขัามาสู่จิต จิตจะกลายเป็นที่เลิศเลอไปตามกัน

... การสวดมนต์ให้อยู่กับบทสวดมนต์ด้วยสติ ให้สติกับคำสวดมนต์ติดแนบกันไป นั้นแล คือ การบำเพ็ญธรรมอยู่ในนั้น และขอให้พี่น้องทั้งหลาย ได้นำธรรมนี้ เป็นที่ระลึกไหว้พระสวดมนต์

... จากนั้นให้พากันทำความสงบใจ บำเพ็ญเพียรภาวนาด้วยบทธรรม คือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ บทใดบทหนึ่งก็ได้ ด้วยความมีสติ จึง
สมชื่อว่าเป็นชาวพุทธ ..."

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน






"พวกติดนิมิตน่ะ ภาวนามาเอาอะไร ภาวนามาเพื่อสิ่งแบบนั้นเหรอ เราไม่ได้ภาวนามาเอาแบบนั้น ต่อให้มันขี่ช้างหาบเงินมาให้เป็นพันล้านหมื่นล้านก็ไม่เอา ประสาของเล่นเฉยๆ ครูบาอาจารย์ท่านได้มากกว่านั้นเป็นไหนๆ ท่านก็ไม่เอา จะรู้จะเห็นอะไรท่านได้หมดแหละแต่ท่านไม่เอา เพราะอะไรล่ะ เพราะไม่ได้บวชภาวนามาเพื่อมัน ช่างหัวมันสิ อย่าไปสนใจมัน เหมือนเรามีเพื่อนเรานี่ล่ะเอา ถ้ามันมาหา เราไม่ออกไปเล่นกับมัน ไม่ไปสนใจมัน มันจะมากี่รอบๆ เดี๋ยวมันก็เลิกมาเอง นั่นล่ะนิมิต เราภาวนาเพื่อความพ้นทุกข์ จะพ้นไม่พ้นอีกเรื่องนึงนะ แล้วความพ้นทุกข์ พ้นที่ไหน พ้นที่ใจ ให้เข้าใจ"
.
โอวาทตอนหนึ่งของหลวงพ่อสมบูรณ์







"เขาพูดว่าเราดี เราก็ไม่ดีเหมือนคำเขาพูด
เขาพูดว่าเราชั่ว เราก็ไม่ชั่วเหมือนคำเขาพูด
ถ้าเราไม่ยึด เราไม่มี จะเอาอะไรไปดีไปชั่ว"

หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล






"มีสติรู้ตัว ถอนความยึดถือ ในตัวตนเสีย
มีอะไรบ้างหรือ ที่เราบังคับได้บ้าง

ร่างกายนี้ ตั้งแต่เกิดมามีแต่ความเปลี่ยนแปลง
อย่างไม่หยุดนิ่งไม่หยุดยั้ง แล้วก็ต้องตายไป
ทำพิธีต่ออายุสืบชะตาอย่างไร ก็ต้องตายทุกคน
แล้วจะยึดถือว่าเป็นตัวเราของเรา ได้อย่างไร

ตายแล้ว ไม่เผาไฟ ก็ฝังดินเท่านั้นเอง
มันเป็นเพียงธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ดับไป
เราเพียงยืมใช้ ได้อาศัย ศึกษา รักษาไว้
เป็นพาหนะให้ทำความดี เพื่อข้ามวัฎสงสารเท่านั้น"

หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร






“ในโลกทั้งหมดนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะไม่พรากจากกัน
ไม่มีสัตว์ชนิดใดที่จะไม่พลัดพรากจากกัน โลกอันนี้
มันเป็นโลกที่เกิดมาแล้ว จะต้องพลัดพรากจากกันทั้งนั้น

โลกเขาเป็นอยู่อย่างนี้ แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ตั้งแต่มีโลก
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ โลกอันนี้จะต้องพลัดพรากจากกัน

เหมือนกับคนที่เขาพลัดพรากจากกันมาก่อนเรานั้น
แล้วก็ต่อไปข้างหน้าอีกนานหาประมาณมิได้
คนที่จะเกิดมาทีหลังเราๆ เขาจะต้องพลัดพรากจากกัน
จึงว่าทุกคนต่างเกิดมาพลัดพรากเสมอกันหมด
ไม่มีใครยิ่ง ไม่มีใครหย่อน ไม่มีใครที่จะดีกว่ากัน”

หลวงปู่แบน ธนากโร






"จิต ของเราเหมือน
อาหารที่อยู่ในชาม
สติ เหมือน ฝาชาม
ถ้าเราขาดสติก็เท่า
กับเปิดฝาชามไว้
แมลงวัน (กิเลส)
ย่อมจะบินมาเกาะ
เมื่อเกาะแล้วมันก็
กินอาหาร แล้วก็
ขี้ใส่บ้าง นำเชื้อโรค
มาใส่ให้บ้าง ทำให้
อาหารนั้นเป็นโทษ
เป็นพิษ เมื่อเราบริโภค
อาหารที่เป็นพิษ
เราก็ย่อมได้รับ
ทุกข์ประสพอันตราย

ฉะนั้น เราต้องคอย
ระวังปิดฝาชามไว้เสมอ
อย่าให้แมลงวันมาเกาะได้
จิตของเราก็จะ
บริสุทธิ์สะอาด
เกิดปัญญาเป็น
วิชชาความรู้"

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 77 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร