วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 07:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2022, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"เราไปห้ามเขาไม่ได้ เราไปบังคับเขาไม่ได้ แต่สิ่งที่เราบังคับได้ ก็คือ ใจของเรา ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขา เขาจะเป็นอย่างไรก็ให้เขาเป็นไป"

#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
"ปฏิบัติธรรม"
กัณฑ์ที่ ๑๓๐ หน้า ๔๐
๖ กันยายน ๒๕๔๕






"สวดมนต์สาธยายธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นบุญเป็นกุศลแล้ว ก็ภาวนาให้มากๆ การภาวนานี่ล่ะเป็นการลงไปสัมผัสไปค้นคว้าธรรมะของพระพุทธเจ้าจริงๆ จะกำจัดไฟโลภไฟโกรธไฟหลงได้ก็ด้วยธรรมะที่เกิดจากการภาวนานี่ล่ะ"
.
โอวาทตอนหนึ่งของหลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล






“ใครจะว่าเราดีเราชั่วนั้น
ไม่ใช่อยู่ที่คนพูด แต่อยู่ที่การกระทำ
ของเราต่างหาก ถ้าหากเขาว่าเราดี
แต่เราไม่ดีจริง ก็ไม่มีความหมาย”

หลวงพ่อเกษม เขมโก






การที่จิตมันจะดีขึ้นไปได้
มันก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ
ไปด้วยความเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อ
การที่เรามีอุบายสามารถ
ระงับเรื่องวุ่นวายต่างๆ
ทั้งภายในใจตัวเองและทั้งภายนอก
ให้มันสงบระงับลงไปได้ครั้งหนึ่งๆ
นี่เราก็ได้ความรู้ความฉลาด
ขึ้นส่วนหนึ่งแล้วจิตใจก็รู้สึกว่าดีขึ้น
เข้มแข็งขึ้นกว่าเก่า
นี่การฝึกจิตนะให้พากันเข้าใจ

#คติธรรมคำสอน
#หลวงปู่เหรียญ #วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต





ไม่มีใครดีที่สุด ทุกคนล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
จงมองตนเอง เพื่อแก้ไข และมองคนอื่น เพื่อให้อภัย
จะอยู่สุขใจ และ เป็นอิสระ

- หลวงปู่ศรี มหาวีโร -





ต้นเหตุของความทุกข์ที่บังเกิดขึ้นในชีวิต ล้วนเกิดจากการตั้งทิฐิไว้บนหนทางที่ผิด ถ้าเริ่มต้นแก้ไขปัญหาด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้อง โดยยึดมั่น “ขันติธรรม” คือความอดทนอดกลั้นเป็นพื้นฐาน เป็นเครื่องยับยั้ง ไม่ให้พูด และไม่ให้ทำสิ่งใดๆ อย่างหุนหันพลันแล่น ท่านย่อมสามารถผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคไปได้เสมอ

ขันติจึงเป็นตบะ ซึ่งช่วยบรรเทากิเลสให้เบาบางลง เป็นการเปิดโอกาสให้คุณธรรมอื่นๆ เช่น ความจริงใจ ความเมตตา ความเสียสละ และความสามัคคี สามารถงอกงามขึ้น เป็นดั่งพรที่ทุกคนพึงหยิบยื่นแบ่งปันให้กัน ในที่ทุกสถาน และในกาลทุกเมื่อ

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก








#พิจารณาสังขาร

"สังขารมันเกิดขึ้นที่ไหน
อะไรเป็นสังขาร สังขารมันก็เกิดขึ้นที่จิตของเราเอง เป็นอาการของจิต...พาให้เกิดขึ้น ซึ่งสมมติทั้งหลาย

สังขารนี้แล
เป็นตัวการสมมติบัญญัติสิ่งทั้งหลาย ในโลก
ความจริงในโลกทั้งหลาย
หรือธรรมธาตุทั้งหลาย เขามีเขาเป็นอยู่อย่างนั้น แผ่นดิน ต้นไม้ ภูเขา ฟ้า แดด เขาไม่ได้ว่า...
เขาเป็นนั้น เป็นนี้เลย

เจ้าสังขารตัวการนี้...
เข้าไปปรุงแต่งว่า เขาเป็นนั้นเป็นนี้จนหลงกันว่า...
เป็นจริง ถือเอาว่าเป็นตัวเรา เป็นของๆ เราเสียสิ้น
จึงมี ราคะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้น ทำจิตดั้งเดิม...
ให้หลงตามไป เกิด แก่ เจ็บ ตาย เวียนว่ายไป
ไม่มี ที่สิ้นสุด เป็นอเนกภพ อเนกชาติ
เพราะเจ้าตัวสังขารนั้นแล...เป็นตัวเหตุ

จึงทรงสอนให้พิจารณาสังขารว่า...
สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา
ให้เป็นปรีชาญาณชัดแจ้ง เกิดจากผลแห่งการเจริญปฏิภาคเป็นส่วนเบื้องต้น จนทำจิตให้เข้าภวังค์
เมื่อกระแสแห่งภวังค์หายไป มีญาณเกิดขึ้นว่า...
นั้นเป็นอย่างนั้น...เป็นสภาพไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เกิดขึ้นในจิตจริงๆ จนชำนาญเห็นจริงแจ้งประจักษ์ ก็รู้เท่าสังขารได้...
สังขารก็จะมาปรุงแต่ง ให้จิตกำเริบอีกไม่ได้

ในคาถาว่า...
อกุปฺปํ สพฺพธมฺเมสุ เญยฺยธมฺมา ปเวสฺสนฺโต
เมื่อสังขารปรุงแต่งจิตไม่ได้แล้ว ก็ไม่กำเริบ
รู้เท่า...ธรรมทั้งปวง
สนฺโต
ก็เป็นผู้สงบระงับถึงซึ่งวิมุตติธรรม ด้วยประการฉะนี้."

โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต







“ การไหว้ขอขมา 7 ครั้งก่อนนอน ”
ของ.."สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี"
1. ไหว้ครั้งแรก เพื่อบูชาและขอขมา"พระพุทธเจ้า" น้อมระลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่ช่วยชี้ทางสว่างให้สัตว์โลก พร้อมสำนึกน้อมรับในสิ่งที่พระพุทธองค์ฝากเราไว้ให้ปฏิบัติได้แก่ "ทาน ศีล ภาวนา"
2. ไหว้ครั้งที่สอง เพื่อบูชาและขอขมา"พระธรรม" น้อมระลึกถึงคุณงามความดีของพระธรรมคำสั่งสอนที่เป็นสัจธรรมที่ช่วยรื้อถอน กิเลสให้สัตว์โลกและนำพาสัตว์โลกสู่ความสุขอย่างแท้จริง พร้อมสำนึกและน้อมรับพระธรรมที่พอจะนึกออกมาพิจารณาเนือง ๆ
3. ไหว้ครั้งที่สาม เพื่อบูชาขอขมา"พระสงฆ์" สาวกผู้มีพระคุณสานต่อจากพระพุทธเจ้าในการช่วยกันนำพาสัตว์โลกสู่ทางสว่าง ระลึกถึงพระที่ท่านเคารพรักนับถือแล้วอธิษฐานให้มาเป็นครูบาอาจารย์เพื่อปก ปักรักษาท่าน พร้อมสำนึกและน้อมรับในการช่วยส่งเสริมสถาบันสงฆ์ เพื่อช่วยการสานต่อศาสนาเช่น บำรุงสงฆ์ น้อมรับคำสอน ทำบุญตักบาตร และช่วยเผยแพร่ธรรม เป็นต้น
4. ไหว้ครั้งที่สี่ เพื่อ กราบไหว้บูชาขอขมา"พ่อ-แม่" ไม่ว่าท่านทั้งสองจะล่วงลับหรือยังอยู่ การกราบไหว้ท่านก่อนนอนเป็นประจำจะช่วยสร้างสิริมงคลให้ชีวิตและส่งเสริมให้ ผู้กราบได้บุตรที่ดีในอนาคต การงานและชีวิตส่วนตัวของผู้กราบจะเจริญรุ่งเรือง "ด้วยอานุภาพแห่งความกตัญญู" ขอให้ท่านน้อมระลึกถึงพระคุณของพ่อแม่ในขณะที่กราบพร้อมขอขมาท่านด้วยใจจริง น้อมสำนึกว่าจะไม่ทำความผิดต่อพ่อแม่อีกทั้งในภพนี้และภพหน้า
5. ไหว้ครั้งที่ห้า เพื่อกราบไหว้บูชาขอขมา"พระสยามเทวาธิราชและพระมหากษัตริย์" ท่านเหล่านี้ล้วนมีบุญบารมีในการปกปักรักษาบ้านเมือง บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้บ้านเมืองของพวกเรา พึงกราบไหว้ก่อนนอนเพื่อขอขมาและขอบารมีท่านมาปกปักรักษาสร้างสิริมงคลให้ ชีวิต ขณะกราบพึงน้อมระลึกสำนึกในหน้าที่ที่ท่านต้องทำเพื่อประเทศชาติ สิ่งศักดิ์สิิทธิ์จะมาอนุโมทนาและคอยส่งเสริมกิจการงานท่านให้เจริญ รุ่งเรือง
6. ไหว้ครั้งที่หก เพื่อกราบไหว้บูชาขอขมา"ครูบาอาจารย์ทั้งทางโลกและทางธรรม"ทั้งหลาย ไม่ว่าท่านเหล่านั้นจะมาในรูปแบบไหน ( เช่น เป็นเพื่อน เป็นครู เป็นคนรู้จัก เป็นเจ้านาย ฯลฯ ) พึงน้อมระลึกสำนึกในบุญคุณของพวกท่านเหล่านั้นและขอขมาต่อสิ่งที่ได้ทำผิด พลาดลงไป
7. ไหว้ครั้งที่เจ็ด เพื่อ กราบไหว้ขอขมา"เจ้ากรรมนายเวร" ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และเป็นดวงวิญญาณจากหลายภพหลายชาติ ( แม้แต่สัตว์ที่ท่านทานเข้าไป ) ให้ท่านน้อมระลึกในความทุกข์ของท่านที่กำลังประสบอยู่ ยิ่งทุกข์มาก แสดงว่ากรรมท่านก็มาก เพราะเคยทำผิดไว้มาก ตาม"กฏแห่งกรรม"ธรรมดาโลก
ให้ท่านขอขมาเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ท่านเคยล่วงเกินไว้ไม่ว่าจะในภพนี้ หรือภพที่ผ่านๆมา เพื่อขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร พึงน้อมสำนึกว่าจะไม่ก่อกรรมร้ายใดๆอีกตราบเท่าที่จะพยายามทำได้เพื่อไม่ให้ เป็นภาระในกาลข้างหน้าอีก ( การไม่ก่อกรรมชั่ว คือการไม่สร้างหนี้สินให้ตัวเอง )
หลังจากไหว้ครบ 7 ครั้ง พึงน้อมจิตแผ่เมตตาดังนี้
“ พรหมโลก เทวโลก มนุษยโลก นรกโลก มารโลก ตลอดทั่วขอบรอบจักรวาล ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรุปทุกนาม จงมีแต่ความสุขกาย สุขใจ อย่าได้มีความทุกข์กายทุกใจเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงมีแต่ความสบายจิตสบายใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลายทั้งสิ้นเทอญ ”
** อานิสงค์จากการไหว้บูชาขอขมา 7 ครั้งก่อนนอน **
1. ทำให้เป็นที่รักใคร่ของมวลสัตว์โลก และโลกวิญญาณทั้งเบื้องล่างและเบื้องบน
2. หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น ยศตำแหน่งรุ่งเรือง เจ้านายเมตตา
3. สิ่งศักดิ์สิิทธิ์คุ้มครอง ไปที่ไหนก็แคล้วคลาดจากอันตรายต่าง
4. จิตแจ่มใส มีสติ มีความเมตตาและความอ่อนโยนอยู่เนือง ๆ
5. สติปัญญาดี ไม่อับจนหนทาง
6. ปราศจากเจ้ากรรมนายเวรอาฆาตพยาบาท
7. เงินทองไหลมาเทมาด้วยอานุภาพของสิ่งทั้ง 7 ที่กราบไหว้
8. จิตเกิดสมาธิได้เร็ว จิตไม่มีมารมาคอยทำให้ฟุ้งซ่าน
9. ปัญหาชีวิตคลี่คลาย จากหนักเป็นเบา
10. ครอบครัวเจริญรุ่งเรือง รักใคร่ปรองดอง

คติธรรมคำสอน…."สมเด็จพระพุฒาจารย์" (โต พฺรหฺมรํสี)
ธรรมะมหัศจรรย์ ตามรอยธรรมสมเด็จโต







คนที่ทำความดีมากและก็ไปนรกก็ได้แก่ "พระนางมัลลิกาเทวี" ชายาของพระเจ้าปเสนธิโกศล คือเป็นเอกอัครมเหสีน่ะ เรียกชายาก็ไม่ถูก พระนางนี้มีความเคารพในพระสวามีมาก และก็บำเพ็ญกุศลมาก ขึ้นชื่อว่าทานในสมัยนั้นนอกจากนางวิสาขาแล้วใครจะถวายทานเคียงคู่กับพระนางมัลลิกาเทวีนี่ ไม่มี หาไม่ได้ ถวายแม้แต่กระทั่งอทิสสทาน คำว่า “อทิสสทาน” นี่มันต้องถวายกันเยอะ ทรัพย์สินในรั้วมากเท่าไรก็เป็นมหาเศรษฐีใหญ่หรือกษัตริย์เท่านั้นจึงถวายได้ แต่ว่าพระนางมัลลิกาเทวีก็ทำได้ และก็มีความเคารพในพระสวามีมากเหมือนกับบิดา

ในตอนนั้นปรากฏว่าคืนวันหนึ่งพระนางลุกจะไปเข้าห้องปัสสาวะ ที่บรรทมของพระราชาสมัยนั้นไม่เหมือนสมัยนี้ ไม่มีไฟฟ้า เขาใช้ตะเกียง ตะเกียงมันคงจะดับ หรือว่าดับตะเกียงมันไปเสียก่อน บังเอิญเท้าของพระนางไปกระทบกับพระบาทของพระราชาเข้า พระนางก็เสียพระทัย เพราะขึ้นชื่อว่าความชั่วชนาดนี้ไม่เคยมีสำหรับพระนาง เสียใจมาก

พระเจ้าปเสนธิโกศลเมื่อทราบเข้าก็ให้อภัย บอกว่าไม่มีเรื่องอะไร ฉันไม่เอาโทษ เพราะเธอไม่เจตนา เพราะว่าพระนางนี้เป็นคนดีมาก มีศรัทธาและสร้างความดีไว้มาก ตลอดจนกระทั่งบุญวาสนาบารมีที่สร้างไว้ก็ดี จริยาก็ดีทุกอย่าง แต่ทว่าพระนางก็ทำความชั่ว ก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้เราไม่น่าจะปรามาสพระสวามี

ทั้ง ๆ ที่สามีก็ไม่ทรงโกรธ แต่อาศัยที่จิตมัวหมอง พระนางเวลาตายไปแล้วต้องไปอยู่ในนรกสิ้น 7 วันของมนุษย์ คำว่าลงนรกในที่นี้ก็ไม่ได้ลงมาก มีเครื่องประดับกายเหมือนกับนางฟ้า แต่ว่าเท้าของพระนางที่ไปสะดุดสามีเข้า ต้องแหย่ลงไปในนรกแค่ตาตุ่ม ไอ้ไฟนรกมันก็ร้อน นี่เพราะอาศัยจิตเศร้าหมอง ไม่มีเจตนาลงนรกได้

แต่ทว่าในระหว่างนั้นพระเจ้าปเสนธิโกศลเห็นว่าเอกอัครมเหสีเป็นที่รักตายลงไป ก็ตั้งใจจะไปถามพระพุทธเจ้าว่า เวลานี้พระนางมัลลิกาเทวีซึ่งเป็นพระมเหสีองค์สำคัญมรณภาพไปแล้วนั้น เวลานี้ไปอยู่ที่ไหน

องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงทราบวาระน้ำจิต และก็ทรงทราบว่าถ้าหากเราตอบว่าพระนางมัลลิกาเทวีนี่ลงนรก คนอย่างพระเจ้าปเสนธิโกศลจะไม่ยอมนับถือพระพุทธศาสนาต่อไปอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ก็เพราะว่าทราบดีว่าในเมืองนี้นอกจากพระนางมัลลิกาเทวีและมีนางวิสาขาอีกคนเดียวเท่านั้นที่จะทำบุญเสมอกัน นอกนั้นไม่มีเหมือน

ฉะนั้นในช่วงระยะเวลา 7 วันที่พระนางมัลลิกาเทวีไปอยู่ในนรก ไอ้ 7 วันของเรานี่มันได้นาทีของเขาหรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะเมืองนรกนี่วันเวลามันมาก

เมื่อพระเจ้าปเสนธิโกศลตั้งใจจะไปถามพระองค์ พระองค์ก็ทรงบันดาลด้วยฤทธิ์ให้พระเจ้าปเสนธิโกศลลืมเรื่อง คุยเรื่องอื่นกันต่อไป คุยไปจนกระทั่งลืมถาม ถึงเวลาก็ลากลับ กลับแล้ววันรุ่งขึ้นนึกขึ้นมาได้ว่า อ้าว... จะไปถามพระพุทธเจ้าเสียหน่อยว่าเมียอยู่ที่ไหน วันรุ่งขึ้นก็ไปใหม่ พระพุทธเจ้าก็ทำแบบนั้น

พอถึงวันที่ 8 พระนางมัลลิกาเทวีก็พ้นจากนรก ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก แต่ความจริงขณะที่เท้าแหย่ไปในนรกแค่ตาตุ่ม เฉพาะเท้าขวา เท้าที่สะดุดเท้าสามี ร่างกายของพระนางนี้ก็มีสภาพเป็นนางฟ้า มีเครื่องประดับครบถ้วน แต่เพราะอาศัยจิตเศร้าหมองนิดเดียว

นี่คนทำความดีตั้งแต่เด็กยันแก่ยันตาย แต่ว่ามีใจเศร้าหมองนิดเดียว ต้องเอาเท้าไปแหย่ในนรก 7 วัน และเมื่อวันที่ 8 พระเจ้าปเสนธิโกศลไปใหม่ วันนี้พระพุทธเจ้าคลายฤทธิ์ให้พระเจ้าปเสนธิโกศลนึกออก ก็ถามพระพุทธเจ้าว่า “เวลานี้พระนางมัลลิกาเทวีไปอยู่ที่ไหน?” องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ตรัสว่า "พระนางมัลลิกาเทวีไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก เป็นผู้รักษาเวชยันตวิมาน เพราะอาศัยที่นางมีบุญบารมีมาก"

นี่เป็นตัวอย่างอันหนึ่งที่เรียกว่าเราสร้างความดีไว้มาก แต่ทว่าอารมณ์จิตเศร้าหมองเวลาจะตายเราก็ไปนรกได้ แต่มันไปไม่นาน แต่ความจริงนรกนี่นานหรือไม่นานก็ไม่น่าไป

พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2524),11,53-55







“ใครจะว่าเราดีเราชั่วนั้น
ไม่ใช่อยู่ที่คนพูด แต่อยู่ที่การกระทำ
ของเราต่างหาก ถ้าหากเขาว่าเราดี
แต่เราไม่ดีจริง ก็ไม่มีความหมาย”

หลวงพ่อเกษม เขมโก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 90 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร