วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 13:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2022, 04:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“ เป็นลมหายใจสุดท้ายมากกว่า “

ถาม : ตอนจิตสุดท้าย
ควรจะทำจิตไว้อย่างไรคะ

พระอาจารย์ : จิตสุดท้ายมันไม่มีหรอก
จิตมันไม่มีสุดท้ายหรอก
เป็นลมหายใจสุดท้ายมากกว่า

ก็ปฏิบัติเหมือนกับที่เราปฏิบัติ
พยายามควบคุมจิต
อย่าไปให้ตื่นเต้นตกใจ เท่านั้นเอง

ร่างกายมันจะเป็นอะไรก็เรื่องของมัน
ไม่ใช่เรา “เราเป็นจิต”
เราก็รักษาให้มันเป็นปกติ
เหมือนกับที่คุยกันตอนนี้แหละ เท่านั้นเอง

ไม่ต้องไปตื่นเต้นตกใจกลัว
ถ้ามันตื่นเต้นก็ต้องใช้สติ พุทโธ
หรือใช้ปัญญาสอนมัน บอกว่า
มันไม่เป็นอะไร เหมือนคนดูหนัง
ดูหนังไปตื่นเต้นกับหนังทำไม
เท่านี้เอง.. ไม่มีอะไร

ทีนี้ความหลงมันไปคิดว่าเราเป็นร่างกาย
พอร่างกายจะตาย
เราก็คิดว่าจะตายไปกับร่างกาย
ก็หวาดกลัว ไม่อยากตาย

ยิ่งไม่อยากตาย ยิ่งทุกข์ยิ่งเครียดใหญ่
ความทุกข์เกิดจากความไม่อยากตายนี้
งั้นมาฝึกทำใจให้เฉยๆ
“ไม่อยากตาย ไม่อยากอยู่ ได้ทั้ง ๒ อย่าง”

เพราะไม่ใช่เรา
ร่างกายมันจะอยู่ก็ปล่อยมันอยู่ไป
จะตายก็ปล่อยมันตายไป
เราไปควบคุมบังคับมันไม่ได้
“ มันเป็นอนัตตา “

เราคือจิตผู้รู้ ..” ก็รู้ตามความเป็นจริง “
แล้วก็ปล่อยวาง เท่านั้น.

……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน
10 กรกฎาคม 2564






#จิตผู้ฟังธรรม_ย่อมผ่องใส

"... จิตผู้ฟังธรรมย่อมผ่องใสนั้น ผ่องใส
เพราะจิตได้รับความสงบในขณะที่ฟัง ถ้า
ไม่สงบก็ไม่ผ่องใส

... เราคิดดูน้ำแม้จะไม่มีตะกอนอะไรเลย
เวลาถูกกวนก็ยังขึ้นฟองให้เราเห็น ฟอง
นั้นไม่ใช่เป็นปรกติของน้ำอันดั้งเดิม แต่ปรากฏขึ้นมาใหม่เพราะการถูกกวน

... ใจก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่สงบก็ไม่ผ่องใส
ถูกกวนด้วยอารมณ์ ถูกกวนด้วยความคิดความปรุงของตน ใจก็ขุ่นมัวได้ เพราะการรบกวนจากอารมณ์ต่าง ๆ ... "

#ขณะที่ฟังเทศน์ให้มีแต่เสียงธรรมะเท่านั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับจิตใจ
#จึงเป็นเหมือนกับสารส้มที่ไปกวนน้ำที่ขุ่นให้ปรากฏเป็นน้ำที่ใสขึ้นมา"

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน







"ดูท่อนไม้ท่อนนี้ซิ สั้น หรือยาว?
สมมุติว่าคุณอยากได้ไม้ที่ยาวกว่านี้
ไม้ท่อนนี้มันก็สั้น แต่ถ้าคุณอยากได้ไม้ที่สั้นกว่านี้
ไม้ท่อนนี้มันก็ยาว

หมายความว่า ตัณหาของคุณต่างหาก
ที่ทำให้มีสั้น มียาว มีดี มีชั่ว มีทุกข์ มีสุขขึ้นมา
เมื่อรู้เท่าทันสิ่งสมมุติแจ้งชัด วิมุตติก็เกิดขึ้นมาทันที"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท







“ตัวเราคนเดียวที่เทียวรัก เทียวชัง
รัก ชัง ทุกข์ โทษกับโลก หากตัวเองไม่แก้ไข
ใครจะมาแก้ให้

เราไม่แก้เอง เราไม่โทษตัวเรา
เราไม่ละความชั่วในตัว เราไม่ทำความดี
แล้วตนของตนจะได้อะไร

อย่าไปหาโทษในท่านผู้อื่น ดูตนของตนให้มาก
อย่าอยูเฉยๆ ให้รู้จักพิจารณาบ้าง เกิดมาแล้วนี้
อะไรบ้างจะเป็นคุณค่าแก่ตนของตน”

หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ







"คนที่เขาว่าเราไม่ดีนั้น
เขาก็ไม่ได้มาทำให้เราดี ให้เราชั่ว
เราเอง เป็นคนที่ทำให้เราดี
เราเอง เป็นคนที่ทำให้เราชั่ว"

หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล






อยู่กับปัจจุบันหมายถึงการชื่นชมสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วย
เรามีอะไรอยู่ตอนนี้ เราก็พอใจ เห็นคุณค่า

คนจำนวนมากไปทุกข์กับสิ่งที่ตัวเองไม่มี สิ่งที่มีไม่ชื่นชม ไม่เห็นคุณค่า เด็กหลายคนมีของเล่นสารพัด มีทั้งเครื่องดนตรีนานาชนิด กีต้าร์ ขลุ่ย กลอง มีโทรศัพท์มือถือ มีคอมพิวเตอร์ มีโน้ตบุ๊ก แต่ก็ไม่มีความสุข เพราะว่าตัวเองยังไม่มีไอแพด ใจมันไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่มี ลืมหรือมองข้ามสิ่งที่มีไป อันนี้ก็รวมถึงการจดจ่อกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้วด้วย ก็เลยทำให้ไม่ชื่นชมในสิ่งที่มีอยู่ ไม่เห็นคุณค่าของมัน

มีผู้หญิงใต้หวันคนหนึ่งอายุ 30 ปี เธอพิการสมอง เดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น พูดไม่ได้ด้วย ต้องใช้วิธีการสื่อสารด้วยวิธีการเขียน ก็ต้องนับถือแม่ของเธอที่ให้เธอถือกำเนิดมา เพราะบางคนเห็นลูกพิการสมอง ก็จัดการ กลัวลูกจะลำบาก แต่ว่าแม่ก็ให้เธอคลอดออกมา และเธอก็สามารถใช้สิ่งที่มีอยู่ จนกระทั่งเรียนจบปริญญาเอก มหาวิทยาลัยที่มีชื่อของอเมริกา UCLA เธอก็ได้รับเชิญไปบรรยายตามที่ต่างๆ ไปให้กำลังใจ

คราวหนึ่งก็ไปพูดให้กับนักเรียนมัธยม พูดจบก็มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งถามว่าคุณเกิดมาพิการ คุณรู้สึกกับตัวเองอย่างไร มองตัวเองอย่างไร ห้องประชุมก็เงียบกริบเลยเพราะว่าเป็นคำถามที่ปกติเขาไม่ถามคนพิการ มันตรงไป แต่ว่าหวังเหมยหลิง ชื่อของผู้หญิงคนนี้ เธอยิ้มแล้วก็หันไปเขียนที่กระดาน เธอพูดไม่ได้ เธอก็เขียนฉันมองตัวเองอย่างไร

1.ฉันเป็นคนน่ารัก
2.ฉันมีขาที่สวยงาม
3.พ่อแม่รักฉัน
4.พระเจ้าก็รักฉัน
5.ฉันมีแมวที่น่ารัก
6.ฉันเขียนหนังสือได้ วาดรูปได้

แต่ที่ประทับใจอยู่ข้อที่ 7 ซึ่งเป็นการรวบรวมทัศนคติมุมมองหรือว่าเคล็ดลับของเธอ ที่ทำให้เธอมีความสุขก็คือ

ฉันมองแต่สิ่งที่ฉันมี ฉันไม่มองสิ่งที่ฉันไม่มี ฉันไม่มองสิ่งที่ฉันขาด

อันนี้ก็คือความหมายหนึ่งของการอยู่กับปัจจุบัน ชื่นชมสิ่งที่มี สิ่งที่ไม่มีก็ไม่สนใจ ไม่เอามาทิ่มแทงตัวเอง สิ่งที่หายไปแล้ว สิ่งที่สูญไปแล้ว ก็ไม่เอามาสร้างความหนักอกหนักใจ หรือว่าทำให้เสียใจ ทุกครั้งที่เราเสียใจเพราะว่าเสียดายของที่หายไป หรืออาลัยสิ่งที่สูญเสียไป นั่นแสดงว่าเราไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน หรือทุกครั้งที่เราพะวงห่วงกังวลกับนั่นกับนี่ นั่นแสดงว่าเราไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน

พระไพศาล วิสาโล
ที่มา หลายแง่มุมของการอยู่กับปัจจุบัน
ถอดคำบรรยาย โดย อดิศรา เตชะกิจจาทร







“ ความเข้าใจผิด ”

๑. เข้าใจผิดว่า ...ทำดี ต้องได้ดี ทำบุญต้องได้บุญ
ที่ถูก คือ ...ทำดีไม่ได้อะไร ได้แค่ละกิเลส ทำบุญ ได้แค่สบายใจ

๒. เข้าใจผิดว่า ...ดีกับใคร คนนั้นต้องดีตอบ
ที่ถูก คือ ...เรามีหน้าที่ทำดี ใครจะดีกับเรา ไม่ดีกับเรา ไม่ใช่เรื่องของเรา

๓. เข้าใจผิดว่า ...ให้อะไรใคร ต้องได้กลับคืน
ที่ถูก คือ ...การ “ให้” คือ ยินดีเสียสละ ให้แล้วคาดหวัง..ไม่ใช่การให้ อ้างบุญคุณไม่ได้

๔. เข้าใจผิดว่า ...แก่แล้วทำอะไรก็ได้
ที่ถูก คือ ...แก่แล้วต้องยิ่งสำนึก ทำชั่วไม่ได้ เวลาเหลือน้อย

๕. เข้าใจผิดว่า ...ต้องทำเพื่อความมั่นคงของชีวิตในภายหน้า ที่ถูก คือ ...ความมั่นคงไม่มีในโลก ตายได้ทุกเมื่อ

๖. เข้าใจผิดว่า ...ความต้องการของตัวเองสำคัญที่สุด เราสำคัญที่สุด ที่ถูก คือ ...ไม่มีความต้องการนั่นแหละสำคัญที่สุด ไม่มีเราต่างหากสำคัญที่สุด

๗. เข้าใจผิดว่า ...เข้าวัด ใจสงบ
ที่ถูก คือ ...วัดอยู่ในใจ..ใจสงบ

๘. เข้าใจผิดว่า ...ความสบายเลือกได้
ที่ถูก คือ ...เกิดมาก็ทุกข์แล้ว มันเลือกไม่ได้ ไม่มีใครสบายตลอดชาติ

๙. เข้าใจผิดว่า ...สิ่งของ คนของเรา ตัวตนของเรา
เราต้องยึดไว้ รักษาไว้
ที่ถูก คือ ...ไม่มีอะไร หรือใคร ให้ต้องยึด ต้องรักษา
ทุกอย่างไม่ใช่ของเรา และที่สุดแล้ว...ก็ ไม่ มี...

คำสอน ... ท่านพุทธทาส ภิกขุ





5 ธรรมะสอนใจ แสงแห่งธรรมนำทางชีวิต

1.คนมีความสุข ไม่ใช่คนมีมากที่สุด แต่เป็นคนที่
ต้องการน้อยที่สุด ยิ่งมีความต้องการน้อยลง
สิ่งของที่มีอยู่ ก็จะดูเหมือนมีมากขึ้น

2.ต่อให้ทุกข์ที่สุด ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้
เมื่อเรานั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์

3.ทานถ้าไม่มีศีล เหมือนสินค้าไปเรือพาย
ถ้ามีศีล เหมือนสินค้าไปรถยนต์
ถ้ามีภาวนา เหมือนสินค้าไปเครื่องบินไอพ่น

4.เกิดเป็นคนให้มีดี 3 อย่างคือ
1.ใจดี 2.พูดดี 3.ทำแต่สิ่งดีๆ
แล้วเราจะได้ของดี อย่ามัวเมา มาขอแต่ของดีจากพระ

5.การให้อภัยคนเป็นบุญกุศลใหญ่
เราอย่าไปจองเวรจองกรรมกับใคร ส่วนเขาจะสำนึก
กลับตัว กลับใจ ได้หรือไม่ ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของกรรม

โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 61 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร