วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 16:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2022, 06:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


…ผู้ที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้
จะต้องรู้ทันอนิจจัง รู้ทันอนัตตา
ทุกลมหายใจเข้าออก ..” รู้ทันตลอดเวลา “

.ดังที่พระพุทธเจ้าทรงสอนพระอานนท์
ให้พิจารณาความตาย ทุกลมหายใจเข้าออก
ถ้าไม่คิดปั๊บ..
กิเลสจะเข้ามาควบคุมความคิดทันที

.จะให้คิดอยากอยู่ไปนานๆ
จะทำให้เกิดความกลัวตายขึ้นมา
เป็นความทุกข์ขึ้นมา
ความกลัวนี้เป็นความทุกข์
เป็นความอยากที่สร้างความทุกข์ขึ้นมาในใจ

.ความอยากไม่ตายทำให้เกิดความกลัวขึ้นมา
เป็นความทุกข์อย่างใหญ่หลวงภายในจิตในใจ
ทั้งๆที่ยังไม่ตายเลย ..
เพียงแต่คิดถึงความตายก็กลัวแล้ว

.คนเราถ้าจะกลัวก็ขอให้กลัวเพียงครั้งเดียว
“ กลัวตอนที่จะตายก็พอ ..กลัวเดี๋ยวเดียว “
เวลาตายนี้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว เท่านั้นเอง

.ระหว่างความเป็นกับความตายนี้
เพียงเสี้ยววินาทีเดียว
“ เหมือนปิดไฟ กับเปิดไฟ “
พอปิดไฟปั๊บ เพียงเสี้ยววินาทีเดียวไฟก็ดับ
พอหยุดหายใจ เพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็ตายแล้ว

.แต่ทำไมต้องมากลัวเป็นปีเป็นเดือน
กลัวตลอดเวลาทำไม ..
ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่จะสร้างความทุกข์
ให้กับใจ..โดยเปล่าประโยชน์

.เพราะไม่เจริญมรณานุสติ ไม่เจริญอนิจจัง
อนัตตาอย่างจริงจัง อย่างต่อเนื่อง
ลองตรวจตราดู ว่าวันๆหนึ่ง
เราคิดถึงความตายสักเท่าไร

.ตั้งแต่เดือนที่แล้วจนถึงวันนี้ คิดบ้างหรือเปล่า
หรือพึ่งมาคิดตอนนี้
พอได้ยินก็เลยได้คิดหน่อย
“ ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่าประมาทมาก “
เปิดช่องให้กิเลสมาสร้างความทุกข์ให้กับใจ

.ยังไม่เห็นคุณค่าของ
“ การพิจารณาไตรลักษณ์ อย่างจริงจัง “
ก็เลยเป็นเป้าของกิเลส ของความทุกข์ไป.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๙ กัณฑ์ที่ ๔๐๕
ธรรมะบนเขา ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๒






“... ให้พากันรีบเร่งปฏิบัติ ถือศีลภาวนา​ เพื่อ
ให้พ้นทุกข์
จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนตาย เวียนเกิดอีก

... อย่าพากันนิ่งนอนใจ จากนี้ไป โลกมนุษย์
จะไม่น่าอยู่เเล้ว
จะมีแต่คนพาล คนเกเร จิตใจโหดเหี้ยม คนบาปหยาบหนามาเกิด
เราๆ จะอยู่ร่วมกับเขาไม่ได้หรอก ให้พากัน
รีบเร่งปฏิบัติ

... หากเเม้นชาตินี้ เรายังไม่พ้นทุกข์ ก็ให้ได้
ไปบำเพ็ญภาวนา
รออยู่ชั้นพรหมโน่น เพื่อรอลงมาเกิดในโลกมนุษย์ยุคของพระศรีอริยเมตไตย ในยุคนั้น จะมีแต่คนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้มาเกิด ทุกคนจะมีอายุยืนเป็นหมื่นปี มีความสุข หน้าตาสวยงาม ไม่มีโรคภัย ไม่มีความยากจน และ
ทุกคนได้บำเพ็ญภาวนา ปฏิบัติธรรม หลังจากนั้น จะได้เข้าสู่นิพพานถ้วนหน้าทุกคน ...”

#หลวงปู่อว้าน_เขมโก





" ปีติ...
เป็นปัจจัย แห่ง...การรู้แจ้ง

การพัฒนาจิต
ต้องมี...ปีติ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงให้เบิกบาน
ชุ่มชื่น

ถ้าขาดปีติ
ชีวิต...
ก็เหี่ยวเเห้ง มืดมน กลายเป็นคนซึมเศร้า

วันนี้...
เราจงสร้างใจให้เกิด...ปีติ กันเถิด."

หลวงพ่อสุเมโธ.






“ บ่ ต้องดีใจ
บ่ ต้องเสียใจ
ดีก็ช่าง ร้ายก็ช่าง ”

เทศน์ที่สั้นที่สุด……. "วาง"

พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม





เราทุกคนล้วนต้องมีแบบอย่าง ทั้งในทางโลกและทางธรรม ผู้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีจะสร้างแรงบันดาลใจให้เราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่เหลือวิสัย และชี้ให้เราเห็นถึงหนทางที่ดีที่สุดในการดำเนินต่อไป หากปราศจากแบบอย่างที่ดี เราอาจเต็มไปด้วยความสงสัยได้ไม่ยาก หรือไม่ก็เสียเวลาไปกับการปฏิบัติแบบผิดๆ การมีแบบอย่างที่ดีช่วยให้เรากลายเป็นคนอดทนและฉลาดในการกระทำสิ่งต่างๆ

ทว่า แบบอย่างที่ไม่ดีก็อาจเป็นประโยชน์ต่อเราได้มากเช่นกัน เมื่อเห็นคนพูดไม่ดีหรือทำอะไรไม่ดี ก่อนอื่น เราพึงพยายามปล่อยวางอารมณ์โกรธ เสียใจ หรือผิดหวัง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นพึงไตร่ตรองถึงคำพูดและการกระทำอันน่ารังเกียจเหล่านี้ที่เราจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นในชีวิต เราอาจจะห้ามคนอื่นไม่ให้ทำตัวแบบนี้ไม่ได้ก็จริง แต่อย่างน้อยเราก็หักห้ามใจตัวเองได้

ที่จริงแล้ว อาจเป็นได้มากว่า ความพยายามที่จะพัฒนาคุณธรรมโดยตั้งใจว่าจะไม่เป็นเหมือนแบบอย่างที่ไม่ดี อาจมีพลังยิ่งกว่าความตั้งใจจะให้เป็นเหมือนแบบอย่างที่ดีเสียอีก ด้วยเหตุนี้ แม้แต่คนที่โหดร้ายละโมบโลภมากก็ยังควรค่าที่เราจะขอบคุณ

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ







“คนฉลาด ไม่ใช่แค่ฉลาดพูดเท่านั้น
ต้องรู้จักนิ่งอย่างมีสติให้เป็นด้วย
ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูด ให้มากยิ่งกว่า
สิ่งที่ควรพูด”

ท่านพุทธทาสภิกขุ





"ของดีอะไร อะไรคือของดี
ของดีก็มีอยู่ด้วยกันทุกคนแล้ว

การที่ร่างกายแข็งแรง
ไม่เจ็บไข้ได้พยาธินั้น ก็มีของดีแล้ว
การมีร่างกายแข็งแรง มีอวัยวะครบถ้วน
ไม่บกพร่องวิกลวิการ อันนี้ก็เป็นของดีแล้ว

ของดีมีอยู่ในตน
ไม่รู้จะไปเอาของดีที่ไหนอีก
สมบัติของดีจากเจ้าพ่อเจ้าเแม่ให้มา
ก็เป็นของดีอยู่แล้ว มีอยู่แล้วทุกคน
จะไปเอาของดีที่ไหนอีก

ของดี ก็ต้องทำให้มันเกิด
มันมีขึ้นในจิตใจของตน ความดีอันใด
ที่ยังไม่มี ก็ต้องเพียรพยายามทำให้เกิดให้มีขึ้น
นี่แหละของดี ของดีอยู่แล้วในตัวของเราทุกๆ คน

มองให้มันเห็น หาให้มันเห็น
ภายในตนของตนนี่แหละ จึงใช้ได้
ถ้าไปมองหาแสวงหาของดีภายนอกแล้ว
ใช้ไม่ได้"

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร