วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 20:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2023, 07:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"อย่าอธิษฐาน"

คนเรา ในยามที่รักกันมาก ก็มักพากันไปทำบุญ
อธิษฐานขอให้ได้อยู่ร่วมคู่กัน ไปทุกภพทุกชาติ
ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เป็นการอธิษฐานที่มิได้
อยู่บนสัมมาทิฏฐิ

เป็นการไม่ยอมรับความจริง ของความไม่เที่ยง
และไม่เป็นไปเพื่อการจางคลาย จากความยึดมั่น
ถือมั่น

สมัยก่อน ข้าพเจ้าเคยสงสัย หญิงสาวข้างบ้าน
คนหนึ่งว่า ทำไมจึงต้องทนให้สามีขี้เหล้า
ทำร้ายร่างกายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งๆ ที่สาวเจ้าคนนี้
ก็เป็นคนหารายได้ อยู่เพียงคนเดียว

แต่พอได้มาศึกษาธรรมะ จึงทำให้พอสันนิษฐานได้ว่า
เหตุปัจจัยส่วนหนึ่ง คงมาจากการอธิษฐาน ขอให้
ได้มาอยู่ร่วมชีวิตกัน ก็เป็นได้

ในเรื่องการอธิษฐานทำนองนี้ หลวงปู่ดู่ท่านสั่งห้าม
ท่านว่ากาลเวลาผ่านไป แต่ละคน ก็มีการสั่งสม
หรือพัฒนาการต่างๆ กันไป เรียกว่า ธรรมไม่เสมอกัน

มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง มาทำบุญกับหลวงปู่
เมื่อทำบุญเสร็จแล้ว ก็พากันตั้งจิตอธิษฐาน
อะไรอยู่ในใจ ขณะนั้น หลวงปู่ท่านก็ทักขึ้นว่า

"สามีภรรยา ไม่ต้องอธิษฐานตามกัน เพราะจะดึงกัน
อีกคนไปได้ อีกคนไปไม่ได้ มันจะดึงกัน"

เรื่องนี้ จึงสอนให้ระมัดระวัง ไม่ให้ไปเที่ยวอธิษฐาน
ตามคนรัก หรือใครๆ เพราะวิบากกรรม อันเกิดจาก
การอธิษฐานที่ไม่กอปรด้วยสัมมาทิฏฐิ ก็อาจกลับกลาย
เป็นอุปสรรค ต่อการปฏิบัติธรรมในวันข้างหน้าได้

นี่แหละหนาที่ว่า ความรักทำให้คนตาบอด
และแทนที่จะเป็นบุพเพสันนิวาส ก็อาจกลับกลาย
เป็นบุพเพอาละวาด!!!

ที่มาจาก หนังสือตามรอยธรรม ย้ำรอยครู
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ







เมื่อจิตบริสุทธิ์แล้ว
ไม่พูดก็เป็นมงคล
พูดก็เป็นมงคล
ยืน เดิน นั่ง นอน
ล้วนเป็นมงคล
.
โอวาทธรรม
หลวงปู่คลาด ครุธัมโม
วัดป่าบ้านใหม่ จ.อุดรธานี





จิต ไม่เคยบอก " เท็จ "
"กรรมดี" หรือ "กรรมชั่ว "
ถ้าได้ทำลงไปแล้ว ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้เรื่อง
ที่เราทำ.....ตัวเรานั่นแหละ รู้ตัวเองดีที่สุด
ถึงจะโกหกคนทั้งโลกได้
แต่เราจะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเรา "พูดจริง" ได้ "พูดเท็จ" ได้
แต่ " จิต "ไม่เคยพูดเท็จในเรื่อง "กรรม"

คำสอน หลวงปู่ชอบ ฐานสโม





คนเรามันจะดี จะชั่ว มันอยู่ที่ตัวเองทั้งนั้นต่อให้มีใครชวนลงต่ำถ้าไม่ไปด้วยตัวเองแล้ว
มันจะชั่วได้อย่างไร

--- หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ---





อย่ารักใครมากจนเกินไป
อย่าเกลียดใครมากจนเกินไป
อย่าชังใครมากจนเกินไปนัก..

พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
วัดป่านาคำน้อย (วัดอุดมมงคลวนาราม)
บ้านนาคำน้อย ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี





...ทุกข์เพราะใจ
คนที่จะพ้นจากทุกข์ได้ พ้นจากโลกนี้ได้
พ้นจากกรรมได้ ก็เพราะใจอันเดียว
จงยึดใจถือใจเป็นสำคัญ

จะมาเกิดก็เพราะใจ
เกิดแล้วจะมาสร้างกิเลสขึ้นก็เพราะใจ
เป็นทุกข์ก็เพราะใจ..

“ถ้าใจไม่เป็นทุกข์ ใจไม่ยึดถือ
ปล่อยทิ้งเสีย กายอันนี้ก็ไปตามเรื่องของกาย
ใจก็เป็นตามเรื่องของใจ หมดเรื่องหมดราวกันที"

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี





เจริญขึ้นหรือเลวขึ้น

ลองคิดดูว่าเราเป็นผู้เจริญขึ้นหรือว่าเราเป็นผู้เลวขึ้น มันขึ้นทั้ง ๒ อย่าง เขาเรียกว่าขึ้นเหมือนกัน
#ความดีมันขึ้นความเลวก็หายไป​
#ความเลวมันขึ้นความดีมันก็หายไป

ถ้ากำลังใจของเรายังตกอยู่ในอำนาจของอบายภูมิ คือเป็นทาสของนิวรณ์ทั้ง ๕ ประการ รู้ไว้ได้เลยว่าเราไม่มีโอกาสจะมาเห็นหน้าความเป็นมนุษย์อีกนานแสนนาน นี่ขอท่านทั้งหลายจงระมัดระวังสังวรณ์ คำว่า สังวรณ์ แปลว่า สำรวม สำรวมแปลว่าระวังจิตจงเป็นผู้พิชิตนิวรณ์ ๕ ประการให้พินาศไป แล้วทรงกำลังปฐมฌานให้ทรงไว้

วันนี้เราพูดกันแค่ปฐมฌาน ทำไม่จึงพูดอย่างนั้น เพราะเราพูดกันมาถึงพระนิพพานแล้ว แล้วทำไมเราจึงลดลงมาแค่ปฐมฌาน ก็เพราะมีนักปฏิบัติใหม่เข้ามายังไม่เข้าใจ แต่ว่านักปฏิบัติเก่าจิตใจยังบกพร่องก็ยังมีอยู่มาก ยังเป็นทาสของนิวรณ์ก็มีอีกเยอะ ยังใช้คำว่าปุถุชนอยู่ยังมีอยู่มาก ทั้งนี้เราจะทราบได้เนื่องจากกิริยาการปฏิบัติ การรับคำสั่งการรับคำสอนยังบกพร่องอยู่ อันนี้เรารู้กันได้ชัด ท่านนัดปฏิบัติถ้ามีอารมณ์เข้าถึงปฐมฌาน คำว่าลืมคำว่าเผลอในด้านของความดีมันไม่มี

เอาล่ะต่อจากนี้ไป ขอทุกท่านพยายามตั้งกายให้ตรงดำรงจิตให้มั่น พยายามกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ทำจิตใจเข้าไว้อย่าปล่อยให้กำลังใจมันเหลิง รู้ตัวอยู่ว่าเวลานี้เราจะรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก เวลาหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก ถ้าภาวนาไปด้วยใช้คำภาวนาน้อยๆ แต่มีคุณค่ามาก คือหายใจเข้านึกว่า พุทหายใจออกนึกว่า โธ ให้อารมณ์ใจมันทรงอยู่อย่างนี้ นี่สำหรับนักปฏิบัติเบื้องต้นนักปฏิบัติเบื้องปลายก็ตั้ง​ใจพิจารณา​กายก็ตั้งใจพิจารณาสมถะกองใดกองหนึ่งที่ควรกับอัธยาศัย

คำว่าควรกับอัธยาศัยก็หมายความว่า ถ้าอารมณ์ใจของเรามันเลวตรงไหน เอากรรมฐานกองนั้นเข้าประหัตประหารทันที จนกระทั่งให้จิตเรานี้มีความสุขมีความสว่างไสว ถ้ากำลังใจของท่านทั้งหลายเลยกำลังของสมถภาวนา ถ้าตั้งใจพิจารณาในด้านวิปัสสนาญาณ คือพิจารณาขันธ์ ๕ การพิจารณาขันธ์ ๕ ให้จับสังโยชน์ ๑๐ เป็นสำคัญ เอาใจของเราเข้าไปวัดกับสังโยชน์​ทั้ง​ ๑๐​ ประการ​ ว่าเรายังบกพร่องตัวไหน​ ถ้าบกพร่องตัวไหน​ ทำลายตัวนั้นให้พินาศไป เกาะสังโยชน์คือทำลายสังโยชน์ให้พินาศไป ใจอยู่ตรงนั้นอย่าให้เคลื่อนคลาย อย่างนี้ชื่อว่าเป็นพุทธสาวก หรือว่าศากยบุตรพุทธชิโนรส

เอาล่ะต่อจากนี้ไปขอท่านทั้งหมดตั้งกายให้ตรงดำรงจิตให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย สวัสดี..

คำสอน​หลวงพ่อ​พระราชพรหมยาน​ วัดจันทาราม(ท่าซุง)​ จังหวัด​อุทัยธานี
จากหนังสือ​คำสอน​หลวงพ่อ​วัดท่าซุง​ ๒๖​ หน้าที่๑๑๓~๑๑๔






พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ความสุขเกิดจากความสงบ" ธรรมะชอบอยู่กับผู้สงบ เหมือนปลาชอบอยู่น้ำนิ่งๆ ผู้สงบย่อมมองเห็นธรรมทั้งชั่วและดี "ความชั่ว" เหมือนตะกอน "ความสงบ" เหมือนน้ำนิ่งอยู่ในขันหรือตุ่ม ย่อมทำให้มองเห็นตะกอนที่ขุ่น คือ ส่วนชั่ว ส่วนใสก็คือ ความดี...

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร