วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 14:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2023, 06:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"..ฉะนั้นการทำสมาธิภาวนา จึงเป็นวิธีปฏิบัติต่อใจได้ดีและถูกทาง ยิ่งเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อด้วยแล้ว สติปัญญายิ่งมีความสำคัญมากในการตามรู้และรักษาจิต ตลอดการต้านทานทุกขเวทนาไม่ให้มาทับจิตในเวลาจวนตัว ซึ่งเป็นเวลาเอาแพ้เอาชนะกันจริง ๆ ถ้าพลาดท่าขณะนั้นก็เท่ากับพลาดไปอย่างน้อยภพหนึ่งชาติหนึ่ง เช่น ไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดใดก็ต้องเสียเวลานานเท่าชีวิตของสัตว์ในภพภูมินั้น ๆ ขณะที่เสียเวลายังต้องเสวยกรรมในกำเนิดนั้นไปด้วย ถ้าจิตดีมีสติพอประคองตัวได้ อย่างน้อยก็มาเกิดเป็นมนุษย์ มากกว่านั้นก็ไปเกิดในเทวสถาน ชมวิมานและเสวยทิพย์สมบัติอยู่นานปีถึงจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เวลามาเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่ลืมศีลธรรมที่ตนเคยบำเพ็ญรักษามาแต่บุพเพชาติ ทำให้เพิ่มอำนาจวาสนาบุญญาภิสมภารขึ้นโดยลำดับ จนจิตมีกำลังแก่กล้าสามารถรักษาตัวได้ การตายก็เป็นเพียงการเปลี่ยนร่างจากต่ำขึ้นไปสูง จากสั้นไปหายาว จากหยาบไปหาละเอียด จากวัฏจักรไปเป็นวิวัฏจักร ดังพระพุทธเจ้าและสาวกท่านเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ เปลี่ยนเครื่องเสวยมาเป็นลำดับ สุดท้ายก็หมดสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นอะไรต่อไปอีก เพราะจิตที่ได้รับการอบรมไปทุกภพทุกชาติจนฉลาดเหนือสิ่งใด ๆ กลายเป็นนิพพานสมบัติขึ้นมาอย่างสมพระทัยและสมใจ ซึ่งล้วนไปจากการฝึกฝนอบรมจิตให้ดีไปโดยลำดับทั้งสิ้น.."

โอวาทธรรม
พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)จากหนังสือชีวประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
โดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน






มีญาติโยมหลายคนบอกอาตมาว่ายังไม่พร้อมจะปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระนิพพาน อาตมามักจะย้อนถามว่า “แล้วโยมเสียดายกิเลสตัวไหนเหรอ” ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมเลือกละกิเลสบางตัวและขอเก็บกิเลสตัวอื่นๆไว้ ลงท้ายก็แทบจะไม่ได้ละอะไรเลย การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าสู่พระนิพพานหมายถึงการทำความเพียรเพื่อมุ่งสู่ความดับกิเลสทั้งปวงโดยไม่มีข้อยกเว้น

โดยทั่วไป เรามักแปล ‘นิโรธ’ ว่า ‘ความดับ’ แต่คำแปลอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติธรรมคือ “การไม่เกิด” ความดับชวนให้เข้าใจไขว้เขวไปว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดและจบในคราวเดียว ทว่า ครูบาอาจารย์ผู้เข้าถึงธรรมได้สัมผัสนิโรธในชีวิตประจำวันอยู่ตลอด เพราะไม่มีกิเลสเกิดแก่ท่านเลย

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ





"การละกิเลสยากมากเพราะเหตุใดหรือ
แม้พิจารณาให้ดี ย่อมได้รับความเข้าใจ
พอสมควรว่า การละกิเลสยากมาก เพราะ
พากันไปมุ่งละกิเลสผู้อื่น ไม่มุ่งละกิเลสตนเอง
กิเลสจึงท่วมบ้านท่วมเมืองอยู่ทุกวันนี้"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ







"ทำความดีอย่าไปท้อ คนไม่เห็นความดีของเรา
ก็ขอให้เราเห็นความดีของเราก็แล้วกัน
เราทำความดีเพื่อเรา ไม่ได้ทำความดีเพื่อผู้อื่นใด"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน






“ทำกรรมดีไว้ก่อน
พรนั้นจึงตามมาทีหลัง”

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 201 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร