…จิตไม่ดับ
จิตกับธาตุรู้เป็นตัวเดียวกัน
จิตไม่เคยดับ ธาตุรู้ไม่เคยดับ

.แต่อารมณ์ที่เกิดในจิตนี้เกิดดับเกิดดับ
เช่นความสุขความทุกข์ในจิตนี้
มันเกิดดับเกิดดับ
ความกลัวก็ เกิดดับเกิดดับ
ความรักความชัง ก็เกิดดับเกิดดับ

.เป็นอาการของจิต ไม่ใช่เป็นตัวจิต
ตัวจิตก็คือ ตัวรู้ผู้รู้
ตัวรู้นี้..รู้อยู่ตลอดเวลา
เหมือนน้ำ น้ำก็เป็นน้ำอยู่ตลอดเวลา
แต่ลูกคลื่นอยู่ในน้ำนี้..มันเกิดดับเกิดดับ.
…………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๒๑ กัณฑ์ที่ ๔๑๒
วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓






"จำเอาไว้นะ ไม่ว่าจะเป็นวันอะไร
วัน เดือน ปี ก็เป็นกาลเวลา
ไม่มีผลต่อความเป็นอยู่
ความเจริญรุ่งเรืองของเรา
แต่การกระทำของเราต่างหาก
ที่จะมีผลต่อตัวเราเอง"

หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต







มีสามีภรรยา เป็นครอบครัวพราหมณ์
ภรรยาก็จะเรียกนางพราหมณี
สามีเขาก็จะเรียกว่าพราหมณ์
พวกนับถือศาสนาพราหมณ์
ทางภรรยาเขาชื่อธนัญชานี
ธนัญชานีเธอก็เป็นคนที่มีความเลื่อมใสต่อพุทธศาสนา
ศรัทธาเลื่อมใสต่อพระพุทธเจ้ามาก
แต่ว่าสามีไม่ศรัทธา สามีเป็นพราหมณ์

เวลาภรรยาเวลาตกใจ เวลาทำอะไรพลาด
คนเราเวลาพลาด จะทำอะไร?
จะอุทานใช่ไหม?
อย่างโยมตกใจ จะอุทานว่าอะไร?
บางคนตกใจก็เรียกแม่ก็มี
บางคนก็คำไม่ไพเราะก็มีเวลาตกใจ
แต่นางธนัญชานีเวลาตกใจ
เขาจะ นะโม ตัสสะ เลย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
เวลาตกใจทีไรจะนึกถึงพระพุทธเจ้าเลย

วันหนึ่งขณะที่นางกำลังเอาสำรับกับข้าว
จะไปให้สามีผู้เป็นพราหมณ์
นางก็จะลื่น
จะลื่น ตกใจ
ก็เลย นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต

พราหมณ์สามีแกไม่พอใจ
เพราะแกไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า
ก็โกรธ
ดีอย่างไรนักหนา ไปอุทานถึงสมณโคดม
แทนที่จะมาอุทานเรื่องตัวเราหรือศาสนาของเรา
ทำไมไปอุทานอย่างนั้น
พาลโกรธ โกรธไปถึงพระพุทธเจ้า
มันดีนักหนาขนาดไหนกัน
เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวเราจะไปยกวาทะกับศาสดาของเธอ
บอกกับภรรยาอย่างนั้น
คือจะไปวัด เดี๋ยวจะไปโต้วาทะดู
จะแน่สักขนาดไหน

นางพราหมณีธนัญชานีภรรยาก็บอก
เชิญพราหมณ์ท่านไปเถอะ
เดี๋ยวท่านก็รู้เอง
เรายังไม่เห็นใครที่จะยกวาทะได้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา มาร พรหม
ไม่มีใครทำได้
เชิญท่านไป เดี๋ยวท่านจะรู้เอง

พราหมณ์ก็ไปที่วัด
ไปถึงก็โกรธไปด้วย โกรธมากเลย
ไม่รู้จะพูดอย่างไร จะหาเรื่องอย่างไรดี
สมณโคดม #ฆ่าอะไรถึงจะมีความสุข?
พูดเรื่องฆ่า ฆ่าอะไรถึงจะมีความสุข?
หาเรื่องจะไปทะเลาะ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า
พราหมณ์ #ฆ่าความโกรธได้นั่นแหละมีความสุข

ตัวเองกำลังโกรธมา หยุดเลย
ที่สุดได้ขอบวชเลย
ขอถึงซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ขอให้ข้าพเจ้าได้บวชในพระธรรมวินัยนี้ด้วย
เลยบวชเลย

ตอนนี้มีพราหมณ์อีกคนหนึ่ง
พอรู้ว่าพราหมณ์ผู้นี้ไปบวชในสำนักพระพุทธเจ้า
ก็โกรธพระพุทธเจ้าอีก
พราหมณ์อีกคนก็โกรธอีก
ทำไมเอาพวกของเราไปบวช
ก็ไปต่อว่าพระพุทธเจ้า ไปด่าสารพัดอย่างเลย

พระพุทธเจ้าก็นั่งเฉย ๆ ไม่โต้ตอบอะไร

พราหมณ์นั้นบอก เราชนะท่านแล้ว
สมณะ ท่านสู้เราไม่ได้
เราชนะท่านแล้ว

พระพุทธเจ้าตรัสว่า
พราหมณ์ ท่านเคยมีแขกมาหาที่บ้านบ้างไหม?

เคย

เวลาแขกมาที่บ้าน
ท่านต้อนรับด้วยของกินของใช้ของเคี้ยวของอะไรบ้างไหม?

ก็ต้อนรับสิ

แล้วถ้าแขกนั้นเขาไม่รับเล่า
ของนั้นจะเป็นของใคร?

มันก็ต้องมาเป็นของข้าพเจ้า

พราหมณ์ เช่นเดียวกัน
#ท่านมาด่าบริภาษเราต่างๆ นั้น
#แต่เราไม่รับ #เราไม่ได้โกรธตอบ
#คำด่าเหล่านั้นจะตกอยู่กับใคร?

#เข้าตัวเอง

ยอมเลย ฟังแล้ว
พระองค์ตรัสคำที่ชัดเจน ไพเราะ
สำนึก ขอบวชเลย
ไป ๆ มา ๆ ไปบวชอีกคน

หลายคนที่เป็นพราหมณ์ที่ไปโกรธ ไปต่อว่า
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
#คนที่เห็นเขาโกรธ เขาด่า เขาโกรธมา
#แล้วยังโกรธตอบ
#ถือว่าเลวกว่าอีก
#แต่คนที่ไม่โกรธตอบ
#ชื่อว่าได้ทำประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เพราะว่าคนที่มาโกรธ
พอเรานิ่ง เราไม่ว่าอะไร
เขาก็จะเย็นลง
ตัวเราเองก็ไม่เร่าร้อน
ทำประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

เพราะฉะนั้นการที่เรามีธรรม มีสติในการดำเนินชีวิต
เรารู้ตัว ควบคุมอารมณ์จิตใจตัวเองได้ดี
เพราะชีวิตเรามันก็จะเจออย่างนี้
เจออารมณ์ดีบ้างไม่ดีบ้างใช่ไหมวันหนึ่ง
เสียงมา พูดมา ดีบ้างไม่ดีบ้าง
ภาพมา ดีบ้างไม่ดีบ้าง
ถ้าเราไม่มีสติ มันก็จะโกรธ
เดี๋ยวรักเดี๋ยวชังอยู่อย่างนั้น
แล้วก็เป็นทุกข์ เศร้าหมอง
ใจเราขุ่นมัว เศร้าหมอง ไม่มีความสุข
แต่ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ รู้สึกตัวทั่วพร้อม
แล้วก็วางเฉย ปล่อยวาง วางเฉย
ใจมันก็เบาลง คลายลง สงบ
มันก็มีความสุขสงบขึ้น

ธรรมบรรยาย สติกับการทำงาน
โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ๑๒-๕-๒๕๖๖
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา







. กายนี้คือก้อนทุกข์ กายนี้เป็นที่หมายให้พ้นเสียจากทุกข์ ฝึกสติปัญญาให้ดีแล้วมาพิจารณากายนี้ให้แจ้ง ก็จะพ้นทุกข์ได้...”

คำสอนของหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
วัดป่าสาลวัน จ.นครราขสีมา






พูดอย่างมีสติ มันดีกว่าไหม?
มันก็จะพูดถูก
พูดเป็นไปด้วยความถูกต้องมากขึ้น
รู้จังหวะของการพูด
รู้จังหวะของการฟัง

คนเราที่คุยกัน แล้วบางทีก็ทะเลาะกัน
เพราะมันขาดสติสัมปชัญญะ
ไม่รู้จักการฟัง ไม่รู้จักการพูด
จะพูด ต่างคนต่างพูด
ต่างคนต่างดันกันไป
หนักเข้าไม่ฟังเหตุผล
เลยทะเลาะกัน

แต่ถ้าเราเป็นคนสงบ นิ่ง ฟัง
ฟังเขาพูด อดทนเอา ฟังไว้
เรามีสติในการตอบ
มันถูกจังหวะจะโคน

ธรรมบรรยาย สติกับการทำงาน
โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
๑๒-๕-๒๕๖๖
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา





. ในปัจจุบันเกือบทุกคน ต่างดิ้นรนหา ความสุข ความสบายภายนอกให้มากที่สุด ต่างยึดติดวัตถุซึ่งเป็นของนอกกาย

แต่คำสอนของหลวงปู่ทิมบอกว่า "ให้ยึดทำดี ดีกว่ายึดของ" นั้นเป็นคำสอนที่แท้จริงตลอดกาล ความจริงของโลก ที่หนีไม่พ้นความตาย

คำสอนหลวงปู่ทิม อิสริโก
วัดละหารไร่ จ.ระยอง







"...อะไรก็จะให้ถูกใจตัวเองหมด เรื่องกิเลสมันก็เป็น
อย่างนั้น มันไม่รับความจริง เว้นแต่ธรรมน่ะ รับความจริง
ได้ ให้ปฏิบัติให้มันเกิดขึ้นในใจตัวเอง มันจะรู้ขึ้นมาเอง
จิตสว่างขึ้นๆ มันจะมีให้เห็นหรอก เรื่องผุดขึ้นมา
ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง คนที่ไม่เห็นความอัศจรรย์ของ
จิตใจ มันจะส่อขึ้นมาเอง จิตมันจะฟอกตัวเองอยู่นั่น
การภาวนาหากไม่มีหลักแล้ว มันมักจะไปตามสัญญา
ตามหนังสือ ตามครูบาอาจารย์ว่าอย่างนั้น หากทำได้
จะไม่เป็นยังงั้นนะ มันจะไปตามเรื่องของสมาธิ
ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าท่านจะให้เอาศีล สมาธิ ปัญญา
ทำไมล่ะ ตัวสติสำคัญมาก ยึดคำสอนของพระพุทธเจ้า
อย่าทำเล่น แล้วมันจะเห็นความจริง พูดไดั...ถ้าพูดตาม
หนังสือน่ะ ใครก็พูดได้ แต่ใจของเรามันโลเลอยู่นั่น
ยังกับไม้ปักรั้ว ลมพัดมาก็ไปหมด แต่โอชารสที่ซึมซาบ
เข้าในจิตใจแล้วไม่เคยได้ยินได้ฟังหรอก การปฏิบัติมี
แยบคายหลากหลายกว่านั้น ให้ปฏิบัตินะอย่าเล่น..."

#โอวาทธรรม หลวงปู่ลี กุสลธโร
วันที่ ๒๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๘