ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
จิตใจของเรา http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=64892 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 20 ก.ย. 2024, 05:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | จิตใจของเรา |
“เราไม่พูดอะไรมากหรอก พากันยึดเอาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์น่ะ อย่าพากันลืมพุทโธอย่างน้อยๆ ให้ได้เท่าอายุทุกวันๆ อย่าพากันคิดหาอันนี้เป็นคุณของจิตพึ่งเป็นพึ่งตายแล้วก็เป็นคุณหนุนทรัพย์ หลวงปู่มั่นท่านว่าได้สมบัติทั้งปวงไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งปวงนั้น ถ้าตัวนี้ดีทุกอย่างดีหมด อยู่กับลูกก็ดี อยู่กับเมียก็ดี อยู่กับผัวก็ดี ทุกอย่างดีหมดร่มเย็นหมด ธรรมจึงทำโลกให้ร่มเย็นทำเราให้ร่มเย็น ใครนำไปปฏิบัติร่มเย็นหมด เอาล่ะแค่นี้พอ” โอวาทธรรมคำสอน #หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร วัดป่าดานวิเวกในพระบรมราชูปถัมภ์ บ้านแสงอรุณ ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ โลกหน้าจะเป็นอย่างไร จะอดอยากไหม ไม่ต้องถามใคร ถามตัวเองแหละ ทุกวันนี้ทำบุญให้ทาน ทำคุณงามความดีไหม ....... หลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล #พระเทพวัชรญาณเวที #กายนี้เป็นที่อาศัยของจิตและเป็นทางเดินของจิต เปรียบเหมือนแผ่นดิน ย่อมมีทางน้อยใหญ่เป็นที่สัญจรของบรรดาสัตว์ทุกหมู่เหล่า กายนี้ก็เหมือนกัน ย่อมเป็นที่อยู่อาศัยของจิต และเป็นที่เที่ยวไปมาของจิต ฉันนั้น ถ้าจิตมามัวเมายึดถือกายนี้ว่าเป็นของตนอยู่เมื่อใด เมื่อนั้นย่อมได้รับทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจ มีความเดือดร้อนวุ่นวายอยู่เป็นนิจ คติธรรมคำสอน #หลวงปู่ลี ตาณํกโร " พระรัตนตรัย" เป็นโอสถอันประเสริฐสุด สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรมวินัย และมีพระสงฆ์รับสืบทอดพระธรรมวินัยให้เผยแผ่ขจรขจายสืบมาตราบทุกวันนี้ สำหรับเป็นเครื่องบดทับทำลายอวิชชา อันเป็นโรคร้ายหมักดองอยูในขันธสันดานของสรรพสัตว์ให้ปลาสนาการไป โรคทางจิตใจตั้งแต่ระดับเบาจนถึงหนักที่สุด ก็ล้วนทุเลาได้ด้วยอานุภาพพระรัตนตรัย เมื่อจิตใจเข้มแข็ง ย่อมช่วยให้คลายทุกขเวทนาจากโรคทางกายลงได้ หรือแม้การเวียนเกิดเวียนตายในวัฏสังสาร ซึ่งเป็นปฐมเหตุของความเจ็บป่วยทางกายและทางจิตของสรรพสัตว์ ก็ดับได้ด้วยอานุภาพพระรัตนตรัย พระพุทธศาสนาจึงมีพระคุณต่อชาวโลกอย่างพ้นที่จะประมาณ เพราะเป็นเครื่องขุดรากถอนโคนต้นตอแห่งโรค กล่าวคือ "อวิชชา" ให้สิ้นไปได้ . --- บางส่วนจากพระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ(อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในพิธีเปิดหอพระพุทธมหามงคลเภสัช คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยลัยมหิดล ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ พระพุทธองค์ท่านบอก ให้เลือกเนื้อนาบุญ หากนาดี ดินดี น้ำดี ปุ๋ยดี ต้นข้าวย่อมเจริญงอกงาม ออกรวงได้ดีกว่า นาที่แห้งแล้ง มีหญ้ารกขึ้นปกคลุม โอวาทธรรม หลวงพ่อตั๋น ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี "..พระพุทธเจ้าจึงยังมีอยู่ ยังเมตตากรุณาสัตว์ทั้งหลาย ยังช่วยมนุษย์สัตว์ทั้งหลายอยู่ ถ้ามนุษย์ผู้ใดมีความประพฤติปฏิบัติดี จงรักภักดี พระพุทธเจ้า ต่อพระธรรม ผู้นั้นก็จะมีคุณงามความดีอยู่ตลอดทุกวันฉะนั้น ถ้าเรามีปัญญา ก็จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้อยู่ห่างพระพุทธเจ้าเลย เดี๋ยวนี้เราก็ยังนั่งอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าเราเข้าใจธรรมะเมื่อใด เราก็เห็นพระพุทธเจ้าเมื่อนั้น ผู้ใดที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่อย่างสม่ำเสมอแล้ว ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน อยู่ ณ ที่ใด ผู้นั้นย่อมได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา.." พระธรรมคำสอนโดย พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕) เขาชมเราได้ เขาก็ติเราได้ เสียงก็สักแต่ว่าเสียง เสียงดีก็เสียง เสียงร้ายก็เสียง ดูให้ดี ดูใจนี่แหละ เกิดที่นี่แหละ ดับก็ดับที่ใจนี่แหละ #หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต "..การให้ทาน ใคร ๆ ก็ให้ทานมามากแล้ว มีผลานิสงส์มากเหมือนกัน ยังสู้บวชเป็นขาวเป็นชีรักษาศีลอุโบสถไม่ได้ มีผลานิสงส์มากกว่าให้ทานนั้นเสียอีก ถ้าใครอยากได้บุญ อยากขึ้นสวรรค์ ไปนิพพานพ้นทุกข์ ก็ควรบวชเป็นขาวเป็นชีรักษาศีลอุโบสถเสียในวันนี้.." โอวาทธรรม หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล วัดเลียบ อ. เมือง จ.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๔๐๒–๒๔๘๔) "..ผู้มีศีลเป็นผู้ปลูกและส่งเสริมความสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลก ให้มีแต่ความอบอุ่นใจ ไม่เป็นที่ระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ฉะนั้นผู้เห็นคุณค่าของตัวจึงควรเห็นคุณค่าของผู้อื่นว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน ผู้มีศีลสัตย์เมื่อทำลายขันธ์ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ไม่ตกต่ำ เพราะอำนาจศีลธรรมคุ้มครองรักษาและสนับสนุน จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์ เมื่อจากอัตภาพนี้จะมีสวรรค์เป็นที่ไปโดยไม่ต้องสงสัย ธรรมที่สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฏิบัติให้มั่นคง จะเป็นผู้ทรงสมบัติทุกอย่างในอัตภาพที่จะมาถึงในไม่ช้านี้แน่นอน.." ภูริทตฺโตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ "เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งแต่เรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้น เรื่องนี้ มาเป็นเรื่องของเราไปหมด มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจทั้งวัน อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวันๆ ก็หมดแรง" หลวงปู่ชา สุภัทโท "ฟ้าไม่ร้อง ฝนไม่ตก" หมายถึง ผู้ที่มิได้ทำการสั่งสอนธรรมะและมิได้ทำการปฏิบัติธรรมเพื่อให้ถึงความหลุดพ้น "ฟ้าไม่ร้อง ฝนตก" หมายถึง ผู้ที่มิได้ทำการสั่งสอนธรรมะ แต่ได้ขวนขวายปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น "ฟ้าร้อง ฝนไม่ตก" หมายถึง ผู้ที่ได้ทำการสั่งสอนธรรมะ แต่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น "ฟ้าร้อง ฝนตก" หมายถึง ผู้ที่ได้ทำการสั่งสอนธรรมะ และได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ "ผู้อื่นไม่ได้ทำจิตของเราเศร้าหมองหรือผ่องแผ้ว เราเองเป็นผู้ทำจิตของตนเศร้าหมอง ผู้อื่นช่วยไม่ได้ แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ ท่านทรงเป็นผู้บอกทาง ให้เท่านั้น" หลวงปู่ขาว อนาลโย |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |