ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ทรัพย์สมบัติของโลก http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=65395 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 11 ก.พ. 2025, 05:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทรัพย์สมบัติของโลก |
"..ทีนี้ เราพุทธบริษัทควรจะเคารพอะไร ให้เป็นหลักของใจ จึงจะได้ชื่อว่า เรายึดถือหลักพุทธศาสนาเป็นเครื่องดำเนินในชีวิตประจำวันของเรา เบื้องต้นเราต้อง เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เราทำกรรมอะไรไว้ด้วยกาย วาจา และใจ ในที่ใด ๆ มากหรือน้อยไว้แล้ว ผลกรรมนั้นต้องตกมาเป็นของตัวอย่างแน่นอน ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง คนอื่นจะมารับแทนไม่ได้ เมื่อเชื่ออย่างนี้แล้วผู้นั้นไม่สามารถกระทำกรรมอันเป็นบาปได้เด็ดขาด จะทำแต่กรรมที่เป็นบุญเป็นกุศลตลอดเวลา ได้ชื่อว่า "ถือธรรมเป็นที่พึ่ง".." #เทศนาธรรมคำสอน พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย (พ.ศ.๒๔๔๕-๒๕๓๗) "..ทีนี้ เราพุทธบริษัทควรจะเคารพอะไร ให้เป็นหลักของใจ จึงจะได้ชื่อว่า เรายึดถือหลักพุทธศาสนาเป็นเครื่องดำเนินในชีวิตประจำวันของเรา เบื้องต้นเราต้อง เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เราทำกรรมอะไรไว้ด้วยกาย วาจา และใจ ในที่ใด ๆ มากหรือน้อยไว้แล้ว ผลกรรมนั้นต้องตกมาเป็นของตัวอย่างแน่นอน ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง คนอื่นจะมารับแทนไม่ได้ เมื่อเชื่ออย่างนี้แล้วผู้นั้นไม่สามารถกระทำกรรมอันเป็นบาปได้เด็ดขาด จะทำแต่กรรมที่เป็นบุญเป็นกุศลตลอดเวลา ได้ชื่อว่า "ถือธรรมเป็นที่พึ่ง".." #เทศนาธรรมคำสอน พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย (พ.ศ.๒๔๔๕-๒๕๓๗) "... เราภาวนาอานาปานสติ ก็ได้ทั้ง ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ในนั้น อาการบังคับตัวเอง ให้กำหนดลมหายใจ ข้อนี้เรียกว่าเป็นตัวศีล การกำหนดลมหายใจได้และติดต่อไป.. จน จิตสงบ ข้อนี้เรียกว่าสมาธิ การพิจารณากำหนดรู้ลมหายใจว่า ไม่เที่ยง ทนได้ยาก ไม่ใช่ตัวตน แล้วรู้การปล่อยวาง ข้อนี้เรียกว่าปัญญา ... การทำอานาปานสติภาวนา จึงกล่าวได้ว่าเป็นการบำเพ็ญครบ ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ไปพร้อมกัน ..." ------------------------------------------------ #พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๔๖๑ - ๒๕๓๕) บุคคลผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ย่อมได้รับการยกย่องบูชาในที่ทุกสถาน พระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก #คนเกิดมาเป็นมนุษย์นี้นั้น ก็มาจากสถานที่ที่ต่างกัน คือ 1. มาจากพรหม 2. มาจากสวรรค์ 3. มาจากมนุษย์ คือตายมาจากมนุษย์แล้วก็เกิดเป็นมนุษย์ 4. มาจากสัตว์นรก 5. มาจากเปรต 6. มาจากอสุรกาย 7. มาจากสัตว์เดรัจฉาน สำหรับบุคคลประเภท 4 ประการหลังนี้เป็นบุคคลที่ประกอบไปด้วยความเลวทั้งกายและจิตใจ บางทีที่เราปฏิบัติความดีตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อาจจะไม่เกิดผลสมบูรณ์ ก็ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพึงทราบว่า นั่นเขามาจากอบายภูมิ และก็ตั้งใจจะกลับไปอบายภูมิใหม่ ที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงตรัสว่าพวกมืดมาแล้วก็มืดไป คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 5 หน้า 154 #ทรัพย์สมบัติของโลกมันมีประโยชน์ เมื่อมีร่างกายเท่านั้น ถ้าร่างกายสลายตัวแล้ว ทรัพย์สมบัติของโลกไม่มีอะไรมีประโยชน์เลย เราจะไปหลงใหลใฝ่ฝันว่านั่นเป็นเรา เป็นของเราเพื่อประโยชน์อะไร มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ตัดร่างกายทิ้งไปด้วยกำลังใจ ขึ้นชื่อว่าขันธ์ 5 คือ ร่างกายอย่างนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก ทำใจให้สบาย จิตจะเป็นสุข ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 5 หน้า 102 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |