ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

เรื่องการตั้งฉายา
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=24816
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  mes [ 10 ส.ค. 2009, 10:20 ]
หัวข้อกระทู้:  เรื่องการตั้งฉายา

เรียน admin และขอความคิดเห็นจากทุกท่านครับ

ผมคิดเห็นว่า นามที่พวกเราตั้งกันขึ้นมาเป็นฉายาตนเองนั้นควรมีกฎเกณฑ์

อย่างการตั้งชื่อตนเองว่า

พระพุทธเจ้า หรือ buddha น่าจะไม่สมควร

หรือแม้แต่ตั้งชื่อว่า พระโพธิสัตว์ ก็ไม่เหมาะสม


จึงเรียนมาเพื่อขอความคิดเห็นครับ

เจ้าของ:  Bwitch [ 11 ส.ค. 2009, 12:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

:b8: สา..ธุกับคำว่า :b1: ..เหมาะสม เจ้าค่ะ

รูปภาพ รูปภาพ

เจ้าของ:  admin [ 16 ส.ค. 2009, 09:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

ได้ทำการแจ้งไปยังสมาชิกที่ใช้ชื่อดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนชื่อในโอกาสต่อไปครั้บ

ขออนุโมทนา :b8:
admin

เจ้าของ:  mes [ 16 ส.ค. 2009, 18:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

กราบขอบพระคุณ admin ครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ภัทร์ไพบูลย์ [ 16 ส.ค. 2009, 18:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอนุโมทนาครับ :b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
คำอธิบาย: สรรพสัตว์ทั้งจงเป็นสุขเถิด
8af0184a382c70dc17e8c6f80dee3a05_size3.jpg
8af0184a382c70dc17e8c6f80dee3a05_size3.jpg [ 94.74 KiB | เปิดดู 6184 ครั้ง ]

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 16 ส.ค. 2009, 19:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b35: :b35: :b35: :b35: :b35: :b35: :b35: :b35: :b35:

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Bwitch [ 17 ส.ค. 2009, 22:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

..:b46: :b51: :b53: รูปภาพ :b53: :b51: :b46:..


ไฟล์แนป:
Lotus.gif
Lotus.gif [ 112.34 KiB | เปิดดู 6128 ครั้ง ]

เจ้าของ:  mes [ 18 ส.ค. 2009, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

เรียน admin

ชื่อ buddha ยังใช้อยู่ครับที่กระทู้นี้

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=24989

ในเรื่องนี้มีสมาชิกหลายท่านมากที่ไม่สบายใจ

และทักท้วงมาหลายครั้งแล้วครับ

ขออภัยที่กวนใจท่าน

แต่ไม่สบายใจจริงๆ

เจ้าของ:  mes [ 21 ส.ค. 2009, 10:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

buddha เขียน:
ข้อสงสัยของคุณ ข้าพเจ้าจะอธิบายเป็นเรื่องๆไป แต่ก็ต้องขอเตือนคุณเอาไว้ว่า คำตอบของข้าพเจ้าเป็นเพียงความคิดเห็นตามหลักความจริงแห่งธรรมชาติ ผู้อื่นอาจมีความคิดเห็นที่ดีกว่าข้าพเจ้า ดังนั้น คุณควรได้ศึกษา คิดพิจารณาให้ดีขอรับ

ตัวตน....สงสัย

ตัวตน เขียน:
เพิ่งเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับธรรมะค่ะ แล้วก็มีความสงสัยเกิดขึ้นมากมายเลย ยิ่งหาคำตอบยิ่งไม่เจอ อ่านเจอคำสอนของหลวงพ่อชา นับถือท่านเลยค่ะ ท่านอธิบายเกี่ยวกับความสงสัยไว้ ทำให้เราเข้าใจว่ามันทำให้เกิดทุกข์จริงๆ มันทำให้เราใช้พลังไปกับความคิดมากไป เพราะยึดติดกับเรื่องที่สงสัย แต่เราก็ยังดื้อนะ ยังสงสัยต่ออีก เฮ้อ..

พุทธะ......ตอบ
ความสงสัย ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า "วิตก วิจารณ์" เกิดจากความไม่รู้และไม่เข้าใจในหลักธรรมะอย่างหนึ่ง หรือเกิดจากความรู้เดิมหรือความรู้ที่มีอยู่ ขัดหรือคัดค้าน ความรู้ที่คุณได้พบไหม่
บุคคล หากเกิดวิตก วิจารณ์ หรือ สงสัย แล้ว ไม่ได้รับการขจัดความสงสัยนั้น ย่อมมีผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย อีกทั้งถ้าบุคคลนั้น ได้รบการขัดเกลาทางสังคม นับตั้งแต่ กรรมพันธุ์ เป็นต้นมา มีความคิดที่จะทำอะไรต้องทำให้ได้ ก็จะเกิดสิ่งที่ทางพุทธศาสนาเรียกว่า ความทุกข์ ดังนั้น หากจะขจัด ความวิตก วิจารณ์ หรือข้อสงสัยนั้น หากเรียนรู้สิ่งใด ไม่รู้ให้จดบันทึกว่าว่า ไม่รู้ในสิ่งใด แล้วนำไปถาม ก่อนจะถามคิด ตรึกตรอง ด้วยตัวเองก่อน เมื่อไม่รู้จริงแล้วจึงค่อยถาม และอย่าคิดว่ามันเป็นทุกข์ หรือลำบาก แต่ให้คิดว่า เป็นเรื่องธรรมดา

ตัวตน....สงสัยว่า
- ถ้าเราไม่คิด เราก็ไม่ได้เรียนรู้ไม่ใช่หรอ

พุทธ....ตอบ......
สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ล้วนมีความคิดเป็นธรรมชาติ จะคิดอย่างไร ก็เป็นอีเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เรืองแปลก หรือเรื่องที่จะต้องมานั่ง วิตก วิจารณ์

ตัวตน...สงสัยว่า
- หรือว่าเราจะเกิดปัญญาและเข้าใจธรรมะมากขึ้นต้องนั่งวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น

พุทธะ....ตอบ
วิปัสสนา เป็นการศึกษาตามความรู้นั้นๆ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติได้ อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง วิปัสสนาคือ วิธีการปฏิบัติธรรม หรือ ฝึกตน ตามหลักพุทธศาสนา
การจะเกิดปัญญ และเข้าใจธรรมะ ก็ต้อง ฟัง หรือ อ่าน แล้วคิด แล้วถาม แล้วเขียน จะเอาข้อใดไว้หลักข้อใดก็ได้ทั้งนั้น

ตัวตน....สังสัยว่า
- หลายคนพูดถึงธรรมะ มองตามเป็นจริง แล้วอะไรล่ะที่เป็นความจริง อย่างถ้าเรามีเรื่องต้องตัดสินใจ แต่ละข้อก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย เราต้องคิดยังไง ถ้าบอกว่าปล่อยใจให้ว่าง ปล่อยวาง มันหมายถึงอะไรกันแน่ ไม่ต้องคิดอะไรเลยงั้นหรอ หรือไม่คิดปัญญาจะเกิดเอง

พุทธ..... ตอบ
คำว่ามองตามความเป็นจริง หมายถึง มองตามหลักธรรม เพราะธรรมะ คือ ธรรมชาติแห่งสรรพสิ่งทั้งหลาย หรือจะกล่าวในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ
ธรรมะ คือ พฤติกรรม หรือ การกระทำ ของสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต ถ้าคุณจะถามว่า ธรรมะตามหลักความเป็นจริงมีอะไรบ้าง อันนี้ไม่ตอบ คุณก็ลองหาในเวบนี้ คงได้รู้ ได้เข้าใจ ทั้งยังเป็นการฝึกตน ให้เกิดควมเพียง ในทางที่ดี
และถ้าคุณมองตามความเป็นจริง ด้วยหลักธรรมะคุณก็จะเกิดความเข้าใจได้ด้วยตัวเองว่า อะไรคือ การปล่อยวาง อันนี้เป็นข้อสำคัญ ต้องจดจำวิธีการเอาไว้

ตัวตน...สงสัยว่า
- แล้วคำที่ว่าให้มองสิ่งต่างๆเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปอีก เราพยายามทำนะ มีครั้งนึง เดินๆอยู่บนถนน คิดว่าถ้าเห็นคนถูกรถชนอย่างแรงต่อหน้า ควรจะคิดแบบไหน ควรจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดดับของมันแบบนั้นเอง ก็ไม่ต้องทำอะไรเลยหรอ และเรื่องช่วยเหลือสังคมอีก พอช่วยไปปัญหาก็เกิดขึ้นอีก เกิดดับๆๆ แล้วเราควรจะคิดยังไงล่ะเนี่ย ควรจะทำอะไร ให้ปล่อยวาง ให้คิดเรื่องเกิดดับ แบบไหนกันแน่

พุทธะ....ตอบ
คุณได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ใช่หลักธรรมะ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นเพียงการอธิบาย ลักษณะทางกายภาพของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ว่าสิ่งนั้น จะมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต ก็ตามแต่ ถ้าหากคุณได้เรียนรู้ ได้เข้าใจ หลักธรรม ตามความเป็นจริง คุณก็จะรู้ว่าควรทำอย่างไร ในขณะที่คุณเห็นคนถูกรถชนต่อหน้า แต่คุณได้เรียนร้ และเกิดความเข้าใจในสิ่งที่ไม่ใช่หลักธรรมะ ดังที่ข้าพเจ้าได้อธิบายไปข้างต้น จึงเกิดความสับสน ระหว่าง หลักความจริงตามการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน กับ ความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับมาผิดๆ

ตัวตน...สังสัยว่า
- แล้วความอยากอีกล่ะ ถ้ามันเป็นต้นเหตุของความทุกข์ เราควรจัดการกับมันยังไงดี เช่น อยากปฏิบัติธรรม อยากเรียนรู้ธรรมะ พยายามแสวงหาสถานที่ เวลา อาจารย์ แต่ก็ติดภารกิจด้านชีวิตทางโลก ปัญหามากมายก็ผุดมาอีก
- เราไม่เข้าใจเลย มันเหมือนว่าหลักธรรมที่เรียนมา มันเอามาใช้จริงไม่ได้ เป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น
- สุดท้ายคือ ต้องปฏิบัติถึงจะรู้เองเท่านั้นใช่ไหม แล้วถ้าปฏิบัติแล้วรู้จริงได้จริงๆ แล้วมันจะดับไปไหม สิ่งที่รู้ก็จะดับไปใช่ไหม แล้วจะรู้ไปทำไม
จริงๆแล้ว อะไรคือสิ่งที่เราต้องทำกันแน่เนี่ย?

เราสงสัยมากมายจริงๆ โง่เขลาอยู่ใช่เลย ต้องการมุมมองของผู้ที่รู้ ที่จะแนะนำให้เกิดประโยชน์ได้ ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ


พุทธะ....ตอบ
คุณเข้าใจผิดแล้วขอรับ มนุษย์ ล้วนมีความต้องการ ใน ปัจจัยสี่ เป็นเรื่องธรรมดาขอรับ มนุษย์มีความโลภ ความโกรธ ความหลง ป็นธรรมชาติ
ความอยาก คือ ความหลง ชนิดหนึ่ง ความอยาก หรือ ความหลง อาจทำให้เกิดทุกข์ก็ได้ อาจจะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ก็ได้ ถ้าเรามีคำตอบ ให้กับความอยาก หรือความหลงนั้นๆในทางที่ถูกที่ควร ความอยาก หรือความหลงนั้น ก็เป็นเพียงความคิด ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป
คุณคิดของคุณเองว่า ติดภารกิจชีวิตทางโลก เพราะคุณไม่ได้มีความรู้เลยว่า ภารกิจของคุณที่ดำเนินอยู่ แท้จริง ก็คือ หลักความเป็นจริงตามธรรมะแห่งพุทธศ่าสนา คุณป็นมนุษย์ที่มีความเบี่ยงเบนทางด้านความคิด คือ มีความคิดผิดปกติ มองเห็นอะไรเป็นปัญหาทุกอย่าง แต่ไม่รู้จักแก้ปัญหา ทั้งๆที่เรื่องที่คุณกล่าวมา ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
รู้จักแบ่งเวลา วันละ ๑ หรือ ๒ ชั่วโมงเพื่อ ศึกษา เรียนรู้ธรรมะ ทำควมเข้าใจกับธรรมะ ก็ย่อมทำได้ มันขึ้นอยู่กับ ปฏิภาณไหวพริบของบุคคคล ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
และที่สำคัญ การคิดพิจารณา หรือ ระลึกนึกถึงหลักธรรมตามความเป็นจริง แห่งพฤติกรรม และการกระทำในสังคม รวมไปถึง สิ่งที่คุณได้ประพฤติ ปฏิบัติอยู่ ในชีวิตประจำวัน ก็คือ การปฏิบัติตามหลัก ธรรมะ ในพุทธศาสนา อยู่แล้วขอรับ



ตัวอย่างที่ยกมาให้เห็นชัดๆเลยครับว่าเขายกตัวเองว่าเป็นพระพุทธเจ้า


อยากเห็นเวปนี้เป็นที่ศึกษาพระธรรมมากกว่าครับ



และผมทำในขอบเขตแค่นี้น่าจะพอสมควรแล้ว

ท่านaminจะเห็นด้วยหรือไม่

ผมหมดหน้าที่แล้วครับ

เจ้าของ:  damjao [ 21 ส.ค. 2009, 10:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

การตั้งฉายาไม่ควรก้าวล่วงพระองค์ท่าน

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ........ :b8:

เจ้าของ:  ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ [ 28 ม.ค. 2010, 14:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องการตั้งฉายา

หางจิ้งจอกโผล่แล้วงับ

ขอแจ้งการกระทำไม่เหมาะสมของท่าน Buddha


โดยอ้างอิงจาก viewtopic.php?f=1&t=28768

ที่กล่าวจ้วงจาบ พระศรีอาริยะเมตไตยโยงับ ว่า

อ้างคำพูด:
ข้าพเจ้านี้แหละ คือ ศรีอาริยเมตไตรย ของจริง มีหน้าที่แก้ไขศาสนา ทุกศาสนา เท่าที่จะแก้ไขได้ จะประกาศ เป็น ศาสนา "ศรีอารย์" ก็ได้ แต่ถ้าหากประกาศไป ทุกศาสนาต้องใช้หลักธรรมแห่งข้าพเจ้า เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงไม่ประกาศศาสนา เพราะหลักธรรมทางศาสนาทีมีอยู่ก่อน บางศาสนาก็ดีอยุ่แล้ว เพียงแต่ผู้ศรัทธา ไม่มีความเข้าใจในหลักธรรมเหล่านั้น อย่างถูกต้องเท่านั้น


ควรจะมีมาตราการลงโทษ ขั้นเด็จขาดงับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/