ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=28397 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | mes [ 11 ม.ค. 2010, 11:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=28195 เฉลิมศักดิ์ เขียน: สำหรับความเห็นส่วนตัว ของผม ภิกษุ ที่นำ อัตตโนมติ มาอธิบาย พระไตรปิฏก เอง แล้วเกิดความผิดพลาด ก็มี ท่านพุทธทาส เป็นต้น จนภายหลัง ได้กล่าวตู่ พระไตรปิฏก อรรถกถา ของเถรวาท ว่าขาดความน่าเชื่อถือ ควรศึกษาหนังสือของท่านพุทธทาสหรือไม่ ? อย่างนี้เป็นการผิดกฎข้อนี้หรือไม่ ถ้าไม่ผิดผมจะขอใช้สิทธินี้บ้างจะได้ไหมครับ *** กรุณางดเว้นเรื่องการเมือง, การกล่าวโจมตีสำนักปฏิบัติ ครูบาอาจารย์ วิธีปฏิบัติ เป็นเหตุสร้างความแตกแยก และหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ไม่เหมาะสมในลานสนทนาธรรม |
เจ้าของ: | mes [ 11 ม.ค. 2010, 11:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
เฉลิมศักดิ์ เขียน: ขอยกตัวอย่าง ทิฏฐิของท่านพุทธทาส แล้วกันครับ คือ ท่านไม่เชื่อว่า ปฏิสนธิวิญญาณมีจริง การเกิดของสัตว์ทั้งหลายไม่มีปฏิสนธิวิญญาณร่วมด้วย วิญญาณมีเพียงที่ผ่าน อายตนะ เท่านั้น (การเกิดของสัตว์ทั้งหลาย อาศัยเพียง รูปธรรม คือ ไข่ของมารดา เชื้อของบิดา เท่านั้น) ท่านพุทธทาสจึงพยามจะ อธิบาย พระไตรปิฏกเอง โดยกล่าวตู่ พระไตรปิฏก (โดยเฉพาะพระอภิธรรม) อรรถกถา คัมภีร์ของเถรวาท ว่าอธิบายถ่ายทอดกันมาแบบผิด เป็นภาษาคน ทิฏฐิของท่านพุทธทาส เท่านั้นที่เป็นภาษาธรรม จากหนังสือ ปฏิจจสมุปบาท ชุดลอยปทุม admimครับ ท่านเคยเตือนผมๆเชื่อฟังท่าน แต่ท่านปล่อยให้มีการเหยียบย่ำหัวใจชาวพุทธที่ศรัทธาท่านพุทธทาสได้อย่างไรครับ หรืออุดมการณ์ทำเวปของท่านเปลี่ยนไปแล้ว |
เจ้าของ: | mes [ 11 ม.ค. 2010, 11:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
เฉลิมศักดิ์ เขียน: คุณวลัยพร ครับ แล้วท่านพุทธทาส ท่านผ่านสภาวะ อะไรมาแล้วหรือครับ ? จึงได้กล่าวตู่ พระพุทธเจ้าว่า ทรงตรัสสอน เรื่อง ภพภูมิต่าง ๆ เทวดา เปรต อสุรกาย (โอปปาติกะ) เพราะ คนในสมัยนั้นเป็นคนโง่ นับถือศาสนาพราหมณ์ เป็นส่วนใหญ่ การจะไปคัดค้านคงทำได้ยาก จึงต้องตรัสเอออวย และคิดว่าตนเองเข้าใจภาษาธรรมดีแล้ว จึงต้องการปรับปรุงแก้ไข พระไตรปิฏก บางส่วน รวมทั้งยกเลิก อรรถกถา จากหนังสือ ปฏิจจสมุปบาท(ชุดลอยปทุม) หน้า ๒๑ โดยท่านพุทธทาส เอามาให้ดูอีก |
เจ้าของ: | mes [ 11 ม.ค. 2010, 11:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
แค่นนี้เพียงพอสำหรับลบชื่อ เฉลิมศักดิ์ ออกจากเวปหรือยัง |
เจ้าของ: | mes [ 11 ม.ค. 2010, 11:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
เฉลิมศักดิ์ เขียน: คุณขงเบ้งฯ ครับ อย่าได้เอานรกมาขู่ผมเลยครับ นรก ในความหมายของท่านพุทธทาส คือ ความเร่าร้อนใจของคนเรานี้เองครับ ไม่ได้เกี่ยวกับภพภูมิหลังจากการตายของคนเลย เป็น สวรรค์ในอก นรกในใจเท่านั้น เมื่อก่อนเป็นวัยรุ่น ผมก็เชื่อตามทิฏฐิของท่านพุทธทาสนี้แหละครับ ว่า นรก สวรรค์ ที่เป็นภพภูมินั้น เขาเขียนขึ้นมาหลอกให้คนกลัว ที่มีมาปรากฏใน พระไตรปิฏก อรรถกถา ก็เพื่อให้เข้ากับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ในสมัยนั้น เพราะไปคัดค้านไม่ไหว อ้างอิงคำพูด: นรก - สวรรค์ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16994 ท่านคิดอย่างไรกับเรื่อง สวรรค์ นรก ในแง่ที่ว่า สวรรค์นั้นอยู่บนฟ้ามีวิมานที่สวยงาม มีนางฟ้า ส่วนนรก อยู่ใต้ดิน เป็นที่ที่น่ากลัว มีกะทะทองแดง ต้นงิ้ว ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องของวัตถุ กับ สวรรค์ นรก ในแง่ที่ว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ซึ่งเป็นเรื่องของอายตนะทั้ง 6 ทั้งนรก ทั้งสวรรค์ มันอยู่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือ ความรู้สึก ที่เกิดขึ้น ที่นั่น ผมได้อ่านบทความของท่านพุทธทาส เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมว่า สวรรค์ อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ น่าจะเป็นแก่นหรือสาระสำคัญในแง่ของศาสนาพุทธที่แท้จริง ใครสนใจบทความของท่านพุทธทาส สามารถหาอ่านได้ที่ http://www.buddhadasa.com/dhamanukom/heaven92.html --------------------------------------------- ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า การกล่าวตู่ พระพุทธพจน์ การกล่าวตู่ พระอริยสงฆ์ อย่าง อรรถกถาจารย์, พระโบราณาจารย์, พระพุทธโฆษาจารย์, พระอนุรุทธาจารย์ ฯลฯ ที่ร่วมกันสืบทอด พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ของท่านพุทธทาส จะมีวิบากกรรมเช่นไร คุณขงเบ้ง ฯ ช่วยพยากรณ์ให้ด้วยนะครับ หนุกหนานครับ ท่านadmin |
เจ้าของ: | walaiporn [ 13 ม.ค. 2010, 22:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
คุณ mes ![]() ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ ถ้าคำกล่าวต่อไปนี้อาจจะไม่ถูกใจคุณ ![]() เมตตาต่อกันเถอะค่ะ ไม่มีใครถูกต้อง 100 % หรอกค่ะ มีแต่ถูกใจตัวเอง รู้แค่ไหนก็ตีความได้แค่นั้น ใครสร้างเหตุอย่างไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ถ้าไม่มีใครไปต่อความยาวสาวความยืดกับเขา มันก็จบ เพียงแต่ถ้าจะถกกันทางธรรมกับเขา เราก็ต้องมีหลักฐานมาอ้างอิงน่ะค่ะ ว่าครูบาฯท่านนี้ ( หลวงพ่อพุทธทาส ) ท่านก็เหมือนครูบาฯท่านอื่นๆไม่ได้แตกต่างเลย ซึ่งตัวเองก็เคยนำเรื่องบัญญัติปรมัติถ์ ที่หลวงพ่อพุทธทาสท่านกล่าวไว้ นำมาเปรียบเทียบกับทางพม่าเขา ว่า อาจจะใช้ภาษาแตกต่างกันไปบ้าง แต่สภาวะนั้นๆเป็นสภาวะเดียวกัน คือ สันตติขาด ฆนบัญญติแตก ถ้าคนไม่เคยประสบกับสภาวะนี้อธิบายไม่ถูกหรอกค่ะ หลวงพ่อพุทธทาสท่านได้อธิบายสภาวะไว้ได้อย่างชัดเจน ให้โอกาสกับตัวเองและคุณเฉลิมศักดิ์ตลอดจนคนอื่นๆเขาได้ขัดเกลากิเลสในใจตัวเองเถอะค่ะ เราทุกคนล้วนต่างยังเป็นผู้ศึกษา ควรจะเมตตาต่อกันและกัน เพราะหลายๆคนไม่มีที่ไป ไม่มีโอกาสได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าตัวเองรู้ เลยจมอยู่ในกองกิเลสกันมานานแสนนาน หลายๆคนก็ได้มาเติบโตกันที่บอร์ดนี้ อย่างน้อยเป็นการให้โอกาสแก่กันและกันนะคะ ให้ได้แสดงกิเลสที่มีในใจของแต่ละคนออกมาแสดงความคิดเห็นกัน ส่วนใครว่าใคร ใครละเมิดใคร ทุกอย่างล้วนมีเหตุมาก่อนค่ะ ผลเลยเป็นเช่นนี้ ส่วนดีของแต่ละคนมี ส่วนเสียของแต่ละคนก็ย่อมมี เพียงแต่เราเลือกที่จะก่อหรือเลือกที่จะจบ จบหรือก่อ ผลทั้งหมดย่อมเป็นเราที่ได้รับค่ะ ไม่ใช่เขา ส่วนที่เขากระทำใดๆนั้น ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา ทุกอย่างล้วนส่งผลค่ะ เขาย่อมเป็นผู้รับผลค่ะ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 14 ม.ค. 2010, 01:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ม่ายเข้าใจ..เลย.. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | admin [ 14 ม.ค. 2010, 08:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
อ้างคำพูด: admimครับ ท่านเคยเตือนผมๆเชื่อฟังท่าน แต่ท่านปล่อยให้มีการเหยียบย่ำหัวใจชาวพุทธที่ศรัทธาท่านพุทธทาสได้อย่างไรครับ หรืออุดมการณ์ทำเวปของท่านเปลี่ยนไปแล้ว ขออนุโมทนาสาธุด้วยที่แจ้งให้ทราบ อุดมการณ์ของเว็บธรรมจักร และกฏกติกายังเหมือนเดิมครับ เพียงแต่บกพร่องไปบ้าง เพราะจำนวนกระทู้และข้อความที่มากขึ้น admin คนเดียวจะมานั่งตรวจสอบทุกข้อความ คงไม่มีเวลาพอที่จะทำได้ จึงต้องอาศัยสมาชิกช่วยกันสอดส่องอะไรที่ผิดกฏกติกา ก็แจ้งให้ทราบ ![]() |
เจ้าของ: | ดุสิตธานี [ 16 ม.ค. 2010, 19:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
walaiporn เขียน: คุณ mes ![]() ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ ถ้าคำกล่าวต่อไปนี้อาจจะไม่ถูกใจคุณ ![]() เมตตาต่อกันเถอะค่ะ ไม่มีใครถูกต้อง 100 % หรอกค่ะ มีแต่ถูกใจตัวเอง รู้แค่ไหนก็ตีความได้แค่นั้น ใครสร้างเหตุอย่างไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ถ้าไม่มีใครไปต่อความยาวสาวความยืดกับเขา มันก็จบ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 16 ม.ค. 2010, 20:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
ดุสิตธานี เขียน: walaiporn เขียน: คุณ mes ![]() ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ ถ้าคำกล่าวต่อไปนี้อาจจะไม่ถูกใจคุณ ![]() เมตตาต่อกันเถอะค่ะ ไม่มีใครถูกต้อง 100 % หรอกค่ะ มีแต่ถูกใจตัวเอง รู้แค่ไหนก็ตีความได้แค่นั้น ใครสร้างเหตุอย่างไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ถ้าไม่มีใครไปต่อความยาวสาวความยืดกับเขา มันก็จบ ![]() ![]() ![]() เอาตัวเราให้รอด รักษาจิตเราดีกว่าเจ้าค่ะ โมทนาค่ะคุณมด ![]() หลวงพ่อจะสอนเสมอๆว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ใครสร้างเหตุอย่างไร ย่อมรับผลเช่นนั้น กับคุณ mes นี่เห็นกันมานานค่ะ ก็เลยถือวิสาสะมาแสดงความคิดเห็น ขึ้นชื่อว่า พระสงฆ์ เรามาแบ่งแยกกันเองว่า เป็นนั่นเป็นนี่ เลยเกิดอุปทานยึดมั่นถือมั่นแบ่งแยก ทำนองว่า พระสงฆ์แบบนี้ ติติงได้ แบบนี้ติติงไม่ได้ พระนะคะ ไม่ใช่ข้าวของเครื่องใช้ จะได้มาชี้กันว่า นี่ดีหรือไม่ดี เราไม่มีหน้าที่ไปตัดสินตรงนั้น ดูตัวเองดีกว่าค่ะ ไม่ใช่ให้ดูว่าดีหรือไม่ดี แต่ให้ดูกิเลสตัวเองให้มากๆ ถ้ารู้เหตุ รู้ผล รู้เห็นตามความเป็นจริง มันต้องละ สละออกไป ไม่ใช่บอกว่า " รู้ " แต่กลับยึดติดกันเป็นตังเม ขึ้นชื่อว่า การติติงกัน ไม่ควรจะทำกันเสียเลยจะดีกว่า แต่เราควรนำเหตุผลมาแสดงต่อกันว่า ที่เราเห็นไม่เหมือนเขาน่ะ ไม่เหมือนตรงไหน เมื่อได้นำเหตุผลมาแสดงแล้ว เขาไม่ยอมรับฟังข้อคิดเห็นที่เรานำเสนอไป เราก็เป็นฝ่ายจบเองดีกว่าค่ะ ดีกว่าไปก่อวิวาทะกัน ซึ่งมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับเลย มีแต่เสียกับเสีย คือ จิตตก อกุศลจิตเกิด ดีไม่ดีกลายเป็นความพยาบาทไปไม่รู้ตัว ก็เลยเป็นเหตุให้ก่อภพก่อชาติไปไม่รู้จักจบจักสิ้นกัน ไม่ใช่คนอื่นมาสร้างเหตุให้กับเรานะคะ แต่เป็นตัวเรานี่เองแหละที่สร้างเหตุขึ้นมาเอง |
เจ้าของ: | chalermsak [ 09 พ.ค. 2010, 05:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
พึ่งมาเห็นกระทู้นี้ ของคุณ mes คุณ mes ครับ อย่าได้ยึดติดตัวบุคคล มากเกินไปครับ เพราะทิฏฐิทั้งหลายของบุคคล มีถูกบ้างผิดบ้าง กรณีนี้ คุณ mes จะเกิดความเศร้าหมอง ว่ามีคนมาใส่ร้ายอาจารย์ที่ตนรัก กระทู้ นรก - สวรรค์ (ซึ่งผู้ถามเกิดความเข้าใจผิด เมื่อศึกษางานท่านพุทธทาส) http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16994 ผมก็เช่นกัน เมื่อใดที่เกิดทิฏฐิที่ไม่ถูกต้อง อันเกิดจากการศึกษาอัตตโนมติ ผมก็ออกมาชี้แจงบ้าง โดยมุ่งหวัง ให้เกิด ความเคารพใน พระในพระไตรปิฏก อรรถกถา คัมภีร์ของเถรวาท ให้มากขึ้น 28195.การยกหลักฐานอ้างพระไตรปิฎก ถ้าไม่ดูอรรถกถา มีโอกาสผิดพลาด viewtopic.php?f=2&t=28195 นี่กระมัง พระพุทธเจ้า จึงไม่ให้ยึดติดที่ตัวบุคคล พระพุทธพจน์ จากหนังสือ พุทธธรรม ส่วนข้อเสีย(ของการยึดติดในบุคคล) ก็มี ดังพุทธพจน์ว่า ภิกษุทั้งหลาย ข้อเสีย ๕ อย่างในความเลื่อมใสบุคคลมีดังนี้ คือ ๑. บุคคลเลื่อมใสยิ่งในบุคคลใด บุคคลนั้นต้องอาบัติอันเป็นเหตุให้ สงฆ์ยกวัตร เขาจึงคิดว่า บุคคลผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเรานี้ ถูกสงฆ์ยก วัตรเสียแล้ว... ๒. บุคคลเลื่อมใสยิ่งในบุคคลใด บุคคลนั้นต้องอาบัติอันเป็นเหตุให้ สงฆ์บังคับให้นั่ง ณ ท้ายสุดสงฆ์เสียแล้ว... ๓. ...บุคคลนั้น ออกเดินทางไปเสียที่อื่น... ๔. ...บุคคลนั้น ลาสิกขาเสีย... ๕. ...บุคคลนั้น ตายเสีย... เขาย่อมไม่คบหาภิกษุอื่นๆ เมื่อไม่คบหาภิกษุอื่นๆ ก็ย่อมไม่ได้สดับ สัทธรรม เมื่อไม่ได้สดับสัทธรรม ก็ย่อมเสื่อมจากสัทธรรม เมื่อความเลื่อมใสศรัทธากลายเป็นความรัก ข้อเสียในการที่ความ ลำเอียงจะมาปิดบังการใช้ปัญญาก็เกิดขึ้นอีก เช่น ภิกษุทั้งหลาย สิ่ง ๔ ประการนี้ ย่อมเกิดขึ้นได้ คือ ความรักเกิด จากความรัก โทสะเกิดจากความรัก ความรักเกิดจากโทสะ โทสะเกิด จากโทสะ ! ! ลำพังศรัทธาอย่างเดียว เมื่อไม่ก้าวหน้าต่อไปตามลำดับจนถึงขั้นปัญญา ย่อมมีผลอยู่ในขอบเขตจำกัดเพียงแค่สวรรค์เท่านั้น ไม่สามารถให้บรรลุจุด หมายของพุทธธรรมได้ ดังพุทธพจน์ว่า ภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้ว ซึ่งเป็นของง่าย เปิดเผย ประกาศไว้ชัด ไม่มีเงื่อนงำใดๆ อย่างนี้ - สำหรับภิกษุผู้เป็นอรหันตขีณาสพ...ย่อมไม่มีวัฏฏะเพื่อจะบัญญัติต่อไป - ภิกษุที่ละสังโยชน์เบื้องตํ่าทั้งห้าได้แล้ว ย่อมเป็นโอปปาติกะ ปรินิพพาน ในโลกนั้น ฯลฯ - ภิกษุที่ละสังโยชน์สามได้แล้ว มีราคะ โทสะ โมหะเบาบาง ย่อมเป็น สกทาคามี ฯลฯ - ภิกษุที่ละสังโยชน์สามได้ ย่อมเป็นโสดาบัน ฯลฯ - ภิกษุที่เป็นธัมมานุสารี เป็นสัทธานุสารี ย่อมเป็นผู้มีสัมโพธิเป็นที่ หมาย - ผู้ที่มีเพียงศรัทธา มีเพียงความรักในเรา ย่อมเป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ หมาย 5- เมื่อรู้เห็นประจักษ์ด้วยปัญญา ก็ไม่ต้องเชื่อด้วยศรัทธา ในกระบวนการพัฒนาปัญญา ที่ถือเอาประโยชน์จากศรัทธาอย่างถูก ต้อง ปัญญาจะเจริญขึ้นโดยลำดับ จนถึงขั้นเป็นญาณทัสสนะ คือเป็นการรู้ การเห็น ในขั้นนี้ จะไม่ต้องใช้ความเชื่อและความเห็นอีกต่อไป เพราะรู้เห็น ประจักษ์แก่ตนเอง จึงเป็นขั้นที่พ้นขอบเขตของศรัทธา ขอให้พิจารณาข้อ ความในพระไตรปิฎกต่อไปนี้ ถาม: ท่านมุสิละ โดยไม่อาศัยศรัทธา ไม่อาศัยความถูกกับใจคิด ไม่ อาศัยการเรียนรู้ตามกันมา ไม่อาศัยการคิดตรองตามแนวเหตุผล ไม่อาศัย ความเข้ากันได้กับการทดสอบด้วยทฤษฎี ท่านมุสิละมีการรู้จำเพาะตน (ปัจจัตตญาณ) หรือว่า เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ ? ตอบ: ท่านปวิฏฐะ ผมย่อมรู้ ย่อมเห็นข้อที่ว่า เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะนี้ได้ โดยไม่ต้องอาศัยศรัทธา...ความถูกกับใจคิด...การ เรียนรู้ตามกันมา...การคิดตรองตามแนวเหตุผล...ความเข้ากันได้กับการ ทดสอบด้วยทฤษฎีเลยทีเดียว |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 09 พ.ค. 2010, 09:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
chalermsak เขียน: กรณีนี้ คุณ mes จะเกิดความเศร้าหมอง ว่ามีคนมาใส่ร้ายอาจารย์ที่ตนรัก กระทู้ นรก - สวรรค์ (ซึ่งผู้ถามเกิดความเข้าใจผิด เมื่อศึกษางานท่านพุทธทาส) http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16994 ผมก็เช่นกัน เมื่อใดที่เกิดทิฏฐิที่ไม่ถูกต้อง อันเกิดจากการศึกษาอัตตโนมติ ผมก็ออกมาชี้แจงบ้าง โดยมุ่งหวัง ให้เกิด ความเคารพใน พระในพระไตรปิฏก อรรถกถา คัมภีร์ของเถรวาท ให้มากขึ้น 28195.การยกหลักฐานอ้างพระไตรปิฎก ถ้าไม่ดูอรรถกถา มีโอกาสผิดพลาด viewtopic.php?f=2&t=28195 นี่กระมัง พระพุทธเจ้า จึงไม่ให้ยึดติดที่ตัวบุคคล พระพุทธพจน์ จากหนังสือ พุทธธรรม ![]() ![]() อรรถกถา วีสุทธีมรรค พุทธธรรม คุณ chalermsak..ก็เป็นคนยึด..อัตตโนมติ ..อันเกิดจากการศึกษาอัตตโนมติ...อีกคนหนึ่งเหมี่อนกันนี้ครับ.. แล้วงั้ยไปว่าคนอี่นเขาละ.. รึเห็นว่า..ฉันยึดของถูก...เธอยึดของไม่ถูก(จากของฉัน) ![]() ![]() |
เจ้าของ: | mes [ 14 พ.ค. 2010, 17:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
เฉลิมศักดิ์ เขียน: พึ่งมาเห็นกระทู้นี้ ของคุณ mes คุณ mes ครับ อย่าได้ยึดติดตัวบุคคล มากเกินไปครับ เพราะทิฏฐิทั้งหลายของบุคคล มีถูกบ้างผิดบ้าง กรณีนี้ คุณ mes จะเกิดความเศร้าหมอง ว่ามีคนมาใส่ร้ายอาจารย์ที่ตนรัก กระทู้ นรก - สวรรค์ (ซึ่งผู้ถามเกิดความเข้าใจผิด เมื่อศึกษางานท่านพุทธทาส) http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16994 ผมก็เช่นกัน เมื่อใดที่เกิดทิฏฐิที่ไม่ถูกต้อง อันเกิดจากการศึกษาอัตตโนมติ ผมก็ออกมาชี้แจงบ้าง โดยมุ่งหวัง ให้เกิด ความเคารพใน พระในพระไตรปิฏก อรรถกถา คัมภีร์ของเถรวาท ให้มากขึ้น 28195.การยกหลักฐานอ้างพระไตรปิฎก ถ้าไม่ดูอรรถกถา มีโอกาสผิดพลาด viewtopic.php?f=2&t=28195 นี่กระมัง พระพุทธเจ้า จึงไม่ให้ยึดติดที่ตัวบุคคล อย่างอัตโนมัติของท่านแนบ อย่างอัตโนมัติของท่านบุญมี อย่างอัตโนมัติของท่านเสือ อย่างอัตโนมัติของท่านธรรมโชติ ที่เฉลิมศักดิ์ยึดติด และที่อ้างถึงเถราวาทก็บิดเบือน พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสว่า สวรรค์ นรก มีหรือไม่ ทรงตรัสว่า แม้สวรรค์นรกก็เป็นเพียงเหตุปัจจัย จะมีก็ไม่ใช่ ไม่มีก็ไม่ใช่ มีแต่อาจาริยาวาทถึงมีแดนนิพพาน แดนสวรรค์ แดนนรก การปฏิบัติธรรมหรือธรรมนุธรรมต้องอาศัยหลักย่อยคล้อยตามหลักใหญ ใครที่บังอาจเอาอรรถกถาไปตรวจสอบพระไตรปิฏกถือว่าผิดมหันต์ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พิจารณาตามหลักมหาประเทส4 และสอนหลักความเชื่อตามกาลามสูตา แฉลิมศักดิ์มาสอนให้เชื่อตัวบุคคลเสียแล้ว อย่างนี้เรียกว่าเป็นอัตตโนมัติของเฉลิมศักดิ์เอง เป็นอัตตโนมัติที่กล่าวบิดเบือนพระธรรม กล่าวเกิน กล่าวตู่พระพุทธเจ้า เป็นสัทธรรมปฏิรูปต้นเหตุเหตุความเสื่อม เป็นบาปอย่างมหันต์ ปิดประตูนิพพานได้เลย แต่ประตูนรกเปิดรับแน่นอน |
เจ้าของ: | enlighted [ 14 พ.ค. 2010, 18:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
อิอิ มาปูเสื่อฟังครับ อยากให้ชี้มาตั้งแต่ เรื่องพื้นฐานก่อนคร๊าบ เช่น ด้านการทำสมาธิเบื้องต้น มาให้ฟัง ก่อนคร๊าบ ว่า ถูกต้องหรือเปล่า มีอะไรผิดเพี้ยนบ้าง หรือเปล่า มีความเห็นผิด ในพื้นฐานการทำสมาธิ หรือเปล่าครับ อยากฟังคร๊าบ อิอิ |
เจ้าของ: | บุคคลทั่วไป [ 05 ธ.ค. 2010, 00:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เฉลิมศักดิ์ใส่ร้ายท่านพุทธทาสอีกแล้ว |
"สพฺเพ ธฺมมา นาลํ อภินิเวสาย " แปลว่า "ธรรมทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่น" |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |