วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


เรียนสมาชิกที่เข้ามาใช้เว็บบอร์ดแล้ว ก็สามารถฝากคำติชม หรือต้องการให้ทางเว็บมาสเตอร์แก้ไขปรับปรุง หรือเสริมแต่งตรงไหน ก็บอกกล่าวกันได้ อย่าได้เกรงใจ ถ้าไม่บอกกล่าวกัน ก็ไม่ทราบว่ายังมีบกพร่องหรือปัญหาตรงไหนบ้าง

ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า กับทุกคำบอกกล่าวด้วยครับ



กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทักษากระทำเยี่ยงคนขี้ขลาด

หมายความว่า

ขี้ขลาดที่จะกล้ารับความจริง

การเป็นคนขี้ฟ้องในลักษณะนี้

มีเหตุผลเดียว


ต้องการป่วนเวปนี้


เป็นการกระทำที่น่าอาย

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ใส่ร้ายผมในกระทู้ข้างๆน้

ไปหาหลักฐานมาก่อน

ทำตัวเองเยี่ยงอันธพาลไปเพื่ออะไร

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
.............................
พาลสูตร
สมัยที่พระบรมโพธิสัตว์ยังสร้างบารมีอยู่ เวลามีผู้ทรงคุณธรรมมาให้พร ท่านมักจะขอพรว่า ขอให้อย่าได้เห็น อย่าได้ฟังคนพาล อย่าได้อยู่ร่วมกับคนพาล และจะไม่ขอร่วม ไม่ขอชอบใจในการเจรจาปราศรัยกับคนพาล เพราะว่าคนพาลมีปัญญาทราม จะคอยชี้นำแต่สิ่งที่ไม่ควร แนะนำแต่สิ่งที่เป็นบาปอกุศล ชอบชักชวนให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ ไม่เกิดประโยชน์ ถึงจะพูดดีด้วยก็โกรธ และไม่ยอมรับรู้วินัย ระบบระเบียบที่ดีงามต่างๆ การไม่เห็นคนพาลจึงเป็นสิ่งประเสริฐ

...............................................................

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมแค่มาทวงความเป็นธรรมของผม

ในลักษณะที่พอสมควรแก่กัน

ไม่เช่นนั้น

ก็จะมีคนที่เหิมเกริมทำตัวเป็นอันธพาล

อยากฟ้องใส่ร้ายใครก็ทำตามใจชอบ

ไม่ต้องมีหลักฐาน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 19:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน


จังไร
จังไร
ความหมาย

ว. เลวทราม, เป็นเสนียด, ไม่เป็นมงคล, จัญไร ก็ว่า. (ข. จงฺไร).





.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 22:40
โพสต์: 142

แนวปฏิบัติ: ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติ
งานอดิเรก: ทำงานให้สุญญตา
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธทาสภิกขุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยกกฎกติกา ยกตำรา มาฝากเขา อย่าลืมเอาให้ตัวเองอ่านแล้วก็ทำด้วย

แค่เงียบไปซะคน เรื่องก็จบแล้ว โดนกิเลสเล่นงานจนน่วมทั้ง ๒ คน ยังไม่รู้ตัวอีก

.....................................................
สนทนาธรรมกันด้วยเอ็นดูเมตตาเกื้อกูลกัน มี "สัมมาวาจา"
ชวนกันสนทนาเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าไปเรื่องอื่น มันมีแต่เรื่องทุกข์มากขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่สามยังไม่รู้ตัว

huh


แก้ไขล่าสุดโดย จางบาง เมื่อ 10 พ.ย. 2011, 04:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2011, 07:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมยังยืนยันให้ทักษาหาหลักฐานที่กล่าวหาผมที่กระทู้

viewtopic.php?f=11&t=39967

ถ้าหาหลักฐานมาไม่ได้แสดงว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี

ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2011, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 22:40
โพสต์: 142

แนวปฏิบัติ: ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติ
งานอดิเรก: ทำงานให้สุญญตา
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธทาสภิกขุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
พาลสูตร
สมัยที่พระบรมโพธิสัตว์ยังสร้างบารมีอยู่ เวลามีผู้ทรงคุณธรรมมาให้พร ท่านมักจะขอพรว่า ขอให้อย่าได้เห็น อย่าได้ฟังคนพาล อย่าได้อยู่ร่วมกับคนพาล และจะไม่ขอร่วม ไม่ขอชอบใจในการเจรจาปราศรัยกับคนพาล เพราะว่าคนพาลมีปัญญาทราม จะคอยชี้นำแต่สิ่งที่ไม่ควร แนะนำแต่สิ่งที่เป็นบาปอกุศล ชอบชักชวนให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ ไม่เกิดประโยชน์ ถึงจะพูดดีด้วยก็โกรธ และไม่ยอมรับรู้วินัย ระบบระเบียบที่ดีงามต่างๆ การไม่เห็นคนพาลจึงเป็นสิ่งประเสริฐ


:b8: mes คะ ตะเกียงแก้วนับคุณเป็นสหายธรรม ที่มีความรู้เชิงปริยัติมาก

กระทู้นี้ ขอทั้ง mes และคุณทักษา ได้ทำความเข้าใจอันดีต่อกัน ในฐานะกัลยาณมิตรที่พึงมีต่อกัน
เราคงไม่ต้องยกกติกาและพระสูตร มากล่าวอ้าง เพื่อตำหนิติติงอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้อีกฝั่งหนึ่งถูก

ถ้าใจไม่ปรุง ให้มีเรา ให้มีเขา ก็ไม่มีคนที่ต้องถูกกระทบกระทั่ง ต้องดูใจให้ดีๆ


กระทู้นี้ขอทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีต่อคุณทักษา และ mes มากกว่าที่จะทำหน้าที่ผู้ดูแล
เราคงไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย ถ้าต่างกำลังเจริญ "อริยมรรค" "สัมมาวาจา" กัน

เดี๋ยวรายละเอียด ที่คุณทักษาอ้างอิงมาให้อ่าน ค่ำๆเข้าบ้าน จะกลับมาอ่านอย่างละเอียดนะคะ


ขอความเจริญในธรรมเปี่ยมด้วยเมตตาไม่มีประมาณ เจริญงอกงามในจิตใจทุกคน


:b8: :b39: :b41:

.....................................................
สนทนาธรรมกันด้วยเอ็นดูเมตตาเกื้อกูลกัน มี "สัมมาวาจา"
ชวนกันสนทนาเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าไปเรื่องอื่น มันมีแต่เรื่องทุกข์มากขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2011, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
mes เขียน:
พาลสูตร
สมัยที่พระบรมโพธิสัตว์ยังสร้างบารมีอยู่ เวลามีผู้ทรงคุณธรรมมาให้พร ท่านมักจะขอพรว่า ขอให้อย่าได้เห็น อย่าได้ฟังคนพาล อย่าได้อยู่ร่วมกับคนพาล และจะไม่ขอร่วม ไม่ขอชอบใจในการเจรจาปราศรัยกับคนพาล เพราะว่าคนพาลมีปัญญาทราม จะคอยชี้นำแต่สิ่งที่ไม่ควร แนะนำแต่สิ่งที่เป็นบาปอกุศล ชอบชักชวนให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ ไม่เกิดประโยชน์ ถึงจะพูดดีด้วยก็โกรธ และไม่ยอมรับรู้วินัย ระบบระเบียบที่ดีงามต่างๆ การไม่เห็นคนพาลจึงเป็นสิ่งประเสริฐ


:b8: mes คะ ตะเกียงแก้วนับคุณเป็นสหายธรรม ที่มีความรู้เชิงปริยัติมาก

กระทู้นี้ ขอทั้ง mes และคุณทักษา ได้ทำความเข้าใจอันดีต่อกัน ในฐานะกัลยาณมิตรที่พึงมีต่อกัน
เราคงไม่ต้องยกกติกาและพระสูตร มากล่าวอ้าง เพื่อตำหนิติติงอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้อีกฝั่งหนึ่งถูก

ถ้าใจไม่ปรุง ให้มีเรา ให้มีเขา ก็ไม่มีคนที่ต้องถูกกระทบกระทั่ง ต้องดูใจให้ดีๆ


กระทู้นี้ขอทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีต่อคุณทักษา และ mes มากกว่าที่จะทำหน้าที่ผู้ดูแล
เราคงไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย ถ้าต่างกำลังเจริญ "อริยมรรค" "สัมมาวาจา" กัน

เดี๋ยวรายละเอียด ที่คุณทักษาอ้างอิงมาให้อ่าน ค่ำๆเข้าบ้าน จะกลับมาอ่านอย่างละเอียดนะคะ


ขอความเจริญในธรรมเปี่ยมด้วยเมตตาไม่มีประมาณ เจริญงอกงามในจิตใจทุกคน


:b8: :b39: :b41:


ผมจะยุติตามที่ท่านตะเกียงแก้วขอ

ด้วยเมตตาธรรม

ขอฝากนิดเดียว

ให้หาวิธีอย่าให้เกิดเรื่องที่มีการเทียวปั้นเรื่องใส่ร้านคนอื่นๆอีก

อย่างที่นี่ก็ใช่ viewtopic.php?f=1&t=40062 เหมือนแบล็คเมล์ขมขู่เพื่อนสมาชิก

สังคมต้องผดุงความยุติธรรมด้วยจึงอยู่รอด

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2011, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 20:18
โพสต์: 90


 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัย คุณทักษา ชักจะเพี้ยนไปใหญ่เห็นเที่ยวฟ้องให้แบนคนนั้นคนนี้ แม้แต่ผมก็ยังโดน Onion_R


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2011, 00:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 22:40
โพสต์: 142

แนวปฏิบัติ: ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติ
งานอดิเรก: ทำงานให้สุญญตา
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธทาสภิกขุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้เข้ามาพิจารณาหาสาเหตุที่ mes กระโจนเข้าไปกลางกระทู้
แล้วตามทักษาไปหลายกระทู้ (ด้วยตัวอักษรใหญ่สีแดง)

mes เขียน

ทักษา

ไปหาหลักฐานที่กล่าวหาผมก่อนที่
viewtopic.php?f=11&t=40030

อย่าเป็นคนจังไรที่ไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำชั่วเอาไว้

ตะเกียงแก้ว เขียน เพราะ mes ต้องการให้ทักษา แสดงหลักฐานคำพูดที่ทักษากล่าวอ้างว่า mes พูด (ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน "ใส่ร้าย")

ทักษา เมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 20:19
viewtopic.php?f=11&t=40030

mes เขียน:
มหาอุทกภัยก็เกิดจากการบริหารจัดการไม่เป็นของ

กาลนารีขี่ม้าขาว
แทนที่จะสำนึก

กลับผยองพองขน

ไม่คิดถึงศีลธรรม ไม่เกรงบาปกรรม


mes เขียน เมื่อ: 30 ต.ค. 2011, 08:46
viewtopic.php?f=1&t=39830&start=135

มหาอุทกภัยก็เกิดจากการบริหารจัดการไม่เป็นของ

กาลนารีขี่ม้าขาว

แทนที่จะสำนึก

กลับผยองพองขน

ไม่คิดถึงศีลธรรม ไม่เกรงบาปกรรม


mes เขียน เมื่อ: 30 ต.ค. 2011, 10:21
viewtopic.php?f=1&t=39830&start=150

ผมว่ากาลนารี คือ นารีในกาลนี้

ผมพูดอย่างนี้

ทักษา เขียน : เมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 20:19
viewtopic.php?f=11&t=40030
คุณ mes กล่าวหาว่าท่าน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็น “กาลกิณีขี่ม้าขาว”

ทักษา เขียน เมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 20:19
viewtopic.php?f=11&t=40030
คุณ mes ไปด่า ท่าน ยิ่งลักษณ์ ว่าเป็นกาลกิณีอันนี้เรียกว่าหยาบคายได้มั้ยครับ

ในฐานะผู้ดูแล ขอให้ทักษา แสดงหลักฐาน ที่กล่าวหา mes ว่าพูดว่า "กาลกิณี" ด้วย
ถ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานที่กล่าวหา mes ก็ขอแจ้งกฎกติกา มารยาท ในการแสดงความคิดเห็นของลานธรรมจักร ที่คุณละเมิด


(๑) โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ใส่ความ
กล่าวหาให้ร้าย
ดูหมิ่น หมิ่นประมาท สร้างความแตกแยก
หรือกระทบถึงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
หรือครูบาอาจารย์ ตลอดจน บุคคลอันเป็นที่เคารพในสังคม

(๔) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการนินทา
ใส่ร้าย วิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่น หรือต้องการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเกลียดชัง

(๕) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการท้าทาย
ชักชวน หรือเจตนาที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่สังคม


บทลงโทษ
๑) ตักเตือน
๒) ระงับการใช้ ๗ วัน
๓) ระงับการใช้ตั้งแต่ ๑ เดือนขึ้นไป
๔) ระงับการใช้ถาวร

.....................................................
สนทนาธรรมกันด้วยเอ็นดูเมตตาเกื้อกูลกัน มี "สัมมาวาจา"
ชวนกันสนทนาเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าไปเรื่องอื่น มันมีแต่เรื่องทุกข์มากขึ้น


แก้ไขล่าสุดโดย ตะเกียงแก้ว เมื่อ 12 พ.ย. 2011, 02:56, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2011, 00:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 22:40
โพสต์: 142

แนวปฏิบัติ: ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติ
งานอดิเรก: ทำงานให้สุญญตา
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธทาสภิกขุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
ยกกฏกติกา ยกตำรา มาฝากเขา อย่าลืมเอาให้ตัวเองอ่านแล้วก็ทำด้วย

แค่เงียบไปซะคน เรื่องก็จบแล้ว โดนกิเลสเล่นงานจนน่วมทั้ง ๒ คน ยังไม่รู้ตัวอีก

ตั้งใจให้ทุกคน แต่ใช้ภาษาธรรมที่คนปฏิบัติธรรม จึงจะเข้าใจว่าตนเองกำลังโดนกิเลสเล่นงาน
คนที่ไม่เคยปฏิบัติอ่านเท่าไร ก็ไม่มีทางเข้าใจ กิเลสยิ่งสนอง ก็ยิ่งข่มขี่รังแกตนเองมากขึ้นๆ
ธรรมยุติธรรมเสมอ กิเลสยุติธรรมเสมอ คนอื่นรังแกไม่เท่ากับรังแกตัวเองด้วยความโกรธความหลงหรอก

แต่ทักษา เข้าใจว่า

ทักษา เขียน:
จ้องจะด่าท่าเดียว พากันเข้ามารุมจิก รุมด่า

ด่ากันแบบหน้ามืด ไม่ฟังเหต่ผลใดๆทั้งสิ้น

บางคนด่ารายตัว บางคนด่าเหมารวบยอด สนุกปากกันจังนะ


ขอให้ทักษา ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ให้เข้าใจในเจตนา อย่าปรุงตามใจกิเลสตัวเอง
คนที่จิตใจดี (กุศล) แม้คนมาด่าก็ยังว่าดี คนจิตใจไม่ดี (อกุศล) เข้ามาแนะก็คิดว่าด่า

ทักษา เขียน:
ใครหรือครับที่ยกพระสูตรมาตำหนิอีกฝ่าย ผมเห็นแต่คุณตะเกียงแก้ว กับ สมาชิก mes กล่าวหาผมปาวๆ คุณตะเกียงแก้ว กับ สมาชิก mes ยกพระสูตรมาให้ผมอ่าน


mes เขียน:
ตะเกียงแก้ว เขียน:
mes เขียน:

พาลสูตร

สมัยที่พระบรมโพธิสัตว์ยังสร้างบารมีอยู่ เวลามีผู้ทรงคุณธรรมมาให้พร ท่านมักจะขอพรว่า ขอให้อย่าได้เห็น อย่าได้ฟังคนพาล อย่าได้อยู่ร่วมกับคนพาล และจะไม่ขอร่วม ไม่ขอชอบใจในการเจรจาปราศรัยกับคนพาล เพราะว่าคนพาลมีปัญญาทราม จะคอยชี้นำแต่สิ่งที่ไม่ควร แนะนำแต่สิ่งที่เป็นบาปอกุศล ชอบชักชวนให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ ไม่เกิดประโยชน์ ถึงจะพูดดีด้วยก็โกรธ และไม่ยอมรับรู้วินัย ระบบระเบียบที่ดีงามต่างๆ การไม่เห็นคนพาลจึงเป็นสิ่งประเสริฐ

พระสูตรนี้ ตั้งใจยกมาให้ mes อ่าน เพื่อเตือนสติตนเอง

.....................................................
สนทนาธรรมกันด้วยเอ็นดูเมตตาเกื้อกูลกัน มี "สัมมาวาจา"
ชวนกันสนทนาเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าไปเรื่องอื่น มันมีแต่เรื่องทุกข์มากขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2011, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 22:40
โพสต์: 142

แนวปฏิบัติ: ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติ
งานอดิเรก: ทำงานให้สุญญตา
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธทาสภิกขุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทักษา เขียน:
พอคุณตะเกียงแก้ว โผล่มาเท่านั้นแหละ กลับกล่าววาจาเสียดสีโครมๆ กล่าววาจากระทบกระทั่ง โดยไม่รู้ที่มาที่ไป นัยๆว่าจะเป็นการตำหนิหาว่าผมต่อปากต่อคำ


ตะเกียงแก้ว เขียน:
ยกกฏกติกา ยกตำรา มาฝากเขา อย่าลืมเอาให้ตัวเองอ่านแล้วก็ทำด้วย

แค่เงียบไปซะคน เรื่องก็จบแล้ว โดนกิเลสเล่นงานจนน่วมทั้ง ๒ คน ยังไม่รู้ตัวอีก


ช่วยแสดงด้วยว่าข้อความใด ที่เป็นวาจาเสียดสีโครม กล่าววาจากระทบกระทั่ง

กฏการแสดงความคิดเห็นลานธรรมจักร

(๔) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการนินทา
ใส่ร้าย วิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่น หรือต้องการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเกลียดชัง

(๕) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการท้าทาย
ชักชวน หรือเจตนาที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่สังคม

(๑๑) ลานธรรมจักรเป็นบอร์ดธรรมะ คณะทีมงานผู้ดูแลจึงขอความร่วมมือ
ให้สมาชิกทุกท่านแสดงความเห็นในเรื่องที่สร้างสรรค์ และจรรโลงหลักธรรมความดีงาม
อันจะก่อให้เกิดความอาจหาญ ร่าเริงในสัมมาปฏิบัติให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
สมาชิกไม่พึงประทุษร้ายผู้อื่นด้วยวาจาอันประกอบด้วย วจีทุจริต ๔ ประการ
กล่าวคือ พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
สมาชิกพึงพูดคุยกันเยี่ยงบัณฑิตทั้งหลายคุยกัน มีเมตตามีความปรารถนาดีต่อกัน
ตลอดจน เคารพในเหตุผลของกันและกัน
พร้อมที่จะให้อภัยซึ่งกันและกัน


ทักษา เขียน:
ผมเห็นผู้กระทำผิด ผมจึงแจ้งทีมงานให้เข้ามาดูแล การกระทำแบบนี้มันผิดใช่มั้ยครับ ผิดที่ผมเสนอหน้า
เข้ามาแจ้ง ประมาณนั้นหรือเปล่า
หรือผู้ที่คอยสอดส่งเป็นหูเป็นตาให้กับทางเวบ เมื่อเห็นอะไรไม่เหมาะไม่สมควรแล้วแจ้งเข้ามาทางทีมงาน
มันเป็นการเสนอหน้า อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใสตัว ประมาณนั้นหรือเปล่าครับ

คุณมีสิทธิ์ทำได้ในการให้ข้อมูลจริงที่สมาชิกกล่าว(ทำ)ผิดกฏ แต่ไม่ต้องใส่ความเห็น ไม่กล่าวหาใส่ร้าย หรือตัดสินใดๆ
หน้าที่ตัดสินดำเนินการเป็นหน้าที่ของผู้ดูแลลานธรรมจักร

กระทู้ที่คุณร้องเรียนที่เข้าไปติดตามอ่าน คุณจะใส่ความเห็น ที่กล่าวเกินกว่าที่สมาชิกพูดไว้ในกระทู้มาก

กฏการแสดงความคิดเห็นลานธรรมจักร
(๕) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการท้าทาย
ชักชวน หรือเจตนาที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่สังคม



ทักษา เขียน:
ผมได้เคยตักเตือนคุณตะเกียงแก้ว ไปแล้วว่า ตำแหน่งผู้ดูแลนี่เป็นตำแหน่งที่ทางเวบได้มอบหมาย ให้คุณมีสิทธิและหน้าที่ พิเศษกว่าสมาชิกทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ เพราะฉะนั้นการกล่าววาจาควรมีความรอบคอบ มีความอดทนอดกลั้นมากกว่าสมาชิกทั่วไป รู้จักสำรวมวาจาและระมัดระวังคำพูดเป็นพิเศษ ไม่ควรกล่าวเพ้อเจ้อ กล่าวโดยไม่รู้ความจริง ไม่รู้ที่มาที่ไป กล่าวโดยไม่จำเป็น

ทักษา เขียน:
การกระทำแบบนี้เป็นการประมาท ไม่สำรวม ไม่มีความรอบคอบ ไม่มีความยุติธรรมครับ

มีเขามีเราอะไรครับ กระทบกระทั่งอะไร ผมบอกแล้วว่าผมแค่เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในกรณีสมาชิกทำผิด ซึ่งเป็นการช่วยสอดส่องดูแลความสงบของเวบ ไม่ได้เข้ามาชวนใครทะเลาะ หรือมาวิวาทะกับใคร ซึ่งผมก็ได้อธิบายข้อกล่าวหาอย่างชัดเจนแล้ว

แต่คุณตะเกียงแก้วยังไม่ได้อ่าน ยังไม่ได้พิจารณาให้ดี คุณก็มากล่าวหาสมาชิกปาวๆ ซะก่อนแล้วว่าสมาชิกเข้ามาชวนทะเลาะ เข้ามาหาเรื่องผู้อื่น อย่างนี้เรียกว่าไม่รอบคอบ ไม่มีความอดทน กล่าววาจาพร่ำเพรื่อเกินความจำเป็น หรือเรียกสั้นๆคือ ไม่สำรวม

คุณตะเกียงแก้วเป็น "ผู้ดูแล" นะครับ ไม่ใช่ "ผู้รังแก"


ตะเกียงแก้ว เขียน:
กระทู้นี้ ขอทั้ง mes และคุณทักษา ได้ทำความเข้าใจอันดีต่อกัน ในฐานะกัลยาณมิตรที่พึงมีต่อกัน
เราคงไม่ต้องยกกติกาและพระสูตร มากล่าวอ้าง เพื่อตำหนิติติงอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้อีกฝั่งหนึ่งถูก

ถ้าใจไม่ปรุง ให้มีเรา ให้มีเขา ก็ไม่มีคนที่ต้องถูกกระทบกระทั่ง ต้องดูใจให้ดีๆ


กระทู้นี้ขอทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีต่อคุณทักษา และ mes มากกว่าที่จะทำหน้าที่ผู้ดูแล
เราคงไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย ถ้าต่างกำลังเจริญ "อริยมรรค" "สัมมาวาจา" กัน


ขอให้ทักษา ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ตามภาษาธรรมข้างบน
"ถ้าใจไม่ปรุง ให้มีเรา ให้มีเขา ก็ไม่มี "คน" ที่ต้องถูกกระทบกระทั่ง"
ใครมาด่ามาว่า "ถ้าไม่มีเรา" ถ้าไม่มีทักษา (ตัวกูของกู) ก็ไม่มีปัญหาใดๆ จะไม่มีกูผู้ต้องตอบโต้

ถ้าอ่านด้วยภาษาคน แล้วคนที่อ่านมีกิเลส ตาเห็นตัวอักษรปุ๊บ ก็ปรุงแต่ง มีความรู้สึกโกรธเกิดขึ้นมา
ปรุงไปต่างๆนาๆ ตามกิเลสว่า เขียนว่า "เรา" กระทบในที่นี้ หมายถึงกระทบ "เรา" กระทบ "กู" ที่มีกันทุกคน แล้วแต่ระดับความโง่ของแต่ละคน (ถ้าอ่านคำว่าโง่ ก็อาจจะปรุงไปอีกว่า ว่า "เราโง่" "กูโง่" อีก) ถ้าโง่มาก ปรุงแต่งมาก ก็เจ็บใจมาก ทุกข์มาก (ทักษาลองหัดไปสังเกตจิตใจตัวเองดู จี๊ด ปรี๊ด ขึ้นมา ตัวกูของกู กำลังเกิดขึ้นมา ทันทีที่อ่านข้อความแล้วปรุงแต่งตามกิเลสในใจตัวเองนั่นแหละ)

ถ้าปฏิบัติธรรมกัน ก็ต้องรู้ตัวว่าถูกกูข่มขี่ใจตัวกูเอง ถ้าถูกกิเลสข่มขี่ใจ ใจก็จะหนัก ทุกข์ร้อนขึ้นมา
ต้องรีบหยุดให้ได้ ถ้ายังเคยชินทำเหมือนเดิม ก็เป็นการเติมเพิ่มเชื้อไฟให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ปัญหาที่ตามมาจะยิ่งมากขึ้นๆ เป็นอนุสัยที่รุนแรงมากขึ้น (ทักษาไปหัดสังเกตตัวเองดูให้ดีๆ)

กฏการแสดงความคิดเห็นลานธรรมจักร

(๔) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการนินทา
ใส่ร้าย วิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่น หรือต้องการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเกลียดชัง

(๕) โปรดงดเว้น การนำเสนอรูปภาพ หรือข้อความที่เป็นการท้าทาย
ชักชวน หรือเจตนาที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่สังคม


(๑๑) ลานธรรมจักรเป็นบอร์ดธรรมะ คณะทีมงานผู้ดูแลจึงขอความร่วมมือ
ให้สมาชิกทุกท่านแสดงความเห็นในเรื่องที่สร้างสรรค์ และจรรโลงหลักธรรมความดีงาม
อันจะก่อให้เกิดความอาจหาญ ร่าเริงในสัมมาปฏิบัติให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
สมาชิกไม่พึงประทุษร้ายผู้อื่นด้วยวาจาอันประกอบด้วย วจีทุจริต ๔ ประการ
กล่าวคือ พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
สมาชิกพึงพูดคุยกันเยี่ยงบัณฑิตทั้งหลายคุยกัน มีเมตตามีความปรารถนาดีต่อกัน
ตลอดจน เคารพในเหตุผลของกันและกัน พร้อมที่จะให้อภัยซึ่งกันและกัน

.....................................................
สนทนาธรรมกันด้วยเอ็นดูเมตตาเกื้อกูลกัน มี "สัมมาวาจา"
ชวนกันสนทนาเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าไปเรื่องอื่น มันมีแต่เรื่องทุกข์มากขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2011, 01:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 22:40
โพสต์: 142

แนวปฏิบัติ: ไม่มีอะไรต้องปฏิบัติ
งานอดิเรก: ทำงานให้สุญญตา
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธทาสภิกขุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับ mes สหายธรรม ที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ ให้เกิดความยุติธรรมกับทั้ง ๒ ฝ่าย

พระสูตร ที่ mes ยกมาให้คนอื่นอ่าน เป็นพระสูตรที่สอนได้ดีมาก ขอให้ mes อ่านให้เข้าใจ แล้วก็ปฏิบัติตามคำพระพุทธองค์ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

ถ้าไม่ไปกล่าววาจาอันเป็นมิจฉาทิฏฐิ กล่าวแต่ "สัมมาวาจา" เจริญอริยมรรค ตามที่ mes ยกมาอ้างบ่อยๆ ก็เจริญมรรคข้อนี้ให้ดี ให้อยู่ในเนื้อในตัวในใจของ mes ตลอดไป กระทู้นี้ก็คงไม่เกิด

พระพุทธองค์ก็ทรงถูกด่า พระอานนท์ให้หนีไปอยู่เมืองอื่น พระพุทธองค์ ยังทรงตอบว่า พระองค์จะไม่ย้ายไปเมืองไหน จะอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเขาเหนื่อย ก็เลิกด่าไปเอง โดยที่พระพุทธองค์ไม่ทรงเสียเวลามาโต้เถียงใดๆ รักษาใจไม่ให้กิเลสกร้ำกราย

ท่านพุทธทาสท่านก็ถูกด่ามากมาย คนทั่วโลกด่าท่าน ท่านไม่โต้ตอบใดๆ นิ่งได้เฉยได้ มีขันติ
เก็บเกี่ยวคำด่ามาเป็นปัญญา นำมาตรวจสอบตนเอง นำมาทดสอบจิตใจตนเอง จากคำด่าทุกคำ
mes ควรจะต้องขอบคุณคนด่าทุกคนด้วยซ้ำไป ที่สละเวลาเสียสละ มาทดสอบจิตใจ mes

องคลีมาล ก่อนจะเป็นพระอรหันต์ ฆ่าคนมามากมาย ก็ยังต้องได้ผลของการกระทำก่อนบวช
mes เองก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องยอมรับผลกรรมที่เคยก่อไว้ สิ่งที่ต้องทำ "ขันติอดกลั้น" เท่านั้น
ปล่อยให้เขาด่าไป ไม่ต้องไปโต้ตอบใดๆ ทั้งสิ้น การโต้ตอบเป็นการเติมเชื้อไฟกิเลสตัวเอง
และเป็นการเชื้อเชิญคนด่าให้เข้ามาด่ามากขึ้น เป็นการเติมเชื้อไฟกิเลสคนด่าด้วย
เพียงแค่ mes เงียบคนเดียว ได้ประโยชน์มากมายหลายคน ไม่ต้องสร้างกรรมกับเพื่อนสมาชิก
คนด่าก็เงียบตาม ผู้ดูแลก็ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ เพื่อนสมาชิกหลายคนก็ไม่ต้องมาตามอ่านเรื่องไร้สาระ ไม่ได้ประโยชน์ทางธรรมในการดับทุกข์เลย (ได้แต่ทุกข์กันถ้วนหน้า)

ทุกครั้งที่ไล่ด่าเขา ทำตัวอักษรโตๆ สีแดง เคยสังเกตจิตใจตัวเองมากไหม ที่กำลังทุกข์ร้อนไฟสุมใจ
อย่าให้เขามาว่า "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" เลยนะคะ :b8:

ถ้า mes มีขันติ อดกลั้นอดทนต่อคำด่าคำว่า เฉยได้นิ่งได้
ไม่มีตัวกูเกิดขึ้นมา ก็ไม่มีเรื่องให้ตัวกูต้องทุกข์ คนอื่นต้องลำบาก
(มาดูกระทู้ดึก 2 คืนแล้ว กลางวันก็ไปทำงานทั้งวัน)
กูมาทวงความยุตฺธรรมให้กู เพื่อสนองตัวกูของกู ไม่ได้ถามหาความยุติธรรมหรอก
ถ้าไม่มีกู ไม่มีเรา ไม่มีเขา ก็ไม่มีกู ไม่มีเรา ไม่มีเขา ที่ต้องมาทวงความยุติธรรมหรอก
ถ้ามีกู มีเรา มีเขา ก็มีกู มีเรา มีเขา มาทวงถามความยุติธรรมอย่างกระทู้นี้

เมื่อ: 06 พ.ย. 2011, 07:52
viewtopic.php?f=11&t=40030
Quote Tipitaka:
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน สุวิทูรสูตร ว่า

“นภญฺจ ทูเร ปวี จ ทูเร

ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร

ยโต จ เวโรจโน อพฺภุเทติ

ปภงฺกโร ยตฺถ จ อตฺถเมติ

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ

สตญฺจ ธมฺมํ อสตญฺจ ธมฺมํ

อพฺยายิโก โหติ สตํ สมาคโม

ยาวมฺปิ ติฏฺเยฺย ตเถว โหติ

ขิปฺปํ หเวติ อสตํ สมาคโม

ตสฺมา สตํ ธมฺโม อสพฺภิ อารกา

ฟ้า กับดินไกลกัน ฝั่งสมุทรก็ว่าไกลกัน ที่ ๆ ดวงอาทิตย์อุทัยกับที่ๆ ดวงอาทิตย์อัสดงก็ไกลกัน ธรรมของสัตบุรุษกับธรรมของอสัตบุรุษ ปราชญ์กล่าวว่าไกลกันยิ่งกว่านั้น การสมาคมแห่งสัตบุรุษย่อมไม่เสื่อมคลาย จะนานเท่าใดๆ ก็คงที่อยู่เช่นนั้น ส่วนสมาคมแห่งอสัตบุรุษย่อมพลันเสื่อม เพราะฉะนั้น ธรรมของสัตบุรุษจึงไกลจากอสัตบุรุษ”

หาก เรารู้ว่า มีผู้ไม่ปรารถนาดี เจตนาจะประทุษร้ายเรา ให้เราหลีกเว้นเสีย เพราะเขาจะไม่คำนึงถึงเหตุผลความถูกต้อง จรรยาบรรณ หรือจริยธรรมใดๆทั้งสิ้น แม้เราจะกล่าวคำสุภาษิต มีถ้อยคำที่ดีมาอธิบายให้ฟัง เขาก็จะไม่ยอมรับ เพราะใจของเขาปิดใจของเขาคิดแต่วิธีการที่จะประทุษร้าย เบียดเบียนเราเท่านั้น ผู้รู้ท่านจึงสอนให้พยายามหลีกเว้นบุคคลประเภทนี้ให้ไกลที่สุด อย่าได้ไปทำความสนิทชิดเชื้อด้วย เพราะจะเป็นทางมาแห่งความเสื่อมเสียแก่ตัวของเราเอง

สมัยที่ พระบรมโพธิสัตว์ยังสร้างบารมีอยู่ เวลามีผู้ทรงคุณธรรมมาให้พร ท่านมักจะขอพรว่า ขอให้อย่าได้เห็น อย่าได้ฟังคนพาล อย่าได้อยู่ร่วมกับคนพาล และจะไม่ขอร่วม ไม่ขอชอบใจในการเจรจาปราศรัยกับคนพาล เพราะว่าคนพาลมีปัญญาทราม จะคอยชี้นำแต่สิ่งที่ไม่ควร แนะนำแต่สิ่งที่เป็นบาปอกุศล ชอบชักชวนให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ ไม่เกิดประโยชน์ ถึงจะพูดดีด้วยก็โกรธ และไม่ยอมรับรู้วินัย ระบบระเบียบที่ดีงามต่างๆ การไม่เห็นคนพาลจึงเป็นสิ่งประเสริฐ

นอกจากนั้นท่านยังขอให้ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังนักปราชญ์บัณฑิต ขออยู่ร่วมกับผู้รู้ทั้งหลาย ท่านจะพึงพอใจในการกระทำ และเจรจาปราศรัยกับนักปราชญ์ เพราะจะได้แต่คำแนะนำที่ดีมีประโยชน์ จะไม่ถูกชักนำไปในทางเสื่อม จะทำแต่สิ่งที่มีสาระแก่นสารเป็นกรณียกิจ

คำแนะนำสิ่งดีทั้งหลายเป็น ความดีของนักปราชญ์ ซึ่งเป็นคนไม่มักโกรธ ไม่ผูกโกรธ เป็นผู้มีวินัยในตนเอง การได้สมาคมคบหากับนักปราชญ์ จึงเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของบัณฑิต

ดัง นั้น หากเรารู้ว่า ใครเป็นคนพาล เราควรรีบหลีกหนีให้ห่างไกล เพราะยิ่งอยู่ร่วมกันนาน จะยิ่งติดเชื้อพาล ซึ่งมีแต่จะนำความวิบัติความเสื่อมเสียมาให้
เหมือนดังเรื่องของแม่แพะ ที่พูดจาอ่อนหวาน แต่ในที่สุดก็ต้องถูกเสือจับกินเป็นอาหาร

*เรื่อง มีอยู่ว่า มีเสือเหลืองตัวหนึ่งกำลังรอดักจับแพะที่ชอบเที่ยวหากินตามลำพัง มันสังเกตเห็นแม่แพะตัวหนึ่ง กินใบไม้ใบหญ้าออกห่างจากฝูง จึงคิดที่จะกินแม่แพะตัวนี้ มันรีบวิ่งไปยืนดักหน้าไว้ แทนที่แม่แพะจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในฝูง มันกลับอยากสนทนากับเสือเหลือง เพราะคิดว่า “ถ้าหากเราเจรจาไพเราะอ่อนหวาน เสือเหลืองตัวนี้อาจจะเป็นมิตร แล้วปล่อยเราไปอย่างง่ายดายก็เป็นได้”

แม่แพะจึงไม่หนีไปไหน ทำเป็นใจดีสู้เสือ ทำการปฏิสันถาร กับเสือเหลืองเป็นอย่างดี ด้วยการพูดจาปราศรัยอย่างไพเราะอ่อนหวานว่า “คุณลุง ท่านยังคงสบายดีอยู่หรือ ยังพอจะให้อัตภาพเป็นไปได้ดีอยู่ไหม มารดาของฉันได้ถามถึงทุกข์สุขของท่าน เราทั้งหลายปรารถนาให้ท่านมีความสุขเหมือนกัน” เสือเหลืองได้ฟังดังนั้น แทนที่จะชื่นใจมันกลับไม่ได้ใส่ใจกับคำเหล่านั้น คิดเพียงแต่จะต้องขย้ำแพะตัวนี้ให้ได้ อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้เกิดคำครหานินทาในภายหลัง จึงได้กุเรื่องขึ้นมาว่า

“แน่ะ แม่แพะ เจ้ามารังแกเราก่อน มาเหยียบหางของเราทำไม หรือวันนี้เจ้าสำคัญว่า เจ้าแน่กว่าเรา เจ้าไม่มีทางพ้นจากความตายไปได้หรอก อย่ามาเรียกเราว่าคุณลุงเลย”

แม่แพะได้ฟังดังนั้น รีบกล่าวว่า “ข้าแต่ท่านลุง ท่านนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนฉันนั่งอยู่ต่อหน้าท่าน แล้วฉันจะไปเหยียบหางของท่านซึ่งอยู่ด้านหลังได้อย่างไรกัน”

เสือ เหลืองหาเรื่องต่อว่า “แน่ะแม่แพะ เจ้าพูดอะไร สถานที่ที่จะพ้นจากหางของเราไปไม่มีหรอก เพราะว่าทวีปทั้งสี่ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินหรือมหาสมุทรอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ มีภูเขาสูงใหญ่ประมาณเท่าใด เราได้เอาหางของเราไปวางไว้ในที่นั้นหมดแล้ว เจ้าจะพ้นจากที่ที่เราเอาหางวางไว้ได้อย่างไร”

แม่แพะคิดว่า “เสือเหลืองตัวนี้ มีจิตใจหยาบช้านัก ฟังวาจาสุภาษิตแล้วไม่ซึมเข้าไปในใจเลย แถมยังตลบตะแลง มีเจตนามุ่งแต่จะทำร้ายเราอย่างเดียว”

แม่แพะจึงลองกล่าวเลี่ยงเป็น อย่างอื่นว่า “ในกาลก่อน พ่อแม่ของฉันได้บอกความเรื่องนี้แก่ฉันแล้วว่า หางของท่านนั้นยาวนัก ฉันจึงเหาะมาทางอากาศ เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะเหยียบหางของท่านเจ้าป่า”

เสือ เหลืองยังหาเรื่องต่ออีกว่า “ตอนที่เจ้ามาทางอากาศ เจ้าได้ทำให้ภักษาหารของเราพินาศไป เพราะฝูงเนื้อเห็นเจ้าเหาะมา เกิดความตกใจกลัว พากันวิ่งหนีไปหมด ฉะนั้นเจ้าจึงมีความผิด โทษฐานที่ทำให้หมู่เนื้อหนีไป”

แม่แพะได้ฟังดังนั้น รู้ทันทีว่า เสือใจบาปตัวนี้คงไม่ปล่อยให้ตนรอดแน่ เมื่อไม่อาจยินยอมกันด้วยเหตุผล จึงขอร้องวิงวอนว่า “ข้าแต่ลุง เราต่างก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน อย่าได้ทำลายล้างผลาญกันเลย จะได้ไม่มีเวรต่อกัน ขอให้ท่านจงไว้ชีวิตแม่แพะแก่ๆ อย่างฉันเถิด”

แต่เสือเหลืองไม่ยอมฟังคำ มันกระโดดเข้าตะครุบแม่แพะทันที จนแม่แพะถึงแก่ความตาย ตกเป็นอาหารของเสือเหลืองในที่สุด

เพราะ ฉะนั้น ความปรารถนาดีไม่มีในหมู่คนพาล จะไปหาความจริงใจจากคนพาลนั้นไม่ได้เลย ไม่ว่าเราจะใช้เหตุผลอย่างไร ความจริงทั้งหลายกลับถูกบิดเบือน ทำให้คนที่บริสุทธิ์ คนที่ถูกกลายเป็นคนผิดไป แม้ความจริงจะปรากฏว่าถูกต้อง แต่คนพาลจะแกล้งกล่าวหาเรื่องที่ไม่มีมูลขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกร่ำไป ไม่รู้จักจบสิ้น ตราบใดที่เขายังเป็นพาล เพราะฉะนั้น คนโบราณจึงได้สอนเตือนใจไว้ว่า “ห่างสุนัขให้ห่างศอก ห่างวอกให้ห่างวา ห่างพาลาให้ห่างหมื่นโยชน์แสนโยชน์”

ตรง กันข้ามกับการคบหาบัณฑิต ซึ่งแม้เจอกันเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้ชีวิตสว่างไสว พบกับความสุขความเจริญรุ่งเรืองได้ แต่การคบคนพาลแม้ครั้งเดียวก็เสียหายแล้ว ยิ่งสมาคมกันหลายๆ ครั้ง ยิ่งเสียหายลุกลามใหญ่โตหนักขึ้น ไม่ได้ประโยชน์ ไม่มีสาระอะไร นำแต่ทุกข์แต่โทษมาให้ ผู้รู้จึงกล่าวว่า ใครคบคนเช่นไร จักเป็นเช่นนั้นแหละ คนฉลาดจึงควรคบหากับบัณฑิต มีบัณฑิตเป็นกัลยาณมิตร และให้หมั่นทำความสนิทสนมกับคนดีมีคุณธรรมให้มากๆ เพราะจะเป็นเหตุให้เราพบแต่สิ่งที่ดีงาม

มีธรรมภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้ ว่า ท้องฟ้าและแผ่นดิน ชาวโลกถือกันว่าอยู่ไกลกัน สองฟากฝั่งแห่งมหาสมุทร เขากล่าวกันว่าอยู่ไกลกัน ส่วนธรรมของสัตบุรุษกับธรรมของอสัตบุรุษ นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า ไกลกันยิ่งกว่านั้น ราชรถอันวิจิตรตระการตา ยังมีวันเก่าคร่ำคร่า สรีระร่างกายของเราก็เช่นเดียวกัน สักวันหนึ่งจะต้องถึงความแก่ชรา แต่ธรรมะของสัตบุรุษผู้สมบูรณ์ ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีวันเก่าคร่ำคร่า

ดังนั้น ให้ทุกคนยินดีในธรรมของสัตบุรุษ หมั่นประพฤติปฏิบัติธรรมให้สม่ำเสมอทุกๆ วัน ปฏิบัติธรรมให้ได้ทั้งครอบครัว ให้เป็นครอบครัวธรรมกาย เป็นบ้านกัลยาณมิตรที่สว่างไสวด้วยแสงธรรม บ้านแห่งสันติสุข ที่เป็นประดุจวิมานในเมืองมนุษย์ ถ้าทำกันได้อย่างนี้ คือทุกหลังคาเรือน มีการปฏิบัติธรรมร่วมกัน ความสงบสุขร่มเย็น ก็จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองไม่ช้าสันติสุขจะ แผ่ขยายไปทั่วโลก ดังนั้นให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ดีกันทุกๆ คน

(*มก. ทีปิชาดก เล่ม ๕๙ หน้า ๕๙๖)

:b8: :b8: :b8: สาธุในธรรม ทีปิชาดก

.....................................................
สนทนาธรรมกันด้วยเอ็นดูเมตตาเกื้อกูลกัน มี "สัมมาวาจา"
ชวนกันสนทนาเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ถ้าไปเรื่องอื่น มันมีแต่เรื่องทุกข์มากขึ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร