ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=22288 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 14 พ.ค. 2009, 10:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) |
![]() ประวัติและปฏิปทา พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๏ อัตโนประวัติ พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) มีนามเดิมว่า สมุท รัชฏาวรรณ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พุทธศักราช 2463 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก ณ บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 4 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายฟอง และนางแก้ว รัชฏาวรรณ ๏ การศึกษาเบื้องต้น ในช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมบริบูรณ์ ณ โรงเรียนประชาบาลวัดโบสถ์ราษฎร์ศรัทธา ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่อสมัยเป็นเด็ก ได้เข้ามาอยู่วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นศิษย์วัดเรียนบาลี ซึ่งเป็นศิษย์วัดรุ่น “ราชปะแตน” คือ นุ่งผ้าโจงกระเบน เสื้อราชปะแตนขาวอย่างชาววัง ๏ การบรรพชา กระทั่งอายุได้ 16 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2479 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) ครั้งดำรงพระสมณศักดิ์ที่พระธรรมโกศาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ สามเณรสมุท มีความมุ่งมั่นในการศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นอย่างสูง พ.ศ.2479 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2480 สอบได้นักธรรมชั้นโท และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค พ.ศ.2481 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค พ.ศ.2482 สอบได้นักธรรมชั้นเอกและสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค จากสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ![]() สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) ๏ การอุปสมบท ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2483 ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อุปสมบทในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) ครั้งดำรงพระสมณศักดิ์ที่พระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมงคลวัตรกวี (คอน นนฺทิโย ป.ธ.3) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระสรภาณกวี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระราชเวที (ดอกไม้ อุตฺตรภทฺโท ป.ธ.6) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “รชตวณฺโณ” พ.ศ.2485 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค ณ สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2490 สอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ณ สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงใหม่ ๏ ลำดับงานด้านการศึกษา พ.ศ.2486 เป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมและบาลีสนามหลวง พ.ศ.2488 เป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดพระสิงห์และวัดพันอ้น จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2490 เป็นพระอาจารย์สอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พ.ศ.2495-2537 เป็นเลขานุการแม่กองบาลีสนามหลวง ๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2489 เป็นเลขานุการคณะกรรมการสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2496-2516 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พ.ศ.2505 เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะอำเภอบางเขน และเป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ พ.ศ.2507-2508 เป็นรองเจ้าคณะภาค 11 พ.ศ.2508-2516 เป็นเจ้าคณะภาค 11 พ.ศ.2516 เป็นเจ้าคณะภาค 5 พ.ศ.2516-2537 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวานาราม พ.ศ.2537-2538 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พ.ศ.2538 เป็นเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ![]() พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) ๏ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2493 เป็นพระครูปลัดสัมพิพัฒนสุตาจารย์ ฐานานุกรมในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) พ.ศ.2496 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระอมรเมธี พ.ศ.2501 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชกิตติเวที พ.ศ.2506 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพกิตติเวที พ.ศ.2517 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมกิตติโสภณ พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมจริยาจารย์ ๏ งานด้านกวีนิพนธ์ พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) ฉายแววอัจฉริยะในด้านกวีนิพนธ์ จนได้รับการยกย่องเป็น“รัตนกวี” รูปหนึ่งของวงการคณะสงฆ์ไทยและชาวพุทธทั่วไป ด้วยมีผลงานร้อยกรอง กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ที่รวมบทกวีตีพิมพ์ออกมา อาทิ คาถาพระธรรมบทคำกลอน เบญจมราชาสดุดี เบญจวรรณ (รวมบทกวี กาพย์เห่เรือ กลอน โคลง และฉันท์) เป็นต้น ในโอกาสสำคัญต่างๆ ท่านได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้เป็นผู้แต่งคำฉันท์ต่างๆ อาทิ - แต่งบทประพันธ์อาเศียรวาทราชสดุดี ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ พ.ศ.2526 - แต่งบทประพันธ์อาเศียรวาทรัชมังคลาภิเษกสมโภช เนื่องในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก พ.ศ.2531 - แต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ กลอนสุภาพ ในพระราชพิธี พิธีสำคัญ หรือโอกาสสำคัญ ตามที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย - แต่งคำฉันท์สดุดี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส พ.ศ.2533 - แต่งคำฉันท์สดุดี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) เนื่องในมงคลวโรกาสเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา พ.ศ.2536 - แต่งคำฉันท์สดุดี พระธรรมิกมหาราชากาญจนาภิเษก เนื่องในการพระราชพิธีกาญจนาภิเษก พ.ศ.2539 - แต่งกาพย์ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542 อนึ่ง เมื่อปี พ.ศ.2533 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดท่าสุทธาวาส บ้านบางเสด็จ ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พระพรหมจริยาจารย์ได้แต่งคำประพันธ์กาพย์เห่เรือ และจัดแห่เรือถวาย ![]() สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต) ๏ เป็นสหชาติกับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วันเดือนปีเกิดของ พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) นั้น ตรงกันกับวันเดือนปีเกิดของ พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต) อดีตเจ้าอาวาสหรืออธิบดีสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ รูปที่ 3 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์กับพระพรหมจริยาจารย์จึงเป็นสหชาติคือเกิดพร้อมกัน ตลอดจนยังได้มาอยู่วัดเดียวกันด้วยคือวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม การศึกษาก็จบ ป.ธ.7 เหมือนกันอีก โดยขณะที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ พระพรหมจริยาจารย์ก็ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาส สนองงานสมเด็จพระพุทธชินวงศ์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ครั้นเมื่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2537 พระพรหมจริยาจารย์จึงได้รับบัญชาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสหรืออธิบดีสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นรูปที่ 4 มาตั้งแต่บัดนั้น นับว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ ![]() สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) ๏ สนับสนุนโครงการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน นอกจากนี้ พระพรหมจริยาจารย์ได้ให้การสนับสนุนโครงการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน วัดเบญจมบพิตรฯ ได้ถือเป็นนโยบายหลัก เพราะคู่กับคันถธุระตามหลักฐานพระบาลีที่มีมา และทางวัดได้จัดให้มีกิจกรรมอบรมจิตตภาวนา ทุกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อพัฒนาจิตใจในการทำงาน และสร้างสมรรถนะจิตใจให้มีความเข้มแข็งและมีคุณค่าสูงขึ้นดีงามต่อไป ผู้สร้างความดีไว้ในแหล่งหล้า บุญย่อมพาใจเพลินเจริญศรี ย่อมเพลิดเพลินคราตายวายชีวี ทั้งโลกนี้โลกหน้าบุญพาเพลิน ย่อมเพลิดเพลินว่าฉันสรรค์กุศล จึงได้ดลแดนสวรรค์น่าสรรเสริญ ผลของบุญกูลเกื้อดีเหลือเกิน ให้จำเริญเพลินจิตนิจนิรันดร์ ด้วยภาระหน้าที่อธิบดีสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ, เจ้าคณะใหญ่หนใต้, กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.), ประธานกรรมการที่ปรึกษาพระธรรมจาริก และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดเบญจมบพิตรฯ พระพรหมจริยาจารย์ได้ทุ่มเทอุทิศงานสนองพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย จวบกระทั่งถึงวาระสุดท้ายที่ท่านเจ้าคุณได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ เหลือทิ้งไว้แต่ผลงานอันทรงคุณค่าที่อุทิศให้แด่พระพุทธศาสนา เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำไว้เบื้องหลัง ชีวประวัติของท่านนับว่าสวยงาม ควรแก่การศึกษาและสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง ![]() พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ๏ การมรณภาพ “โอ้กายนี้ ไม่นาน วิญญาณจาก ต้องทิ้งซาก นอนทับ กับดินหนอ ดั่งท่อนไม้ ไร้ค่า ล้มคาตอ ทิ้งท่อนรอ ปลวกไฟ อยู่ในดง” เป็นคติธรรมคำกลอนที่ประพันธ์โดยท่านเจ้าคุณพระพรหมจริยาจารย์ อันสะท้อนถึงความจริงแห่งชีวิตอย่างยิ่ง บัดนี้ พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเวลา 20.10 นาฬิกา ของคืนอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2549 ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว สิริรวมอายุได้ 86 พรรษา 66 ภายหลังเข้ารับการผ่าตัดก้อนนิ่วจากคณะแพทย์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ท่านเจ้าคุณมีอาการอาพาธเป็นประจำ ต้องเดินทางเข้าออกรับการรักษาจากโรงพยาบาลเป็นประจำ และก่อนหน้านี้ยังเคยเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ ต่อมาในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2549 ท่านเจ้าคุณมีอาการท้องเสีย แต่ถ่ายปัสสาวะไม่ได้ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมาก คณะศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านเจ้าคุณส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อรับการรักษาอาการด้วยการผ่าตัด แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้ออาการไว้ได้เป็นผลสำเร็จ ท่านเจ้าคุณจึงได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าสลดอาลัยของบรรดาคณะสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง ![]() ซ้าย : รูปหล่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต) อดีตเจ้าอาวาส รูปที่ 3 ขวา : พระรูปหล่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) ประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑ์พระอนุสรณ์ อปก. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ............................................................. ♥ รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก :: หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5890 และข่าวประจำวันจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด |
เจ้าของ: | Supatorn [ 07 มิ.ย. 2011, 06:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) |
อนุโมทนาสาธุ ขอบพระคุณค่ะ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |