วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2015, 14:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มี.ค. 2011, 13:32
โพสต์: 245


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระครูศรีภูมานุรักษ์ (พระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ)
เจ้าคณะอำเภอพรรณนานิคม-วาริชภูมิ-พังโคน (ธรรมยุต)
เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม อ.พังโคน จ.สกลนคร


ชีวประวัติซึ่งบันทึกโดยท่านเอง

ชื่อเดิม คำมี นามสกุล สุวรรณศรี (ฉายา) สุวณฺณสิริ เกิดวันศุกร์ เดือน 4 แรม 9 ค่ำ ปีวอก วันที่ 1 เมษายน 2464 (แต่ตามที่ใช้ปกติ ปีวอก 2463) ที่บ้านบก หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไข่นก อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายเคน สุวรรณศรี มารดาชื่อนางดี สุวรรณศรี สำเร็จการศึกษาชั้น ป.4 ที่โรงเรียนประชาบาลบ้านก่อ 1 ตำบลหนองไข่นก อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี 2478 และได้ฝากตัวเป็นศิษย์วัดที่บ้านบกเมื่อปี 2477 เป็นศิษย์วัดอยู่ 2 ปี เรียนสวดมนต์น้อยสวดมนต์กลางอักษรธรรม (เรียนแบบต่อหนังสือปากเปล่า) กับอาจารย์พา สาธรพันธ์ และอาจารย์โทน ศรีงาม เจ้าอาวาสตามลำดับกัน ครั้นปลายปี 2478 จบ ป.4 แล้วบรรพชาเป็นสามเณรที่สีมาวัดบ้านบก ตำบลหนองไข่นก อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี พระอุปัชฌาย์อ่อน สิริจนฺโท วัดบ้านก่อ เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้นบรรพชาแล้วอยู่บ้านบกไม่นานก็ได้ติดตามพระอาจารย์เพชร กิตฺติวณฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญญานุสรณ์ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ไปจำพรรษาที่วัดบ้านก่อร่วมกับพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์สีทา สีดา เป็นพระสอนสวดมนต์ จบพระปาฏิโมกข์ในปี 2479 และสอบ น.ธ.ตรี ได้ พระมหาพรหมา บุญสร้าง เป็นครูสอน ปี 2480 ได้จำพรรษาและเรียนบาลีไวยากรณ์ที่วัดบ้านก่อ พระอาจารย์มหาสีทน กาญฺจโน เป็นครูสอน และออกพรรษาแล้วท่านนำเที่ยววิเวก ถึงเมืองโขงจำปาศักดิ์ หลี่ผี ปี 2481 จำพรรษาที่วัดสุปัฏนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้บรรพชาซ้ำอีกกับพระศรีธรรมาวงศาจารย์ (ทองจันทร์ เกสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ซ้ำอีกและสอบได้ และในพรรษานี้ป่วยเป็นโรคเหน็บชาตลอดพรรษา ปี 2482 ออกมาจำพรรษาที่วัดบ้านก่ออีก 1 พรรษาไม่ได้อะไร

ในปี 2483 ได้ติดตามท่านพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม ไปจำพรรษาที่วัดอรุณรังษี จังหวัดหนองคาย ได้ป่วยเป็นโรคเหน็บชาตลอดพรรษาอีก สอบ น.ธ.โท ได้ในสำนักเรียนวัดบุญญานุสรณ์ จังหวัดอุดรธานี ใน พ.ศ. 2492 สอบ น.ธ.เอก ได้ที่สำนักเรียนวัดกุดเรือคำ จังหวัดสกลนคร ในปี 2496

การอุปสมบท ได้อุปสมบทที่อุโบสถวัดศรีเมือง จังหวัดหนองคาย พระเทพบัณฑิต (ครั้งดำรงตำแหน่งพระครูวิชัยสังฆกิจ - หรือหลวงปู่รักษ์ เรวโต ท่านดำรงสมณศักดิ์สุดท้ายที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์ - หัวหอม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกานาค เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาอินทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สำเร็จญัติจตุตถกรรมเวลา 15.07 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2483 ครั้นปี 2484-2485 ป่วย ได้จำพรรษาที่วัดป่าบ้านค้อ ตำบลบ้านกลาง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้ศึกษาวิปัสนาธุระตามลำพังกับท่านพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม

รูปภาพ
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทฺตโต

รูปภาพ
ท่านพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม

รูปภาพ
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงปู่รักษ์ เรวโต)
พระอุปัชฌาย์ของพระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ


รูปภาพ
ท่านพระอาจารย์คำดี ปภาโส

รูปภาพ
พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์


ปี 2486 จำพรรษาที่ถ้ำผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ศึกษาวิปัสสนาตามลำพัง ป่วยเป้นไข้ป่ากลางเรื้อรังอยู่นาน ปี 2487 จำพรรษาที่ถ้ำกวาง อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น กับท่านพระอาจารย์คำดี ปภาโส ปี 2488 จำพรรษาที่สำนักภูสวรรค์ (ภูตะกา) บ้านหนองบัวน้อย อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ปี 2489 จำพรรษาที่สำนักป่าช้าบ้านต้นผึ้ง หนองคู อำเภอภูเวียง อาศัยศึกษาวิปัสสนาธุระอยู่กับท่านพระอาจารย์คำดี ปภาโส เป็นเวลา 3 ปี ปี 2490 จำพรรษาที่วัดป่าศรัทธาราม บ้านห้วยทรายคำ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ออกพรรษาไปตั้งสำนักสงฆ์ชั่วคราวที่บ้านโคกแฝก-หนองขาม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย และไปพักวิเวกที่ป่าช้าบ้านกกเกลี้ยงบ้านเล้า ให้ชื่อว่าสำนักป่าเวฬุวันขณะนี้สร้างไปแล้ว ปี 2491 ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านบก ตำบลหนองไข่นก อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อโปรดญาติพี่น้องมาตุภูมิ-ปิตุภูมิ ออกพรรษาแล้วได้มาปฏิบัติวิปัสสนาธุระกับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทฺตโต ที่วัดภูริทัตตถิราวาส อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร ได้ประมาณครึ่งเดือน

ในปี 2492-2493 จำพรรษาที่สำนักป่าสุขาวิเวก บ้านหนองบัว ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เนื่องจากโยมบิดา-มารดา ได้อพยพตามขึ้นมาอาศัยตั้งครอบครัวอยู่ที่บ้านหนองบัวนั้น แต่บังเอิญไม่สมหวัง โยมบิดา-มารดาได้ถึงแก่กรรมไปในปีแรกและปีถัดมา จึงเป็นเหตุให้เสียกำลังใจ ปี 2494 จึงได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดศิริราษฎร์วัฒนา บ้านเจริญศิลป์ ตำบลทุ่งแก อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ในปี 2495 ได้ปรับปรุงพัฒนาขยายวัดนี้ให้กว้างขวางถึง 100 ไร่ วางผัง-ตัดถนน-สร้างกุฏิ และปลูกต้นไม้ผลไม้ไว้ให้เป็นระเบียบพอสมควร และยังได้สร้างศาลาหอฉันไว้ด้วย

ปี 2496 ได้ไปจำพรรษาที่สำนักป่าธาตุศรีทอง บ้านธาตุ ตำบลธาตุทอง อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร เนื่องจากความต้องการของโยมชาวบ้านธาตุนั้นอยากบูรณะบำรุงดอนธาตุ ซึ่งประชาชนในถิ่นนั้นนับถือเป็นศาลเจ้ามเหศักดิ์อันใหญ่โต จนคนไปทำอะไรบริเวณนั้นไม่ได้ถึงกับหักคอตาย หรือว่ายบกฯ จึงได้ไปช่วยบูรณะพัฒนาภายในด้านศีลธรรมให้เชื่อมเข้าในจิตใจของประชาชน และพัฒนาด้านวัตถุ ให้เป็นที่เจริญสมณะธรรมกรรมฐานเป็นรมณียสถานมาตลอดทุกวันนี้

ครั้นปี 2497 กลับมาจำพรรษาที่วัดศิริราษฎร์วัฒนา บ้านเจริญศิลป์อีก ได้ตั้งสำนักศาสนศึกษาปริยัติธรรม น.ธ.ตรี-โท-เอก ขึ้น ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 21 ปีแล้ว ปี 2498 ได้ไปตั้งวัดศรีสว่างแดนดิน โดยคำบัญชาของท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ (อดีตเจ้าคณะมณฑลอุดรธานี) ได้ปรับปรุงพัฒนาวางผัง-ตัดถนนในวัดนี้ตามระเบียบของกรรมการศาสนาที่วางไว้เป็นหลักประกอบ ได้สร้างเสนาสนะ-ปลูกมะม่วงอกร่องไว้มาก ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ 13 ปี (พ.ศ. 2498-2510)

รูปภาพ
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ธมฺมธโร พิมพ์)


ปี 2511 ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าคระอำเภอพรรณนานิคม-วาริชภูมิ (ธ) ตั้งสำนักอยู่ที่วัดสามัคคีธรรม บ้านนาเหมือง ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยคำบัญชาของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ธมฺมธโร พิมพ์) วัดพระศรีมหาธาตุ พระนคร เจ้าคณะภาค 8-9-10-11 (ธ) ในสมัยนั้น รวมประจำอยู่วัดสามัคคีธรรมนี้ 7 ปีบริบูรณ์ย่างเข้าปีที่ 8

งานการปกครอง ปี 2497 เป็นเจ้าอาวาสวัดศิริราษฎร์วัฒนา ปี 2498 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างแดนดิน ปี 2504 เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี 2511 เป็นเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม และเป็นเจ้าคณะอำเภอพรรณานิคม-วาริชภูมิ (ธ) ปี 2510 ได้รับสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตรชั้นตรีและชั้นโทตามลำดับ

งานการศึกษา ปี 2497 ได้ตั้งสำนักศาสนศึกษาปริยัติธรรมที่วัดศิริราษฎร์วัฒนา ปี 2502 ตั้งศาสนศึกษาปริยัติธรรมขึ้นที่วัดศรีสว่างแดนดิน ปี 2511 ตั้งสำนักศาสนศึกษาปริยัติธรรมขึ้นที่วัดสามัคคีธรรม จนถึงปัจจุบัน ส่วนเครื่องอุปกรณ์การศึกษาก็เป็นเงาตามตัวขึ้นในที่นั้นๆ

ปี 2497 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง น.ธ.ตรี มาตลอดจนถึงทุกวันนี้

งานเผยแพร่ ได้ช่วยอบรมศีลธรรม-เยี่ยมเยือนประชาชนในเขต อำเภอสว่างแดนดิน ในขณะที่เป็นผู้ช่วยเจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูต อบรมประชาชนในเขตจาริก-ปกครอง แต่ปี 2507 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้ 11 ปีแล้ว (ทำทุกปี)

นอกจากนี้ได้ช่วยแก้มิจฉาทิฐิของประชาชนบ้านป่าขาดอนในเรื่องลัทธิ ถือผีสางนางไม้ให้กลับเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย และถือพระไรสรณคมให้มั่นคงยิ่งขึ้น หรือป่วยไข้ ผีสิง ก็ให้อาบน้ำพระพุทธมนต์เป็นต้น

งานสาธารณูปการ ได้ก่อสร้างบูรณะวัดถาวรวัตถุดังต่อไปนี้

1. ได้วางผังก่อสร้างวัดศิริราษฏร์วัฒนา บ้านเจริญศิลป์ ตัดถนนรอบวัด ล้อมรั้วในที่ดิน 100 ไร่ด้วยลวดหนามหลักไม้แก่น และยังมั่นคงในปัจจุบันนี้ ช่วยงานสร้างอุโบสถ และจัดงานฝังลูกนิมิตเมื่อปี 2514

2. ได้วางผังสร้างวัดศรีสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน สร้างกุฏิ 2 ชั้นด้วยไม้ กว้าง 8 เมตร ยาว 21 เมตร สร้างถังเก็บน้ำฝน และสร้างสระน้ำใช้ได้อยู่จนปัจจุบันนี้ จากปี 2498-2510 ได้ที่ดิน 54 ไร่

3. ได้บูรณะและสร้างศาลาการเปรียญวัดธาตุศรีทอง บ้านธาตุ ตำบลธาตุทอง อำเภอวานรนิวาส ในปี พ.ศ. 2500

4. ได้วางผังบูรณะวัดสามัคคีธรรม สร้างกุฏิ-ตัดถนนในวัด และรอบวัด สร้างสระน้ำกว้าง 60 เมตร ยาว 80 เมตร ลึก 3.50 เมตร สร้างศาลาหอฉัน ศาลาที่พักชี สร้างสีมาวิหาร (อุโบสถ) กว้าง 14 เมตร ยาว 36 เมตร (2 ชั้น) คิดค่าก่อสร้างในระยะ 7 ปี ประมาณ 2,500,000 บาท (สองล้านห้าแสนบาทเศษ) โดยได้รับอุปการะจากทางการบ้างและจากศาสนิกชนทั่วไปบ้าง ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

สรุปชีวประวัติ ชีวิตเป็นฆราวาส 15 ปี เป็นบรรพชิต 39 ปี รวมอายุ 54 ปี พรรษาเป็นพระ 34 พรรษา เป็นสามเณร 5 ปี เที่ยววิปัสสนาอยู่ 9 ปี ทำงานส่วนรวมคันถธุระ 25 ปี นับว่าเป็นชีวิตที่ขาดทุนภายใน (ยังประมาทอยู่)

เห็นว่าภาระด้านคันถธุระที่ได้ทำมานี้พอสมควรแก่กำลัง และภาวะชีวิตความเป็นมาและจนเป็นอยู่อีกต่อไป ชักจะไม่ไว้ใจในชีวิต จึงใคร่ขอจารึกประวัตินี้ไว้เพื่อศิษยานุศิษย์ผู้สนใจจะได้อ่านได้ศึกษา ประพฤติปฏิบัติตามในส่วนที่ดี เพื่อหาที่พึ่งแก่คนอื่นต่อไป ทั้งในปัจจุบันและสัมปรายิกภพข้างหน้าด้วย

พระครูศรีภูมานุรักษ์
(พระครูศรีภูมานุรักษ์)
เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม
อ.พังโคน จ.สกลนคร
๒๕ ม.ค. ๒๕๑๘
เจ้าของประวัติ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

พระครูศรีภูมานุรักษ์ (พระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ) ได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 23.20 น. ของวันที่ 21 มิถุนายน 2530 ณ โรงพยาบาลประจำจังหวัดอุดรธานี โดยแพทย์แจ้งว่าสมองของท่านไม่ทำงาน สิริอายุรวมได้ 66 ปี 46 พรรษา

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

คติธรรม

ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ จะได้ด้วยกล
ถ้าไม่ได้ด้วยมนต์ จะให้ได้ด้วยคาถา
งานที่มีอุปสรรคมาก ย่อมมีความเจริญมาก
งานที่มีอุปสรรคน้อย ย่อมมีความเจริญน้อย
งานที่ไม่มีอุปสรรค ย่อมไม่มีความเจริญ


พระครุูศรีภูมานุรักษ์
๘ ก.พ. ๑๘

รวมรูปภาพเก่า
รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
แถวหน้า จากซ้าย : หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล),
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ

แถวหลัง จากซ้าย : พระครูอุดมธรรมคุณ (หลวงปู่มหาทองสุก สุจิตฺโต),
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงปู่รักษ์ เรวโต),
พระครูศรีภูมานุรักษ์ (พระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ),
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน),
หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ, หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ


:b8: ข้อมูลจาก :
http://watsamakeetham.blogspot.com/2012 ... 463-3.html

:b44: พระครูศรีภูมานุรักษ์ (พระอาจารย์คำมี สุวัณณสิริ)
หลวงปู่คำสุข ญาณสุโข ยกย่องว่าเป็น “พ่อแม่ครูบาอาจารย์”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=48734

.....................................................
"องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร