ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

มณฑารพ ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=17&t=19556
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  เว็บมาสเตอร์ [ 14 ธ.ค. 2008, 11:54 ]
หัวข้อกระทู้:  มณฑารพ ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

“ดอกมณฑารพ” ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์ ที่ไม่มีในโลกมนุษย์
และจะปรากฏเฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า
เช่น ประสูติ, ตรัสรู้, ปลงอายุสังขาร, ดับขันธปรินิพพาน,
วันจาตุรงคสันนิบาต, วันที่ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร
และวันที่เสด็จลงจากเทวโลก หรือผู้มีฤทธิ์บางท่านแผลงฤทธิ์ เป็นต้น
ซึ่งเทพเทวดาจะบันดาลให้ “ดอกมณฑารพ” ตกลงมาจากเทวโลก


รูปภาพ

มณฑารพ ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

“มณฑารพ” หรือ “มณฑา” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Talauma candollei Bl.” อยู่ในวงศ์ Magnoliaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับพวกจำปา จำปี และยี่หุบ เป็นไม้พุ่มสูงราว 3-10 เมตร เปลือกสีเทา ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ มีขนาดใหญ่ รูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนา มักเป็นคลื่นหรือเป็นลอน ดอกมีขนาดใหญ่ เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ หรือส่วนยอดของลำต้น มีสีเหลืองนวล

มีกลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน 3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบดอกค่อนข้างหนา แข็ง ดอกมีกลิ่นหอมและส่งกลิ่นไปไกล โดยเฉพาะในตอนเช้าตรู่ จะส่งกลิ่นหอมแรงมาก และออกดอกตลอดปี ส่วนผลรูปรี ออกเป็นกลุ่ม และเนื่องจากมณฑามีดอกสวยและกลิ่นหอมจึงนิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ

ดอกไม้ทิพย์แห่งเมืองสวรรค์ที่ชื่อ “มณฑารพ” หรือ “มณฑา” นั้น ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า

“ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปราย ลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า ก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต

ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแลจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคต ด้วยการบูชาอย่างยอด เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ฯ”


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ในเวลาที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ทุกหนแห่งในเมืองกุสินาราเต็มไปด้วยดอกมณฑารพ “...สมัยนั้น เมืองกุสินาราเดียรดาษไปด้วยดอกมณฑารพโดยถ่องแถวประมาณแค่เข่า จนตลอดที่ต่อแห่งเรือน บ่อของโสโครกและกองหยากเยื่อ ครั้งนั้นพวกเทวดาและพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา สักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระพระผู้มีพระภาค ด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมมาลัยและของหอม ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์...”

หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะซึ่งอยู่ที่เมืองปาวา แคว้นมัลละ ได้ทราบข่าวว่าองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับที่เมืองกุสินาราเป็นเวลาหลายวันแล้ว จึงตั้งใจจะไปเข้าเฝ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์บริวาร 500 รูป ขณะที่กำลังเดินทางไปเมืองกุสินาราอยู่นั้น ได้หยุดพักหลบแสงแดดอยู่ใต้ร่มไม้ข้างทาง ได้เห็นนักบวชนอกศาสนาคนหนึ่ง (อาชีวกะ) ซึ่งมาจากเมืองกุสินารา ถือ “ดอกมณฑารพ” ที่ผูกติดกับกิ่งไม้ต่างร่ม เดินสวนทางมา

พระมหากัสสปะซึ่งเวลานั้นยังไม่ทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ก็นึกสังหรณ์ใจ เพราะดอกมณฑารพเป็นดอกไม้ทิพย์ที่จะมีก็แต่ในแดนสวรรค์ ไม่มีในโลกมนุษย์ และจะปรากฏมีในโลกมนุษย์ก็เฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า เช่น ในวันที่พระโพธิสัตว์เสด็จลงสู่พระครรภ์ของพระมารดา, วันประสูติ, วันตรัสรู้, วันปลงอายุสังขาร, วันเสด็จดับขันธปรินิพพาน, วันจาตุรงคสันนิบาต, วันที่ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร (วันที่ทรงประกาศพระธรรมจักร), วันที่เสด็จลงจากเทวโลก (สวรรค์ชั้นดาวดึงส์) และวันที่ทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ยมกปาฏิหาริย์ เป็นต้น หรือผู้มีฤทธิ์บางท่านแผลงฤทธิ์ ซึ่งเทพเทวดาจะบันดาลให้ดอกมณฑารพตกลงมาจากเทวโลก พระมหากัสสปะจึงได้สอบถามข่าวคราวของพระพุทธองค์จากนักบวชนอกศาสนา (อาชีวกะ) ผู้นั้น ซึ่งได้รับคำตอบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานมา 7 วันแล้ว และดอกมณฑารพนี้ก็ได้เก็บมาจากบริเวณที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานนั่นเอง เมื่อได้ยินดังนั้นพระมหากัสสปะจึงรีบเร่งนำพระภิกษุสงฆ์บริวารออกเดินทางไปยังเมืองกุสินารา

นอกจากนี้ มณฑารพยังเป็นดอกไม้ของนางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดีที่มีนามว่า กิริณีเทวี


รูปภาพ

......................................................

:b8: :b8: :b8: รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหามาจาก ::
(1) หนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 78 พ.ค. 50 โดย เรณุกา
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2550 14:50 น.
(2) วันอัฏฐมีบูชา วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=42337

:b44: รวมกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ “วันอัฏฐมีบูชา”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=45500

:b44: วันอัฏฐมีบูชา วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า
พระมหากัสสปะ ประธานในการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=86&t=53713

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 15 มิ.ย. 2009, 12:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 16 มิ.ย. 2009, 20:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

รูปภาพ

ดอกมณฑา รอเวลา ในยามเช้า

เหมือนคนเหงา เฝ้ารอ วันสลาย

ความหอมชื่น ยื่นมือ แตะปลายใบ

กลีบก็คลาย ร่วงพรู สู่ปฏพี

ใจนี้หนอ ขอรัก เจ้าไม้ดอก

อยากจะบอก มอบใจ ให้ที่นี่

ขอได้เคียง เพียงแค่ สักนาที

ใจดวงนี้ มอบไป ไม่หวนคืน

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 10:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

เป็นดอกไม้ที่สวยงามที่สุดเลยครับ ชื่อก็เพราะเหลือเกิน

เจ้าของ:  เจ้านาง [ 12 ก.ค. 2009, 10:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

:b44: อ่านแล้วมีความสุข เหมือนกับตัวเองอยู่ในกลิ่นอวลของดอกมณฑา.... :b44:

:b41: ใจอิ่มบุญ อนุโมทนาค่ะ :b41:

เจ้าของ:  Siamesecat [ 05 ต.ค. 2009, 07:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

อนุโมทนาค่ะ สาธุ
อ่านกระทู้แล้วได้กลิ่นหอม ๆ เลยค่ะ มีความสุขจัง ^^

เจ้าของ:  Rachawadee_ice [ 06 ต.ค. 2009, 05:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

:b8: อนุโมทนาค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ชอบดูดอกไม้สวย ๆ แต่ปลูกไม่ขึ้นเลยค่ะ ^^

เจ้าของ:  ทักทาย [ 24 พ.ย. 2009, 04:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

เห็นดอกมณฑาแล้ว
อยากใส่ชุดไทย สไบเฉียง ไปเดินชมมวลพฤกษา
จังค่ะ สวยมาก...อนุโมทนา สาธุค่ะ เวบบ์มาสเตอร์ :b8:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 24 พ.ย. 2009, 08:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  *ADIOS* [ 24 พ.ย. 2009, 10:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

ยามเย็นย่ำ ค่ำมาพรม ลมโหมหอม
เคยดมดอม มณฑา ใน รื่นไพรศรี
ชื่นยามพลบ เมื่อจบแสงพระสุรีย์
ดุจความดี สถิตย์อยู่คู่ฟ้าดิน..

..............................

ดอกมณฑา หรือ ยี่หุบ คนภาคเหนือเรียกดอกจี๋หุ๊บ

ขออนุโมทนากับภาพและข้อมูลของท่านเว็บมาสเตอร์ค่ะ :b8:

เจ้าของ:  Bluesky [ 06 ก.พ. 2012, 01:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

:b44:กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ บุญรักษา ธรรมคุ้มครองนะเจ้าค่ะ tongue tongue tongue

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 04 ส.ค. 2013, 23:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑารพ ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

รูปภาพ

ดอกมณฑาทิพย์ บ้างเรียกว่าดอกมณฑารพ หรือดอกมณฑาสวรรค์

ท่านเล่ากันว่าเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมจรุง มากกว่าดอกไม้ทั้งหลายที่มีอยู่ในโลกมนุษย์ ความปรากฏในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎก บทปรินิพพานสูตร กล่าวว่า ดอกมณฑารพ ซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เวลาดอกมณฑารพจะบาน และร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญ ๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน จาตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร ดอกมณฑารพจึงได้ร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์

ครั้งเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เมืองกุสินารา ดอกมณฑารพนี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเหมือนความเสียอกเสียใจพิไรรำพันต่อการเสด็จดับขันธปรินิพพานของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงเหล่าพระภิกษุผู้ได้ชื่อว่าอรหันตขีนาสพทั้งหลายด้วย หมู่เหล่าข้าราชบริพาร ประชาชนทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพ อีกทั้งยังได้พากันเก็บนำดอกมณฑารพที่ร่วงหล่นลงมาเพื่อไปสักการบูชาและรำลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ดอกมณฑารพ ที่เก็บมาสักการบูชาเริ่มเหี่ยวแห้งและหมดไป เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ

รวมทั้งเหตุการณ์ในวันสำคัญต่าง ๆ จึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการบูชา เพราะถือว่าข้าวเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และเป็นของสูงที่มนุษย์จะขาดไม่ได้ การจัดข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชามีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าแรก ๆ จะใส่พาน ไว้โปรยเวลาพระสงฆ์เทศนา ต่อมาจึงมีการนำมาประดิษฐ์ตกแต่งที่เห็นว่าสวยงาม สืบทอดกันเรื่อยมาจนกลายเป็นประเพณีแห่มาลัยในปัจจุบัน

การเป็นมงคลมณฑา

คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์ที่อยู่บนสวรรค์และได้บันดาลตกลงมาสู่โลกมนุษย์นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความงดงาม ชวนมอง เพราะดอกมณฑาเวลาบานนั้น ดอกมีสีเหลืองนวล หอมได้นานดูแล้วงามแพรวพราวจับใจ ซึ่งมีลักษณะพิเศษเหมือนกับดอกมณฑาทิพย์


ขอบคุณที่มา ::
http://www.maipradabonline.com/maimongkol/montha.htm


:b44: ♡(✿◠‿◠✿)♡ กราบอนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรและกัลยาณธรรมทุกท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ♡(✿◠‿◠✿)♡ :b8: :b8: :b8: :b20:

เจ้าของ:  หมอกดอย [ 29 ธ.ค. 2013, 00:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มณฑารพ ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์

เป็นดอกไม้ ที่สวยมาก แต่เริ่มหายากล่ะครับ
ในป่าแถวบ้านผมถูก ถอนออกไปเป็นจำนวนมาก
อีกหน่อย คงต้องสะสมไว้บ้างล่ะครับ rolleyes

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/