ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

...สมุนไพรไทยกินต้านหวัด...
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=19816
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 25 ธ.ค. 2008, 18:25 ]
หัวข้อกระทู้:  ...สมุนไพรไทยกินต้านหวัด...

รูปภาพ

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน
บ้านเราก็หลีกหนีไม่พ้นเช่นกัน
สังเกตได้จากสภาวะอากาศที่แปรปรวนไม่ตรงตามฤดูกาล (คาดว่าปีนี้จะแย่กว่าเดิม)
ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจว่า หลายคนมีอาการเจ็บป่วยง่าย
โดยเฉพาะอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลหรือหวัดรุนแรง
ยิ่งช่วงไหนระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
โอกาสที่เชื้อโรคสารพัดจะฉวยโอกาสโจมตีก็มีมากเช่นกัน


ด้วยเหตุนี้เราจึงควรรับประทานอาหารที่สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เพียงพอ
ซึ่งมีอยู่ในสารอาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อสัตว์
ไขมันประเภทโอเมก้า-3 โอเมก้า-6 และ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
เช่น วิตามินซี วิตามินบี เหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม

ทั้งนี้แหล่งของสารอาหารที่มีคุณสมบัติต้านหวัด
ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะใน อาหารที่มีราคาแพง หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเท่านั้น
แต่ผักพื้นบ้านไทยๆ ที่หาซื้อได้ง่ายตามตลาด
ก็มีสรรพคุณในการป้องกันและบรรเทาอาการหวัดเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

* กระเทียม มีสรรพคุณทางยาโดยเฉพาะการต้านเชื้อโรค
เนื่องจากกระเทียมมีสารอัลลิซิน (allicin) ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อได้
มีกลิ่นฉุนจะเกิดขณะทุบหรือบดกระเทียม
ส่วนกระเทียมโทนที่มีกลิ่นและรสเผ็ดร้อนกว่ากระเทียมธรรมดา
จะให้ประสิทธิภาพมากกว่า
จากการศึกษาพบว่า กระเทียมโทนมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ดีกว่าเพนนิซิลลิน
และเตตร้าซัยคลิน ที่เป็นยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ที่ใช้โดยทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคท้องเสีย
แผลติดเชื้อ วัณโรค ไทฟอยด์ และกลากเกลื้อนอีกด้วย
ซึ่งกระเทียมสดจัดว่ามีสรรพคุณรักษาอาการติดเชื้อได้ดีที่สุด
เช่น น้ำคั้นหัวกระเทียมผสมน้ำอุ่นและเกลือเล็กน้อย
เพื่อกลั้วคอการบรรเทาและรักษาทอนซิลอักเสบที่เริ่มเป็นหรือฆ่าเชื้อในปาก และลำคอ

* ขิง มีสารประกอบที่ให้รสเผ็ดร้อนอย่างจินเจอรอล และโชกาออล
ที่ช่วยบรรเทาหวัดและไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสามารถนำมาปรุงผ่านความร้อน
หรือรับประทานสดก็ได้ นอกจากนี้ขิงยังสามารถบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
คลื่นไส้และวิงเวียนศีรษะได้อีกด้วย

* มะขามป้อม ในส่วนที่กินได้ 100 กรัม
มะขามป้อมมีวิตามินซี 276 มก. เราสามารถนำเนื้อผลแห้ง
หรือสดมารับประทานเพื่อขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ
นอกจากนี้ถ้านำผลแห้งมาต้มดื่มจะช่วยแก้ไข้

* กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีดิบให้มีวิตามินซีสูงที่สุด
โดยเฉพาะกระหล่ำดาวที่ 1 ถ้วย มีวิตามินซีถึง 97 มก.
แถมยังมีสารต้านมะเร็งหลายตัว ช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ได้
โดยเราสามารถรับประทานแบบสดและปรุงสุก
แต่ไม่ควรรับประทานกะหล่ำปลีสดในปริมาณมากๆ
เพราะมีสารกอยโตรเจน (Goitrogen)
ซึ่งจะไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์
ทำให้ร่างกายขาดไอโอดีน แต่หากนำมาปรุงสุก กอยโตรเจนก็จะสลายไป

* ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ได้รับความนิยม
ในการบรรเทาและรักษาอาการเจ็บคอ ซึ่งเคยมีการศึกษาระบุถึง
ประสิทธิผลในการบรรเทาอาการหวัด (Common cold) ต่อมทอนซินอักเสบ
มีคุณสมบัติแก้ไข้ (antipyretic) และต้านการอักเสบ (anti-inflammatory)
และมีสารแอนโดรกราโฟไลด์เป็นส่วนประกอบสำคัญ
โดยสถาบันการแพทย์แผนไทยได้ระบุการทดลองให้ยาเม็ดสารสกัดฟ้าทะลายโจร
ที่ควบคุมให้มีปริมาณของแอนโดกราโฟไลด์
และดีออกซีแอนโดรกราไฟไลด์รวมกันไม่น้อยกว่า 5 มิลลิกรัม /เม็ด
ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 เวลา ในผู้ที่เป็นไข้หวัด
พบว่าความรุนแรงของทุกอาการไอ เสมหะ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย ปวดหู นอนไม่หลับและเจ็บคอน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งเรานำส่วนลำต้นหรือใบสด 1 กำมือ มาทุบและบดต้มกับน้ำจิบเรื่อยๆ

* พริก ปริมาณวิตามินซีในพริกมากน้อยแตกต่างในแต่ละสายพันธุ์
เช่น พริกชี้ฟ้า พริกหยวก ก็มีปริมาณวิตามินซีมากกว่าพริกขี้หนู เป็นต้น
พริกมีสารที่ทำให้เกิดรสเผ็ดที่เรียกว่า Capsaicin
ที่ช่วยบรรเทาให้ระบบทางเดินหายใจโล่งขึ้น
และช่วยให้โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังดีขึ้นได้
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างสารไนตริกออกไซด์
ที่ช่วยขยายและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

ทั้งนี้เพื่อให้การใช้พืชผักสมุนไพรไทยเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
เราจำเป็นต้องเลือกใช้ให้ถูกชนิด ถูกส่วน ถูกขนาด ถูกวิธี และถูกอาการค่ะ

วิตามินซีกับการต้านหวัด วิตามินซี จัดเป็นวิตามินที่ละลายน้ำ
และเป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายต้องการ และจำเป็นต้องได้รับทุกวัน
เพื่อช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยเสริมระบบการทำงานของเม็ดเลือดขาว
ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
ซึ่งเมื่อร่างกายขาดวิตามินซีอาจจะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
เคยมีการศึกษาสนับสนุนว่า วิตามินซีช่วยบรรเทาความรุนแรง
ลดระยะเวลาของการเป็นหวัดและช่วยบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ
ได้โดยเฉลี่ยปริมาณวิตามินซีที่ผู้ชายวัยผู้ใหญ่ต้องการคือ 90 มิลลิกรัมต่อวัน
และผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ 75 มิลลิกรัมต่อวัน

แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนที่ชัดเจนว่า
วิตามินซีเสริมขนาดสูงสามารถป้องกันโรคหวัดได้
แต่ก็มีประโยชน์ต่อผู้ที่ขาดหรือได้รับจากอาหารไม่เพียงพอ
ซึ่งควรได้รับเพิ่มอีก 35 มิลลิกรัม เช่น

* คนสูบบุหรี่
* กำลังเตรียมเข้ารับการผ่าตัด หรือกำลังพักและฟื้นฟูหลังการผ่าตัด
* ผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ
* คนที่อยู่ในอากาศหนาวนานๆ
* เด็กๆ ที่ขาดสารอาหาร
* หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่ให้นมบุตร


อ้างอิง
สมุนไพรเพื่อสุขภาพ—กรุงเทพฯ, 2546 หน้า 104
100 สุดยอด สมุนไพรบำรุงสุขภาพ : วิมลรัตน์ วรรณพฤกษ์ –กรุงเทพฯ, 2551 หน้า 200
เภสัชโภชนา : สรจักร ศิริบริรักษ์- กรุงเทพฯ, 2547 หน้า 51-67, 199
พลังมหัศจรรย์ในอาหาร: สรจักร ศิริบริรักษ์- กรุงเทพฯ, 2546 หน้า 109
คู่มือฉลาดใช้ วิตามิน แร่ธาตุ และสมุนไพร ; รีดเดอร์ส ไดเจสท์ - กรุงเทพฯ, 2548 หน้า 48, 56, 390

http://www.samunpai.com
http://www.medplant.mahidol.ac.th
http://www.ittm.dtam.moph.go.th

คัดลอกจาก...
http://www.healthtoday.net/thailand/nut ... on_92.html

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 03 เม.ย. 2011, 07:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...สมุนไพรไทยกินต้านหวัด...

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  สุดปลายฟ้า [ 03 เม.ย. 2011, 12:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...สมุนไพรไทยกินต้านหวัด...

:b8: :b8: :b8: ค่ะ

เจ้าของ:  อุบาสกน้อย [ 02 ต.ค. 2020, 10:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...สมุนไพรไทยกินต้านหวัด...

ขออนุโมทนานะครับ :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/